อังกฤษ : Canterbury (Angleterre)
13 Déc 2008 ทริป Canterbury ครั้งนี้ โชคดีได้ติดสอยห้อยตามขบวนทัวร์ ของเพื่อนร่วมงานสามี เนื่องจากทางสำนักงานเขตของเมืองที่เค้าอยู่ มีจัดเที่ยวราคาประหยัด เพื่อเป็นสวัสดิการของชาวเมือง แล้วเพื่อนของสามีซึ่งมีตำแหน่งผู้ช่วยที่ปรึกษาคนนึง ของผู้ว่าการเขต (ขออนุญาตไม่เขียนวงเล็บศัพท์ ฝรั่งเศสนะคะ เพราะจะส่งลิงค์นี้ให้เค้าอ่าน ถ้าเขียนก็รู้สิ ว่าดิฉันมาเล่าเรื่องเธอตรงนี้) เที่ยวหนนี้เหนื่อยทีเดียวเชียวแหล่ะ ต้องตื่นตีสี่ ไปส่งเอมบ้านคุณย่าที่อยู่อีกเมืองนึง เพื่อฝากเลี้ยงหนึ่งคืนเพราะคิดว่า เดินเที่ยวทั้งวันอย่างงี้สมบุกสมบันเกินไป สำหรับสาวน้อยวัยสามขวบกว่าๆ
นัดกันที่บ้านเพื่อนสามีตอนหกโมงเช้า แต่กว่ารถจะออกก็ปาเข้าไปเจ็ดโมง เพราะผู้ร่วมขบวนทัวร์หลายๆคน ลืมพกสิ่งสำคัญมาด้วยก็คือ บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต ก็ต้องกลับไปเอาบ้านใครบ้านมันกันหล่ะค่ะ ทั้งๆที่เขียนแจ้งไว้ในจดหมายแล้วนะ (น่าตีจังเลย เสียเวลานอนไปอีกหลายนาที) สรุปว่าไปกันเต็มรถทัวร์หนึ่งคันใหญ่ค่ะ เป็นชาวเมืองซักครึ่งนึงได้มั้ง ที่เหลือเป็นผู้ติดตาม อย่างอีตาเพื่อนสามีก็มีคุณลุงคุณป้าคุณหลานๆรวมแล้วสี่ สามีกะดิฉันอีก ผู้ติดตามทั้งหมดก็ปาเข้าไปหกแล้ว คิดดู
ดิฉันอาศัยอยู่ทางเหนือของฝรั่งเศส นั่งไปถึง "Calais" ใช้เวลา 1 ชมกะอีก 15 นาที (เวลาสำหรับรถใหญ่ที่ขับเร็วไม่ได้นะคะ ถ้ารถเก๋งก็ใช้เวลาน้อยกว่านี้) เมืองกาเล่อยู่ทางเหนือติดทะเลเลยค่ะ เป็นที่ตั้งของท่าเรือโดยสารข้ามฟากไปโดเวอร์ฝั่งอังกฤษ ดิฉันไม่เคยไปอังกฤษเลย ทั้งๆที่อยู่ใกล้นิดเดียว เหตุผลก็คือเสียดายค่าวีซ่าหรือเรียกง่ายๆว่า"งก"ค่ะ รู้สึกว่ามันแพงเกินไป ก็เลยรอจนได้สัญชาติฝรั่งเศส จะได้ไม่ต้องจ่ายตังค์ พอได้สัญชาติเมื่อต้นปีที่แล้ว ก็กลับไปเที่ยวเมืองไทย กลับมาฝรั่งเศสอีกรอบ โชคดีได้งานทำ ก็เลยไม่ได้ไปอังกฤษซักที จนได้โอกาสดีคราวนี้นี่แหล่ะ แถมไปครั้งแรกก็ได้ลองใช้วิธีเดินทาง ผ่านช่องแคบอังกฤษ (la Manche) สองอย่างที่ต่างกัน คือขาไปจากฝรั่งเศสนั่งรถลอดอุโมงค์ โดย "Eurotunnel"
ขากลับนั่งเฟอร์รี่ทางทะเล แต่สรุปแล้วถ้าได้ไปเองอีกคราวหน้า ขอเลือกวิธีที่สามคือนั่งรถไฟยูโรสตาร์ไปดีกว่าค่ะ ดูท่าว่าจะสะดวกสุด เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่า ไอ้สองอย่างที่ได้ลองเนี่ย มันเสียเวลาขนาดไหน รถทัวร์เราไปถึงครึ่งชั่วโมงก่อนหน้าเวลานัด คือการเดินทางกะคนกลุ่มใหญ่โดยใช้อุโมงค์เนี่ย ต้องจองล่วงหน้า ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าไปได้เลย
รถก็เลยมาปล่อยยืดเส้นยืดสายที่ยูโรทันเนล ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ทางคณะเค้ามีครัวซองค์ ขนมปังช็อคฯและเครื่องดื่มบริการฟรี (ใจดีจริงๆ) ส่วนใครอยากจ่ายตังค์ซื้ออย่างอื่นกินก็เชิญด้านใน มีร้านค้า ร้านอาหาร เคาร์เตอร์แลกเงิน พอได้เวลาขึ้นรถ กว่าจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ผ่านกระบวนการตรวจค้น ค้นแล้วค้นอีก ผู้โดยสารทุกคนต้องลงจากรถเพื่อผ่านพาสปอร์ต หรือแสดงบัตรประชาชน นี่ขนาดทัวร์เราเช้าไปเย็นกลับไม่มีกระเป๋านะคะ เปิดใต้ท้องรถว่างเปล่า พี่ท่านยังเช็คทุกตารางนิ้ว (แต่อย่างว่าหล่ะเนอะ เพื่อความปลอดภัย) กว่าจะได้ขึ้นไปในโบกี้ของ Eurotunnel กินเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็ม ๆ
รูปที่เห็นข้างบนนี้ สองรูปบนคือที่ช้อปปิ้ง ส่วนสามรูปล่าง ถ่ายเล่นๆระหว่างนั่งรอบนรถจนเซ็ง
รูปล่างซ้ายมือ ที่เห็นไกลๆเหมือนขบวนรถไฟทั่วๆไป ก็คือตู้บรรทุกยานพาหนะค่ะ มอเตอร์ไซด์ รถเก๋ง รถทัวร์ทั้งหลายแหล่ ต่อคิวเพื่อเข้าไปในโบกี้แคบๆ อัดกันเหมือน"ปลากระป๋อง" แต่เค้าแยกคิวรถเล็กรถใหญ่นะคะ ส่วนรถบรรทุกก็ขึ้นตู้โดยสารโปร่งๆในรูปด้านขวามือล่างค่ะ ข้อมูล Eurotunnel อ่านที่นี่ค่ะ //fr.wikipedia.org/wiki/Tunnel_sous_la_Manche ใช้เวลานั่งไป 40 นาที ในนั้นเค้าให้ลงมาจากรถได้ค่ะ แต่ไม่มีอะไรให้ดูนะคะ มีแค่ห้องน้ำบริการ ที่หัวขบวนกะท้ายขบวน ถึงฝั่งอังกฤษสิบโมงครึ่ง
จากจุดนี้เดินทางเข้าเมืองไปจนถึงลานจอดรถ ก็เกือบๆสิบเอ็ดโมงได้ จริงๆ Canterbury อยู่ไม่ไกลเลยนะ สถานที่เที่ยวชื่อดังที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่ คือมหาวิหารใหญ่ของเมือง "Canterbury Cathedral" ซึ่งเป็นหนึ่งในโบสถ์คริสต์ที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงของอังกฤษ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ //en.wikipedia.org/wiki/Canterbury_Cathedral //fr.wikipedia.org/wiki/Cath%C3%A9drale_de_Cantorb%C3%A9ry //www.sacred-destinations.com/england/canterbury-cathedral.htm ที่นี่ยิ่งใหญ่สมกะที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกแห่งนึง
บรรยากาศและการตกแต่งภายในสวยงาม โดยเฉพาะกระจกสีและงานแกะสลักนูนสูงต่างๆ //whc.unesco.org/en/list/496 จากนั้นแวะกินอาหารกลางวันกัน ลงมติเลือกร้านอิตาเลียน เพราะคิดว่า อาหารพื้นๆน่าจะกินได้ทุกคน
เผอิญว่าญาติๆและคนรู้จักของเพื่อนสามี ตอนที่เดินไปด้วยกันมีสิบคน รวมเราอีกสองเป็นโหลนึงพอดี
ถ่ายบรรยากาศร้านมาให้ดูได้รูปเดียว อย่างที่บอกว่าไปกันหลายคน ไอ้ครั้นจะยกกล้องขึ้นมาถ่ายอาหาร ก็กลัวเค้าจะหาว่าบ้า ไม่เคยเห็นหรืออย่างไร
จริงๆอาหารที่สั่งมาหน้าตาดีและอร่อยมากมาย สุดท้ายเลยถ่ายมาได้แค่ทีรามิสุ ตอนคุณป้าที่นั่งตรงข้ามลุกไปเข้าห้องน้ำ ฮ่าๆ ก็เลยกระมิดกระเมี้ยนยกกล้องมาแชะกะเค้าได้ซักที (สองรูปข้างล่างที่เห็นถ่ายในร้านอาหารนะคะ ส่วนอีกสองรูปด้านบนเป็นบรรยากาศในเรือเฟอร์รี่ขากลับค่ะ) กินเสร็จก็แยกย้ายสลายโต๋ ไปเดินเล่นดูของสวยๆงามๆกันสองคน เพราะคิดว่าถ้าไปเป็นกลุ่มใหญ่อย่างงี้ รอกันไปรอกันมา คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี โชคดีอีกแล้วที่เราไปช่วงเซลล์ เข้าร้านโน้นออกร้านนี้ ถูกใจดิฉันสุดๆ เหมือนได้ปลดปล่อยที่ไม่ได้ช้อปมานาน แล้ว Canterbury เป็นแหล่งช้อปปิ้งชั้นดี ห้างสรรพสินค้ากะร้านต่างๆเยอะจนไม่รู้จะว่าไงแล้ว ทริปนี้สนุกดี แต่ได้เที่ยวจริงๆ 5 ชั่วโมงกว่าๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าคุ้มเหนื่อยหรือเปล่า เสียอย่างเดียวคืออากาศไม่ดีเลย ฝนตกตลอด ฟ้าครึ้ม ไม่มีแสงซักนิด เดี๋ยวก่อนยังจบไม่ได้เนอะ ต้องเล่าขากลับอีก เราไปถึงท่าเรือก่อนเวลาครึ่งชั่วโมงอีกแล้ว รถต่างๆจอดรอเข้าคิวขึ้นเรือกันอย่างเป็นระเบียบ กว่าจะได้ขึ้นเรือจริงๆก็หกโมงเย็น มืดตื๋อ เลยไม่ได้ถ่ายรูปเรือด้านนอกมาให้ดู ไปดูในเวปเค้าแล้วกันนะคะ//www.seafrance.com/seafrance/opencms/continental/fr/passenger/experience/the_restaurants/
แต่ขากลับนี่สะดวกค่ะ ไม่มีใครขอตรวจอะไรเลย รถวิ่งเข้าด่านฉลุยจนขึ้นเรือ แถมมาถึงฝั่งฝรั่งเศส ก็ผ่านได้เลยอีกต่างหาก อย่างงี้คนลักลอบเข้าเมือง สบายเลยสิคะ
ตม.อังกฤษขาเข้าเคร่งมาก แต่ตม. ฝรั่งเศสไม่มี ซักท่านคิดดูละกัน อย่างงี้ถ้ามีผู้ก่อการร้ายจากฝั่งโน้น ข้ามมาทางนี้ แล้วหลบเข้าประเทศอื่นทางรถยนต์ คงจะหายเข้ากลีบเมฆไปได้เลยมั้ง ฮ่าๆ อย่าถือเลยนะ ดิฉันก็ว่าไปเรื่อยเปื่อย ++++++++++++++ สุดท้ายอยากฝากขอบคุณคุณจ๋า (Massy) คุณแม่น้องดานเนียลที่ช่วยให้คำแนะนำ และส่งลิ้งค์ดีๆมาให้อ่าน เพราะก่อนจะไปดิฉัน ไม่มีเวลาเลยค่ะ ทำงานทุกวันเช้ายันเย็น วันหยุดก่อนหน้านั้นก็ลาไปเที่ยวเบลเยี่ยมกัน 3 วัน ไม่ได้เตรียมไม่ได้หาข้อมูลอะไรเลย ขออนุญาตเอาเวปที่คุณจ๋าแนะนำ มาให้เพื่อนๆได้อ่านกันด้วยนะคะ //www.visitbritain.com/th/destinations/
แล้วก็ถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ทุกท่านค่ะ Happy New Year Bonne Année
Create Date : 30 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 30 ธันวาคม 2551 6:41:20 น. |
|
14 comments
|
Counter : 1226 Pageviews. |
|
|