Special Diary : บันทึกความรู้สึกของแม่
นิ๊งหน่องครับ ตั้งแต่วันแรกที่หนูเริ่มเข้าโรงเรียนใหม่ ที่แม่นกเป็นคนมาส่งหนูทุกวันเหมือนตอนที่ไปเนอร์สเซอรี่ ตอนนี้ก็ผ่านมาได้ 6 วันแล้ว แม่รู้นะครับ ว่าหนูยังไม่รู้สึกสนุก ยังไม่มีความสุขกับการไปโรงเรียนซักเท่าไหร่ ถึงหนูจะไม่พูด ไม่บอก ไม่แสดงออกด้วยการร้องไห้เหมือนเด็กๆคนอื่น แต่บางครั้ง การกระทำของหนูก็บอกความรู้สึกของหนูได้มากกว่าคำพูดของหนูหลายเท่านัก ไม่ว่าจะเกิดอาการปวดฉี่ ปวดอึ ให้แม่ต้องพาแวะห้องน้ำก่อนจะถึงโรงเรียน หรือแผนถ่วงเวลาหลายๆอย่างที่สมองน้อยๆของหนูจะคิดได้ เช่น แม่นกตัดเล็บให้ก่อนลงรถ นิ๊งหน่องก็บอกว่า แม่ตัดเล็บแม่ด้วยสิ เล็บแม่ยาวแล้วนะ หรือบอกว่าจะรอเสฉวนก่อน รอน้องไนซ์ก่อน ค่อยเข้าโรงเรียน หรือบอกว่าหิว อยากกินขนมปังตอนที่มองเห็นมอไซค์ขายขนมปังวิ่งเข้าซอยข้างๆถนนไป แล้วบอกให้แม่เลี้ยวตาม ไม่เว้นแม้กระทั่งอยากแวะ 7-11 ซื้อขนม เรียกว่า มีแผนใหม่ๆมาตลอด ไม่เคยซ้ำ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ที่แม่พาหนูเดินลงรถไปหาคุณครู หนูก็ไม่ได้ว่าอะไร ยอมเดินไปกับแม่ แล้วก็เข้าไปข้างในกับคุณครูแต่โดยดี ไม่มีการอิดออดหรือร้องไห้ ยิ่งถ้าได้เจอเสฉวนหรือน้องไนซ์พอดี ก็สามารถวิ่งแข่งกันเข้าไปข้างในเพื่อไปเล่นบ้านบอลด้วยกันต่อ แม่รู้ ว่าหนูยังไม่อยากลงรถเข้าไปในโรงเรียน แม่ถึงได้จอดรถ แล้วก็ชวนหนูนั่งคุย นั่งเล่นในรถก่อนซักพัก เพื่อไม่ให้หนูรู้สึกว่ามาถึงก็ต้องลงรถไปเลย แม่ค่อยๆใช้เวลาช่วงนี้ พยายามพูดแบบง่ายๆ ให้หนูเข้าใจใน "หน้าที่" ของการเป็นนักเรียน ที่หนูจะต้องมาโรงเรียนเมื่อถึงเวลา ยกตัวอย่างเพื่อนที่เนอร์สฯให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ ที่เริ่มไปโรงเรียนตั้งแต่ปีที่แล้วแบบ พี่เอื้อ พี่บอย หรืออิ่มเอม แล้วก็มายกตัวอย่างของเพื่อนรุ่นเดียวกันกับนิ๊งหน่อง ที่แยกย้ายกันไปเรียนตามที่ต่างๆ อย่าง พันช์ใหญ่ พันช์เล็ก พีใหญ่ เสือภู รวมทั้งพูดเผื่อถึงน้องๆเด็กเล็ก น้องพรีม น้องมีมี่ น้องแพรวา ที่เมื่อถึงวัยเดียวกันกับนิ๊งหน่องตอนนี้ก็จะต้องเริ่มไปโรงเรียนเหมือนกัน แม่รู้ว่านิ๊งหน่องเข้าใจในสิ่งที่แม่พูด แต่แม่ก็รู้อีกเหมือนกันว่าสิ่งที่หนูต้องเจอ เป็นสิ่งใหม่ ยังไม่คุ้นเคย เวลา 3 ปีกว่าๆที่เนอร์สเซอรี่ กับเวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน ที่หนูเพิ่งจะเจอในสถานที่ใหม่ คงยังไม่ง่ายที่หนูจะรู้สึกสนุกและมีความสุข ประโยคที่นิ๊งหน่องพูดกับแม่ตอนเช้าๆว่า "หน่องอยากไปเนอร์สเซอรี่" หนูรู้มั๊ยว่ามันทำให้แม่วูบในใจทุกครั้ง หรือน้ำเสียงอ่อยๆ ที่ถามแม่ตอนระหว่างทางว่า "วันนี้หน่องไปไหน อินเตอร์คิดส์ หรือ เนอร์สเซอรี่" ก็ทำให้แม่รู้ว่าหนูกำลังเริ่มจะเตรียมทำใจรับว่าถึงเวลาจะต้องเข้าโรงเรียนอีกแล้ว หรือน้ำเสียงลิงโลด ที่หนูบอกกับแม่ว่า "เดี๋ยวตื่นนอน คุณครูก็พาขึ้นรถตู้มาส่งที่เนอร์สเซอรี่แล้ว เย้ๆๆๆๆ" มันทำให้แม่รู้สึกสงสารหนูจับใจ ว่าหนูรอเวลาที่จะได้กลับไปอยู่ที่เนอร์สเซอรี่เหมือนเดิม หนูไม่เคยพูดว่าไม่อยากไปโรงเรียนให้แม่ได้ยิน แล้วแม่ก็ไม่เคยคิดที่จะถามนำหนูด้วยคำถามแบบนี้เวลาที่หนูเริ่ม "ถ่วงเวลา" ก่อนจะถึงโรงเรียน เพราะถึงยังไง มันก็เป็นสิ่งที่หนูต้องทำ และต้องรับให้ได้ ตอนนี้หนูคงยังไม่รู้สึกถึงขั้นไม่ชอบ หรือ เกลียดการไปโรงเรียนหรอก เพียงแต่หนูยังไม่ "ชิน" แค่นั้นเอง สมุดรายงานที่คุณครูส่งให้แม่ทุกวัน ก็บอกว่านิ๊งหน่องเริ่มให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆมากขึ้น ทำงานในห้องเองได้ ไม่ต้องให้คุณครูช่วย เล่นกับเพื่อนๆได้ดี กินได้นอนหลับ ไม่มีปัญหา แม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คงจะเป็นครั้งใหญ่ครั้งแรกที่หนูเจอในวัยที่หนูรู้ภาษาแล้ว แต่หนูก็ต้องรู้จักปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะกว่าจะโต หนูก็จะต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงอีกมากมายหลายอย่าง หนูรู้ไว้แค่อย่างเดียวว่าไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม แม่กับพ่อพร้อมที่จะคอยดูแลหนูอยู่เสมอ และทุกสิ่งทุกอย่าง ที่แม่กับพ่อเลือกให้ แม่กับพ่อก็เชื่อว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับหนูเช่นกัน ไม่ต้องกลัวนะครับคนดี สู้ๆนะครับคนเก่งของแม่ รักนิ๊งหน่องที่สุด แม่นก
Free TextEditor
Create Date : 09 เมษายน 2552 |
|
6 comments |
Last Update : 9 เมษายน 2552 21:34:59 น. |
Counter : 771 Pageviews. |
|
|
|
อย่าผ่านไปที่ชุมนุมน๊า
เป็งห่วงงะ