“ปาฏิหาริย์ไม่ใช่การเดินบนน้ำ หรือบินอยู่บนอากาศ แต่ปาฏิหาริย์คือการเดินอยู่บนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว”

ติช นัท ฮันท์

422 .. เสียงอ่านเพชรพระอุมา-ภาคสมบูรณ์ # 59 (556-570)











เสียงอ่านเพชรพระอุมา–ภาคสมบูรณ์ # 59

ลำดับที่ 556-570









ที่มาของเสียงอ่านเพชรพระอุมา ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่






ขอเชิญฟังเสียงอ่านนวนิยาย เพชรพระอุมา – ภาคสมบูรณ์

ลำดับที่ 556-570 ค่ะ






ลำดับที่ 556-558







ลำดับที่ 559-561






ลำดับที่ 562-564






ลำดับที่ 565-567






ลำดับที่ 568-570







ขอเชิญติดตามตอนต่อไปในลำดับที่ 60 ค่ะ























วิ พ า ก ษ์ เ พ ช ร พ ร ะ อุ ม า








กุตะมะ จงรักภักดีจริงๆ หรือว่าจิ้งจกเปลี่ยนสี????

นำเสนอโดย Gunman





วิพากษ์เพชรพระอุมาเป็นเรื่องราวที่พูดคุยกันในเว็บบอร์ด เป็นการวิเคราะห์วิจารณ์เนื้อเรื่องที่สงสัย มีทั้งปุจฉา - วิสัชนา





เรื่อง : กุตะมะ: จงรักภักดีจริงๆหรือว่าจิ้งจกเปลี่ยนสี?
โดย : น้ำหวานซ่านพิษ
เมื่อ : กันยายน 21st, 2003, 9:13am





น้ำหวานซ่านพิษ


กุตะมะขุนพลเฒ่าคู่บัลลังก์มรกตนคร จริงอยู่กุตะมะอ้างว่าได้รอคอยการกลับมาของจักราชมายี่สิบกว่าปีและรอที่จะช่วยจักราชยึดบัลลังก์คืน แต่ว่ามันเป็นอย่างนั้นแน่หรือ? หรือว่ากุตะมะเพียงแต่พยายามเข้าข้างด้านที่มีอำนาจมากกว่าเพื่อที่จะรักษาฐานอำนาจของตัวเองกันแน่?



คิดดู ตอนที่กุตะมะพบกับพวกเชษฐาครั้งแรก ไม่มีความเป็นมิตรมีแต่ความเป็นนักการฑูตชั้นปรัชญา กุตะมะแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อรหัสยะด้วยการรับธนูสังหารแทน ซึ่งถ้าตอนนี้กุตะมะจะทำเพิกเฉยซะก็ได้ ใครก็จะเอาผิดกุตะมะไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องสุดวิสัย นี่แสดงว่ากุตะมะคิดว่าตนเองอยู่ฝ่ายรัฐบาลจริงๆถึงได้ทำแบบนี้



ถ้าจักราชไม่กลับมามรกตนคร คิดว่ากุตะมะจะกลับใจมาเข้าพวกกับอรชุนในที่สุดหรือไม่ หรือว่าก็ปล่อยให้อรชุนสู้ไปคนเดียวพลางๆ ตัวเองเสวยสุขอยู่กับพวกสิงหรา และอ้างว่า ทำไปด้วยความจำเป็น?



คิดกันว่าไงบ้างคะ?







ซือแป๋มันตรัย

หุ..หุ..คิดว่าไม่ใช่ครับ เพราะ.........



1. กุตะมะ เป็นผู้ปล่อยให้จักราช กับพระนางเกษราเทวีหลบหนี



2. กุตะมะ ช่วยอรชุน แบบลับๆมาตลอด โดยพยายามไม่เข้าโจมตีในบริเวณที่อรชุนอยู่



3. สถานภาพ ที่กุตะมะอยู่กับ สิงหรา เป็นแค่ ที่ปรึกษาทางทหารครับ ไม่มีอำนาจโดยตรง และสิงหรายังหวาดระแวงกุตะมะ ตลอดเวลา



4. ตอนที่กุตะมะ เข้าร่วมกับ กองทัพประชาชน นั้นสถานการณ์ของกองทัพประชาชน ใช่ว่าจะได้เปรียบฝ่านสิงหราเท่าไรนัก



5. ถ้ากุตะมะ จะแทงกั๊กเล่นเซฟจริง ผมว่าคนฉลาดแบบกุตะมะ เล่นวิธีอื่นดีกว่าที่จะยกกองกำลังไปช่วยรบ เช่น อยู่คอยเปิดประตูเมืองให้กองทัพประชาชน เข้ามาไม่ดีกว่าหรือ



6. ถ้าจักราชไม่กลับ กุตะมะคงยังไม่ร่วมหรอกครับ เพราะอ่านใจอรชุนขาดว่า ยังไม่แตกหักกับสิงหราทั้งที่อรชุนพร้อมแล้ว คงรอไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแน่ใจว่า จักราชไม่กลับแน่ๆ นั่นแหละครับ



7. ข้อนี้สำคัญที่สุดครับ กุตะมะเป็นตัวแปรสำคัญในเกมการชิงอำนาจระหว่างอรชุน กับ สิงหรา แค่กุตะมะ ขยับตัวเข้าร่วมกับฝ่ายใดฝ่ายนึงอย่างเต็มตัว ฝ่ายนั้นจะมีชัยทันที อันนี้อรชุนกับสิงหรารู้ดี แต่.........กุตะมะรอครับ ถ้ากุตะมะต้องการเล่นเกมรักษาอำนาจตัวเองไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องรออยู่ในสภาพหวานอมขมกลืนแบบนี้หรอก





Teardrop

แต่ผมกลับมองว่ากุตะมะ เป็นคนเหยียบเรือสองแคม ที่พร้อมจะกระโจนไปอยู่ฝั่งใดก็ได้ที่ให้ประโยชน์ดีกว่า โดยจะขอแก้ต่างเหตุผลของคุณมันตูเป็นข้อๆเหมือนกันครับ



1. ขณะนั้นเหตุการณ์วุ่นวาย การจะเลือกข้างใดข้างหนึ่งอย่างเดียว อาจจะทำให้ตัวเองหัวหลุดจากบ่าเอาง่ายๆ เลยดำเนินการสองกลยุทธ์คือหนึ่งช่วยฝ่ายสิงหรา ซึ่งตอนนั้นอาจจะจำเป็นต้องช่วยเพราะพ่อแม่อยู่เป็นตัวประกันก็ได้ แต่เพื่อความชัวร์ เลยปล่อยเกษราเทวี กับ จักราช หลบหนี เผื่อพลาดพลั้ง สิงหราก่อกบฏไม่สำเร็จตัวเองจะได้มีข้ออ้าง



2. ช่วยจริงเหรอครับ ? หรือเป็นเพียงแค่ลมปาก ? ปากบอกว่าช่วยแต่จริงๆหาพวกกองโจรไม่เจอ หรือหลงกลศึก ถูกหลอกไปด้านอื่น หรือช่วยเพื่อแทงกั๊ก วันไหนฝั่งสิงหราพลาด จะได้มีข้อไปแก้ตัวกับอรชุน



3. นี่เป็นเรื่องปกติครับ เพราะว่าตอนนั้นสิงหราบังคับให้กุตะมะช่วย ย่อมมีความคลางแคลงใจบ้าง แต่ว่า ถึงกับขนาดให้คุมกองกำลังทหารม้าถึง 1 กองพล นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครับ แถมไม่ใช่ทหารเลวเสียด้วย เป็นทหารที่มีฝีมือ และช่ำชองในการรบ แบบนี้ จะว่าไม่มีอำนาจคงไม่ใช่



4. ได้เปรียบครับ ได้เปรียบอย่างมากเลย กุตะมะเองเป็นคนฉลาด รู้ดีว่าจักราชกลับมาแล้ว นั่นหมายถึงว่าศูนย์รวมจิตใจของฝ่ายกู้แผ่นดินกลับมาแล้ว ขวัญกำลังใจของประชาชนก็กลับมา ต่อไปจะมีประชาชนเข้าไปอยู่ฝ่ายกู้แผ่นดินอีกมากมาย ขณะเดียวกันฝ่ายสิงหรา แม้จะมีกำลังทหารในมือ แต่ประชาชนไม่ฝักใฝ่ วันหนึ่งย่อมล้มลงแน่นอน อีกทั้งกุตะมะย่อมเล็งเห็นแล้วว่าคณะบุคคลภายนอกที่เข้ามาพร้อมวิทยาการสมัยใหม่ นี่แหละครับ เป็นตัวแปรสำคัญทีเดียวที่จะช่วยทำศึกนี้



5. การอยู่คอยเปิดประตูเมือง ก็ทำได้ครับ แต่ต้องไม่ลืมว่ากุตะมะ อยู่ฝั่งสิงหรามาเกือบ 20-30 ปี กับการแค่เปิดประตูเมือง เทียบกับ การออกไปช่วยรบ แบบนี้ความเชื่อมั่น ความไว้ใจ ย่อมให้กับผู้ที่ออกมาช่วยรบมากกว่า ก็คิดดูครับ ถึงขนาดพลาดตาย ได้ไปอยู่ในที่ฝังราชวงศ์เทพทีเดียว ถ้าแค่ช่วยเปิดประตูเมือง อาจได้แค่จัดงานศพให้เฉยๆก็ได้



6. นี่แหละครับ แทงกั๊กกันจะๆ คือ ตราบใดยังไม่เห็นผลแพ้ชนะ ตราบนั้น ไม่ออกไป นั่งบนภูดูเสือกัดกันแล้วรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ดีกว่า



7. กุตะมะเป็นตัวแปรสำคัญจริงครับ แต่ยังมีตัวแปรที่ใหญ่กว่านั้น ที่กุตะมะต้องรอคือ ตัวแปรจักราชครับ อรชุนเอง ยังกุมอำนาจไม่ได้ เพราะขาดตัวแปรอย่างจักราช ตัวอรชุนเอง รบไปแต่ไม่ครองบัลลังก์ ดังนั้นรบแตกหักตอนนี้ กลับทำให้แตกแยก มากกว่าเป็นผลดี จึงยังไม่รบขั้นแตกหัก ขณะเดียวกัน สิงหรา ครอบครองกำลังทหาร แต่ไม่ได้ใจประชาชน แต่กำลังทหารในมือก็เข้มแข็งอยู่ ถ้าออกไปร่วมกับอรชุนตอนนี้ โอกาสแพ้มีมาก



รวมความแล้ว กุตะมะเป็นคนฉลาด พร้อมที่จะอยู่ข้างชนะเสมอ หากสถานการณ์ยังนิ่งอยู่ โดยจักราชไม่กลับมา เชื่อมั่นได้เลยว่า กุตะมะก็จะนิ่งไปอย่างนี้เรื่อยๆ แต่หากวันใด เกิดการรบขั้นแตกหัก หรือสถานการณ์เปลี่ยนไป กุตะมะ ก็พร้อมจะเปลี่ยนสีได้เสมอ





ซือแป๋มันตรัย

หุ..หุ... ชักจะมันแฮะ ลองดูใหม่นะครับ



Quote:1. ขณะนั้นเหตุการณ์วุ่นวาย การจะเลือกข้างใดข้างหนึ่งอย่างเดียว อาจจะทำให้ตัวเองหัวหลุดจากบ่าเอาง่ายๆ เลยดำเนินการสองกลยุทธ์คือหนึ่งช่วยฝ่ายสิงหรา ซึ่งตอนนั้นอาจจะจำเป็นต้องช่วยเพราะพ่อแม่อยู่เป็นตัวประกันก็ได้ แต่เพื่อความชัวร์ เลยปล่อยเกษราเทวี กับ จักราช หลบหนี เผื่อพลาดพลั้ง สิงหราก่อกบฏไม่สำเร็จตัวเองจะได้มีข้ออ้าง



ผมเห็นว่า ยังงี้ครับ สถานการณ์ตอนนั้น สิงหราชนะแล้วนะครับ วิษณุพรหมนาถ สวรรคตแล้ว โดยฝีมือยิงธนูของสิงหราเองซึ่งตอนนี้ จักราชก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ส่วนอรชุนก็บาดเจ็บต้องซมซานหลบหนี สู้ไม่บอกช่องทางลับให้จักราช แล้วอยู่เฉยๆ ดีกว่าไหมครับ แล้วถ้าสมมุติเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงยังให้ข้ออ้างที่ถูกพ่อแม่บีบบังคับ ก็ยังไหว



Quote:2. ช่วยจริงเหรอครับ ? หรือเป็นเพียงแค่ลมปาก ? ปากบอกว่าช่วยแต่จริงๆหาพวกกองโจรไม่เจอ หรือหลงกลศึก ถูกหลอกไปด้านอื่น หรือช่วยเพื่อแทงกั๊ก วันไหนฝั่งสิงหราพลาด จะได้มีข้อไปแก้ตัวกับอรชุน



อันนี้ช่วยจริงครับ อรชุนกับกุตะมะ และเมยานีก็รู้กันดีอยู่ ฝีมือของสองคนรู้กลยุทธ์กันดีอยู่ แต่กุตะมะได้เปรียบตรงที่มีกองทหารมากกว่ามหาศาล จะบดขยี้เมื่อไหร่ก็ได้ เปรียบเหมือนรพินทร์กับแงซาย อีกฝ่ายมีปืน กับ อีกฝ่ายมีดาบ ใครจะชนะครับ



Quote:3. นี่เป็นเรื่องปกติครับ เพราะว่าตอนนั้นสิงหราบังคับให้กุตะมะช่วย ย่อมมีความคลางแคลงใจบ้าง แต่ว่า ถึงกับขนาดให้คุมกองกำลังทหารม้าถึง 1 กองพล นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครับ แถมไม่ใช่ทหารเลวเสียด้วย เป็นทหารที่มีฝีมือ และช่ำชองในการรบ แบบนี้ จะว่าไม่มีอำนาจคงไม่ใช่



หุ..หุ..คุมทหารแค่ 1 กองพล มีคนแค่ไม่เกินหมื่น จะเป็นไรไปเชียว มีแค่หยิบมือเดียวเมื่อเทียบกับ กองทหารหลายแสนคนของสิงหรา ส่วนที่สิงหราให้คุมบ้างแค่นั้นเพื่อรักษาน้ำใจของกุตะมะ ครับ



Quote:4. ได้เปรียบครับ ได้เปรียบอย่างมากเลย กุตะมะเองเป็นคนฉลาด รู้ดีว่าจักราชกลับมาแล้ว นั่นหมายถึงว่าศูนย์รวมจิตใจของฝ่ายกู้แผ่นดินกลับมาแล้ว ขวัญกำลังใจของประชาชนก็กลับมา ต่อไปจะมีประชาชนเข้าไปอยู่ฝ่ายกู้แผ่นดินอีกมากมาย ขณะเดียวกันฝ่ายสิงหรา แม้จะมีกำลังทหารในมือ แต่ประชาชนไม่ฝักใฝ่ วันนึงย่อมล้มลงแน่นอน อีกทั้งกุตะมะย่อมเล็งเห็นแล้วว่าคณะบุคคลภายนอกที่เข้ามาพร้อมวิทยาการสมัยใหม่ นี่แหละครับ เป็นตัวแปลสำคัญทีเดียวที่จะช่วยทำศึกนี้



ครับจักราชกลับมาแล้ว แต่ที่บอกว่าไม่ได้เปรียบ เพราะ คณะของเชษฐา อยู่ในกำมือของสิงหรา จักราชจะเสี่ยงหรือครับ ถ้าจะกั๊กอยู่เฉยดีกว่าครับ ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเอาตัวลงไปในคุกร่วมกับคณะเชษฐาดีกว่า ส่วนหวังพึ่งวิทยาการของบุคคลภายนอก ฮ่าๆๆ คงไม่หรอกครับ จำเหตุการณ์ที่ไปล้อมจับได้ไหมครับ กุตะมะพูดว่าอย่างไรกับ คณะเชษฐา



Quote:5. การอยู่คอยเปิดประตูเมือง ก็ทำได้ครับ แต่ต้องไม่ลืมว่ากุตะมะ อยู่ฝั่งสิงหรามาเกือบ 20-30 ปี กับการแค่เปิดประตูเมือง เทียบกับ การออกไปช่วยรบ แบบนี้ความเชื่อมั่น ความไว้ใจ ย่อมให้กับผู้ที่ออกมาช่วยรบมากกว่า ก็คิดดูครับ ถึงขนาดพลาดตาย ได้ไปอยู่ในที่ฝังราชวงศ์เทพทีเดียว ถ้าแค่ช่วยเปิดประตูเมือง อาจได้แค่จัดงานศพให้เฉยๆก็ได้



Quote:6. นี่แหละครับ แทงกั๊กกันจะๆ คือ ตราบใดยังไม่เห็นผลแพ้ชนะ ตราบนั้น ไม่ออกไป นั่งบนภูดูเสือกัดกันแล้วรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ดีกว่



หุ..หุ...คนแทงกั๊ก ย่อมไม่ยอมเสี่ยงใช่ไหมครับ



Quote:7. กุตะมะเป็นตัวแปรสำคัญจริงครับ แต่ยังมีตัวแปรที่ใหญ่กว่านั้น ที่กุตะมะต้องรอคือ ตัวแปรจักรราชครับ อรชุนเอง ยังกุมอำนาจไม่ได้ เพราะขาดตัวแปรอย่างจักรราช ตัวอรชุนเอง รบไปแต่ไม่ครองบัลลังก์ ดังนั้นรบแตกหักตอนนี้ กลับทำให้แตกแยก มากกว่าเป็นผลดี จึงยังไม่รบขั้นแตกหัก ขณะเดียวกัน สิงหรา ครอบครองกำลังทหาร แต่ไม่ได้ใจประชาชน แต่กำลังทหารในมือก็เข้มแข็งอยู่ ถ้าออกไปร่วมกับอรชุนตอนนี้ โอกาสแพ้มีมาก



ใครบอกครับว่า อรชุนไม่พร้อม จำรพินทร์ถามสุกรี ได้ไหมตอนที่ไปรักษาแผลไงครับ รพินทร์ถามว่า ต่อต้านไปทำไม ถ้าชนะ ใครจะครองเมือง แล้วอีกตอนหนึ่งที่เมยานีเล่าว่า กองทัพประชาชนพร้อมที่ให้ผู้เฒ่าขึ้นครองอำนาจ สาเหตุที่กองกำลังประชาชนลุกฮือขึ้น ไม่ใช่รอจักราชนะครับ เกิดจากความกดขี่ข่มเหงของสิงหรา ไม่มีใครรู้หรอกครับ ว่าจักราชยังมีชีวิตอยู่ จะมีก็เพียงอรชุน กับ กุตะมะ เท่านั้น



พอแค่นี้ก่อนครับ เดี๋ยวรอความเห็นจากท่านอื่นบ้าง



หุ..หุ...เรื่องการรักษาอำนาจ ผมไม่สงสัย อรชุน กับ กุตะมะ เท่าไหร่ ครับ ผมสงสัยเจ้าแงซายตัวดีมากกว่า แล้วจะมาเล่าให้ฟัง หุ..หุ..






Ray

แหมชอบใจจังค่ะ ที่ได้เห็นพี่หยด กับอามันตู ให้ทัศนคติออกมาแต่ยังไง รอพวกพี่เหมียว ป้าแกรนด์ กันแมน น้องตาล พี่เต๋า ลุงอิน คุณเนย คุณพระนาย คุณคริสติน่า ส่วนเรย์ขอไปคิดก่อนนะ ตอนเย็นจะมาสรุปจ้า





Teardrop

อิอิ ถ้าผมแย้งอีกจะกลายเป็นว่าค้านหัวชนฝา ดื้อดึงเกินไปไหมครับเนี่ย ขอแย้งพี่มันตูอีกสักครั้งด้วยความเคารพครับ



ผมเห็นว่า ยังงี้ครับ..... สถานการณ์ตอนนั้น สิงหราชนะแล้วนะครับ วิษณุพรหมนาถ สวรรคตแล้ว โดยฝีมือยิงธนูของสิงหราเองซึ่งตอนนี้ จักราชก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ส่วนอรชุนก็บาดเจ็บต้องซมซานหลบหนี สู้ไม่บอกช่องทางลับให้จักราช แล้วอยู่เฉยๆๆ ดีกว่าไหมครับ แล้วถ้าสมมุติเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงยังให้ข้ออ้างที่ถูกพ่อแม่บีบบังคับ ก็ยังไหว



ชนะแต่ยังคุมสถานการณ์ไม่ได้ครับ ตัววิษณุพรหมนาถ สวรรคตแล้วก็จริง แต่ทหารเอกที่ยังไม่ยอมมีอีกมาก เหตุการณ์อาจพลิกผันได้ครับ ตากุตะมะรู้ดีว่าตัวเองคราวนี้ถ้าพลาดหมายถึงกบฎ เลยแทงกั๊กไว้เสียชั้นหนึ่งก่อนครับ เผื่อพลาดพลั้งฝ่ายวิษณุพรหมนาถ รวบรวมกำลังได้ สถานการณ์เปลี่ยน แกจะได้บอกว่า แกรู้ว่าทายาทบัลลังก์ยังอยู่แกเป็นคนช่วยไว้เอง



อันนี้ช่วยจริงครับ อรชุนกับกุตะมะ และเมยานีก็รู้กันดีอยู่ ฝีมือของสองคนรู้กลยุทธ์กันดีอยู่ แต่กุตะมะได้เปรียบตรงที่มีกองทหารมากกว่ามหาศาล จะบดขยี้เมื่อไหร่ก็ได้ เปรียบเหมือนรพินทร์กับแงซาย อีกฝ่ายมีปืน กับ อีกฝ่ายมีดาบ ใครจะชนะครับ



แล้วถ้าเป็นการช่วยเพื่อแทงกั๊กล่ะครับ ? เป็นไปได้ไหม



หุ..หุ..คุมทหารแค่ 1 กองพล มีคนแค่ไม่เกินหมื่น จะเป็นไรไปเชียว มีแค่หยิบมือเดียวเมื่อเทียบกับ กองทหารหลายแสนคนของสิงหรา ส่วนที่สิงหราให้คุมบ้างแค่นั้นเพื่อรักษาน้ำใจของกุตะมะ ครับ



อย่างที่คุณมันตูว่าไว้เลยครับ กุตะมะเป็นตัวแปรสำคัญ อยู่ข้างไหนข้างนั้นชนะ ทหาร หนึ่งหมื่นคน เป็นทหารม้าเสียด้วย แถมเป็นทหารกำลังรบหลัก นี่แหละครับ ตัวแปรสำคัญในการรบทีเดียว เค้าเรียกว่า ทัพพิสดาร ครับ คือเป็นกองกำลังเซอร์ไพรซ์ ก็ว่าได้ แล้วการรบสมัยก่อน ทหารม้า จัดว่าเป็นกำลังรุกเร็ว เปลี่ยนสถานการณ์ในการรบได้ตลอด ครับ



ครับจักราชกลับมาแล้ว แต่ที่บอกว่าไม่ได้เปรียบ เพราะ คณะของเชษฐา อยู่ในกำมือของสิงหรา จักราชจะเสี่ยงหรือ ครับ ถ้าจะกั๊กอยู่เฉยดีกว่าครับ ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเอาตัวลงไปในคุกร่วมกับคณะเชษฐาดีกว่า ส่วนหวังเพิ่ง วิทยาการของบุคคลภายนอก ฮ่าๆๆ คงไม่หรอกครับ จำเหตุการณ์ที่ไปล้อมจับได้ไหมครับ กุตะมะพูดว่าอย่างไรกับ คณะเชษฐา



ตอนนั้นผมว่า กุตะมะตัดใจเลือกฝั่งแล้วไงครับ หลังจากแทงกั๊กมา 20-30 ปี ดูแล้วว่าอรชุนชนะแน่ เลยเลือกข้าง ช่วยคณะเดินทางออกมาครับ



หุ..หุ...คนแทงกั๊ก ย่อมไม่ยอมเสี่ยงใช่ไหมครับ ไม่เสี่ยงไม่ได้แล้วครับ เหตุการณ์มันสุกงอมแล้ว กุตะมะต้องเลือกข้างแล้วครับ ซึ่งดูผลได้ผลเสียแล้ว แกเห็นว่าฝ่ายจักราชน่าจะชนะแน่ เลยเปลี่ยนสีมาทางจักราช และวางแผนช่วยคณะเดินทาง เพื่อไปเอาหน้ากับจักราชเสียครั้งหนึ่งก่อน



ใครบอกครับว่า อรชุนไม่พร้อม จำรพินทร์ถามสุกรี ได้ไหมตอนที่ไปรักษาแผลไงครับ รพินทร์ถามว่า ต่อต้านไปทำไม ถ้าชนะ ใครจะครองเมือง แล้วอีกตอนนึงที่เมยานีเล่าว่า กองทัพประชาชนพร้อมที่ให้ผู้เฒ่าขึ้นครองอำนาจ สาเหตุที่กองกำลังประชาชนลุกฮือขึ้นไม่ใช่รอ จักราชนะครับ เกิดจากความกดขี่ข่มเหงของสิงหรา ไม่มีใครรู้หรอกครับ ว่าจักราชยังมีชีวิตอยู่ จะมีก็เพียงอรชุน กับ กุตะมะ เท่านั้น



พอแค่นี้ก่อนครับ เดี๋ยวรอความเห็นจากท่านอื่นบ้าง



กองทัพประชาชนพร้อม เมยานีพร้อม จะให้ผู้เฒ่าครองเมือง แต่ตัวอรชุนละครับ พร้อมจะครองเมืองหรือเปล่า ? แกรอเพื่อจักราชจะกลับมาครองเมืองครับ ดังนั้นผมจึงบอกว่าไม่พร้อมแกสู้รบแตกหักไป เกิดชนะขึ้นมา แกบอกแกไม่เอาบัลลังก์ ใครละครับจะขึ้น ใครจะมีพรรษา มีอำนาจบารมี พอจะขึ้นได้ ให้เมยานีขึ้น ขุนศึก ขุนทหารคนอื่น ฤายอม? ครั้นจะให้ ขุนพลคนอื่นๆขึ้น บารมีจะถึงหรือเปล่า ?



ขอแย้งด้วยเหตุผล ด้วยความเคารพครับผม







miew

เห็นด้วยกับคุณน้ำหวานและคุณน้ำตาแฮะ ทู้นี้ขอค้านซือแป๋ด้วยฟามเคารพอีกคนนะก๊ะ
หุ..หุ..คิดว่าไม่ใช่ครับ เพราะ .......



Quote: 1. กุตะมะ เป็นผู้ปล่อยให้จักราช กับพระนางเกษราเทวีหลบหนี



เรื่องที่ว่ากุตะมะเป็นคนเปิดทางให้จักราชกับเกษราเทวีหนีนี่ อันนี้กุตะมะอ้างเองนะคะ จักราชยังเล็กมากจนจำความไม่ได้ กุตะมะอาจจะนำเรื่องนี้มาอ้างด้วยเหตุผลทางการเมืองก็ได้ เราไม่มีทางรู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงหรือเปล่า




Quote: 2. กุตะมะ ช่วยอรชุน แบบลับๆมาตลอด โดยพยายามไม่เข้าโจมตีในบริเวณที่อรชุนอยู่



คิดว่านี่เป็นกุศโลบายที่ฉลาดมากกว่าค่ะ เหมือนไทยช่วง WW2 ไงคะ ฉากหน้าเข้ากับอักษะ ฉากหลังมีขบวนการเสรีไทยไปเข้าข้างอังกฤษ อมเริกา ถึงแม้ว่าใครจะชนะสงคราม ไทยเราก็อ้างได้ทั้งนั้นว่าเราอยู่ข้างเค้าน่ะ



Quote: 3. สถานภาพ ที่กุตะมะอยู่กับ สิงหรา เป็นแค่ ที่ปรึกษาทางทหารครับ ไม่มีอำนาจโดยตรง และสิงหรายังหวาดระแวงกุตะมะ ตลอดเวลา



จริงๆแล้วกุตะมะคุมกองพลทหารม้าหนึ่งกองพล แถมยังเป็นกองพลทัพม้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในมรกตนครด้วยไม่ใช่เหรอคะ เพราะฉะนั้น ที่บอกว่าไม่มีอำนาจทางทหารเลยนี่คงไม่ใช่



Quote: 4. ตอนที่กุตะมะ เข้าร่วมกับ กองทัพประชาชน นั้นสถานการณ์ของกองทัพประชาชน ใช่ว่าจะได้เปรียบฝ่านสิงหราเท่าไรนัก



อันนี้คิดเห็นต่างกันค่ะ ตอนที่กุตะมะหันไปเข้าข้างอรชุน ก็เพราะคิดสะระตะแล้วว่าจักราชกลับมา ประชาชนต้องลุกฮือแน่ๆ ต่อให้สิงหรามีไพร่พลรบขนาดไหนก็มีกำลังเทียบเป็นอัตราส่วนกับกองทัพประชาชน บวกกับกองกำลังของชาวบ้านธรรมดาทั้งประเทศที่จะลุกขึ้นต่อต้านไม่ได้หรอก เหมียวว่ากุตะมะแกฉลาดเลือกเข้าข้างมากกว่านะ



Quote: 5. ถ้ากุตะมะ จะแทงกั๊กเล่นเซฟจริง ผมว่าคนฉลาดแบบกุตะมะ เล่นวิธีอื่นดีกว่าที่จะยกกองกำลังไปช่วยรบ เช่น อยู่คอยเปิดประตูเมืองให้กองทัพประชาชน เข้ามาไม่ดีกว่าหรือ



อันนี้ทำได้ค่ะ แต่ความสำคัญของตัวเองในสายตาของจักราชจะไม่เด่นน่ะสิ สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่ไม่ได้ เป็นการแสดงการ redemption อย่างสวยหรู และดูไม่เป็นนกสองหัวในสายตาใคร....ฉลาดในการเลือกวิธีการอีกแระนะนี่



Quote: 6. ถ้าจักราช ไม่กลับกุตะมะ คงยังไม่ร่วมหรอกครับ เพราะอ่านใจอรชุนขาดว่า ยังไม่แตกหักกับสิงหราทั้งที่อรชุนพร้อมแล้ว คงรอไปเรื่อยๆๆ จนกว่าจะแน่ใจว่า จักราชไม่กลับแน่ๆๆ นั่นแหละครับ



เห็นด้วยกับคุณหยดเต็มๆเลยค่ะ กุตะมะเหยียบเรือสองแคม พร้อมที่จะโจนเข้าไปหาพวกที่ได้เปรียบ ถ้าจักราชไม่กลับมา กุตะมะไม่มีทางทิ้งลาภศฤงคารในเมืองออกมาอยู่กับกองทัพประชาชนแน่ๆ



Quote: 6. ข้อนี้สำคัญที่สุดครับ กุตะมะเป็นตัวแปรสำคัญในเกมการชิงอำนาจระหว่างอรชุน กับ สิงหรา แค่กุตะมะ ขยับตัวเข้าร่วมกับฝ่ายใดฝ่ายนึงอย่างเต็มตัว ฝ่ายนั้นจะมีชัยทันที อันนี้อรชุนกับสิงหรารู้ดี แต่.........กุตะมะรอครับ ถ้ากุตะมะต้องการเล่นเกมรักษาอำนาจตัวเองไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องรออยู่ในสภาพหวานอมขมกลืนแบบนี้หรอก



อันนี้ดูเหมือนซือแป๋ก็จะคิดเหมือนกันว่ากุตะมะเป็นตัวแปรในศึกยี่สิบปีครั้งนี้... เหมียวคิดว่ากุตะมะก็รู้ดีในข้อนี้ เท่าๆกับที่อรชุนและสิงหรารู้เหมือนกัน ในเมื่อกุตะมะรู้ว่าถ้าตัวเองไปรวมกับพวกอรชุนแล้วล่ะก็...กองทัพประชาชนจะต้องชนะแน่ๆ แล้วทำไมกุตะมะปล่อยให้บ้านเมืองตกอยู่ในมือทรราชย์มากว่ายี่สิบปีล่ะคะ? กุตะไม่ได้ห่วงประชาชนเลยสิงั้น..ห่วงแต่ความสุขของตนและพวกพ้องแต่เพียงอย่างเดียวนะเนี่ย



มีอีกข้อนึงที่น่าสนใจ กุตะมะอ้างว่าที่ต้องเข้าพวกกับสิงหราก็เพราะว่ามีมีดมาจ่อคอพ่อแม่ตัวเองไว้ ก็เลยต้อง "จำใจ" ทรยศกษัตริย์วิษณุพรหมนารถไปเป็นฝ่ายสิงหราในการโค่นล้มราชวงศ์.. เหมียวคิดว่าเหตุผลข้อนี้อ่อนอ่ะค่ะ เพราะว่า มือขนาดกุตะมะ จะไม่สามารถพาพ่อกับแม่ตัวเองแหกที่กักกันออกมาอยู่กับอรชุนเชียวหรือ? อีกอย่างหนึ่ง เมื่อพ่อแม่ตายหมดแล้ว กุตะมะก็มีโอกาสเป็นพันเป็นหมื่นครั้งที่จะกลับมาเป็นพวกอรชุน...แต่กุตะมะไม่ทำ กลับเหยียบเรือสองแคมอยู่อย่างงั้นแหละ แปลกดีหมือนกัน







ซือแป๋มันตรัย

อิอิ แย้งได้ครับ ผมไม่ใช่เทวดามาจากไหน รูปก็ไม่หล่อ แต่อาศัยหน้าตาดีแค่นั้นเอง(ฮา)แต่ไม่ต้องด้วยความเคารพหรอก อิอิ ฟังดูแก่ๆ ยังไงพิกล (ฮา) อยากฟังครับ หลายๆไอเดียครับ เปิดกว้างดีด้วย เพราะไม่มีคนรู้เบื้องลึกของเหตุการณ์กันซักคน อ่านแล้วก็จินตนาการกันไปคนละแบบ ดีครับ ที่ได้มาถกกัน มันส์ดีครับ อิอิ กำลังเหงา เบื่อๆครับ





เ จ้ า ถุ ง

ชอบอ่านกระทู้แบบนี้จัง สนุกดี
ส่วนตัวยังคิดว่า กุตะมะ ไม่ใช่จิ้งจกที่เปลี่ยนสีได้อยู่นะคะ

เหตุผล ....พี่มันตูฯ ยกมาหมดแล้ว....รออ่าน...ความเห็นของคนอื่นต่ออยู่ค่ะ





พระนาย

กุตะมะ อาจจะน่าสงสารที่สุด ก็ได้นะครับ ถูกบังคับให้ต้องร่วมมือ โดยการจับพ่อแม่เป็นตัวประกัน แล้วพอทรยศไปแล้วเนี่ย ขนาดพ่อกับแม่กุตะมะเองยังเกลียดการกระทำของกุตะมะเลย แล้วมีเหรออรชุนที่บาดเจ็บปางตาย จะไม่โกรธแค้นขนาดฆ่าหรือทำร้ายกุตะมะได้ลงคอ แล้วช่วงแรก ๆเนี่ยกองโจรของอรชุนก็คงยังไม่เข้มแข็งเท่าไหร่ด้วย กุตะมะ ก็เลยคิดว่าอยู่รับใช้สิงหราไปเรื่อย ๆ ดีกว่า ตรงจุดนี้เห็นว่า แกเป็นเหลาะแหละ อยู่เหมือนกัน



ส่วนเรื่องเหยียบเรือสองแคมเนี่ยคงไม่เชิง คือในส่วนลึกในใจแกคงมีความรู้สึกผิดต่ออรชุนและก็กษัตริย์วิษณุพรหมนาถ อยู่เหมือนกัน ดังนั้น ตัวแกเองที่ไม่กล้าพอที่จะก่อกบฎเอง ก็เลยแอบเอาใจช่วยฝ่ายกบฎอยู่บ้าง โดยแกคิดว่าทำเพื่อไถ่บาปไปทีละนิด อย่างน้อยสิ่งที่กุตะมะคิดก็คือ ไม่ต้องการทำลายล้างพวกกองโจรอย่างจริงจัง แต่ก็ไม่กล้าทรยศสิงหราไปร่วมกับกองโจรเต็มตัว ถ้าจักราชไม่กลับมา กุตะมะก็คงอยู่ของแกอย่างนี้ จนตายไปเองนั่นแหละ เพราะแกคงไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง



กุตะมะจึงไม่ใช่คนที่เสียสละ และจงรักภักดีอย่างแท้จริงอย่างขุนพลอรชุน แต่กุตะมะก็ยังมีความดี และรู้สึกผิดอยู่เสมอ จึงเลือกที่จะช่วยฝ่ายกบฎอย่างลับ ๆ แล้วพอดีจักราชกลับมา กุตะมะ เห็นแล้วว่า ฝ่ายประชาชนจะชนะได้แน่ ถ้าตัวเองร่วมมือด้วย ก็เลยโดดเข้ามาเต็มตัวเลยคราวนี้ ได้ทำดีลบล้างความผิด ได้ความดีความชอบ ซึ่งคงเป็นสิ่งที่กุตะมะชอบทำที่สุดล่ะครับ





จักราธิราชเจ้า

ก้อพอจะเข้าใจ ในตัวของกุตะมะอยู่เหมือนกัน คือไม่ว่าตัวของกุตะมะจะอยู่กับสิงหราก็หาได้มีความสุขไม่ เพราะตราบใดที่สิงหราไม่เคยไว้ไจในตัวกุตะมะ แน่นอนที่สุดจากเหตุการณ์ที่สิงหราให้เขาพาพวกของรพินทร์ลงไปที่คุกที่ขังพรานชดไว้ และปิดตายคุกนั้นไว้ กว่าจะข้าใจกันกับฝ่ายอรชุน ตัวเองก็มาด่วนตายจากไป ทิ้งไว้แต่รอยอาลัยจากทุกคน คิดว่ากุตะมะก็เป็นอีกคนที่ยิ่งใหญ่เหมือนกัน






natt

ในความคิดผม กุตะมะ เป็นคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทางหนึ่งก็บุพการี ทางหนึ่งก็เพื่อชาติ ในช่วงแรกกุตะมะคงต้องเลือกพ่อแม่ไว้ก่อน และหาทางช่วยจักราช นั่นเป็นหนทางเดียวที่กุตะมะจะทำได้ ซึ่งต้องถามว่าถ้าสถานการณ์เดียวกันนี้ท่านจะทำอย่างไร



ผมว่ากุตะมะคงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เมื่อเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นแล้ว การที่กุตะมะจะออกไปอยู่กับกองทัพประชาชนในเวลานั้น คงไม่ก่อประโยชน์อะไรมากมายนัก อีกอย่าง ใครจะเชื่อว่ากุตะมะจะไม่เป็นไส้ศึกให้สิงหรา มาเพื่อกำจัดกองทัพ เผลอๆถ้ากุตะมะออกมา อาจถูกอรชุนฆ่าเอาเสียก็ได้ --นี่เป็นหมากที่สิงหราวางไว้อย่างแยบยล ที่ทำให้กุตะมะไม่สามารถจะทำอะไรได้ นอกจากยอมสยบ เนื่องจากว่าสถานการณ์ ทำให้หลายๆคนมองกุตะมะว่าทรยศซะแล้ว



ในใจของกุตะมะคงต้องหวานอมขมกลืนอยู่มิใช่น้อย ที่เสมือนเป็นคนบาปของแผ่นดิน ได้ชื่อว่าทรยศต่อสหาย



สิ่งที่กุตะมะทำได้ คือทำอย่างที่แสดงให้เห็น คือซ่องสุมกำลังไว้ คอยช่วยเหลืออรชุนอย่างลับๆ และรอคอยจักราชกลับมา นั่นคือสิ่งเดียวที่กุตะมะจะทำได้



อยากให้มองกุตะมะแบบบุคคลธรรมดาที่เผชิญทางเลือกสองอย่าง ที่ถ้าเลือกทางหนึ่งก็ต้องเสียอีกทางหนึ่ง แล้วก็กำลังพยายามชดเชยสิ่งผิดพลาดของตัวเองอยู่ เพราะชีวิตจริง ก็ต้องมีบางเวลาที่เกิดเช่นนี้เหมือนกัน



ถ้าคุณเจอสถานการณ์เช่นเดียวกับกุตะมะ คุณจะทำอย่างไร นี่เป็นสิ่งที่น่าคิดมากกว่าจะมองว่ากุตะมะเป็นคนอย่างไร






Teardrop

ถ้ามองในเคสที่กุตะมะเป็นคนธรรมดาก็คงใช่อ่ะครับ ชีวิตพ่อแม่ตน ก็ต้องดูแล แต่ถ้ามองในมุมที่กุตะมะ เป็นขุนพลคู่แผ่นดิน เป็นมือขวาของพระเจ้าแผ่นดิน มีหน้าที่ ปกปักรักษา ปกป้อง บัลลังก์และประเทศชาติแล้ว ผมว่ากุตะมะ ออกจะเห็นแก่ตัว และ เป็นจิ้งจกมากไปหน่อยครับ





grand

คิดเหมือนคุณพระนายค่ะ แกคงจะรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ แต่อ่อนแอเกินกว่าที่จะออกไปอยู่กับฝ่ายอรชุนเต็มตัว ได้แต่แอบช่วยเหลืออย่างลับๆ รวมทั้งซ่องสุมทหารเอาไว้ได้ส่วนหนึ่ง เพื่อรอคอยการกลับมาของจักราช แต่ถ้าจักราชไม่กลับมา แกก็คงอยู่อย่างนี้ของแกไปเรื่อยๆเพราะความที่อ่อนแอ ไม่เด็ดขาด และไม่กล้าตัดสินใจ





miew

รู้สึกว่าคนหมู่บ้านเราจะเก่งในการวิเคราะห์ตัวละครประเภทฮีโร่ๆให้กลายเป็นตรงกันข้ามไปได้....ว่าป่ะคะ? คราวก่อนนี่เราก็ช่วยกันวิเคราะห์แงซายซะจนกลายเป็นคนที่ไม่มีความรักแท้ หว่านพืชหวังผลทางการเมืองสุดๆ คราวนี้ทั่นกุตะมะแห่งมรกตนครก็โดนยำจนกลายเป็นจิ้งจกเปลี่ยนสีไปด้วยอีกคน. .. คราวหน้าเราจะยำใครต่อไปดี? คิก คิก






หนานอิน

ยังมีอีกหลายคำถามนะเกี่ยวกับกุตะมะ



1. หนึ่งปีย้อนหลัง ตอนที่คนต่างถิ่นสองคนเข้ามาในมรกตนคร วาชิกาบอกให้เก็บสองคนนี่ไว้ก่อน เพื่อล่อจักราชที่จะตามมาในอีกขวบปีข้างหน้า


เรื่องนี้ ทั้งกุตะมะและอรชุนก็ต้องล่วงรู้ ถามว่ากุตะมะได้ดำเนินการเช่นไรบ้างที่จะเตรียมการณ์ เช่นติดต่ออรชุนแต่เนิ่นๆ ฯลฯ



2. การที่กุตะมะพยายามเบี่ยงเบนกองทัพไม่ให้เจอกองทัพประชาชนบ่อยๆ ทางสิงหราไม่รู้บ้างเลยหรือ



3. การที่วาชิกามองเห็นอนาคตว่าอีกขวบปีจักราชจะมา วาชิกาไม่แนะนำกลยุทธอะไรให้กับฝ่ายสิงหราบ้างเลยหรือ บทบาทน้อยจัง แล้วก็ตายง่ายๆด้วย





เต๋

ขอตอบลุงอินว่า.....



1. ถึงรู้ว่าจักราชจะตามมาในอีกหนึ่งปีให้หลัง อรชุนก็รู้อยู่เหมือนกัน ไม่งั้นจะไปดักรับตัวมาก่อนได้หรือครับ...แล้วจะให้กุตะมะทำอะไรล่ะครับ.... ในเมื่อจักราชก็ยังไม่มา ก็ได้แต่รอ อย่างน้อยแกก็รู้ว่าในคุกใต้ดินมันมีทางลับที่จะหลบหนีออกไปได้ โดยฝ่ายสิงหราไม่รู้ แล้วความลับเรื่องนี้ ทั้งเรื่องก็ดูเหมือนเหลือกุตะมะคนเดียวที่รู้ เก็บมาตั้งยี่สิบกว่าปี โดยไม่มีใครรู้ ก็เพราะแกไม่เที่ยวไปปรึกษาใครสุ่มสี่สุ่มห้านั่นแหละ มันถึงยังเป็นความลับของตะแกคนเดียว พูดมากเดี๋ยวก็รู้กันทั่ว ไม่งั้นจะมีคำว่า หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง รึ? (ว๊า...ไม่แน่ใจว่าเขียนสุภาษิตถูกอ๊ะป่าว)



2. สิงหรารู้อยู่แล้วว่ากุตะมะเอาใจช่วยพวกกองทัพประชาชน สังเกตดูสิงหราก็ไม่ไว้ใจกุตะมะ เป็นหอกข้างแคร่ที่ไม่รู้จะกำจัดยังไงอยู่เหมือนกัน



3. ผมคิดเอาเองว่า ยัยวาชิกานอนเพลิน ตามประสาคนสันหลังยาวมั๊งครับ กว่าจะนึกได้ว่าควรตื่นมาวางแผนอะไรต่ออะไรบ้าง ก็สายยยยยซะ



สรุปว่า ผมไม่มีข้อโต้แย้งอะไรมาก ขอเห็นด้วยกับคนอื่นๆ ตามเคย...ขอเลือกเห็นด้วยกับคุณ Grand ครับ แต่แย้งตอนท้ายนิดหนึ่งว่า กุตะมะไม่ได้อ่อนแอ และรอดูท่าทีของใครต่อใคร....ถ้าไม่เกิดเรื่องอะไร แกก็อยู่ของแกไปงี้...ผมค้านครับ ลำพังอรชุนเอง ไม่มีปัญญาตีเมืองคืนได้ ถึงกุตะมะเข้าร่วมก็ไม่ได้หมายความว่าจะตีเมืองได้ คือถึงรวมกันก็ไม่ได้เปรียบสิงหรา แล้วจะไปรวมทำไมให้เมื่อยตุ้ม อยู่เป็นไส้ศึกไปเงี้ยะดีกว่า สบายดีด้วย ไม่ต้องไปตกระกำลำบากนอนกลางดินกินกลางทรายแบบกองทัพประชาชน แถมยังคอยสอดแนมข่าววงในได้อีก ในเรื่องก็มีบอกๆ ไว้เหมือนกัน ตอนเมยานีเล่าให้ฟังเกี่ยวกับกุตะมะเคยช่วยเหลือเมยานีไว้ครั้งหนึ่ง ผมก็จำไม่ค่อยแม่น แต่จำได้ว่าตอนนั้นกุตะมะเรียกเมยานีว่าลูกสาว แล้วเมยานีก็ตอกกลับทำนองว่าฉันไม่ใช่ลูกสาวแกนะย๊ะ...รวมทั้งกุตะมะคอยก่อกวนในเรื่องยกทัพไปสกัดทัพประชาชนผิดเส้นทางหรือคลาดแคล้วกันอยู่เป็นประจำ.. .ผมว่ากุตะมะภักดีแบบคนมีสมอง แต่อรชุนภักดีด้วยหัวใจ...แค่คนละแบบเท่านั้นเอง





miew

เหมียวกลับคิดว่า ถ้ากุตะมะเข้าร่วมกองทัพประชาชนซะแต่เนิ่นๆ ประชาชนก็จะมีขวัญและกำลังใจดีขึ้นและเข้ามาร่วมกับกองทัพประชาชนของอรชุนอย่างเปิดเผย.... เพราะเมื่อกุตะมะและอรชุนอยู่เคียงกัน ก็เหมือนกับอาวุธร้ายคู่บัลลังก์ราชวงศ์เทพได้อยู่ข้างประชาชนแล้ว... เป็นไปได้ว่าประชาชนทั้งแผ่นดินซึ่งเปรียบเสมือนพลังเงียบ ที่ไม่เคยต้องการจะอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์สิงหรา ก็จะพากันลุกฮือขึ้นต่อต้านฝ่ายรัฐบาล ถึงแม้ว่าพวกสิงหราและรหัสยะจะมีทหารหลายหมื่น แต่อย่าลืมว่าประชาชนทั้งแผ่นดินที่จะลุกฮือขึ้นต่อต้านด้วยจอบด้วยเสียมน่ะ มีเป็นล้านๆ



เปรียบได้กับฝูงมหิงสาอยู่ท่ามกลางกองทัพหมาป่าหิวโซ...เราก็ยังเคยได้เห็น (ในหนังสือ) กันมาก่อนแล้วว่า มหิงสาทั้งฝูงก็ไม่อาจสู้กองทัพหมาได้หรอก... เปรียบเหมือนกองทัพสิงหราสู้กับประชาชนมรกตนครทั้งประเทศไม่ได้นั่นแลฯ







natt

อย่างที่คุณเหมียวว่าก็มีส่วนจริง แต่เรื่องที่ราชวงศ์เทพโดนล้มล้างนี่ กุตะมะมีส่วนผิดอยู่ด้วยเต็มๆ เนื่องจากต้องยอมทำตามสิงหรา เนื่องจากพ่อแม่ถูกจับเป็นตัวประกัน เรื่องนี้ ทำให้กุตะมะจะกลับสู่กองทัพประชาชนนั้นเป็นการยากลำบากมาก แล้วกุตะมะอาจจะโดนอรชุนฆ่าเสียก่อนจะได้เข้าร่วมด้วยซ้ำ สิ่งที่กุตะมะทำ จึงต้องทำโดยการค่อยๆแสดงความจริงใจให้เห็นอย่างช้าๆ ส่วนเรื่องการลุกฮือของกองทัพประชาชนนั้น ถ้าปฏิวัติจริง สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือความเสียหายของทั้งสองฝ่ายอย่างใหญ่หลวง แล้วสิ่งที่เหลือคืออะไร สู้ทำการอย่างลับๆ ค่อยๆบ่อนทำลายจากภายในรอเวลาสุกงอมน่าจะดีกว่า



อีกอย่างถ้ากุตะมะไปร่วมกับอรชุนได้จริง กองทัพประชาชนชนะ สิ่งที่จะต้องตามต่อมาอีกคือใครจะเป็นผู้สำเร็จราชการแทนจักราชก่อน คราวนี้สงครามคงจะกลายเป็นสงครามภายในระหว่างอรชุนกับกุตะมะ แล้วบ้านเมืองจะเหลืออะไร คงต้องคำนึงถึงความจริงว่า อำนาจนั้นหอมหวาน หากได้ลิ้มลองคงยากจะถอนตัวได้(อย่างที่นักการเมืองไทยเป็นในขณะนี้) ถ้าจักราชกลับมา อาจจะต้องมาสู้กับอรชุนหรือกุตะมะที่สถาปนาตัวเป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้วก็ได้



หมาป่ายามหิวโซ เมื่อหาอะไรกินไม่ได้ มันก็จะหาสิ่งที่กินได้ใกล้ตัวที่สุด คือกินผู้ที่อ่อนแอกว่าในฝูง แล้วใครจะเป็นเหยื่อ.............





เต๋า

จะน่าเกลียดมั๊ยเนี่ยะ...ขอเห็นด้วยกะคุณnatt อีกคนละกัน



ถ้าไม่มีจักราชเป็นตัวเชื่อมระหว่างกุตะมะ กับ อรชุน โอกาสที่สองคนนี้จะรวมกันเองด้วยความเข้าใจกัน...ยากกกกส์ และกุตะมะก็รู้ดีด้วย คนเรามันสูญเสียความไว้วางใจกันไปแล้วอ่ะนะ จะให้กลับมาเชื่อใจกันอีกง่ายๆ ก็กระไรอยู่... ไอ้ที่น้องเหมียวว่า...ประชาชนรวมพลังแล้วสู้ได้ มันก็มี แต่ความน่าจะเป็น คือ ตายลูกเดียวซะส่วนมาก อย่าไปฮือเลย...นอนแคะขี้ฟันรอ...อย่างกุตะมะดีกว่า...เชื่อพี่เหอะ
















ขอขอบคุณ "พนมเทียน" เจ้าของผลงาน "เพชรพระอุมา"

ขอขอบคุณ ณ บ้านวรรณกรรม ผู้จัดพิมพ์วรรณกรรมเรื่องนี้

ขอขอบคุณ ห้องสมุดคอลฟิลด์เพื่อคนตาบอด
มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ผู้จัดทำเป็นหนังสือเสียง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ...เว็บแฟนแท้แท้เพชรพระอุมา และ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ขอขอบคุณภาพจากทุกเว็บที่เกี่ยวเนื่องกับเพชรพระอุมา

ขอขอบคุณเครื่องแต่งบล็อก จากบล็อกชมพร / บล็อกญามี่

และขอขอบคุณ คุณ treetree6969 ผู้จัดทำวิดีโอนี้



สาขา Book Blog


ร่มไม้เย็น ค่ะ





 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2557
0 comments
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2557 18:58:55 น.
Counter : 3804 Pageviews.


ร่มไม้เย็น
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]







เริ่มเขียน Blog เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2551


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยม เมื่อเวลา 18.15 น.



Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
7 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ร่มไม้เย็น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.