+ วั ด ส อ ง ค อ น ... มุ ก ด า ห า ร +
อ่านเรื่องที่เกี่ยวกับมุกดาหารในบล๊อก มุกดาหาร ลาวบาว เว้ เบิ่ง...มุกดาหาร หมูหันแก่งกะเบา
6 สิงหาคม 2554 เป็นวันเสาร์ที่ว่างๆอีกวันหนึ่ง แม้จะอยู่ช่วงหลังพายุนกเตนใหม่ๆ แต่ใจเราอยากเดินทางออกไปไหนซักแห่ง เลือกกันได้ว่าเราน่าจะไปชายแดน ทางมุกดาหาร เพื่อไปถ่ายภาพวัคริตส์ชื่อดังที่บ้านสองคอน อำเภอหว้านใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับแก่งกะเบา ..... เลยปิงโก้กันว่า เราจะไปทานหมูหันที่นั่นด้วย อีกอย่างคนข้างกายบอกว่า อยากไปซื้อกล้วยไม้ที่ตลาดอินโดจีนอีก ทริปนี้จึงเป็นทริปวันเดียวที่เกิดขึ้นด้วยประการละฉะนี้แล...
เราใช้เส้นทางหมายเลข 12 ขับออกจากขอนแก่น ผ่านกาฬสินธุ์ เข้าสีแยก อ. สมเด็จ (พอมาถึง อำเภอนี้คำถามก็เกิดขึ้นในสมองทันทีว่า "สมเด็จ" หมายถึงอะไรกันแน่?.... สุดท้ายก็เห็นป้ายบอกว่า สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ท่านจาริกแสวงบุญมาที่นี่ เลยเรียกสถานที่นี่ว่า อ.สมเด็จ) จากสีแยก อ.สมเด็จเราผ่าน อ.กุฉินารายณ์ อ.คำชะอี และมุกดาหาร ก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสาย 212 ไปทาง อ.หว้านใหญ่ และพระธาตุพนม ก่อนที่จะเลี้ยวขวาเข้าแก่งกะเบา...
เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2532 ณ กรุงวาติกัน สมเด็จพระสันตปาปาจอห์นปอลที่ 2 ได้ทรงประกาศอย่างเป็นทางการ ให้คริสตชนชาวไทย 7 คน ผู้พลีชีพเพื่อยืนยันความเชื่อในศาสนาระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ บ้านสองคอน เป็นบุญราศรีมรณสักขี(Martyr)แห่งประเทศไทย ทางอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสงจึงให้ทำการออกแบบก่อสร้างสักการสถานแห่งนี้ขึ้น ณ สถานที่เกิดเหตุ เพื่อรำลึกถึงบุญราศรีทั้ง7 และใช้ประกอบศาสนกิจประจำวันของบ้านสองคอน จำนวน400-500 คน อีกทั้งเป็นสถานที่จาริก แสวงบุญ ของคริสตชนทั่วไป ทั้งในและต่างประเทศ.
วัดสองคอน แล้วเสร็จเมื่อปี 2538 ออกแบบโดย บริษัท สถาปนิก อัชชพล ดุสิตตานนท์และคณะ จำกัด ปี 2539 ได้รับพระราชทานรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นเหรียญทอง จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จัดโดย ASA (สมาคมสถาปนิกสยาม) และในปี 2545 ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นเหรียญทอง จาก ARCASIA
ที่มา : www.gotarch.com
ทางเข้า จากลานจอดรถครับ
วัดสองคอน
วัดสองคอน มีชื่อเต็มว่า สักการสถานพระมารดาแห่งมรณะสักขี วัดสองคอน หรือในชื่อเดิมว่า วัดพระแม่ไถ่ทาส อยู่ที่ บ้านสองคอน ตำบลโป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาธอลิก ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรสถานเทิดพระเกียรติบุญราศรีมรณสักขีทั้ง 7 ท่าน ที่ได้พลีชีพเพื่อยืนยันความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อครั้งเกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากในระยะนั้นผู้คนแถบชายแดนจะศรัทธาและนับถือศาสนาคริสต์กันเป็นจำนวนมาก
วัด หรือ โบสถ์
ความเป็นมา
ทางการไทยได้มีคำสั่งให้ชาวบ้าน และมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นหลายอย่าง ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงยอมรับว่าจะเลิกแต่ก็ยังนับถือกันแบบลับๆ แต่ก็มีคน 7 คน ซึ่งได้แก่ ซิสเตอร์พิลา ทิพย์สุข (อายุ 31 ปี) ซิสเตอร์คำบาง ศรีคำฟอง (อายุ 23 ปี) นายศรีฟอง อ่อนพิทักษ์ (อายุ 33 ปี) นางพุดทา ว่องไว (อายุ 59 ปี) นางสาวบุดสี ว่องไว (อายุ 16 ปี) นางสาวคำไพ ว่องไว (อายุ 15 ปี) และเด็กหญิงพร ว่องไว (อายุ 14 ปี) ไม่ยอมรับปากกับทางตำรวจว่าจะเลิก ตำรวจจึงนำตัวไปยิงทิ้งเสียทั้งหมด ต่อมาในปี พ.ศ. 2532 พระสันตปาปาก็ได้ประกาศให้ท่านทั้งเจ็ดคนเป็น "บุญราศีมรณสักขี" ซึ่งหมายถึง คริสตชนผู้ที่ประกอบกรรมดีและพลีชีพเพื่อประกาศยืนยันความเชื่อในพระเจ้าไม่ยอมละทิ้งศาสนา ปัจจุบัน มีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หรือ มิสซาบูชา ในวันธรรมดา เวลา 6.00 น. และในวันอาทิตย์ เวลา 7.00 น. และในทุกๆ ปี ที่วัดสองคอนจะมีพิธีเฉลิมฉลองรำลึกการสถาปนาแต่งตั้งบุญราศี ณ กรุงโรม วันที่ 22 ต.ค. และพิธีรำลึกบุญราศีสองคอน 16 ต.ค.
นอกจากเหตุการณ์สำคัญดังกล่าวแล้ว วัดสองคอนยังมีชื่อเสียงในเรื่องความงดงามแปลกตาของตัวอาคาร ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ที่มีความสวยงามและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี 2539 ออกแบบโดย ดร.อัชชพล ดุสิตนานนท์ ซึ่งมีลักษณะเด่นที่แสดงถึงความขัดแย้ง เช่น วัสดุก่อสร้างที่ใช้มีทั้งกระจกเรียบและหินทรายหยาบ ต้นไม้ด้านในกำแพงจะมีการจัดแต่ง วางเป็นระเบียบ แต่ต้นไม้ภายนอกกำแพง จะไม่มีการจัดเรียง มีการใช้แสงเงา และรูปทรงเรขาคณิตที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา จริงจัง แข็งๆ สื่อถึงความเป็นนักรบ ภายในมีโลงแก้วบรรจุหุ่นขี้ผึ้งของบุญราศีทั้งเจ็ดไว้ มีพื้นที่กว้างขวาง อยู่ติดแม่น้ำโขง และในบริเวณ ยังมีบ้านไม้ใต้ถุนสูงเล็กๆ ซึ่งเป็นบ้านพักของซิสเตอร์ที่เสียชีวิตจากครั้งนั้น
สักการสถานพระมารดาแห่งมรณะสักขี เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชมและสักการะได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00-12.00 นาฬิกา และเวลา 13.00-17.00 นาฬิกา
การเดินทาง จากตัวเมืองมุกดาหารมาตามทางหลวงหมายเลข 212 (หนองคาย-อุบลฯ) ไปทางจังหวัดนครพนมประมาณ 21 กิโลเมตร แยกขวาที่บ้านสองคอน อำเภอหว้านใหญ่ ตรงไปยังริมแม่น้ำโขง ตัวโบสถ์อยู่ริมน้ำ
ป้ายเล่าเรื่องของที่นี่ และซ้ายสุดปฏิมากรรมภาพเหตุการณ์ที่ติดไว้บนกำแพง (ภาพซ้ายสุด Credit : www.gotarch.com )
เมื่อผ่านประตูที่มีป้าย สักการสถานพระมารดาแห่งมรณะสักขี เข้าไป ทางขวามือจะเห็นแผ่นหินที่เขียนบอกเรื่องราวต่างๆ เหมือนภาพ 2 แผ่นด้านบน ส่วนทางซ้ายมือจะมีปฏิมากรรมบนผนัง บอกเรื่องราวต่างๆ ที่ติดไว้บนกำแพงโค้งครับ... เดินตรงเข้าไปจะเป็นอาคารที่แสดงถึงบุญราศีทั้งหมด เลยอาคารนี้ไปก็จะเป็นแม่น้ำโขง สุดแผ่นดินสยามของจังหวัดมุกดาหารครับ
โรงศพจำลองของบุญราศีทั้ง 7
ภาพภายใน
ตัวอาคาร (โบสถ์) ที่มองจากฝั่งแม่น้ำโขง
เลยป้ายนี้ไป ก็เป็นแม่น้ำโขง
ที่ฝังศพของบุญราศี...หรือสวนมรณสักขี
จารึกป้ายชื่อ
อาคารสีฟอง
ออกจากวัดสองคอน เราเดินทางต่อเพื่อไปหม่ำมื้อเที่ยง ซึ่งเป็นหมูหันแก่งกะเบาอันขึ้นชื่อที่อยู่ไม่ไกลจากที่แห่งนี้มากนัก ซึ่งถ้าใครๆมาที่แก่งกะเบาแห่งนี้ไม่น่าพลาดครับ.
ลากันด้วยภาพนี้ครับ
___________END__________
Create Date : 22 สิงหาคม 2554 |
|
24 comments |
Last Update : 9 กันยายน 2554 19:01:58 น. |
Counter : 7015 Pageviews. |
|
|
|
ขอตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ
บรรยากาศดีค่ะ
ขอให้มีความสุขนะคะ..