13-16 Juillet 09
ตอนเลือกจังหวัดสำหรับเที่ยวอีสานปีนี้
ดิฉันบอกสามีว่าอยากไป "สุรินทร์"
เพราะไม่เคยไปมาก่อนเลย
เคยเห็นรูปปราสาทหินเก่าๆน่าสนใจดี
ส่วนจังหวัดอื่นใกล้ๆที่จะไปแวะด้วย
เลือกไปเลือกมาก็ตกลงกันที่ "บุรีรัมย์"
ทั้งๆที่เราสองคนเคยไปเที่ยวกันมาแล้ว
(แต่ต่างคนต่างไปกับเพื่อนคนละครั้ง)
เหตุผลคือมันอยู่ใกล้สุรินทร์ไง
แล้วเราก็ไม่ได้ไปกันมานานมาก
อยากให้ลูกสาวได้เห็นสิ่งสวยงามของเมืองไทย
เลือกไปบุรีรัมย์ก่อนเพราะอยู่ใกล้กว่า
นั่งรถไฟแอร์ขบวนไปศรีสะเกษ
ออกสิบโมงห้านาทีตรงเวลาเป๊ะ (ไม่น่าเชื่อ)
นั่งไปสบายๆ 6 ชม.ยังไม่ทันเบื่อเพราะมีวิวสวยๆให้ดู
ผ่านอยุธยา ปากช่อง สระบุรี ถึงโคราชบ่ายสองโมงครึ่ง
ให้ดูสภาพภายในรถไฟ สะอาด แอร์เย็น
นั่งสบายดีทีเดียว แต่คุยกะน้องคนข้างๆที่เค้าเป็นดีเทลยา
และมาบุรีรัมย์บ่อย น้องเค้าแนะนำว่านั่งรถบัสสะดวกกว่า
(แต่รถไฟขากลับ รถเก่ามากเลยค่ะ)
ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีอะไรกินนะคะ
ถึงไม่มีตู้เสบียง
ก็สามารถสั่งข้าวกล่องกินได้ค่ะ
เค้าจะมีเจ้าหน้าที่มาเดินถามก่อน
มีข้าวให้เลือกสามอย่าง หมูทอดกับไข่ดาว
กะเพราไข่ดาว อะไรแนวๆเนี้ย กล่องละ 35 บาท
น้ำเปล่าขวดเล็กขวดละ 15 บาท
เบียร์ของคุณผู้ชายกระป๋องละ 50 บาท
มาถึงบุรีรัมย์สี่โมงยี่สิบ เจอตุ๊กตุ๊กหน้าสถานีรถไฟ
โขกอีกแล้วอ่ะ เห็นฝรั่งเป็นไม่ได้
เลยเดินออกมาเรียกรถเองริมถนน
(ได้ราคาถูกกว่า)
เราเลือกพักที่ "โรงแรมเทพนคร" ถนนจิระ
ออกห่างมาจากตัวเมืองประมาณโลนึง
อ่านจากในเนตเค้าบอกว่า
เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดของจังหวัด ณ เวลานี้
ค่าเสียหาย 790 บาทรวมอาหารเช้า
จ่ายเพิ่มเตียงเสริมเจ้าเอมอีก 300 บาท
โรงแรมใหญ่พอสมควรค่ะมีสระว่ายน้ำ
บริการนวด สปา ร้านค้าร้านทำผมอีกจิปาถะ
(ที่จำได้คือสองพ่อลูกตัดผมที่นี่ อยู่กรุงเทพฯ
ไม่มีเวลาไงคะ ตัดที่นี่ซะเลย)
ที่บุรีรัมย์ไม่ค่อยมีรถรับจ้าง มีรถสองแถว
วิ่งรอบเมืองก็จริง แต่ขับแค่ถนนรอบเมืองใหญ่
และวิ่งถึง 6 โมงเย็นแค่นั้น ส่วนตุ๊กตุ๊กหรือสามล้อ
ก็มีแค่แถวสถานีรถไฟกะรถทัวร์
จะหารถเช่าก็ไม่มี
คนที่ไม่มีรถแล้วจะไปเที่ยวจังหวัดนี้
ดิฉันไม่แนะนำนะคะ
เพราะจากประสบการณ์ครั้งนี้สุดยอดจริงๆ
ไปไหนมาไหนลำบากมากมาย
(ปกติเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด
เราจะติดต่อเช่ารถกับคนท้องถิ่นแบบที่มีคนขับด้วย
จะรวมน้ำมันหรือไม่รวมก็แล้วแต่ตกลงกันอีกที
แล้วก็หาได้ทุกครั้ง ไม่เคยมีปัญหา)
เย็นวันไปถึงหลังจะเช็คอินเข้าโรงแรมแล้ว
ตั้งใจจะออกจากโรงแรมเพื่อไปหาของกิน
ก็เลยจะแวะไปตลาดไนท์บาร์ซาร์ซึ่งห่างไปไม่เท่าไหร่
ของกินของขายเยอะมากๆ
ติดต่อเช่ารถโรงแรมเที่ยวละ 100 บาทค่ะ
(แอบแพงเนอะ ไปกลับก็สองร้อยแล้ว)
เป็นรถตู้ใหญ่เลย แต่เรามีกัน 3 คนแค่นั้น
ขอรถเล็กเค้าก็ไม่มีให้
ตื่นตาตื่นใจกะของกินของขายในตลาดซึ่งมีเยอะมาก
แล้วก็ราคาถูก เดินหารถเช่าสำหรับไปเที่ยว
นึกว่าจะมีบริษัทรถเช่าเหมือนจังหวัดอื่นๆแต่ก็ไม่มี
ไปเจอคุณตำรวจคนนึง ก็เลยถามข้อมูลว่ามีที่ไหน
ที่เราจะเช่ารถได้บ้าง คุณตำรวจใจดีบอกว่า
มีญาติทำอยู่พอดี ติดต่อให้ได้
ว่าแล้วก็กดโทรศัพท์ไปหา ตอนนั้นแอบดีใจว่าโชคดีจริงๆ
แต่ได้ยินประโยคแรกที่เค้าพูดกับปลายทางบอกว่า
"มีผู้หญิงคนนึงมากับฝรั่งอยากจะติดต่อเช่ารถ
จะคิดเท่าไหร่"
แค่นี้ดิฉันก็สะอึกแล้วค่ะ
ไอ้ส่วนขยายที่ว่า " มากับฝรั่ง "
เนี่ยมันทำให้ผู้รับสารได้ข้อมูลอะไรเพิ่มขึ้นเหรอ
มันต่างจากประโยคที่ว่า
"มีผู้หญิงคนนึงอยากจะติดต่อเช่ารถ" ยังไงหล่ะ
จะมากับ "ฝรั่ง" หรือมากับ "คนไทย"
ไม่เห็นจำเป็นจะต้องบอกเลย
แต่ที่แน่ๆดิฉันได้ราคา"แพง"พิเศษค่ะ
(เพราะได้ข้อมูลราคารถเช่าที่นึงมาจากโรงแรมแล้ว)
ตกลงเราติดต่อเช่ารถจากพนักงานของโรงแรม
ค่าเช่า 1500 บาทต่อวัน รวมคนขับแต่ไม่รวมน้ำมัน
เค้ามีแต่รถตู้ ไม่มีรถเก๋ง เจอค่าน้ำมันไปบานตะไท
นั่งกันสามคนพ่อแม่ลูกยึดกันคนละแถว
นอนเหยียดยาวได้เลยเนี่ย ฮา
วันแรกเราเที่ยวบุรีรัมย์ก่อน อีกวันถึงไปจังหวัดสุรินทร์
ตอนแรกว่าจะย้ายโรงแรมไปอยู่โน่น
ไปๆมาๆด้วยความขี้เกียจก็เลยนอนที่นี่สามคืนซะเลย
หลังทานอาหารเช้าเราก็ไป ปราสาทเมืองต่ำกันก่อน
เนื่องจากเราตั้งใจไปอุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้งด้วย
ก็เลยซื้อบัตรชุดค่าผ่านประตูทั้งสองที่รวมกันในราคา
คนไทย 30 บาท ต่างชาติ 150 บาท
(รูปด้านบนเป็นป้ายบอกราคา อนุรักษ์การใช้เลขไทย
แต่อันนี้ถ่ายที่พนมรุ้งค่ะ)
* หมายเหตุ ราคา ณ เดือนกรกฎาคม 2552
ปราสาทเมืองต่ำเป็นปราสาทหินขอมโบราณ
ที่มีขนาดใหญ่และสวยมาก น่าสนใจไม่แพ้พนมรุ้ง
ใครแวะมาเที่ยวบุรีรัมย์ต้องไปปราสาททั้งสองแห่งให้ได้นะคะ
ด้านหน้ากับป้ายชื่อปราสาทและหน้าบันปรางค์ประธาน
ด้านในบริเวณพื้นที่กลุ่มปราสาทต่างๆ
จะมีสระน้ำทั้งสี่มุม
ซึ่งเค้าสันนิษฐานว่า
ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรม
ประวัติข้อมูลทั้งหมด ไปเสริชหาใช้คำว่าปราสาทเมืองต่ำ
จะมีเวปมากมาย อันนี้ยกมาแปะเล็กน้อย
//www.thaifolk.com/doc/muengtam.htm
//th.wikipedia.org/wiki/ปราสาทเมืองต่ำ
//www.nairobroo.com/76/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=194
รูปเอมถ่ายด้านหน้าทางเข้าปราสาทเมืองต่ำ
โชคดีวันที่ไปเที่ยวฝนไม่ตก ทั้งๆที่เป็นหน้าฝน
ถ้าฝนตกคงเที่ยวปราสาทไม่สนุก
แต่วันนั้นอากาศดีเชียวหล่ะ
ออกจากปราสาทเมืองต่ำ
เราก็ไป "อุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง"
ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงสิบโลแค่นั้น
ข้างล่างนี้เป็นรูปถ่ายด้านหน้าปราสาทพนมรุ้ง
นอกนั้นขอให้ย้อนขึ้นไปดูรูปที่แปะด้านบน
ตั้งแต่รูปแรก จนมาถึงรูปปราสาทเมืองต่ำค่ะ
ตอนแรกดิฉันห่วงว่าเจ้าเอมจะเดินขึ้นพนมรุ้งไม่ไหว
เพราะจำได้ว่าทางขึ้นไกลพอสมควร
คุยกะสามีตั้งนานตั้งแต่ก่อนมาว่าจะไปที่นี่ดีไหม
กลัวลูกเหนื่อย กลัวฝนตกแล้วลื่น ห่วงไปไกลโน่น
แต่สุดท้ายอากาศดี ไม่ร้อนมาก
เจ้าเอมเดินขึ้นได้เองสบายบรื๋อ ไม่มีบ่น
(ตอนนั้นสี่ขวบกะสามเดือน)
ออกจากพนมรุ้งก็แวะไปกุฎิฤาษีหนองบัวรายที่อยู่ไม่ไกล
เป็นปราสาทหินขนาดเล็ก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้น
เพื่อใช้เป็นสถานที่ปรุงยาหรือศาสนสถาน
ประจำโรงสถานพยาบาล
จริงๆกะจะไป "กุฏิฤาษีบ้านโคกเมือง" อีกแห่ง
แต่คิดว่าคงคล้ายๆกัน แล้วต่างคนต่างหิว
ก็เลยไม่ไปดีกว่า ไปหาอะไรกินกันก่อน
หลังจากนั้นเราขึ้นไป "อุทยานเขากระโดง"
แวะไหว้ "พระสุภัทรบพิตร"
ได้เห็นวิวสวยๆของจังหวัดบุรีรัมย์ด้วย
(รถขึ้นถึงนะคะ ไม่ต้องเดิน)
ที่นั่นมี "รอยพระพุทธบาทจำลอง" กับ
"ปล่องภูเขาไฟกระโดง" (ที่ดับแล้ว)
แต่เราไม่ได้เดินลงไปดู เพราะขี้เกียจเดินแล้วค่ะ
เดินเที่ยวสองปราสาทมาครึ่งวัน กลัวตัวเล็กงอแงด้วย
อาศัยชะโงกดูเวลารถผ่าน
เค้าทำทางเดินลงไปดูสะดวกเลยนะคะ
นั่งรถกลับ วนเข้าไปดูตัวเมืองซักหน่อย
แล้วก็แวะไปที่ "ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้"
ที่ "สถาบันราชภัฏบุรีรัมย์" ที่นี่เข้าฟรี
มีประวัติข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดบุรีรัมย์ที่น่าสนใจไม่น้อย
ในรูปด้านล่างคือสิ่งที่ขุดพบที่นี่มีเครื่องปั้นดินเผา
หินและโครงกระดูกช้าง
นอกจากนั้นยังมีผ้าชนิดต่างๆ อีกด้วย
บล็อคนี้ทำไปทำมาชักยาวเนอะ รูปเยอะด้วย
ไม่รู้โหลดกันช้าหรือเปล่าคะ