ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
Group Blog
 
<<
มกราคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 มกราคม 2549
 
All Blogs
 
" วันชื่น....คืนสุข...ที่สุดแห่งรัก.....กับงานจดทะเบียนบนภูกระดึง "

...................11 กุมภาพันธ์ ผมนาย วิท กับ ภรรยาย รัตนาวดี (น้ำตาล) เดินทาง ออกจาก หมอชิต ด้วยรถแอร์เมืองเลย อีกเช่นเคย เราแต่งงานกัน เมื่อวันที่ 4 กุมภาที่กรุงเทพ และจองตั๋วไปจดทะเบียนที่ภูกระดึง โทร.ไปลงชื่อกับเจ้าหน้าที่อุทยานเรียบร้อย ตี่สี่กว่า มาถึงร้านเจ๊กิม ไม่มีเพื่อนนักท่องเที่ยวมาภูกระดึงเลย เหงามากๆ เข้าไปหลังร้าน พักผ่อนรอรถสองแถว กว่าจะมาคง เจ็ด- แปดโมง เพราะช่วงนี้คนน้อย มานอนเอาแรงก่อนครับ หนูตาลนอนคนเดียวผมไม่ง่วงแล้ว พอนอนได้แป๊บเดียว ก็บ่นแล้วครับ “ทำไมไม่มานอนด้วยกัน หนาวน่ะ เอารัยมาห่มให่หน่อยซิ” มาด้วยกันครั้งแรกยังมานอนกอดเลย “นี้ไม่สนใจกันเลยน่ะ” เป็นงัยล่ะครับโดนบ่นแล้ว ต้องงัดเอาเสือแขนยาวมาห่มให้อีก งอนอีกแล้ว(ผู้หญิงนี้จริงๆเลย เอาแต่ใจ) มาคราวนี้ต้องตกลงกันก่อนน่ะว่า มางานสำคัญ ห้ามงอน หรือโกรธ มันไม่ดี เสียฤกษ์



ป้ายหน้างาน



หมดแรงแล้วคราบ




กล้วยไม้ดินครับ




นี้ก็กล้วยไม้



................... เราขึ้นรถสองแถว เจ็ดโมงกว่า วันที่ 12 กุมภา มีเพื่อนนักท่องเที่ยวมารออยู่แล้ว หกคน สอบถามแล้วยังไม่เคยมา ภูกระดึง กันเลย ในกลุ่มมีคนเดียวที่เคยมา เราสองคน ร่วมขึ้นรถไปด้วยเป็นครั้งแรกที่มากันสองคนแล้วไม่ต้องเหมารถสองแถว มาถึงที่ทำการ ไปลงชื่อแจ้งว่า คู่จดทะเบียน นาย วิท กับหนูตาลมารายงานตัวแล้วครับ เจอพี่ พลธวัฒ ประชาสัมพันธ์ เลยให้พี่แก ถ่ายรูปที่ทำการให้ แล้วเราก็ไปชำระค่า กางเต็นท์ ค่าธรรมเนียม พร้อมเดินขึ้น เจอน้องๆกลุ่มเดิมยังไม่ทำรัยกันเลย จึงเขาไปแนะนำ และบอกขั้นตอน เสร็จสรรพ กลุ่มเราก็ไปชั่งน้ำหนักของให้ลูกหาบ ผมบอกกับลูกหาบไว้แล้วว่าจะขึ้นถึงช้า ยังงัยให้เอาไปฝากไว้ที่ ร้านปักษ์ใต้เลย เดินทางขึ้นภูกันเลยดีกว่า ก่อนขึ้นที่ทำการ มีป้ายบอกงาน “วันชื่น คืนสุข ที่สุดแห่งรัก กับการจดทะเบียนบนภูกระดึง” คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวและคู่จดทะเบียน ปีนี้มีทั้งหมด 11 คู่

ข้างบ้านพัก



หลังบ้านพัก





ลานพระแก้ว





................... เราสองคนเดินเรื่อยๆ ให้น้องกลุ่มนั้น เดินนำไปก่อน ก็แวะทุกซำเหมือนเคย แวะคุยกัน แม่ค้า พ่อค้า สอบถามความเห็นเรื่องกระเช้า ขึ้น ภูกระดึง ว่าเขาเห็นเป็นอย่างรัย ได้คำตอบมาเป็นที่น่าสงสารคนแถวนั้นจริงครับ ถ้าคนบ้านศรีฐาน ไม่เอา เขาจะไปสร้างกระเช้าทาง หล่มสัก เหมือนมัดมือชกเลย ว่าคุณต้องเอา ทั้งๆที่ชาวบ้านไม่ต้องการเลย เที่ยง เราก็ถึง ซำแคร่ สุดท้ายเลยแวะกิงข้าว กลางวันกัน ยังเหลือร้านลุงเหมือนเดิม ร้านเดียวเช่นเคย
นั่งพักเอาแรง ก็ไปกันต่อ ถึง หลังแป ก็เกือบบ่าย แล้ว แดดแรงพอสมควรครับ ช่วงเดือน กุมภานี้ ต้วมเตี้ยมไปจนถึงที่ทำการ แวะไปรายงานตัวอีกรอบ และไปเช่าผ้าห่ม เดินไปที่ร้านพี่ธรรม ของยังไม่มาครับ นั่งคุยกันรอลูกหาบ พี่โจ้ น่ะดีใจกว่าใครเพื่อนครับ เพราะนานๆจะเจอกับเรา มาคราวนี้ มาจดทะเบียนด้วย เลยพากันดีใจยกใหญ่ เราเอารูป ตอนที่ ถ่ายสตูฯที่กรุงเทพ ไปให้ดูด้วย แซวผมใหญ่เลยครับ ว่าหล่อเหมือนพระเอกหนังเลย แต่ตัวจริงนี้ดูไม่ได้เลย 5555


หลังพระแก้ว





ทางไปผานกแอ่น









....................แล้วลูกหาบก็เอาของมาให้ เราไปอาบน้ำ แต่งตัวเตรียมไปถ่ายรูปกัน มางานจดทะเบียนทั้งที่ เราเตรียมชุด ไทย มาใส่ด้วยก็เป็นชุดที่ใส่ในงานแต่งงานช่วงเช้า กะว่าจะไปถ่ายเอาแสงอาทิตย์ สีทองยามเย็น แต่ช่วงรอเวลา ก็เลยนอน กันสักงีบ แต่แล้วก็พลาดครับ พอตื่นกันอีกที่ ตะวันจะลับฟ้าแล้ว กว่าจะแต่งตัวกันเสร็จ ชุดผมน่ะไม่เท่าไหร่ครับ ชุดแม่บ้านนี้ซิ ต้องแต่งหน้า ทำผมอีก กะว่าจะไปถ่ายแถว กลางทางไปผาหมากดูก ไปไม่ทัน ก็เอามันตรงลานกางเต็นท์ นี้แหละครับ กว่าจะถ่ายได้แต่ล่ะรูปก็แสนลำบาก เพราะ ต้องมาตั้งกล้องจัดองค์ประกอบภาพเอง ที่แรกจะให้พี่โด้ กับพี่เป้ามาเป็นมือโปรให้ แต่ไม่ยอมว่างกันเลย อุตส่าห์บอกว่าออกค่าใช้จ่ายให้หมด ยังไม่ยอมมากันเลย แย่จริงๆพี่ผม(แอบบ่นครับ) ผมต้องจัดการเองทั้งหมด ก็ได้ไม่กี่รูปหรอกครับ เพราะ แสงหมดเสียก่อน เราได้แค่วนถ่ายข้างๆบ้านพัก ก็มีเพื่อนนักท่องเที่ยวมาแอบดูเราแหละครับ “ไอ้สองคนนี้ท่าจะบ้า หอบผ้า หอบผ่อน มา มันลงทุนจริงๆเลยประมาณนี้แหละ”














................. ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว เราก็ไปร้าน ปักษ์ใต้ ไปกิงข้าวกัน แม่ครัวมือหนึ่งพี่โจ้ (ตอนนี้แก แยกไปเปิดร้านเองแล้วครับ) น้ำพริกกระปิตามเคยครับ คืนนี้ดูเงียบเหงา แต่เราสองไม่เคยเหงาครับ สำหรับการเดินทางมาที่ ภูกระดึง ได้มาเยือนครั้งใด แสนสุขใจยิ่งล้น คืนนี้ก็นอน อย่างมีความสุข กะว่าพรุ่งนี้สายๆ จะไปถ่ายรูปที่ ลานพระแก้ว ไปเช้าก็กลัวช้างครับ พระอาทิตย์ ขึ้นไม่ต้องไปดูแล้ว
.................เช้าวันใหม่ วันที่ 13 กุมภาไปกิงข้าวต้มที่ร้าน เตรียมเสื้อผ้า ชุดไทยชุดเดิมไปถ่ายรูปกัน เอาผ้าขาวม้าไปเป็น ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า กว่าจะแต่งหน้าทำผมเสร็จ ตะวันก็จะตรงหัวแล้วล่ะครับ ถ่ายที่ พระพุทธรูป ตรงลาน และด้านหลัง มีเจ้าหน้าที่มาตรวจความเรียบร้อย เห็นเราสองคน แต่งชุดแปลกตา เลยเข้ามาดู แล้วก็ยิ้มๆ


เช้าที่ผานกแอ่น





ณ ลานพระพุทธเมตตา










................. ตะวันค้อยไปแล้ว ก็เดินกลับ มาถ่ายดงต้นสนระหว่างทางเดินกลับอีก แต่แสงแดดมันแรง รูปออกมาไม่สวย พอก่อนครับ กลับไปกิงข้าวเที่ยงกันที่ ร้าน แล้วก็พักนอนสักงีบ บ่ายแก่ๆ เราสองคนไปถ่ายรูป กันต่อที่ ดงดอกกุหลาบแดง ที่สะพาน ข้ามไปทางองค์พระ และไปผาหมากดูก ก็ต้องมาแต่ง หน้าทำผมใหม่ เพราะตอนเที่ยงกิงข้าว เราเปลี่ยนเสื้อผ้าออก เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็น เขาจะว่าเราบ้า วันนี้ทั้งวัน มีคอบเตอร์ บินขึ้นลง ตลอดทั้งวัน เพราะ ขนของมาเตรียมงาน วันพรุ่งนี้ คือวันที่ 14 ตามโปรแกรม คู่สมรสจะมารายงานตัว วันที่ 13 กุมภา แล้วเดินขึ้นมา แต่ผมกับแม่บ้าน ขึ้นมาก่อน ก็มาถ่ายรูปแหละครับ














................ เย็นที่ 13 กุมภา ทางอุทยานแจ้งให้คู่สมรส ไปฟัง คำชี้แจงจาก ท่านหัวหน้าอุทยาน และ แจ้งลำดับขั้นตอน ของงานวันพรุ่งนี้ เช้า
- 05.00 น.ให้มารวมกันที่ทำการ เดินทางไปดู พระอาทิตย์ขึ้นที่ผา นกแอ่น
- 07.00น. พร้อมกันที่ ลานพระพุทธเมตตา มีพิธีสงฆ์ ตักบาตร ฟังธรรม
- 08.00 น. ถวายพัดตาหาร แด่พระสงฆ์ พระสงฆ์ให้ศีล ให้พร
- 09.00 น. แห่ขบวนขันหมวก ไปที่ สระอโนดาต ทำพิธี จดทะเบียน
- 18.00 น. ร่วมงานเลี้ยง บริเวณที่ ทำการ ณ ลานกิจกรรม พร้อมกัน มีการ บายศรี สู่ขวัญ

งานนี้มีนักข่าวมาจากช่อง 3 เป็นนักข่าวช่วง เรื่องเล่าเช้านี้ และนักข่าว ของจังหวัดเลย
และทีมงาน ของบุญห่อ ที่ทางอุทยานจ้างมาทำ สารคดี พอทราบว่า เราเตรียมชุดมาร่วมงานด้วย ก็ เลยเอาเราสองคนเป็นฟรีเซนเตอร์ และสัมภาษ เพื่อทำสารคดี พอฟังการชี้แจงเสร็จ เราไปกิงข้าวที่ร้าน คุณป้าที่ร้าน ท. บริการ กำลังบวชพักทองถวายพระ พรุ่งนี้ เราเลยร่วมทำบุญ ด้วย ซื้อน้ำตาลให้ แล้วช่วย บอกเปลือกพักทอง และก็เจอพี่นักข่าว เมืองเลย และทีมงาน ก็ถามประมาณว่า ทำไม่มาจดทะเบียนที่นี้
“ก็เราเจอกันที่นี้ และมารักกันที่นี้งัยครับพี่” กว่าจะคุยกันเสร็จ ดึกพอสมควร เราจึงขอตัวไปนอน เพราะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า




แห่กันไกลจริงๆ










.................. 05.00 น. วันที่ 14 กุมภา เราพึ่งตื่นครับ กว่าจะอาบน้ำ แต่งตัว(แต่งชุดไทยไปเลยครับ แล้วทับด้วย เสื้อกันหนาว) เราสองคนเลยต้องเดินไปกันเอง เพราะไม่ทันรถ เดินไปท้ามกลางความมืด และเงียบ ผมน่ะไม่กลัวหรอกครับ แต่ แม่บ้านผมจะกลัวครับ เพราะเธอไม่เคยมา ผานกแอ่น เช้า และมืดแบบนี้ ส่วนผมน่ะมาประจำ คนเดียวก็บ่อย ผมจึงต้องปลอมใจ พูดคุยเรื่องอื่นเพื่อไม่ให้ กลัว ใกล้ถึงลานพระแก้ว ฟ้าก็เริ่มสางแล้วครับ พอเราไปถึง ผานกแอ่น เพื่อนคู่สมรส อีก 10 คู่ก็มารออยู่ก่อนแล้ว และมีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง มาดูด้วย สายอีกนิด ฟ้าก็ยังไม่เปิด เราเลย ถ่ายรูปหมู่ไว้ แล้วก็เดินทางกลับด้วยรถของ อุทยาน เพราะ ต้องมาร่วมงาน ตอน 7 โมง พอถึงที่ทำการ เราสองคนไปเข้าห้องน้ำ ลอกคราบ เสื้อกันหนาวออก เหลือชุดไทย พร้อมไปตักบาตร ช่วงเดินไปก็เจอ คนเฒ่าคนแก่ พ่อค้า แม่ค้า แต่งตัวกันสวย ทุกคน คุยกันคุณป้าไป แก่บอกนานๆจะมีงานแบบนี้สักที คนบนนี้เลย ได้ทำบุญ ร่วมงานกันสักที พอพระสงฆ์ มาถึง ลานพระพุทธ ก็ได้เริ่มพิธีสงฆ์ โดย ท่านนาย อำเภอ มาเป็นประธาน จุดธูป เทียน บูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์ เจริญ พระพุทธมนท์ ท่านนายอำเภอ เป็นประธานตักบาตร ตามด้วย ท่านหัวหน้า อุทยาน และคู่สมรส และชาวบ้าน แม่ค้าที่มาร่วมงาน ถวายพัดตราหาร พระสงฆ์ฉันเสร็จ ให้พร และพวกเราก็จัดการกันต่อ กิงกันอย่างอร่อย ก็เป็นกับข้าวที่ ชาวบ้านเตรียมกันมา และอีกส่วนทางอุทยานจัดเตรียมไว้ให้












.................9.00 น. เริ่มตั้งขบวนขันหมาก มีวงกลองยาว และ โปงลางมาด้วย นำขบวนโดย ท่าน นายอำเภอ ท่านหัวหน้าอุทยาน และคู่สมรส งานนี้เป็นการแห่ขันหมากที่ ยาวไกลที่สุด ในเมืองไทยแล้วล่ะครับ จากลานพระพุทธ ไปถึง สระอโนดาต ก็ประมาณ 3 กิโล ที่แรก บอกว่าเดินไปนิดก่อน แล้วค่อยขึ้นรถกัน แต่สุดท้ายเดินตลอดทางครับ ตอนขบวนออกทีแรกก็เป็นรูปแบบดีอยู่หรอกครับ พอเดินไปได้หน่อย เริ่มแตกครับ แบ่งเป็น พวกๆ ใครเดินเร็วก็ไปก่อน เดินช้าก็มาทีหลัง ปิดท้ายด้วย รถกลองยาว
ช่วงทางเดินฝุ่นเยอะครับ ชุดผมนะสีขาว เลยต้องพับขากางเกงเดิน หนูตาล ยิ่งกว่าผม ถลกชุดขึ้น ถึงขาเลยครับ กลัวชุดเลอะ งานนี้ เราเลยเอากล้องไปฝาก พี่นักข่าวให้ถ่ายรูปให้ด้วย ทีมงานบุญห่อ ก็ตามเหลือเกิน พี่แก ลงทุนปีนต้นสน เพื่อให้ได้ภาพมุมสูง ผมล่ะห่วงกล้องวีดีโอแก จังเลย กว่าเราจะมาถึง สระอโนดาต กันก็เลอะไปหมด ชุดขาวก็เป็น สีเทาซะแล้ว มานั่งพัก ที่ต้นสน รอขบวนกลองยาว พอมาถึง หนูตาล เลย ให้ทริบไป 500 บาท ในฐานะที่ เล่นได้ไม่เหนื่อย













................. ณ สระอโนดาต เจ้าหน้าที่ เตรียมสถานที่ไว้สวยงามทีเดียวครับ เอาศาลา มาตั้งริมน้ำ จัดดอกไม้ เต็มไปหมด แล้ว เริ่มพิธีการ โดยท่าน นายอำเภอมาเป็นประธาน และนายทะเบียนให้ เป็นปีแรก ที่ใช้นายอำเภอ เป็นนายทะเบียน พยานในงานนี้ มีคุณ นายท่านนายอำเภอ และ หัวหน้าอุทยาน และเจ้าหน้าที่อุทยาน คู่สมรส ก็จดทะเบียนกันไป กลองยาวก็เล่นกันไม่เลิก มันมากครับ ชาวบ้าน แม่ค้า เต้นกันสนุกสนานมาก ผมยังอยากไปรวมวงด้วยเลย แต่เกรงใจแม่บ้าน มีเด็ดกว่านี้ อีกครับ ไวไวควิก เอาไวไวซองมาแจกด้วย แถมเอาป้ายโฆษณา อันใหญ่มาก มากางแล้วถ่ายรูป โปรโหมด ไวไว ถึงภูกระดึงเลยครับ สุดยอดๆๆๆๆๆๆๆ
หลังจากได้ใบทะเบียนสมรสมาแล้ว ไปถ่ายรูปกับ ท่านนายอำเภอและ ท่านหัวหน้าอุทยาน และถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน (ที่ผมไปจดน่ะ เพราะ เอาไปเบิกที่ทำงานครับ ได้1000 บาท/เดือน ฐานะมีภาระเพิ่ม อิอิอิ) หลังจากสนุกสนานกันจนถึงเที่ยง ต่างแยกย้ายกันเดินทางกับ บางคู่ก็เดินต่อไป ผาหล่มสัก เพื่อดูพระอาทิตย์ตก ชาวบ้าน ต่างก็เดินทางกลับ นั่งรถไปบาง เดินไปบ้าง ส่วนผมกับหนูตาล ก็เดินเท้ากลับครับ เพราะไปแวะถ่ายรูปที่ กลางทาง อีกที ไปกระโดด โลดเต้น กลางทุ่งหญ้ากันหลายรูปเลย (บ้าพอกันครับ) แล้วรถของอุทยานก็ผ่านมา รถต้องจอดครับ เพราะ เรากางขาตั้งกล้องขวางถนนไว้ ก็จงใจและครับให้จดรับเราไปด้วย เห็นท่าน นายอำเภอ และคุณนายนั่งหน้ารถมา พอเห็นคู่เราท่านนายอำเภอสละที่นั่งให้ เจ้าสาวผมนั่งไปกัน คุณนาย แล้วท่านมานั่งหลัง กับชาวบ้าน และผมด้วย ท่านก็สอบถามว่า ทำไม่ถึงมาจดทะเบียนที่นี้ล่ะ “คือเราเจอกันที่นี้ครับท่าน ตั้งใจไว้แล้วว่าจะมาจดทะเบียนที่นี้ ถ้ามีลูกชายจะให้ ชื่อ ลูกสน ถ้า ลูกสาวตั้งชื่อ น้ำค้าง” นายอำเภอ หัวเราะชอบใจ และสงสัยว่าเรามากันเมื่อไหร่ เพราะท่านเดินขึ้นมากับ คู่จดทะเบียน วันที่1 3 ไม่เจอเรา ท่านเดินขึ้นมากับ คุณนายครับ มีคอบเตอร์ บินรับส่งท่านยังไม่ขึ้นเลย นับถือท่านจริง “ ผมขึ้นมาก่อนตั้งแต่ 12 แล้วครับ”













......................เที่ยงกว่า เรามาถึง ที่ทำการ ไปกิงข้าวกลางวันกัน ร้อนมากครับ ไปอาบน้ำกันดีกว่า สำบายตัวเลยนอนล่ะครับ ท่าน ช่วงนี้ เจ้าหน้าที่ ก็กำลังจัดเตรียมสถานที่ ไว้สำหรับงานช่วงเย็น นัดกันไว้ 6 โมงเย็นเริ่มงาน เราหลับไปได้สักพัก เสียงเครื่องดนตรีก็ดังขึ้น วงต้อยหมวกแดง(หรือเปล่า) เราจึงต้องตื่นมากับเสียงเพลงแล้วไปอาบน้ำอีกรอบ มาแต่งชุดใหม่ งานตอนเย็น ผมน่ะชุดเดิมแต่เอาผ้าพาดบ่าออก ส่วนแม่บ้านผม มีอีกชุดครับ แต่งตัวเสร็จไปถ่ายรูปกัน พี่ที่ร้านค้า และแม่งานที่จัด กับข้าว เครื่องดื่ม และมาถ่ายกับพี่ธรรม พี่โจ้ วงดนตรี เริ่มเล่นเพลงแล้วครับ ผู้ร่วมงานเดินทางเขามาแล้ว แต่ต้องรอเพื่อนๆ ที่ไปดูพระอาทิตย์ ตก ที่ผาหล่มสัก ยังกลับมาไม่ถึง กว่าจะเดินทางมาถึงที่งานกัน ก็ทุ่มกว่าแล้ว งานบายศรี เริ่มโดยท่าน พ่อหมอ(ท่านมหา, พ่อครู) กว่าจะสวดมนท์ กันเสร็จ คู่อื่นๆที่มาไม่ทันก็มาทันพอดี มาเจอเอา ตอนกิงไข่ กับข้าวเหนียวนี้ซิ ไข่ฟองหนึ่ง แบ่งกันคนล่ะครึ่ง คู่ใครคู่มัน กับข้าวเหนียวหนึ่งปั้น ติดคอซิครับ กว่าน้ำจะเดินทางมาถึง ก็แทบแย่ จุกครับจุก งานพิธีบายศรีจบลง ด้วยการผูกข้อ มือจาก พ่อหมอ ท่านนาย อำเภอ ท่านหัวหน้าอุทยาน และผู้เฒ่า ผู้แก่ บนภู ทางอุทยานแจกของที่ระลึกแก่ทุกคู่ งานบันเทิงก็เริ่มครับ งานนี้ ฟรีตลอดงาน เครื่องดื่ม อาหารการกิง กิงไปเต้นไป เริ่มเมาซิครับ ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชุด พิธีการออก แล้วก็กลับมามันกันต่อ คืนนี้ ขอสักวันนะจ๊ะ เพื่อนๆสัตว์ป่าทั้งหลาย ที่แรกจะเลิกกัน สี่ทุ่ม แต่ยังมันกันอยู่เลย ไปถึง ห้าทุ่มครึ่ง จริงเงียบเสียงลง เหลือแต่นั่งกิงกันเฉยๆ












....................เช้าวันที่ 15 เราตื่นมาสายโด่ง เพราะเสียง คอบเตอร์ บินขึ้นลง เพราะขนของกลับ และขนคน เราจึง เตรียมตัวเก็บของ เก็บของเสร็จไปกิงข้าวที่ร้านปักษ์ใต้ และไปชำระค่าเสียที่ ตลอดทั้งงาน
เอาผ้าห่มไปคืน เดินทางลงภูกันเลย ไปลา พ่อแม่ พี่น้อง ร้านค้ากันก่อน แล้วเดินลง ทีแรกว่าจะขอลง คอบเตอร์ไปด้วย แต่อย่าดีกว่า ขาขึ้นเดินมา ขาลงก็ต้องเดิน เราออกจากที่ทำการประมาณ 9โมง แวะร้านตามซำบ้าง คุยกับนักท่องเที่ยวที่เดินสวนทางมา เจอคุณลุง สองคน อายุ 70 แล้วครับ พากันเดินมาสองแก่ บอกลุงมาตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว ตอนนี้มาลำลึกความหลัง นั่งคุยไปสักพัก เราก็ลง ถึงที่ทำการด้านล่าง บ่ายโมงกว่า รอลูกหาบสักพัก ของเราก็มา ล้างหน้าล้างตา ขึ้นรถสองแถวไปร้านเจ๊กิมกัน มีเพื่อนนักท่องเที่ยวรอบนรถแล้ว 4 ท่าน งานนี้เหมาอีกแล้ว ถึงร้านเจ๊ กิมไปซื้อตัวกลับบ้าน ได้เที่ยว บ่ายสามโมง เราจึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และกิงข้าวกลางวันกัน รถแอร์เมืองเลยมาถึงขึ้นรถกลับกรุงเทพ พร้อม ทะเบียนสมรสที่ตั้งใจไว้ แต่กว่าจะมาถึงกรุงเทพดึกพอสมควร เพราะรถมากลางวันแบบนี้ แวะบ่อยครับ ทั้งขอนแก่น ชัยภูมิ โคราช กว่าจะถึงกรุงเทพ ก็เที่ยงคืน เดินทางกลับบ้านปลอดภัย
















สำหรับเพื่อนที่สนใจจะไปร่วมงานแบบนี้ ติดต่อไปที่อุทยานแห่งชาติ ภูกระดึง โทรไปสอบถามราละเอียดได้ที่ 042-871333 งานนี้ฟรีทุกอย่างครับ เพื่อนๆที่จะไปเที่ยว ก็ไปร่วมงานได้ครับ

เรื่องราวก่อนจะมีงานนี้ครับ แวะไปชมกันที่ นี้ครับ
วันที่พบรักกัน


และตามต่อด้วย ตอนที่สอง
ไปขอแต่งงานกัน


Create Date : 22 มกราคม 2549
Last Update : 8 ธันวาคม 2555 23:12:32 น. 14 comments
Counter : 2787 Pageviews.

 
โห สุดยอดจริงๆ นะ เอาชุดไปด้วยเหรอ นึกว่า เค้ามีชุดเตรียมไว้ให้

ดีค่ะ ไม่ว่าจะจดทะเบียน จะแต่งที่ไหน ยังไง แค่ใจสองคนอยู่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวก็พอแล้วหละ


โดย: เกดจัง วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:16:01:31 น.  

 
ตามไปอ่าน "วันที่พบรักกัน" แล้ว รู้สึกดีค่ะ ยินดีและดีใจในความรักของทั้งคู่ด้วยค่ะ


โดย: เกดจัง วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:16:13:02 น.  

 
ตอนที่ สอง ก็ไปดูมาแล้ว อืมม์ เพิ่มความอิจฉาเข้าไปอีก


โดย: เกดจัง วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:16:17:20 น.  

 


โดย: rela IP: 202.29.39.1 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:44:05 น.  

 
ติดตาตรึงใจไปนานแสนนาน


โดย: blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ วันที่: 28 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:40:10 น.  

 
อิจฉา อิจฉา


โดย: เก๋ - ภูกระดึง IP: 202.182.8.54 วันที่: 14 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:47:48 น.  

 
โอ้โห... น่ารักมากๆเลยค่ะ อ่านตั้งแต่วันพบรักเลย ตาผ่าว ๆ ชอบกล ขอให้รักกันหวานชื่นอย่างนี้เรื่อย ๆ นะค่ะ


โดย: OhiyO IP: 124.120.97.177 วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:19:37:57 น.  

 
อ่านไปก็ยิ้มไปเลยเนี่ย

น่ารักจังเลยค่ะ

ขอให้รักกันนานๆ อยู่ด้วยกันมีความสุขมากๆนะคะ

อ่านแล้วอยากแต่งงานเลยเนี่ย



โดย: นู๋มะ IP: 58.147.64.65 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:09:49 น.  

 
ตามมาจากห้องบลูแพนเน็ตค่ะ

อ่านแล้วอมยิ้มตามเลย มีความสุขมาก ๆ น่ะค้า


โดย: hoshi_nao วันที่: 23 กันยายน 2551 เวลา:9:19:12 น.  

 
จำลุง กับป้าที่ร้าน ท.บริการได้หรือเปล่า ค่ะ
ขอให้ทั้งคู่ครองรักสุขสมตลอดไป
หากจะมาเที่ยวอีก ที่ร้านมีบริการจองบ้านพัก/เต็นท์ ด้วยนะ
ฝาก E-mail ที่ phaisanpunsanit@hotmail.com นะคะ.....


โดย: ร้าน ท.บริการ IP: 119.31.62.174 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:11:59 น.  

 
จำได้ครับ ปีที่แล้วว่าจะพาหลานไปเยี่ยมแล้ว แต่มีน้องอีกคนเลยไม่ได้ไป

คงจะปีหน้าครับ คนโต จะห้าขวบ คนเล็ก สามขวบ น่าจะไม่ต้องห่วง

คงจะเดินขึ้นกันได้แล้ว จะไปเยี่ยม ลุง ป้า น้า อาที่นั้นกัน


โดย: นาย วิท วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:10:32:01 น.  

 
น่ารักจัง อิจฉาสุดๆ


โดย: ภูกระดึง IP: 10.40.3.28, 202.29.6.88 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:11:13:41 น.  

 


ปลาย 53 นี้ผลผลิตจาก ภูกระดึงจะได้ไปสัมพัสที่นั้นครับ


โดย: นาย วิท วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:1:55:38 น.  

 
555 ลูกน่ารักจังเหมือนพ่อกับแม่รวมกันเลย ตัวเท่าลูกเราเลย


โดย: จ๋ากับปิ๊ก IP: 115.31.184.130 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:48:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นาย วิท
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีครับ blog นี้นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยว และข้อมูลเล็กๆที่ ข้าพเจ้าชอบ
เพื่อจะเป็นแนวทางให้บุคคลทั่วไปได้เอาไปใช้บ้างครับ
Friends' blogs
[Add นาย วิท's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.