427 .. เสียงอ่านเพชรพระอุมา-ภาคสมบูรณ์ # 61 (586-606) ตอนจบ
เสียงอ่านเพชรพระอุมาภาคสมบูรณ์ # 61
ลำดับที่ 586-606
ที่มาของเสียงอ่านเพชรพระอุมา ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่
ขอเชิญฟังเสียงอ่านนวนิยาย เพชรพระอุมา ภาคสมบูรณ์
ลำดับที่ 586-606 ค่ะ
ลำดับที่ 586-588
ลำดับที่ 589-591
ลำดับที่ 592-594
ลำดับที่ 595-597
ลำดับที่ 598-600
ลำดับที่ 601-603
ลำดับที่ 604-606
สถานที่ที่กล่าวถึงในเพชรพระอุมาภาคสมบูรณ์
บ้านแม่รพินทร์ อยู่ในตัวจังหวัด บ้านแบบทรงไทยขนาดใหญ่ ภายในเนื้อที่กว้างขวาง
ซับบอน หมู่บ้านกะเหรี่ยงเล็กๆ อยู่ทางเหนือของหนองน้ำแห้งระยะห่างราว 20-25 กิโลเมตร มีประชากรราว 70 คน ชายน้อยกว่าหญิง มีกะเหรี่ยงปี เป็นหัวหน้า พวกนี้เดือดร้อนเพราะลูกชายหัวหน้าโดนเสือคาบหายไป (จอมพรานเล่ม 2 หน้า 425)
ตะเคียนทอง หมู่บ้านเล็กๆของพวกกระหร่าง ระยะทางเดินจากโป่งน้ำร้อน ออกเช้าก็ถึงบ่าย อพยพมาจากห้วยเสือร้องจากการชักชวนของหนานอิน ดังนั้นพวกตะเคียนทองกับห้วยเสือร้องก็เป็นญาติพี่น้องกันทั้งนั้น(จอมพรานเล่ม 2 หน้า 435)
หุบช้าง เป็นชื่อเดิมของตะเคียนทอง เพราะมีช้างมาก มีดินโป่งแยะ ต่อมารพินทร์มาเปลี่ยนชื่อเป็น ตะเคียนทอง เมื่อ 7 - 8 ปี มาแล้ว เพราะมีต้นตะเคียนเต็มไปหมด (จิตรางคนางค์ เล่ม 4 หน้า 3745)
เกาะสาก ชุดปฏิบัติการ 5 คน ได้ไปพักร้อนที่นั่นก่อนเดินทางมาพบรพินทร์ (จอมพรานเล่ม 2 หน้า 487)
เนินสักดำ สถานที่ก่อนถึงห้วยเสือร้อง รพินทร์พาคณะนายจ้างฝรั่งมาพัก หลังถูกผาถล่ม อยู่ห่างจากห้วยเสือร้อง สองชั่วโมงครึ่ง (ไอ้งาดำ เล่ม 2 หน้า 435)
เขาตะโกง อยู่ใกล้หนองน้ำแห้ง หนานอินมาถึงตอนใกล้ค่ำ ก็เลยเตลิดมาหนองน้ำแห้งกลางดึกเพราะอยู่ใกล้ๆนี่เอง(ไอ้งาดำ เล่ม 3 หน้า 2203)
ทุ่งแรด เป็นทุ่งที่แรดชุมมาก อยู่เลยซับบอนมาราว 2 ชั่วโมงก่อนถึงผางูเห่า เป็นทุ่งที่ฝ่ายเชษฐาเจอมหิงสา ส่วนฝ่ายรพินทร์เป็นจุดพักเที่ยง และส่งกำลังบำรุง ไรเฟิล 2 กระบอกให้ฝรั่งและพิซซา 2 กล่อง (จิตรางคนางค์ เล่ม 2 หน้า 3059)
ผางูเห่า เพราะมีงูเห่าและงูพิษสารพัด ตั้งอยู่บนไหล่เขาที่ทอดยาวจากป่าแดง (ระยะจากซับบอนครึ่งวัน) ไปลงโป่งน้ำร้อน เป็นผาที่รพินทร์ทดสอบนายจ้างฝรั่งเป็นเหตุให้บราเซียร์ของคริสขาด (จิตรางคนางค์ เล่ม 2 หน้า 3068)
โป่งน้ำร้อน อยู่ทางเหนือของซับบอน ระยะเดิน 1 วันเต็ม ไม่มีหมู่บ้าน เป็นจุดพักระหว่างซับบอนกับตะเคียนทอง เป็นป่าหิน มีแอ่งน้ำร้อน เป็นจุดที่รพินทร์พิฆาตแมนอี๊ตเตอร์ และเป็นจุดที่ฝ่ายเชษฐาทำสงครามกับพวกช้างงาดำจนดารินถูกช้างล้มทับ (จิตรางคนางค์ เล่ม 2 หน้า 3066 และ จอมพรานเล่ม 2 หน้า 435)
ห้วยเสือร้อง หมู้บ้านสุดท้ายที่มีผู้คนอาศัย อยู่ติดกับนรกดำ คนละฝั่งกับหล่มช้าง อยู่ด้านตะวันตกของหล่มช้าง (จิตรางคนางค์ เล่ม 3 )
ทุ่งช้างร้อง ทุ่งแฝกที่ไม่มีฝนตกมานาน เป็นสถานที่ห่างจากห้วยเสือร้องราว 3 ชั่วโมงเดิน เป็นสถานที่เกิดเพลิงไหม้จนทุกคนคิดว่ารพินทร์เป็นไก่อบฟาง (จิตรางคนางค์ เล่ม 3 หน้า 3472)
ถ้ำนาคราช เป็นถ้ำเชิงเขานกอินทรี ซึ่งจะชอนเข้าใต้เขาย่อมๆลูกหนึ่ง แล้วจะทะลุออกหลังเขาใหญ่ ตรงน้ำตกใหญ่ (นาคเทวี 3 หน้า 4772 ) บริเวณปากถ้ำเป็นป่าเถาวัลย์ ปากถ้ำมีขนาดสูง 4 เมตร กว้างเป็นวงรีคล้ายๆไข่ตั้งขวางอยู่ ราว 8 เมตร (นาคเทวี 3 หน้า 4796 ) ชื่อนี้พระธุดงค์ที่เป็นอาจารย์ของหนานอินบอก หนานอินเคยผ่านมาเมื่อ20กว่าปีก่อนเพียงครั้งเดียว สมัยที่พบแงซายตอนเด็กๆ ลักษณะภายในก็เป็นถ้ำธรรมดา คดเคี้ยว มีทางแยกไปหลายทาง บางทางตัน บางทางก็ทะลุโผล่ออกได้ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง จะโผล่ออกตรงรอยบรรจบของหุบเขาสองลูกบริเวณหนึ่ง อากาศข้างในค่อนข้างร้อนอบอ้าว (นาคเทวี 3 หน้า 4798 )
วังนาคราช ทะเลสาบบนเขานกอินทรี มีระบุในลายแทง พวกฝรั่งเรียก สวอนเลค(นาคเทวี เล่ม3 หน้า 4943)
ทิวเขานกอินทรี เป็นทิวเขาทมึนขวางหน้าเมื่อออกจากห้วยเสือร้องไปทางเหนือ ผ่านทุ่งแฝก ใช้เวลาเดินราว 3 ชั่วโมงก็ถึงเชิงเขา ทางด้านขวามีถ้ำชื่อ ถ้ำนาคราช มีรูปร่างสันฐานคล้ายนกอินทรี
วิสุทธิปัญจาล นครปัญจาล เป็นเมืองขึ้นนิทรานคร มีขนาด 1 ใน 10 ของนิทรานคร กษัตริย์ชื่อสิงหลกะ ต่อมาเมื่อสวรรคต เจ้าชายอัคนีรุทร์ผู้ซึ่งเป็นโอรสก็ขึ้นครองราชย์แทน พร้อมกับประกาศแยกตัวจากนิทรานคร มีศึกติดพันเป็นเดือน จนพระเจ้ามหิทธิเดชะต้องธนูสวรรคต
แคว้นเวสาลี เมืองของกษัตริย์หนุ่มโฉมงาม คู่แข่งด้านความรักของอัคนีรุทร์(แต่ปางบรรพ์ เล่ม2 หน้า 5753)
แคว้นไพศาลี เมืองของเจ้าหญิงรัตนาวดี คู่หมั้นอัคนีรุทร์ และเป็นเมืองที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นขบถ ให้อัคนีรุทร์ไปปราบ(แต่ปางบรรพ์ เล่ม2 หน้า 5790)
ปากช่อง"ประตูผา" ป่าหินระหว่างช่องเขา หลังออกจากนิทรานคร รพินทร์พานายจ้างพักที่นี่ก่อนผ่านไปยังทะเลสาบมรณะด้านตะวันตก(มงกุฏไพร เล่ม1 หน้า 6794)
น้ำตกสามเจดีย์ เป็นน้ำตกที่นายชดผ่านมาถึงก่อนซมซานโดนงูกัด จนวายามาช่วย ในครั้งกระโน้น นายชดใช้เวลาเดือนเศษจากหล่มช้างจึงมาถึงที่นี่ ในภาคหลัง เจ้าด้วนนำจากป่าหินมาถึงที่นี่ ทำให้นายชดจำเส้นทางได้ นายชดกับหนานอินเป็นคนตั้งชื่อน้ำตกนี้ เพราะสูงขึ้นไปมีหน่อหินอยู่ 3 หน่อมียอดสูงแหลมเหมือนเจดีย์ อันกลางสูงกว่าเพื่อน (มงกุฏไพร เล่ม1 หน้า 6921)
ศาลาปาริชาติ ศาลากลางอุทยาน เป็นศาลาแท่นหินอ่อนกลางวงล้อมของหมู่ต้นปาริชาติ สถานพักผ่อนพระอิริยาบถ เสวยอัฏฐารมณ์ของพระเจ้ากรุงมรกต เสด็จมาสดับฟังบทลำนำกวีและสังคีตดุริยางค์ยามว่างจากราชกิจ (มงกุฏไพรเล่ม 3 หน้า7349) เป็นสถานที่ที่แงซายจัดให้ดารินพบรพินทร์ หลังจากซมซานตามมาแทบเอาชีวิตไม่รอด ศาลาปาริชาตินอกจากมีที่มรกตนครแล้ว ยังมีที่นิทรานคร กลางอุทยานหลวง ที่จิตรางคนางค์พบกับอัคนีรุทร์ในครั้งกระนู้นนนนน (มงกุฏไพร เล่ม3 หน้า 7386)
อุทยานสุขาวดี อุทยานสวนขวัญแห่งราชฐานมรกตนคร อันเป็นที่ตั้งของศาลาปาริชาติ มีต้นปาริชาติขึ้นอยู่เต็มไปหมด (มงกุฏไพร เล่ม3 หน้า 7427)
ศาลานิมมานนรดี เป็นศาลาถัดจากท้องพระโรง สถานที่รพินทร์ และนายจ้างฝรั่งรอเข้าเฝ้า ณ ท้องพระโรงของมรกตนคร (มงกุฏไพร เล่ม3 หน้า 7478)
กัทลีคาม หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ข้างถนนพระศิวะตรงกึ่งกลาง แถวๆที่คณะเชษฐาไต่ขึ้นมาในครั้งหลัง (วายามาส่ง) (มงกุฏไพร เล่ม4 หน้า 7858) หมู่บ้านพวกขบถกู้ชาติสุกรีที่รหัสยะยกพลเข้ามาขยี้ในคราวก่อน ตอนที่กุตะมะโดนธนูบาดเจ็บ (มงกุฎไพร 2 หน้า 7239)
เชตุวาคาม สถานที่ประกาศอิสรภาพของอัคนีรุทร์ (แต่ปางบรรพ์ เล่ม2 หน้า 5797)
พบกับ ...เสียงอ่านสามก๊ก ฉบับแปลใหม่... ได้ในลำดับถัดไปค่ะ ขอขอบคุณ "พนมเทียน" เจ้าของผลงาน "เพชรพระอุมา"
ขอขอบคุณ ณ บ้านวรรณกรรม ผู้จัดพิมพ์วรรณกรรมเรื่องนี้
ขอขอบคุณ ห้องสมุดคอลฟิลด์เพื่อคนตาบอด มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ผู้จัดทำเป็นหนังสือเสียง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ...เว็บแฟนแท้แท้เพชรพระอุมา และ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ขอขอบคุณภาพจากทุกเว็บที่เกี่ยวเนื่องกับเพชรพระอุมา
ขอขอบคุณเครื่องแต่งบล็อก จากบล็อกชมพร / บล็อกญามี่
และขอขอบคุณ คุณ treetree6969 ผู้จัดทำวิดีโอนี้ สาขา Book Blog
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2557 22:44:42 น. |
Counter : 18740 Pageviews. |
|
|
|