....OUR FAMILY'S JOURNEY....
นิวคาสเซิ่ล & เดอรัม











บล๊อกเที่ยวอังกฤษหน้าหนาวชุดนี้เป็นการเที่ยวต่อเนื่องจากเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2017 ที่เรานำเสนอการเดินทางท่องเที่ยวเองทางรถไฟในประเทศสวิตเซอร์แลนด์มานะครับ (อ่านเรื่องและชมภาพเที่ยวสวิส) โดยเริ่มเที่ยวจากวันที่ 22 พ.ย. 17 -30 พย.17 จากนั้นก็เดินทงเข้าประเทศเนเธอร์แลนด์ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ในวันที่ 30 พ.ย. - 2 ธ.ค. 17 และบินออกจากประเทศเนเธอร์แลนด์เข้าประเทศอังกฤษที่ลอนดอน โดยสายการบิน British Airways และต่อไปที่เมืองนิวคาสเซิ่ล และจะปักหลักที่นั่น จากวันที่ 2-6 ธันวาคม 2017...การไปอังกฤษคราวนี้เป็นการไปร่วมพิธีรับปริญาโทของเจ้าลูกชายที่มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิ่ลด้วย การเดินทางท่องเที่ยวในอังกฤษหลายเมืองจึงซ้ำกับที่เราได้เคยไปในหน้าร้อน เพราะอยากจะพาคุณภรรยาไปชมเมืองสำคัญๆเหล่านั้นด้วย




สนามบิน Schiphol Amsterdam


เช้ามืดวันที่ 2 ธันวาคม 2017 เราออกจากที่พัก Hans Brinker Budget Hostel โดยการเดินมารอรถที่ใกล้ๆป้าย I amsterdam ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก แต่อากาศหนาวเหมือนกับติดลบเลย ... ตามแผนเครื่อง British Airways จะออกจากสนามบิน Schiphol กรุงอัมสเตอร์ดัม 10.00 น. แต่สภาพอากาศที่ปิดแทบสนิท เครื่องต้องประกาศเลื่อนไป 2 ครั้ง จาก 10.00 เป็น 13.45 และเป็น 14.21 น. ในที่สุด เมื่อเครื่องเปลี่ยนเวลา เราก็ต้องเช็คกันเพื่อว่าจะได้เดินทางไปนิวคาสเซิ่ลเลยไหม ครั้งแรกเขาบอกให้รอที่ลอนดอนและบินต่อในตอนเช้า แต่ที่สุดเราก็ขอให้เขาหาเที่ยวบินไปนิวคาสเซิ่ลให้เราได้ .... แค่จะเข้าอังกฤษวันแรกก็มันส์แล้วพะยะค่ะ ไม่รู้ต่อไปจะเจออะไรอีกไหม ยิ่งหน้าหนาวแบบนี้ด้วยแล้วยิ่งต้องคิดให้หนัก





อากาศวันที่ 2 ธันวาคม 2017 ปิดจนทำให้เครื่อง Delay


เราได้บินจาก Schiphol Airport ไปลอนดอน Heathrow Airport เวลา 14.21 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที เราถึงลอนดอนตามเวลา ซึ่งช้ากว่าที่อัมสเตอร์ดัม 1 ชั่วโมง แต่กว่าที่เราจะได้บินจากเทอร์มินัล 5 สนามบินฮีตโทรว์ ก็เกือบ 5 โมงเย็น เมือ่ไปถึงเมืองนิวคาสเซิ่ลก็มืดแล้ว (หน้านี้ที่อังกฤษจะมืดเร็ว ประมาณสี่โมงเย็นก็มืดแล้ว หลังจากรับกระเป๋าเสร็จ เราก็หาซื้อซิมโทรศัพท์ของอังกฤษเพื่อใช้โทรหาบริษัทรถที่เราเช่าไว้ ซึ่งก็อยู่ห่างสนามบิน 5-6 กม. ทีเดียว ... รอนานหน่อยเพราะหากันไม่เจอ อากาศวันนั้นหนาวสุดๆ ออกไปยืนด้านนอกอาคารได้ไม่นานก็ต้องเผ่นกลับ จึงคราดกันกับรถในรอบแรกและรถก็จอดแช่รอเราไม่ได้ด้วยสิ เราจึงต้องตามกันครั้งที่ 2 และไปรอกันที่จุดเลย คราวนี้ได้ .... ตอนแรกเราเช่ารถ Ford Focus แบบดีเซลเอาไว้ เพราะเห็นที่เก็บของด้านหลังกว้างหน่อย แต่พอไปเขาเอาเจ้าเบนซ์ B200d แบบดีเซลเกียร์ออโต้ไว้ให้เรา แต่เมื่อเช็ครถแล้วปรากฏว่ามีรอยเฉี่ยว ขูด หลายที่ แต่ดีที่เราทำประกันแบบ Full Cover และส่งแบบไม่ต้องเติมน้ำมันเต็มถัง ซึ่งก็ไปทำกันครงที่รับรถนั่นแหละ ต่อรองแล้วแพงกว่าค่าเช่ารถ 10 วันอีก แต่ดีตรงที่เราไม่ต้องเสียเวลามาระวังมากมาย และสบายใจโดยไม่ต้องวาง Deposit 1250 ปอนด์ อีกอย่างเมื่อกลับบ้านไม่ต้องกลัวเขาหาเรื่องให้จ่ายเงินอีก.


รถที่จะใช้ในอีก 10 วันข้างหน้าเป็นเมอร์ซิเดส B200d เครื่องดีเซล เกียร์ออโต้


สำหรับวิธีการจอง ก็อาศัยเวบ Retalcars.com ครับ เลือกขนาดรถ ยี่ห้อ และรายละเอียดในการเช่า ส่วนวันรับรถก็เอาใบขับขี่แบบสมาร์ทการ์ดเราและใบขับขี่สากลไปให้เขาดู พร้อมใบจองครับ ถ้าเรามั่นใจในการใช้รถของเรา ก็เอาแบบปกติครับ คือรถเช่าทุกคันจะมีประกันชั้น 3 ให้อยู่แล้ว (อ่านในสัญญาเช่า) แต่ต้องวางเงินประกัน บางบริษัทก็ 1000 ปอนด์ บางบริษัมก็ 1250 ปอนด์ ส่วนมากพวกค่าเช่าแพงเงินประกันจะถูก โดยวิธีการเขาจะให้รูดบัตรเครดิตไว้ (บัตรเครดิตก็สำคัญนะครับ หลายบริษัทเขาไม่รับเงินสดนะครับ โดยจะบอกไว้หน้าเวปเลย) ฉะนั้นเงินในบัตรเราจะถูกกันไว้เท่าจำนวนประกัน และจะไม่สามรถใช้เงินยอดนี้ได้จนกว่าจะคืนรถ


The New Gorge Hotel ที่พักในนิวคาสเซิ่ล


รับรถเสร็จทดสอบระบบต่างๆก่อนออกขับจริง เพราะมีอะไรจะได้ให้เขาแก้ไขก่อน อีกเรื่องที่สำคัญคือวิธีการติดต่อสื่อสารในกรณีฉุกเฉินครับ ถามไถ่ให้เรียบร้อย (แต่เราแน่ใจว่าเขาซ่อน GPS ไว้ติดตามอยู่แล้ว เผื่อกรณีเราไม่รู้จักสถานที่) .... หลังรับรถและทำสัญญาเพิ่มเสร็จก็เลยหกโมงเย็นไปแล้ว ในรถเบนซ์ที่เราเช่าไว้มี GPS ให้ด้วยไม่ต้องเช่าเพิ่ม แต่เราใช้ไม่ถนัดอ่ะครับ เลยงัดเอา Garmin ที่เรานำไปจากเมืองไทยมาใช้ โดยซื้อแผนที่ยุโรปและอังกฤษไปจากบ้านเราเลย โดยรวมก็ใช้ได้ดีนะ ... เราเซ็ทจุดหมายไปที่ The New Gorge Hotel, 88 Osborne Rd, Newcastle upon Tyne NE2 2AP สหราชอาณาจักร โดยใช้ Post Code  NE2 2AP เมืองนิวคาสเซิ่ลนั่นแหละครับ จากนั้นก็ตามไปถึงที่พักมืดแล้ว 20.30 น. มั๊ง ขับไปใกล้แล้วจอดลงไปถามว่าใช่หรือไม่ และที่จอดรถอยู่ตรงไหน เผอิญเราไปถึงที่จอดรถเต็มอีกด้วย แต่หนุ่มที่รับเราบอกว่ารถที่เห็นอยู่นั้น เขามา weekend เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ว่าง แต่วันหยุดแบบนี้เราสามารถจอดในที่จอดของเมืองได้ฟรีหลัง 18.00 น. เราเลยได้ที่จอดห่างจากที่พักไปประมาณ 50 เมตร (ที่จอดรถในอังกฤษเป็นอะไรที่หายากมากๆ และค่าจอดแพงด้วย) ห้องพักเป็นแบบไม่มีอาหารเช้า พื้นที่ก็ถือว่าโอเคสำหรับราคาประมาณ 4000 กว่าบาทต่อคืน สำหรับสามคน




ไปเยี่ยมเพื่อนชาวอังกฤษที่เมือง Bishop Aukland


เช้าวันที่ 3 ธันวาคม 2017 เราถือโอกาสไปเยี่ยมบ้านคนที่เรารู้จัก ที่มือง Bishop Auckland ลงไปทางใต้เมืองนิวคาสเซิ่ลประมาณ 30 ไมล์ เป็นวันแรกที่เราได้ทานอาหารไทย ซึ่งเจ้าภาพจัดให้แบเต็มสุดๆ รวมทั้งไก่งวงอบด้วย ก็ขอขอบคุณผ่านเวปนี้อีกครั้งครับ .... คุยกันสัพเพเหระได้ถึงบ่ายสองครึ่งเราก็ออกเดินทางไปเดินชมเมืองเดอรัมกัน ซึ่งก็ห่างจาก Bishop Auckland ขึ้นไปทางนิวคาสเซิ่ล 15 ไมล์ ถึงเดอรัม ประมาณบ่ายสาม เราจอดรถไว้ Park & Ride ด้านเหนือของเมือง แล้วซื้อตั๋วรถบัสจากตรงนั้นเข้าเมือง คนละ 1 ปอนด์ ส่วนค่าจอดฟรี (ที่ Park & Ride เขาจะมีบริการรถเข้าเมืองแบบไป-กลับ ค่าตั๋วก็ไม่แพง ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนให้ใช้ที่จอดรถนอกเมืองและเข้าเมืองโดยขนส่งสาธารณะ เพื่อรถความแออัดของการจราจรในเขตเมือง)


เดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเวียร์เข้าย่านใจกลางเมือง


เดอรัม (Durham)
เป็นเมืองเล็ก ๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ อยู่ห่างจากเมืองนิวคาสเซิลอะพอนไทน์ลงมาทางใต้ประมาณ 25 กม. ตั้งอยู่บนแม่น้ำเวียร์ (River Wear) ซึ่งไหลล้อมรอบเมืองทั้งสามด้าน เดอรัมเป็นที่รู้จักกันดีจากมหาวิหารเดอรัมและปราสาทแบบโรมานเนสก์ที่ตั้งอยู่ในเมือง ซึ่งยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลก และมหาวิทยาลัยเดอรัม ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่เป็นอันดับสามของอังกฤษ (อันดับ 1 คือมหาวิทยาลัย Oxford, อันดับ 2 คือมหาวิทยาลัย Cambridge)


River Weir


Charles W.V. Stewart Monument


Durham Market Square


มีร้านอาหารไทยด้วย


คำว่า “เดอรัม” มาจากคำว่า “dun” ของภาษาอังกฤษเก่า ซึ่งแปลว่าเนิน และภาษานอร์สโบราณ “holme” ที่แปลว่าเกาะ บาทหลวงแห่งเดอรัมใช้ภาษาละตินแปลงของชื่อเมืองในการลงนามที่ลงเป็น T “N. “Dunelm”” บ้างก็ว่ามาจากตำนาน “Dun Cow” และหญิงรีดนมที่นำพระที่แบกร่างของนักบุญคัธเบิร์ต (Saint Cuthbert) จากลินดิสฟาร์น (Lindisfarne) ไปยังที่ที่เป็นที่ตั้งเมืองในปัจจุบันในปี ค.ศ. 995 เชื่อกันว่าซอยดันคาวว์เป็นถนนสายแรกของเดอรัม อยู่ทางตะวันออกของมหาวิทยาลัยเดอรัม และทราบได้จากชื่อที่แกะไว้บนหินทางด้านใต้ของมหาวิหารเดอรัมมีชื่อต่างๆ กันไปต่างๆ ตลอดมาในประวัติศาสตร์ บ้างก็ว่าเดิมมาจากภาษานอร์ดิค “Dun Holm” ต่อมาเปลี่ยนไปเป็น “Duresme” โดยชาวนอร์มันและรู้จักกันในชื่อภาษาละตินว่า “Dunelm” ชื่อ “Durham” ที่ใช้ในปัจจุบันมาใช้กันในภายหลัง นักประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตะวันออกเฉียงเหนือโรเบิร์ต เซอร์ทีส์ (Robert Surtees) ลำดับการเปลี่ยนชื่อในหนังสือ “History and Antiquities of the County Palatine of Durham” แต่ก็กล่าวว่าเป็นไปได้ยากที่จะทราบว่าชื่อที่ใช้ในปัจจุบันเริ่มขึ้นเมื่อใด







ปราสาทเดอรัม
ปราสาทเดอรัม (Durham Castle) เป็นปราสาทแบบนอร์มันในเมืองเดอรัม เทศมณฑลเดอรัม สหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวิหารเดอรัม บนยอดเนินเขาเหนือแม่น้ำเวียร์บนคาบสมุทรเดอรัม 
ปราสาทนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 เพื่อปกป้องบิชอปแห่งเดอรัมจากการถูกโจมตี เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของปราสาทแบบ mott and bailey ที่ได้รับอิทธิพลของนอร์มัน ... ปราสาทนี้ห้องโถงขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นบิชอปแอนโทนี เบค เมื่อต้นศตวรรษที่ 14 เคยเป็นห้องโถงในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในเกาะบริเตน จนกระทั่งบิชอปริชาร์ด ฟอกซ์ ปรับขนาดห้องโถงให้เล็กลงเมื่อสิ้นศตวรรษที่ 15 ห้องโถงปัจจุบันมีความสูง 14 เมตร และยาวมากกว่า 30 เมตร







ปราสาทเดอรัมมีวิหารอยู่ 2 แห่ง คือ วิหารนอร์มัน สร้างเมื่อประมาณปี 1078 และวิหารทันสตอล สร้างในปี 1540 ... วิหารนอร์มันเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่มีการสำรวจในปราสาท สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบแซกซอน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีการเกณฑ์แรงงานชาวแซกซอนมาสร้าง ในศตวรรษที่ 15 หน้าต่างของวิหารทั้ง 3 บานถูกปิดผนึกหลังมีการต่อเติมป้อมปราสาท และไม่ได้ถูกใช้งานอีกจนกระทั่งปี 1841 ซึ่งถูกใช้เป็นทางเดินภายในป้อมปราสาท ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ได้ถูกใช้เป็นฐานที่มั่นสะสมกำลังและสังเกตการณ์ของกองทัพอากาศ และต่อมาเมื่อมีการสำรวจจึงได้ทราบจุดประสงค์แต่เดิมของการสร้างวิหารนี้ หลังสงครามจึงมีการบูรณะวิหารขึ้นใหม่และใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมมาจนทุกวันนี้ ..... วิหารทันสตอลมีขนาดใหญ่กว่าวิหารนอร์มัน และถูกใช้งานมามากกว่า ในศตวรรษที่ 17 บิชอปคอซินและบิชอปครูว์ได้ต่อเติมส่วนของวิหารให้กว้างขวางขึ้น ที่ด้านหลังวิหาร ม้านั่งบางตัวบริเวณนี้ทำขึ้นมาตั้งแต่เมื่อศตวรรษที่ 16

ปราสาทเดอรัมและมหาวิหารเดอรัมได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม


วิหารเดอรัม (Durham Cathedral)


ซ้ายวิหาร Durham  ขวา : ห้องสมุดมหาวิทยาลับ Durham (อยู่ตรงกลางระหว่างปราสาท และมหาวิหาร)


การไปชมปราสาทต้องเดินขึ้นตามถนนแคบๆปูด้วยหินแบบเมืองเก่าในอังกฤษทั่วไป โดยต้องขึ้นเนินไปพอสมควร พอถึงจะเป็นสนามโล่งมองเห็นมหาวิหารอยู่ฟากหนึ่งของสนาม หน้าวิหารจะเป็น Symmetry Yard หรือที่ฝังศพนั่นแหละครับ เดินเข้าไปชมวิหาร เมื่อจบแล้วเดินออกมาจะมีเนินที่มีูปไม้กางเขน ริมกำแพงด้านหลังสามารถชมวิวเมืองในมุมสูงได้ พอผ่านตรงนั้นไปจะเห็นทางเข้าห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเดอรัม เลยไปเป็นทางเข้าชมปราสาทเดอรัม แต่เสียดายเขาปิดครับ เดินอ้อมสนามแล้วกลับลงสู่กลางเมืองโดยใช้เส้นทางเดิม





เดินชมเมืองและปราสาทจนเย็นแล้วจึงไปรอขึ้นรถบัสที่จะไปปาร์คแอนไรด์ ที่เราจอดรถไว้ ตอนขึ้นรถต้องแสดงตั๋วให้คนขับดูหน่อย ถึงที่จอดรถเราจึงแยกย้ายกันกลับ เราขับกลับที่พักเมืองนิวคาสเซิ่ล พักเอาแรงไว้เดินทางไกลไปเที่ยวเมืองเอดินเบอร์กในวันพรุ่งนี้.



ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ



ถนนเดินขึ้นปราสาท Durham

___________________



Create Date : 12 พฤษภาคม 2561
Last Update : 23 พฤษภาคม 2561 9:39:14 น. 5 comments
Counter : 1374 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณTui Laksi, คุณอุ้มสี, คุณSweet_pills, คุณKavanich96


 
สวัสดีคะคุณวิค
ยินดีกับความสำเร็จของคุณลูกชายคนเก่งด้วยนะคร้า
ชมภาพและอ่านเรื่องราวผ่านบล๊อกได้รับความรู้เพิ่มขึ้นด้วยเลยคะ
ขอบคุณคะ


โดย: Tui Laksi วันที่: 12 พฤษภาคม 2561 เวลา:21:08:44 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ตะลีกีปัส Travel Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog

คุณลูกชายสุดยอดเลยค่ะคุณวิค
อุ้มมา vote & Like ให้เลยค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 12 พฤษภาคม 2561 เวลา:22:27:54 น.  

 
ขอแสดงความยินดีกับคุณวิคและครอบครัวด้วยนะคะ ลูกชายเก่งมากค่ะ
สถาปัตยกรรมของอาคารที่พักในนิวคาสเซิ่ลสวยมาก
ส่วนเมืองเดอรัมก็น่าเที่ยวมาก
ปราสาทเดอรัมมีประวัติยาวนานและใหญ่โตสวยงามนะคะ
ขอบคุณคุณวิคที่พาเที่ยว จะตามเที่ยวเมืองเอดินเบอร์กต่อค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 13 พฤษภาคม 2561 เวลา:0:37:45 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 16 พฤษภาคม 2561 เวลา:2:58:58 น.  

 
ตามมาเที่ยวค่ะ
เขาว่าจะย้ายสถานทูตไปอินเดียเสียแล้ว ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 21 พฤษภาคม 2561 เวลา:15:21:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2561
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
12 พฤษภาคม 2561
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.