....OUR FAMILY'S JOURNEY....

++ มหาวิหารน็อทร์-ดาม & ช็องเซลีเซ ในวันอำลา ++






อ่านเรื่อง : จากสตราสบวร์ก...สู่ปารีส
อ่านเรื่อง : พระราชวังแวร์ซายส์..รอบยิ้มปนคราบน้ำตา
อ่านเรื่อง : แกลเลอรี่ลาฟาแยตต์ & ล่องเรือดินเนอร์ที่แม่น้ำแซน
อ่านเรื่อง : รับลม ชมวิว ที่หอไอเฟล






19 ตุลาคม 2555 และแล้วเราก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายที่เรามีโอกาสอยู่ในปารีส มหานครแห่งความยิ่งใหญ่สิวิไลซ์ตลอดกาลของฝรั่งเศส ซึ่งวันนี้เรามีโปแกรมที่ต้องออกไปชมมหาวิหารน็อทร์-ดาม (Notre Dame Cathedral) และแวะไปเดินเที่ยวที่ถนนช็องเซลีเซ่ (Avenue des Champs-Élysées) ก่อนจะเดินทางกลับในตอนเย็นครับ






หน้าเลแซงวาลิด (Les Invalides (Napoleon's Tomb))




เลแซงวาลิด (Les Invalides)

เป็นอาคารที่มีโดมสวยงาม ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1714 ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เพื่อเป็นโรงพยาบาลที่พักทหารที่บาดเจ็บและพิการจากสงครามตั้งแต่ปี ค.ศ. 1670 สร้างโดยสถาปนิก Jules Hardouin Mansart

ส่วนโดมและวัด สร้างในสมัยนโปเลียนที่ 1 ในปี ค.ศ. 1840 ซึ่งมีศพนายพลพระสหายของพระเจ้านโปเลียนอีกหลายคนฝังอยู่ด้วย ตัวอาคาร มีโดมที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโดมที่สวยงามสุดในกรุงปารีส นอกจากนี้ ยังมีศิลปะมากมายจัดแสดงอยู่ในนั้นอีกด้วย

ปัจจุบัน เลแซงวาลิด อยู่ในความดูแลของกระทรวงกลาโหม ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ทหาร โดมซึ่งสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 1 นั้นสวยงามมากที่สุดในกรุงปารีส นอกจากนี้ ยังมีศิลปะมากมายจัดแสดงอยู่ในนั้นอีกด้วย







ถ่ายจากอีกด้าน







ทานมื้อเที่ยงที่ร้านนี้ซึ่งเป็นอาหารจีน คนเยอะมาก







ระหว่างเดินทาง...ชมเมืองปารีสไปด้วยกัน







สะพาน Pont Alexandre-III.



ปงอาแล็กซ็องดร์-ทรัว

ปงอาแล็กซ็องดร์-ทรัว หรือ สะพานอะเลคซันดร์ที่ 3 (ฝรั่งเศส: Pont Alexandre-III) เป็นสะพานโค้งพาดผ่านแม่น้ำแซน เชื่อมต่อทั้งสองฝั่งแม่น้ำด้านฝั่งหอไอเฟลกับฝั่งช็องเซลีเซเข้าด้วยกัน โดยได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นสะพานที่ประดับประดาไปด้วยงานศิลปะชั้นเลิศ และหรูหราที่สุดในปารีส โดยในปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์แห่งฝรั่งเศส


ประวัติ

ตัวสะพานสร้างช่วงปี ค.ศ. 1896-1900 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว ประกอบไปด้วยโคมไฟอันวิจิตร รูปปั้นทูตสวรรค์ เทพธิดา และม้าบินตั้งอยู่บนเสาหินฝั่งละ 2 เสา โดยได้ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแด่ สมเด็จพระจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย ที่ได้ตกลงสัญญาพันธมิตรระหว่างสองประเทศในปี ค.ศ. 1892 โดยมีเจ้าชายนีโคไลเป็นมกุฎราชกุมาร ในขณะนั้นเป็นผู้วางศิลาฤกษ์ในปี ค.ศ. 1886 โดยพื้นฐานทางสถาปัตยกรรมมีความคล้ายคลึงกับของอาคารกร็องปาแลซึ่งตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำไม่ไกลนัก

การก่อสร้างสะพานนี้ถือเป็นความสำเร็จทางวิศวกรรมแห่งยุคศตวรรษที่ 19 เป็นอย่างยิ่ง โดยการสร้างสะพานโค้งแบบไม่มีเสา โดยตัวสะพานสูง 6 เมตร ทำจากเหล็กกล้า ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกโฌแซ็ฟ กาเซียง-แบร์นาร์ และกัสตง กูแซ็ง โดยมีข้อแม้ว่าห้ามบดบังทัศนียภาพของช็องเซลีเซและเลแซ็งวาลีดโดยเด็ดขาด

สะพานถูกสร้างโดยวิศวกรฌ็อง เรซาล และอาเมเด ดาลบี และเปิดอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1900 สำหรับงาน Exposition Universelle พร้อม ๆ ไปกับกร็องปาแล .... สะพานนี้ถือว่าเป็นต้นแบบของสะพานมัฆวานรังสรรค์ในประเทศไทยด้วย






บางส่วนของแม่น้ำแซนที่กั้นระหว่างแผ่นดินใหญ่กับมหาวิหารน็อทร์-ดาม





มหาวิหารน็อทร์-ดาม มองจากอีกฝั่งของสะพาน




มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส (Notre Dame Cathedral)

อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส (ฝรั่งเศส: Cathédrale Notre-Dame de Paris กาเตดราลน็อทร์-ดามเดอปารี) หรือ มหาวิหารน็อทร์-ดาม เป็นอาสนวิหารประจำอัครมุขมณฑลปารีส ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คำว่า Notre Dame แปลว่า พระแม่เจ้า (Our Lady) ซึ่งเป็นคำที่ชาวคาทอลิกใช้เรียกพระนางมารีย์พรหมจารี ปัจจุบันอาสนวิหารก็ยังใช้เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกและเป็นที่ตั้งคาเทดราของอาร์ชบิชอปแห่งปารีส มหาวิหารน็อทร์-ดามถือกันว่าเป็นโบสถ์ที่สวยงามที่สุดในลักษณะกอทิกแบบฝรั่งเศส โบสถ์นี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยเออแฌน วียอแล-เลอ-ดุก ผู้เป็นสถาปนิกคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของฝรั่งเศส






นักท่องเที่ยวมากมายด้านหน้า




การก่อสร้างเป็นแบบกอทิก นับเป็นมหาวิหารแรกที่สร้างในลักษณะนี้ และการก่อสร้างก็ทำต่อเนื่องมาตลอดสมัยกอทิก ประติมากรรม และหน้าต่างประดับกระจกสี (stained glass) มีอิทธิพลจากศิลปะแบบแนทเชอราลลิสม์ ทำให้แตกต่างจากศิลปะโรมาเนสก์ที่สร้างก่อนหน้านั้น

น็อทร์-ดามเป็นหนึ่งในบรรดาสิ่งก่อสร้างแรกที่ใช้ "ครีบยันลอย" ตามแบบเดิมไม่ได้บ่งถึงกำแพงค้ำยันรอบมหาวิหาร "บริเวณร้องเพลงสวด" หรือ รอบบริเวณกลางโบสถ์ เมื่อเริ่มสร้างกำแพงโบสถ์สูงขึ้นกำแพงก็เริ่มร้าวเพราะน้ำหนักของสิ่งก่อสร้าง เพราะสถาปนิกสมัยกอทิกจะเน้นการสร้างสิ่งก่อสร้างที่สูง บาง และโปร่ง มื่อสร้างสูงขึ้นไปกำแพงก็ไม่สามารถรับน้ำหนักและความกดดันของกำแพงและหลังคาได้ทำให้กำแพงโก่งออกไปและร้าว สถาปนิกจึงใช้วิธีแก้ด้วยการเติม "กำแพงค้ำยัน" ที่กางออกไปคล้ายปีกนกด้านนอกตัววัด เพื่อให้กำแพงค้ำยันนี้หนุนหรือค้ำกำแพงตัวโบสถ์เอาไว้ เมื่อทำไปแล้วนอกจากจะมีประโยชน์ทางการใช้สอยแล้วยังกลายเป็นเครื่องตกแต่งที่ทำให้สิ่งก่อสร้างความสวยงามขึ้น ฉะนั้นวิธีแก้ปัญหานี้จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ส่วนหนึ่งของโบสถ์ที่สร้างแบบกอทิกไปในตัว








ด้านหน้ามหาวิหารน็อทร์-ดาม




ราวปี ค.ศ. 1790 ระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส โบสถ์ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ประติมากรรมและศิลปะทางศาสนาถูกทำลายไปมาก มหาวิหารได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนมีสภาพเหมือนก่อนหน้าที่ถูกทำลาย








รูปแกะสลักตรงซุ้มประตูทางเข้า






ตรงหน้าวิหาร Notre Dame จะมีแผ่นโลหะแบบด้านบนอยู่ และเชื่อกันว่าถ้าใครได้เหยียบบนนั้นแล้วจะได้กลับมาเยือนปารีสอีก จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและฝรั่งเข้ามาเหยียบมากมาย สาวๆทีมเราก็เหยียบไปหลายคน...จะคนละหลายครั้งหรือเปล่าก้ไม่รู้









การก่อสร้าง

เมื่อปี ค.ศ. 1160 บิชอปมอริส เดอ ซูว์ยี (Maurice de Sully) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นบิชอปแห่งปารีส ท่านเห็นว่าโบสถ์ที่ตั้งอยู่เดิมไม่สมฐานะ จึงสั่งให้รื้อทิ้งไม่นานหลังจากที่ท่านได้รับตำแหน่งใหม่ ตามตำนานว่ากันว่าบิชอปเห็นภาพลักษณ์ของมหาวิหารแห่งปารีสอันสวยงาม ท่านจึงรีบร่างแบบที่เห็นไว้บนทรายนอกโบสถ์เดิม ก่อนจะสร้างวิหารใหม่ก็ต้องรื้อบ้านเรือนบริเวณนั้นออกไปหลายหลัง และต้องสร้างถนนใหม่เพื่อจะได้สะดวกต่อการขนวัสดุก่อสร้างได้สะดวก








มหาวิหารเริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1163 ระหว่างรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 ส่วนที่จะว่าใครเป็นผู้วางศิลาฤกษ์นั้นไม่แน่ บางหลักฐานก็ว่าบิชอปซุลยีเอง บางหลักฐานก็ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 3 เป็นผู้วาง แต่ที่แน่คือทั้งคนเข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ ตั้งแต่นั้นมาบิชอปซุลยีก็อุทิศชีวิตให้กับการสร้างมหาวิหารนี้






กระจกสีตามหน้าต่างวิหาร




เริ่มการก่อสร้างทางด้านหน้าหรือด้านตะวันตก (west front) ซึ่งมีหอคอยสองหอ เมื่อราวปี ค.ศ. 1200 ก่อนที่จะสร้างโถงกลางของตัวโบสถ์เสร็จ ซึ่งไม่ตรงกับหลักการสร้างสิ่งก่อสร้างตามแบบฉบับ โบสถ์นี้มีสถาปนีกหลายคนที่มีส่วนในการก่อสร้าง จะเห็นได้จากความเปลี่ยนแปลงของรูปทรงไปตามสมัยนิยมของสถาปนิก เป็นต้นว่าหอสองหอทางด้านตะวันตกจะไม่เท่ากัน

ระหว่างปี ค.ศ. 1210 ค.ศ. 1220 สถาปนิกคนที่สี่เป็นผู้ดุแลการสร้างระดับหน้าต่างกลมและโถงภายใต้หอ หอสร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1245 และมหาวิหารเมื่อปี ค.ศ. 1345

ที่มา : วิกิพีเดีย











เดินทางไปที่ถนนช็องเซลีเซ่











บนถนนช็องเซลีเซ่




ช็องเซลีเซ (Avenue des Champs-Élysées)

อาเวอนูว์เดช็องเซลีเซ (ฝรั่งเศส: Avenue des Champs-Élysées, [avəny de ʃɑ̃zeliˈze]) เป็นถนนในเขตที่ 8 ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นย่านการค้าที่ประกอบด้วยโรงละคร คาเฟ่ และร้านค้าหรูหรา สองข้างทางมีต้นเกาลัดที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามปลูกเรียงราย ชื่อ "ช็องเซลีเซ" มาจากคำว่า "ทุ่งเอลิเซียม" จากเทพปกรณัมกรีกในภาษาฝรั่งเศส






วิวจากฟุตบาทถนนช็องเซลีเซ่




ช็องเซลีเซได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก (La plus belle avenue du monde) โดยมีอัตราค่าเช่าสูงถึง 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี สำหรับพื้นที่ 1000 ตารางฟุต (93 ตารางเมตร) สูงที่สุดในยุโรป






หัวมุมถนนตรงร้าน Cartier




ช็องเซลีเซเดิมเป็นท้องทุ่งและสวน จนกระทั่งปี ค.ศ. 1616 เมื่อมารี เดอ เมดิชิ สมเด็จพระราชินีนาถแห่งฝรั่งเศส ทรงขยายพื้นที่บริเวณสวนหย่อมของพระราชวังตุยเลอรี (Palais des Tuileries) เป็นถนนที่มีต้นไม้สองข้างทาง ในปี ค.ศ. 1724 ได้รับการขยายไปเชื่อมกับจัตุรัสแห่งดวงดาว (Place de l'Étoile ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล ที่เป็นที่ตั้งของประตูชัยฝรั่งเศส)

ถนนช็องเซลีเซ่ มีความยาว 1.91 กิโลเมตร และกว้าง 70 เมตร ทอดยาวจากทางตะวันออกไปทางตะวันตก จะมองเป็นประตูชัยอยู่ปลายถนน ... ถนนสายนี้เป็นต้นแบบของถนนราชดำเนินในประเทศไทยเราครับ








Louis Vuitton Shop Window Designed by Yayoi Kusama







ด้านหลัง : คนเข้าคิวซื้อของในร้าน (ยังกะเขาแจกฟรี)





รถมาส่งเราที่ใกล้ๆบริเวณร้าน Louis Vuitton และปล่อยให้เราใช้เวลาที่เหลือในช่วงบ่ายในการเดินชมสินค้าตามร้านที่ถนนช็องเซลีเซ่ หลายๆคนที่ยังได้สินค้าหรือของฝากไม่ครบ ก็ที่นี่จะเป็นแหล่งสุดท้ายแล้ว ... ส่วนที่เห็นคนเข้าแถวไปซื้อของที่ร้าน Louis Vuitton มากมายอย่างนั้น เพราะคนขายเขาจะ take care ลูกค้าเป็นคนๆไป คือจากเลือก ซื้อ จนถึงจ่ายตังค์ แล้วจึงดูแลคนอื่นต่ไป ... เราเลือกที่จะเดินชมร้านรวงแถวนั้น และมุ่งไปประตูชัยที่อยู่ปลายถนนเพื่อถ่ายภาพ







ประตูชัยที่จัตุรัสชาร์ล เดอ โกล์ ตรงหัวถนน



อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล (Arc de triomphe de l'Étoile)

อาร์ก เดอ ทรียงฟ์ เดอ เลตวล (ฝรั่งเศส: Arc de triomphe de l'Étoile) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ประตูชัยฝรั่งเศส เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล (Place Charles de Gaulle) หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม "จัตุรัสแห่งดวงดาว" (Place de l'Étoile) อยู่ทางทิศตะวันตกของช็องเซลีเซ ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามนโปเลียน และในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามอีกด้วย









ประตูชัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "แกนกลางอันเก่าแก่" (L'Axe historique) ซึ่งเป็นถนนเส้นตรงจากสวนพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ไปยังชานกรุงปารีส ประตูชัยแห่งนี้ออกแบบโดยฌ็อง ชาลแกร็งในปี พ.ศ. 2349 โดยมียุวชนเปลือยชาวฝรั่งเศสกำลังต่อสู้กับทหารเยอรมัน เต็มไปด้วยเคราและใส่เกราะเป็นสัญลักษณ์เพื่อเป็นการปลุกใจ และเป็นอนุสรณ์สถานจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 1








อาร์กเดอทรียงฟ์ มีความสูง 49.5 เมตร (165 ฟุต) กว้าง 45 เมตร (148 ฟุต) และลึก 22 เมตร (72 ฟุต) เป็นประตูชัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน แบบของอาร์กเดอทรียงฟ์นี้ได้แนวความคิดมาจากประตูชัยไตตัส อาร์กเดอทรียงฟ์มีความใหญ่มาก เพราะหลังจากมีการสวนสนามในปรุงปารีสเมื่อปี พ.ศ. 2462 ชาร์ล โกดฟรัว ได้ขับเครื่องบินนีอูปอร์ต (Nieuport) ผ่านกลางอาร์กเดอทรียงฟ์เพื่อเป็นการสดุดีเหล่าทหารอากาศที่ได้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1






เดินลอดอุโมงค์เพื่อไปดูใต้ประตูชัย




ประวัติ

อาร์กเดอทรียงฟ์เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงปารีส ได้ถูกมอบหมายให้สร้างในปี พ.ศ. 2349 หลังจากจักรพรรดินโปเลียนที่ 1ได้รับชัยชนะในยุทธการเอาสเตอร์ลิทซ์ กว่าจะวางรากฐานของการก่อสร้างก็ใช้เวลาเกือบ 2 ปีไปแล้ว และในปี พ.ศ. 2353 เมื่อจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เสด็จกรุงปารีสจากทางทิศตะวันตกพร้อมด้วยเจ้าสาว อาร์คดัชเชสมารี หลุยส์แห่งออสเตรีย อาร์กเดอทรียงฟ์ก็ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ในแบบจำลองเท่านั้นเอง สถาปนิกฌ็อง ชาลแกร็งได้เสียชีวิตลงในปี พ.ศ. 2354 ดังนั้นอูยงจึงได้ดูแลงานนี้ต่อมา ในช่วงราชวงศ์บูร์บงฟื้นฟู การก่อสร้างได้หยุดชะงักลงและไปเสร็จสิ้นในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์-ฟิลิปป์ ในระหว่าง พ.ศ. 2376 - พ.ศ. 2379 โดยสถาปนิกคือกูสต์ ต่อมาคืออูโยต์ ภายใต้การดูแลของหลุยส์-เอเตียน เอรีการ์ เดอ ตูว์รี (Louis-Étienne Héricart de Thury)









เด็กๆนักเรียนที่มาชม





การออกแบบ

ตั้งแต่การล่มสลายของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ในปี พ.ศ. 2358 แล้ว ประตูชัยได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติ ซึ่งได้มีการเฉลิมฉลองกันในปีเดียวกันนั้นด้วย

แบบของประตูชัยนั้น ฌ็อง ชาลแกร็งเป็นผู้ออกแบบ ในรูปแบบศิลปะนีโอคลาสสิก ที่ได้ดัดแปลงมาจากสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ ช่างแกะสลักที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศสนั้นก็ได้มีส่วนร่วมในรูปแกะสลักของอาร์กเดอทรียงฟ์ด้วย เช่น ฌ็อง-ปีแยร์ กอร์โต, ฟร็องซัว รูด, อ็องตวน เอแต็กซ์, เจมส์ ปราดีเย และฟีลิป โฌแซ็ฟ อ็องรี ลาแมร์ รูปแกะสลักที่สำคัญไม่ได้เป็นลวดลายยาวบนกำแพง แต่เป็นรูปแกะสลักลอยตัวที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะติดกับตัวประตูชัย

ที่มา : วิกิพีเดีย






เจอจักรยานให้เช่า จอดล๊อกกุญแจอยู่...นึกถึงอนาคตบ้านเรา




บทส่งท้าย

ทริปการเดินทางไปยุโรปของเราก็เดินทางมาถึงบล๊อกสุดท้ายแล้วครับ เลยขอสรุปการเดินทางคร่าวๆเพื่อประโยชน์ในการเดินทางในครั้งต่อไปของคุณๆครับ

10 วันในยุโรปครั้งนี้ได้อะไรๆมาเผื่อแผ่เพื่อนๆในบล๊อกแก๊งค์มากมาย เราลงเครื่องที่โรม อิตาลี เที่ยวจากโรม ไปฟลอเร็นซ์ ปิซ่า เวนีช มิลาน แล้วเข้าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไปพักที่เมืองอินเทอร์ลาเค่น 2 คืน ขึ้นยอดเขายุงเฟรา แล้วออกจากสวิส ผ่านบาเซิล เข้าฝรั่งเศสที่เมืองสตราสบวร์ก ขึ้นรถไฟ TGV ไปปารีส และเที่ยวในปารีส จนมาถึงบล๊อกนี้ครับ (อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ในบล๊อกครับ)






ที่สนามบินชาร์ล เดอ โกล์





การเดินทางไปท่องเที่ยวไม่ว่าที่ไหนๆ ถ้าอยากสนุก ก็ต้องวางแผนการเดินทางกันให้ดี เช่นอ่านเรื่องราวที่เราจะไปไว้บ้าง เมื่อไปถึงเราจะได้ไม่เสียเวลาในการวางแผนการเที่ยวชมและการถ่ายภาพครับ อีกอย่างเวลาไปไหนๆ ไม่ว่ายุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี จีน หรือที่ต่างๆ พยามใช้เวลาระหว่างการเดินทาง (ส่วนมากบนรถ) ศึกษาสิ่งรอบๆด้านที่ผ่านไป อย่างน้อยก็เป็นประสบการณ์ที่ได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่และภูมิศาสตร์ประเทศนั้นๆ... ส่วนการวางแผนการเดินทาง ควรเลือกเวลาที่เหมาะสม สำคัญที่สุดคือฤดูกาลที่เราอยากสัมผัส การเผื่อเวลาในการติดต่อทั้งบริษัททัวร์และสถานที่ราชการ เช่นการขอวีซ่าเป็นเรื่องจำเป็นมาก.

การเตรียมสกุลเงินที่จะนำไปใช้ในประเทศนั้นๆก็จำเป็นไม่แพ้กัน เพราะอัตราการแลกเปลี่ยนจะผันแปรตลอดเวลา ส่วนการเตรียมเงินตราของแต่ละประเทศก็จำเป็น (เพราะเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนด้วย) เช่นในประเทศสภาพยุโรปเราสามารถใช้เงินยูโรได้ แต่ที่สวิสสแม้จะใช้เงินยูโรได้ก็จริง แต่เขาจะทอนเงินกลับมาให้เราเป็นเงินสวิสฟรังก์ และเวลาแลกคืนเขาจะไม่รับเหรียญเป็นต้น (ผมเขียนไว้ในบล๊อกสวิตเซอร์แลนด์)

เผอิญเราได้เอเจนซีดีๆทุกครั้งที่เราเดินทาง เช่นคราวนี้ก็เจอน้องหญิงที่ sayyawetravel รวมทั้งบริษัททัวร์ที่พาเราไป อย่างเช่นครั้งนี้น้องๆจากยูโรเปียนทัวร์ (D-star tour) ก็พยามจัดสรรเวลาให้เราอย่างดียิ่ง (และลูกทัวร์ก็น่ารัก..ตรงเวลาด้วย) ทำให้เราได้อะไรเพิ่มจากโปรแกรมเดิมอีก

ท้ายสุดจริงๆ ขอบคุณเพื่อนๆนักเดินทางที่เข้ามาอ่าน โวต และกด Like เป็นกำลังใจให้ จขบ. แม้เราจะพยามนำรายละเอียดมาเพื่อแบ่งปันให้ได้มากๆ แต่ด้วยประสบการณ์ในการเขียน พร้อมความจำกัดหลายด้าน ผลที่ออกมาจึงได้เท่าที่เห็น ..... ขอบคุณอีกครั้งครับ






บนการบินไทยเที่ยวบินที่ TG-933







ลาด้วยภาพเรือท่องเที่ยวแม่น้ำแซนข้างวิหารนอทเทอร์ดัม ภาพนี้ครับ






Richard clayderman - Lady di


______________








 

Create Date : 18 มีนาคม 2556
17 comments
Last Update : 20 มีนาคม 2558 21:48:15 น.
Counter : 14420 Pageviews.

 

ถ่ายภาพออกมาได้ชัดดีจังค่ะ ตรงแผ่นโลหะหน้าโบสถ์ เพิ่งเคยทราบ คราวหน้าต้องขอไปเหยียบมั่ง จะได้ได้ไปอีก

 

โดย: Lilac Girl 18 มีนาคม 2556 9:54:31 น.  

 

อยากมีโอกาศดีดี แบบนี้บ้างจัง

 

โดย: kwan_3023 18 มีนาคม 2556 12:22:16 น.  

 

เห็นภาพนักท่องเที่ยว ยืนเข้าคิวชมสถานที่ อยากให้ไทยเป็นแบบนี้บ้างนะ

สถานที่เขาสร้างมีศิลปะจริงด้วย มองดูเรียบสีไม่ฉูดฉาด แต่สวยงาม มีเหลี่ยม
มีมุม มีแหลม ลงตัว

เห็นน้ำในลำคลอง ก็อยากให้คลองแสนแสบเป็นแบบนี้มั่ง 555

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 18 มีนาคม 2556 14:48:03 น.  

 

สวัสดีค่า
ตามมาเที่ยวปารีส
เที่ยวแบบจุใจเลยค่ะ
สวยงาม สมเป็นเมืองแห่งอารยะ ตลอดกาลเลยค่า

 

โดย: AdrenalineRush 18 มีนาคม 2556 22:02:30 น.  

 

ชมภาพและอ่านบรรยายจบ ต้องเซย์ กู๊ดบาย กับทริป ยุโรปทีีตื่นเต้นเร้าใจมากๆ
ตามชมเกือบทุกบล๊อกคร้า เป็นประสบการณ์สุดเยี่ยมที่ให้รางวัลชีวิตที่ดีมากๆ
ขอไลค์วันนี้ไว้ก่อนนะคร้า...หมดโควต้าไปแร๊ะ
บอกตามตรงว่าที่ฝรั่งเศส เราคุ็นชื่อสถานที่ดังๆของฝรั่งเสศทั้งหมด
เพราะได้ชมหนังสารคดีเกี่ยวกับประเทศนี้บ่อยมากที่สุดตอนเรียนค่ะ
ขอบคุณภาพสวย สาระดีๆที่เขียนไว้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

 

โดย: tui/Laksi 18 มีนาคม 2556 22:16:21 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะคุณวิคเซอร์
มาส่งกำลังใจ และส่งความสุขในวันพระวันดีๆให้ด้วยนะค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้า(น)ป่า Food Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog

 

โดย: tui/Laksi 19 มีนาคม 2556 9:16:21 น.  

 

อ่านแล้วเลยได้ทราบว่าสะพานมัฆวานรังสรรค์ และถนนราชดำเนินในบ้านเรา
ได้ต้นแบบมาจากที่นี่ด้วยนะคะ
กำแพงค้ำยันที่กางออกไปคล้ายปีกนกของโบสถ์ Notre Dame ก็น่าสนใจมากค่ะ
คุณวิคเก็บภาพประกอบข้อมูลมาฝากแบบตั้งใจ ขอบคุณนะคะ like ก่อนค่ะ
ขอบคุณสำหรับภาพประตูชัยที่นำไปฝาก
ทำงานอย่างมีความสุขอีกวันนะคะ

 

โดย: Sweet_pills 19 มีนาคม 2556 11:44:29 น.  

 

มหาวิหารน็อทร์-ดาม
อลังการณ์ล้านแปดล้านเก้าค่ะ ขอชมว่าถ่ายภาพมาสวยมาก
เหมือนๆว่าจะยื่นมือเข้าไปสัมผัสได้เลย
เคยไปเห็นประตูชัยที่เวียงจันทน์ไกด์บอกว่าได้ต้นแบบมาจากปารีส
แต่ดูจากบล็อกคุณวิสแล้ว ประตูชัยต้นแบบสวยกว่าเยอะนะคะ

แวะมาชมและ like ให้ก่อนค่ะ


 

โดย: ฝากเธอ2 19 มีนาคม 2556 12:54:42 น.  

 

แวะมาโหวตให้ค่ะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Travel Blog ดู Blog

 

โดย: ฝากเธอ 19 มีนาคม 2556 17:26:03 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Photo Blog ดู Blog



แวะมาทักทายคุณWICค่ะ
หลับฝันดีนะคะ ^_^

 

โดย: andrex09 19 มีนาคม 2556 23:30:13 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณวิก

งดงามจริงๆเลยนะคะ สถาปัตยกรรมบ้านเมืองเค้าเนี่ย อลังการมากๆ ค่ะ
อยากไปยืนเงยหน้ามองอยู่ตรงนั้นจัง

ขอบคุณที่นำเที่ยว เก็บบรรยากาศสวยๆมาฝากนะคะ

 

โดย: Nongpurch 20 มีนาคม 2556 12:44:24 น.  

 

ภาพสวยงามทุกภาพโดยเฉพาะนางเอกสวยหุ่นดี ให้ข้อมูลรายละเอียดดีมาก ทำให้อยากไป

เที่ยวบ้าง กดไล้ค์และโหวตให้ค่ะ

wicsir Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: พรไม้หอม 21 มีนาคม 2556 10:51:01 น.  

 

ขอบคุณที่แวะทักทายและชมบล็อกนะคะ
นอนหลับฝันดีค่ะ


 

โดย: ฝากเธอ2 21 มีนาคม 2556 20:10:15 น.  

 

ต้อนรับกลับบ้านค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 22 มีนาคม 2556 12:27:31 น.  

 



แวะมาทักทายคุณWICค่ะ
หลับฝันดีนะคะ ^_^

 

โดย: andrex09 22 มีนาคม 2556 22:03:21 น.  

 

อิตาลีมีแหล่งท่องเที่ยวเยอะจริงๆค่ะ
หนึ่งว่าไปกี่ครั้งก็น่าจะเที่ยวได้เรื่อยๆนะคะ

สุขสันต์วันสุดสัปดาห์นะคะ

 

โดย: AdrenalineRush 22 มีนาคม 2556 22:32:48 น.  

 


แวะมากด Like ให้เป็นคนที่ 8
อลังการงานสร้าง คุ้มค่ากับการมาแวะชมภาพ
ภาพงาม ได้เหมือนกับไปเห็นด้วยตาเลยค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 24 มีนาคม 2556 20:43:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
18 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.