ไม่ได้เข้ามาเขียนบล๊อกไปอาทิตย์กว่าๆ ถ้าเผื่อมีท่านใดกำลังติดตามชุดเที่ยวสวิสอยู่ คงหุดหงิดเหมือนกันนะครับ .... แต่กลับมาคราวนี้จะพาคุณๆไปชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในสวิส นั่นก็คือ Jungfraujoch หรือ ยอดเขาจุงเฟรานั่นเองครับ
สำหรับบล๊อกที่แล้ว เราพาคุณๆนั่งรถไฟ Golden Pass Line จากเมืองมองเทรอซ์มาลงที่เมืองซไวท์ซิมเมนและต่อรถไฟมาที่สถานี Interlaken West นะครับ .... เรามาถึงที่พักซึ่งเป็นอพาร์ทเมนท์ของคนจีนที่เราเช่าไว้ทางอินเทอร์เนท ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนักแค่เดินประมาณ 10-15 นาทีเอง แต่ในสภาพที่อากาศหนาวแบบนั้นก็ถือว่าไกลโขอยู่นะครับ.
อย่างไรก็ตามเรามาถึงก็โทรหาเจ้าของตามเบอร์ที่เราได้มทาง e-mail ไม่ยาก ซักพักเขาก็ส่งสาวน้อยชาวจีนแผ่นดินใหญ่มาพบเราและเปิดห้องให้ หลังจากเก็บของเข้าที่พักซึ่งเราจะปักหลักที่นี่ 3 คืนก่อนเดิินทางต่อไปอัมสเตอร์ดัมทางรถไฟ
แผนการเดินทางสู่ Jungfraujoch
แผนการเดินทางเราวางไว้ว่าจะเดินทางเป็นวงกลม คือขาขึ้นเราจะไปจาก Interlaken Ost. > Grindelwald > Kleine Scheidegg > Jungfraujoch. ส่วนขากลับก็จะเป็น Jungfraujoch > Wegen > Lauterbrunnen > Interlaken Ost.
ถนนที่เดินไปสถานี Interlaken Ost.
การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟรานั้นสามารถขึ้นไปได้ด้วยรถไฟฟันเฟือง หรือ Cogwheel ครับ สำหรับท่านใดที่มีบัตร Swiss travel Pass ก็จะได้ส่วนลดราคารถไฟ (ค่ารถไฟจะคิดจาก Grindelwald - Lauterbrunnen) 25 % .... ในวันที่ไป (28 พ.ย. 2018) เราไปซื้อตั๋วขึ้นจุงเฟราที่สถานี Interlaken Ost ในตอนเช้าโดยได้ราคาลดแล้วเหลือคนละ 137.40 สวิสแฟรงค์ อัตราแลกเปลี่ยนตอนนั้นคือ 35 บาท/ 1 สวิสแฟรงค์ ... ซึ่งถ้าคิดเป็นเงินไทยแล้วก็แพงเอาการอยู่เหมือนกันนะครับ
ผ่านโรงแรมหรูแห่งนี้
มองเห็นยอดจุงฟราวสีขาวไกลสุด
ผ่านโบสถ์แห่งนี้ด้วย
สถานี Interlaken Ost.
ตามแผนการเดินทางที่เราวางไว้ว่าจะต้องออกแต่เช้าเผื่อมีเวลาเหลือจะได้เดินเที่ยวในหมู่บ้าน Lauterbrunnen บ้าง ... หลังจากเช็คเวลารถไฟจาก SBB timetable แล้ว เราได้เวลาประมาณนี้ครับ
สาย Berner Oberland - Bahn
รถไฟออกตามเวลาที่เราวางแผนไว้เปะ แต่วันนี้อากาศหนาวมาก น่าจะต่ำกว่าศูนย์องศาครับ บนรถจึงเปิด Heater ซะแรงเลย นั่งใกล้ๆหน้าต่างจึงร้อน บนรถไฟเราเตรียมตั๋ว Swiss Travel Pass พร้อม passport ไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจ เจ้าหน้าที่การรถไฟของสวิสส่วนมากอายุค่อนข้างมากแล้ว แต่อัธยาศัยดีมาก ตรวจตั๋วเสร็จก็ขอบคุณและอวยพรให้เราเที่ยวให้สนุกๆ ... ถึงสถานี Grindelwald เราต้องลงจากรถเหลือง-น้ำเงิน มาขึ้นเจ้าเขียว-เหลือง หรือ WENGERNALPBAHN ซึ่งเป็นรถไฟฟันเฟือง (Cogwheel) เพื่อไต่เขาขึ้นสู่สถานี Kleine Scheildegg
เนื่องจากรถไฟเป็นสายท้องถิ่น (Regio) จึงจอดทุกๆสถานี สถานีละประมาณ 2 นาที ช่วงนี้รถจะวิ่งไต่เขาขึ้นไปเรื่อยๆ ข้างทางในเดือน พฤษจิกายน เช่นนี้จึงเต็มไปด้วยหิมะที่หนาและขาวโพลนไปทั่ว สำหรับคนเมืองร้อนแบบเราก็ตื่นตาตื่นใจตลอดเส้นทางเลยล่ะครับ
Wengernalp Bahn
Wengernalp Bahn
Cogwheel
ถึงสถานี Kleine Scheildegg ตามเวลา เรามีเวลา 10 นาทีกว่ารถจะออก ถ้าจะเข้าห้องน้ำซัก 5-6 นาทีก็ได้ครับก่อนจะขึ้นเจ้ารถสีแดงคาดริ้วเหลืองๆ หรือ Jungfrau Bahn ซึ่งทำหน้าต่างกว้างๆไว้ให้เราได้ชมวิว เพราะจากนี้ไปสู่ยอดเขาจุงเฟราซึ่งเป็นปลายทาง รถจะผ่านเขาหิมะ ธารน้ำแข็ง อุโมง ซึ่งวิวข้างทางสวยๆทั้งนั้น แต่ปัญหามันก็มีนะครับ คือเมือรถขึ้นสู่ที่สูงเกือบๆจะ 3000 เมตร อากาศก็จะเบาบางลง การง่วงนอนก็จะเกิดขึ้น หลายท่านที่ไปจากแถบเราก็เข้าเฝ้าพระอินทร์ (นอนหลับ) ซะเป็นส่วนมาก
Jungfrau Bahn
ธารน้ำแข็งที่มองผ่านหน้าต่างอุโมง
Eismeer station ที่ระดับ 3160 เมตร สถานีนี้จอดให้ชมธารน้ำแข็งจากหน้าต่างอุโมง 5 นาที
ธารน้ำแข็ง
ยุงเฟรายอค (Jungfraujoch) เป็นช่องสันเขาที่มีชื่อเสียงของเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ในรัฐแบร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ยุงเฟรายอคมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,466 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟสายยุงเฟราจากเมืองอินเทอร์ลาเคินไปจนถึงสถานีรถไฟยุงเฟรายอคได้ สถานีรถไฟแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ความสูง 3,454 เมตรจึงถือเป็นสถานีรถไฟที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในยุโรป ยุงเฟรายอคยังเป็นทางผ่านเพื่อไปสู่ยอดเขายุงเฟราที่ระดับความสูง 4,158 เมตร ซึ่งต้องเดินเท้าไปต่อเท่านั้น
ยุงเฟรายอคยังเป็นที่ตั้งของหอดูดาวสฟิงซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหอดูดาวที่อยู่สูงที่สุดในโลกที่ระดับความสูง 3,572 เมตร และยังเป็นที่ตั้งของสถานีทวนสัญญาณยุงเฟรา ซึ่งถือเป็นสถานีวิทยุที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป
แผนผังจุดเยี่ยมชมบนจุงเฟรายอร์ค
การขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟราสามารถทำได้โดยใช้รถไฟ Jungfrau Bahn รถไฟด่วนที่วิ่งช้าที่สุดในโลก วิ่งผ่านภูมิประเทศที่งดงามของเทือกเขาแอลป์ ผ่านอุโมงค์และสะพาน ตลอดเส้นทางปกคลุมด้วยหิมะ เริ่มต้นได้จากสองสถานีคือ Grindelwald หรือ Lauterbrunnen ผ่านสถานี Kleine Scheidegg และ Eigergletscher ก่อนจะขึ้นสู่สองสถานีที่เหลือโดยจะหยุดแวะพักเพียงสถานีละประมาณ 5 นาทีเท่านั้น คือสถานี Eigerwand (ฝั่งด้านเหนือของ ยอดเขา Eiger) และ Eismeer (ทางทิศใต้) ณ จุดสูงสุดคือลานน้ำแข็งขนาดใหญ่เรียกว่า Sphinx จุดที่น่าสนใจอีกแห่งคือธารน้ำแข็งที่อยู่ลึก 30 เมตรจากพื้นผิว ซึ่งได้รับการแกะสลักให้สวยงาม👈
👉เราถึงสถานีปลายทางที่จุงเฟรายอร์คในเวลา 11.05 น. เดินเข้าไปหากาแฟทานที่ร้านอาหาร ซึ่งใกล้ๆกันนั้นจะมีที่สแตมป์พาสปอร์ตจุงเฟราที่เราได้มาตอนซื้อตั๋วรถไฟ .... เสร็จจากกาแฟก็วอร์มอัพตัวเองจากการเดินเที่ยวในอุโมงก่อน ซึ่งก็มีอะไรๆให้ชมมากมาย ซึ่งเราสามารถเดินชมตามแผนผังด้านบนได้ โดยตาใเส้นทางจะมีป้ายบอกตลอดการเดินชม👈
ทางเดินในอุโมงที่ Jungfraujoch
Alpine Sensation ชมเรื่องราวของที่นี่
Ice Palace ... ถ้ำน้ำแข็ง
Sphinx Observatory Deck ... บนหอชมวิวสฟิงซ์
วิว Plateau จากหอชมวิวสฟิงซ์
ถ่ายกับธงสวิสหน่อย
ด้านหลังที่เห็นไกลสุดคือ Sphinx Observatory Deck
ทางออกสู่ Plateau
Plateau ... ลานหิมะบนหน้าผา
ช่วงบ่ายหลังจากเดินชมและถ่ายภาพบน Jungfraujoch เสร็จเราก็ออกไปรอขึ้นรถไฟเพื่อกลับลงไปด้านล่าง โดยขาลงเราจะผ่าน Wegen เพิื่อเปลี่ยรถไฟขบวนใหม่ลงไปที่ Lauterbrunnen โดยคิดไว้ว่า ถ้ามีเวลาเหลือเราก็จะไปเดินชมหมู่บ้านหน่อย...คราวก่อนที่เรามาหิมะยังไม่ตกมากขนาดนี้ มองดูหมู่บ้านแล้วสวยงามดี...แต่เมื่อถึงลาวเทอร์บรูนเนน ก็ปาเข้าไป 4 โมงเย็น ซึ่งในหน้านี้ก็เกือบมืดแล้ว เราเลยตัดสินใจขึ้นรถไฟ Berner Oberland - Bahn กลับเข้า Interlaken เลย.
💘💘💘ขอบคุณที่ติดตามครับ💘💘💘
รถไฟ Jungfrau Bahn
ป้ายด้ายหน้ารถบอกว่าไป Lauterbrunnen เรากลับกับขบวนนี้
ลาด้วภาพตามเส้นทางลงสู่ Interlaken ภาพนี้ครับ
__________________
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [
Rec. 11.06.08
