....OUR FAMILY'S JOURNEY....
+ เที่ยว..เบอร์เกน รถไฟสายโรแมนติก และล่องเรือชมฟยอร์ด ที่..นอรเวย์ +



 
เป็นอีกบล๊อกที่จะพาเที่ยวสแกนดิเนเวียครับ ... ความเดิมในบล๊อกที่แล้ว เราเดินทางจาก โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก ด้วยเรือสำราญ DFDS ผ่านทะเลเหนือมุ่งขึ้นเหนือไปที่เมือง Oslo เมืองหลวงของประเทศนอรเวย์ แล้วไปชมสวนฟร๊อกเนอร์ (Frogner Park) ซึ่งเป็นที่แสดงผลงานการปั้นของประติมากรชื่อดังของนอรเวย์ .... ซึ่งมีการแกะสลักภาพมนุษย์ที่เปลือยเปล่าจากหินแกรนิต  โดยผลงานชิ้นเอกเป็นเสากลางอุทยานซึ่งมีควมสูงถึง 14.12 เมตร ชื่อ Monolith รอบเสาแกะสลักเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ ลักษณะของเสาโมโนลิท เป็นรูปคนจำนวนมากมาย (121 คน) กำลังปีนป่ายกันอยู่บนเสาเพื่อขึ้นสู่ท้องฟ้า ใช้เวลาสร้างรวม 22 ปี จากหินแกรนิตเพียงแท่งเดียว และยังมีรูปหล่อสำริด ชื่อ Angry Littleboy อันโด่งดัง จากนั้นก็ไปทานมื้อเที่ยงกันที่ร้าน Hard Rock ใจกลางกรุงออสโล ก่อนออกเดินทางไปเมืองเบอร์เกน ทางฝั่งทะเลนอร์เวย์เจียน (Norwaygian Sea) ซึ่งอยู่คนละฝั่งบนคาบสมุทรนอรเวย์โดยเครื่องบิน

วันนี้จะพาท่านชมเมืองเมืองเบอร์เกนในยามราตรี ต่อด้วยการเดินทางบนรถไฟไปเมืองฟล๊อม (Flam) แล้วต่อด้วยการล่องเรือชมฟยอร์ดครับ



ที่สนามบินเบอร์เกน

 
 
บ่ายเราออกเดินทางไปสนามบินนานาชาติออสโล หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สนามบินออสโล การ์เดอร์มอน ตามชื่อที่ตั้งของสนามบิน ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติหลักของกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ และมีผู้โดยสารใช้บริการหนาแน่นเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มประเทศนอร์ดิก โดยสนามบินนี้เป็นสนามบินใหม่ที่เปิดขึ้นมาทดแทนสนามบินเดิมที่ปิดให้บริการไปในปี พ.ศ. 2541 และกลายเป็นสนามบินนานาชาติเพียงแห่งเดียวของออสโลในปัจจุบัน 

สนามบินออสโล การ์เดอร์มอน ตั้งอยู่ในเขตการ์เดอร์มอน เมืองยูลเลนแซเกอร์ ประเทศนอร์เวย์ ห่างจากตัวเมืองออสโลไปทางเหนือประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที.  สนามบินค่อนข้างใหญ่ และในนั้นถ้าเป็นการบินในประเทศ เขาจะใช้ระบบ Self service ซะเป็นส่วนมาก...คือเข้าไปแล้วไปเช็คสายการบินเราจะเข้าเช็คอินที่ช่องไหน แล้วไปพิมพ์ตั๋วโดยสารและใบติดกระเป๋าเอาครับ เวลาไปเข้าสายพานชั่งจะมีตัวสแกนบาร์โค๊ดพร้อมเช็คกระเป๋าที่จะเข้าสายพานว่าน้ำหนักกระเป๋าอยู่ในพิกัดไหม? (อันนี้ต้องเผื่อให้ดีๆ Norwegian Air Shuttle โดยหลักแล้วเขาให้ 20 กก. สำหรับ low fare) แต่ถ้ามีอะไรไม่แน่ใจควรเช็คกับเจ้าหน้าที่ๆอยู่บริเวณนั้นครับ ... เราได้เที่ยวบินที่จะไปเบอร์เกนเป็นไฟลท์ DY 618 ซึ่งออกจากสนามบินออสโล การ์เดอร์มอน เวลา 15.40 น. และถึงสนามบินเมืองเบอร์เกนเวลา 16.45 น. ซึ่งก็มืดตั้งแต่ออกบินแล้วล่ะครับ





วิวเบอร์เกนในยามค่ำคืน

ถึงสนามบินเมืองเบอร์เกนแล้ว รถมารับเราไปชมเมืองเบอร์เกนในยามค่ำคืนบน Mt. Floyen ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 320 เมตร โดยการนั่งรถราง (Fløibanen funicular) ขึ้นไป (ค่าโดยสารคนละ 45 NOK สำหรับเที่ยวเดียว ถ้าไปกลับก็ 90 NOK) .. เสียดายว่าเป็นหน้าหนาวซึ่งมืดเร็ว ตอนขึ้นไปบน




ภาพเมืองเบอร์เกนจาก Cr. wikipedia.

 
เมืองเบอร์เกน หรือ แบร์เกน เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของนอรเวย์ มีประชากร 307,800 (7 มกราคม 2563)  เบอร์เกนตั้งอยู่ในและเป็นศูนย์การปกครองของเทศมณฑล Hordaland บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของนอรเวย์ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของภูมิภาค โดยถือกันอย่างไม่เป็นทางการว่าเป็นเมืองหลวงของนอร์เวย์ตะวันตก และบางครั้งถูกเรียกเป็นเมืองหลวงฝั่งแอตแลนติกของนอรเวย์ แบร์เกนเป็นหนึ่งในเก้าเมืองที่ถูกยกย่องให้เป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรปในปีสหัสวรรษ



เบอร์เกนในยามค่ำคืน


Bergen นั้นเป็นเมืองท่าโบราณ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ เป็นเมืองที่มีความสวยงามของอาคารต่างๆ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีตั้งเเต่สมัยศตวรรษที่ 18 โดยทั้งหมดจะเป็นบ้านไม้ที่มีความสวยงามอย่างมาก โดยได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองเเห่งเจ็ดขุนเขาของนอรเวย์ เพราะด้วยที่ตั้งที่รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงที่มีความงดงาม เเละมีเส้นทางเดินป่า เเละเล่นสกีมากมายในฤดูหนาว

 


ย่านเมืองมรดกโลก Bryggen ตรงข้ามท่าเรเรือฮันเซียติก ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่


ในเมือง Bergen นั้นก็มีทั้งในส่วนของท่าเรือฮันเซียติก ซึ่งเป็นท่าเรือโบราณที่มีความสวยงามเเละได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้คุณได้เห็นถึงบรรยากาศในวันเก่าๆ ของเบอร์เกน โดยบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์มากมายหลายเเห่งด้วยกันทั้งในส่วนของ พิพิธภัณฑ์บรีกเก็น ที่จะเป็นเเหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของเมืองเเห่งนี้ ส่วนที่พิพิธภัณฑ์ฮันเซียติก ก็จะนำเสนอบรรยากาศเก่าๆ ของท่าเรือที่มีมนต์เสน่ห์มากอีกเเห่งของยุโรปเหนือ ส่วนความสวยงามของ ทะเลสาบ Lille Lungegardsvannet ก็เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะไม่พลาดมาเที่ยวชมกัน โดยมี พิพิธภัณฑ์ศิลปะเบอร์เกน ที่รวบรวมงานศิลปะไว้อย่างมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน รวมทั้งที่ศูนย์ศิลปะร่วมสมัยเบอร์เกน ก็น่าสนใจไม่เเพ้กัน เเละที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ก็จะทำให้คุณมาพบกับทั้ง เพนกวิน เเมวน้ำ เเละสิงโตทะเล อีกด้วย เเละการมาเดินเที่ยวชมความคึกคักของ ตลาดปลา Torget ก็ถือว่าเป็นอีกมนต์เสน่ห์ของเมืองที่ไม่ควรพลาด
 




อาคารไม้ 61 หลังหลากสีที่เห็นเรียงรายกันอยู่นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO แล้ว





จากด้านหน้าตึก เราเดินเข้าไปด้านในจะเห็นบ้านไม้เก่าๆที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี บางบ้านยังมีคนอาศัยอยู่ด้วย



มุมซ้ายของภาพเป็นตลาดปลา Torget

 

จากอาคารไม้มรดกโลกที่ย่านเมืองเก่า Bryggen เราไปทานมื้อค่ำกันที่ร้านอาหารไทยในเบอร์เกน ก่อนจะเดินทางกลับมาพักที่โรงแรม Radisson blue royal hotel bergen ซึ่งอยู่บริเวณเมืองเก่านั้นเอง .... วันนี้อากาศยังเย็นเกือบๆ 0 องศา เราพักเอาแรงเพื่อลุยต่อในวันรุ่งขึ้น.


12121212


แผนที่การเดินทางจาก Bergen ไป Voss ระยะทาง 103 กม. ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง

 

ตื่นเช้าเราเดินทางโดยรถยนต์ไปที่สถานีรถไฟ Voss ซึ่งห่างจาก Bergen ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เส้นทางผ่านไปตามภูเขาสูงสู่เมืองวอสส์. .... วันนี้เรามีนัดที่ขึ้นรถไฟจากสถานี Voss ไป Myrdal เพื่อนั่งรถไฟสาย Romantic FLAMBANA ไปเมืองฟล๊อม (Flam) เพื่อลงเรือชมฟยอร์ดจากที่นั่นครับ ... มาถึงวอสส์แล้วมารู้จักเมืองนี้หน่อบปะไร.

Voss (วอสส์) เป็นเมืองไม่ใหญ่มาก แต่ขึ้นชื่อเรื่องเป็นหมู่บ้านแห่งการกีฬา หรือ Extremely sport village ของนอรเวย์ เพราะตั้งอยู่ในหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยเขาสูงและทะเลสาบ อากาศก็ดี คือหน้าร้อนจะอบอุ่นกว่าทางเบอร์เกน ส่วนหน้าหนาวก็มีหิมะตกมาก จึงเหมาะที่เล่นกีฬาเช่น Skydiving, พายเรือ ในหน้าซัมเมอร์ และเล่นสกีในหน้าหนาว...นอกจากนั้นวอสส์ยังตั้งอยู่ระหว่าง Fjord ที่ขึ้นชื่อของนอรเวย์ คือ Sogn และ Hardanger Fjord. และเป็นฮับ (Hub) ของการเดินทางระหว่างเหนือ กับ ใต้, เบอร์เกน กับ ออสโล ด้วย.

ใกล้ๆสถานีรถไฟ เมืองวอส (Voss) มีความสำคัญสำหรับชาวไทย ด้วยเคยเป็นเมืองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาส ทั้งยังเคยประทับแรม ณ
Fleischer’s Hotel หลักฐานการเสด็จพระราชดำเนินมาที่นี่ ยังมีอยู่เป็นลายพระหัตถ์ลงพระนามผู้เข้าพัก ติดอยู่บนผนังที่โถงทางเดินในโรงแรมด้วย.



 Fleischer’s Hotel อยู่ห่างจากสถานีรถไฟวอสส์ประมาณ 100 เมตร ด้านหน้าโรงแรมก็เป็นทะเลสาบ Vangsvatnet 



หน้า Fleischer’s Hotel




ประมาณ 9 โมงเช้าที่เมืองวอสส์




เมืองวอสส์ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Vangsvatnet ซึ่งมีพื้นที่ 7.69 ตารางกิโลเมตร



สถานีรถไฟ Voss

วันนี้เราจองตั๋วรถไฟไว้เวลา 09.00 น. เพื่อเดินทางไปสถานี Myrdal เรามาถึงวอสส์ก่อนเวลาเล็กน้อยจึงมีโอกาสเดินเก็บภาพหน้าโรงแรม Fleischer และริมทะเลสาบท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น ... สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนที่อื่นของสถานีรถไฟที่นี่คือ ห้องน้ำต้องเสียเงินเหมือนว่าจะแพงมากเสียด้วยคือประมาณ 50 บาทบ้านเราเลย โดยต้องใช้บัตรเครดิตเสียบแล้วค่อยเปิด...ที่นอรเวย์ห้องน้ำสาธรณะที่ไม่เสียตังค์หายากครับ ฉะนั้นเมื่อมีโอกาศ เช่นที่ร้านอาหาร บนรถไฟ จงใช้ประโยชน์จากที่นั้นๆให้เรียบร้อยครับ ... ที่สถานีรถไฟวอสส์เราจะเห็นกระเช้า หรือ cable car ของ Voss Godol ขึ้นสู่ยอดเขาสูง (ซึ่งเป็นเทคโนโลยี่ของนอรเวย์เอง) สำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมเมืองและทะเลสาบ เสียดายเรามีเวลาน้อยไป.

 



การขึ้นรถไฟก็เหมือนในญี่ปุ่น มีเลขที่คันรถ (โบกี้) ที่นั่ง เราจึงควรขึ้นให้ตรงตามนั้น แต่ชานชลายังไม่ทันสมัยเท่าญี่ปุ่น (ญี่ปุ่นจะบอกเลยนะว่าโบกี้เมื่อเข้าชานชลาจะจอดอยู่ประมาณไหน..) แต่ก็ไม่ยุ่งยากมากเพราะคนไม่มากมายเท่าไหร่ ... ที่สถานีวอสส์เราได้โบกี้ที่ 8 เป็นรถไฟสายสีแดงเดินรถระหว่างเบอร์เกน - ออสโล จาก Voss เราจะขึ้นเขาสูงไปเรื่อยๆ ระหว่าทางจะเห็นบ้านเรือนผู้คนบางตา มีแต่หิมะที่ปกคลุมเขาขาวโพลน ทะเลสาบและแม่น้ำที่ทางรถไฟผ่านไปส่วนมากจะกลายเป็นน้ำแข็งเกือบทั้งหมด รถไฟผ่านเขาและเข้าอุโมงค์เป็นบางช่วงวิวแม้จะเป็นหน้าหนาวยังสวยงาม นี่ถ้าเป็นหน้าร้อนคงสวยงามมากๆ จนถึงสถานี (Myrdal) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 นาที และต้องลงเปลี่ยนเป็นขบวนรถท้องถิ่น หรือ สายโรแมนติก ที่ว่ากันว่าเป็นรถไฟสายที่สวยที่สุดในยุโรปเหนือด้วย

 

สถานรถไฟ Myrdal ที่ความสูง 866 เมตรจากระดับน้ำทะเล (ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย)


สถานีรถไฟ Myrdal ตั้งอยู่บนที่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 866 เมตร จากสถานีนี้เราจะเปลี่ยนเป็นขบวนท้องถิ่น Flambana train ซึ่งจะพาแล่นลงเขาไปเรื่อยในอัตราความชัน 1: 18 ระยะทาง 20.2 กม. ผ่าน 10 สถานี 20 อุโมงค์ และ สะพาน 1 แห่ง และจอดให้เราถ่ายภาพที่น้ำตก 5 นาที ซึ่งวันนี้น้ำตกกลายเป็นน้ำแข็งซะแล้ว ปลายทางของรถไฟสายโรแมนติก Flambana Train จะอยู่ที่สถานี Flam (ฟล๊อม) ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมต่อกับการล่องเรือชมฟยอร์ด Sogne พอดี (ตรงที่เราจะล่องเรือนั้นเป็นช่วงเสี้ยวหนึ่งของฟยอร์ด Sogne เท่านั้น).

ทางรถไฟเส้นนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 1924 (ที่สถานี Flam ท่านสามารถเข้าไปชมประวัติ การก่อสร้างได้) และเปิดเมื่อปี 1941 ใช้งานเต็มรูปแบบก็ปี 1944  ซึ่งเป็นการเชื่อมเส้นทางให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อจาก Gudvangen ผ่าน Sogne Fjord สู่ Flam และทางรถไฟสายนี้เชื่อมเข้ากับรถไฟสายหลัก เบอร์เกน-ออสโล ที่สถานี Myrdal.

 


Myrdal Station, Norway.

เส้นทางจาก Voss - Myrdal - Flam



Myrdal Station, Norway




เปลี่ยนเป็นขึ้นสาย Flambana สีเขียวกัน



ในรถไฟมีภาษาไทยด้วย.



ด้านในรถไฟ


ปกติน้ำตกจะมาช่องที่เป็นทางน้ำเว้าๆขวามือครับ





น้ำตก Kjosfossen ที่กลายเป็นน้ำแข็งแล้ว



Kjosfossen Waterfall ในหน้าร้อน (ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย)

Kjosfossen Waterfall เป็นอีกหนึ่งที่ที่นักท่องเที่ยวชอบมาชม ... น้ำตก Kjosfossen อยู่ห่างจากสถานี Myrdal ประมาณ 1.5 กม. ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสถานี น้ำตกนี้ยาวทั้งหมดประมาณ 225 เมตร (738 ฟุต) ซึ่งบนนั้นมีสถานีไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กไว้ปั่นไฟเพื่อใช้เดินรถไฟสาย Flambana Train ด้วย (แต่หน้าหนาวแบบนี้คงต้องหาไฟมาจากที่อื่น?) ... ในหน้าร้อนจะมีนักแสดงแต่งตัวเป็น  Huldra (ถ้าบ้านเราก็คงเรียกว่านางไม้ ประมาณนั้น ... ซึ่ง Huldra ก็เป็นเรื่องเล่าหรือนิทานพื้นบ้านของชาวสแกนดิเนเวีย ) ออกมาร่ายรำและร้องเพลง เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มากับรถไฟและแวะชมน้ำตกได้ชมกัน (อยู่ในภาพบนคือสาวแต่งชุดแดงๆทางขวามือ)



รถลงจากเขาเข้าสู่พื้นราบที่จะต่อเข้ากับ Fjord Sogne ... ที่เห็นในภาพคือ Flam's Church.



สถานีรถไฟฟล๊อม
 
Flam เป็นหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศนอรเวย์ อยู่ที่ปลายสุดของ Aurlandsfjord ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของ Sognefjord ในเขต Song ในเทศบาล Aurland ... เมื่อปี 2014 มีประชากรเพียง 305 คนเท่านั้น แต่เมืองเล็กๆแห่งนี้ ปีๆหนึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 450,000 คน ซึ่งส่วนมากเข้ามาทางทางรถไฟสายโรแมนติก Flambana จากสถานี Myrdal ที่ว่าเป็นทางรถไฟสายที่ชันที่สุดในโลก (อันนี้ไม่รวมพวกรถไฟฟันเฟืองนะครับ) คือชันในอัตรา 1:18 ซึ่งแล่นวนลงเขาลักษณะคดโค้งเป็นเกลียวในระยะทาง 20.2 กม. ในเวลาประมาณ 50 นาที) 

ตรงสถานีรถไฟ ฟล๊อม มีท่าเรือที่เชื่อต่อกับฟยอร์ด เพื่อล่องไปในจุดต่างๆ ซึ่งวันนี้เรามีโปรแกรมล่องไปขึ้นที่ Gudvangen ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ... ในบริเวณรอบๆสถานีรถไฟมี Museum (ที่ให้ชมฟรี ซึ่งในนั้นมีเรื่องราวการสร้างทางรถไฟสาย Myrdal-Flam อุปกรณ์ที่ใช้ วิศวกรที่ก่อสร้าง และอีกหลายอย่างให้ศึกษา)  ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ตลอดจน Factory Outlet ให้ใช้สะตังค์กันด้วยครับ วันนี้เราทานมื้อเที่ยงกันที่นี่ เตรียมพร้อมก่อนลงเรือชมฟยอร์ด ... ปกติในหน้าร้อนจะมีเรือออกทุกๆชั่วโมง แต่เรามาเป็นหน้าหนาวจึงมีเรือแค่วันละ 2 เที่ยว คือ 9.00 น. กับ 15.00 น. เราจึงมีเวลาเดินเล่นนานกว่า 2 ชั่วโมง กว่าเรือจะออกจากท่าครับ.


 


พิพิธภัณฑ์รถไฟฟล๊อม เข้าชมได้ฟรี..มีที่ขายของที่ระลึกในนั้นด้วย



ภายในพิพิธภัณฑ์



เป็นช่วงเทศกาล เลยมีตกแต่งที่สถานี



มีรถไฟเก่าๆจอดไว้ให้ชม

 

วันนี้เราขึ้นเรือเพื่อชมฟยอร์ดก็เกือบมืดแล้วทั้งๆที่เพิ่งจะบ่าย 3 โมง ซึ่งใน 2 ชั่วโมงที่เรือแล่นไป Gudvangen ก็ขะมุกขะมัวเต็มแก่ จึงถ่ายภาพค่อนข้างยากครับ ... วันนี้เราล่องไปกับ Naeroyfjord ท่ามกลางเขาสูงกว่า 1800 เมตร น้ำตกมากมาย เขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดเส้นทาง ซึ่งในเวลาปกติที่ล่อเรือเขาก็จะจอดให้ชมหมู่บ้านต่างๆที่เรือผ่าน ซึ่งนั่นก็คือต้องมีคนซื้อตั๋วเข้าไปชมหรือลงชมในจุดนั้นๆด้วย (แต่ไม่ใช่แบบ hop-on, hop off) แต่วันนี้, ในเที่ยวที่เราล่อง, ไม่มีใครจองตั๋วที่ว่านั้นไว้ เรือเลยแล่นผ่านไปเรื่อยๆ ราคาค่าโดยสารทั่วไปคนละ 405 NOK (จากเวป). .... เรือที่เขาใช้ล่องชมฟยอร์ดที่ท่า Flam จะมีด้วยกัน 2 แบบคือเรือเฟอรรี่แบบเก่า และเรือแบบ Hybrid Vessel ซึ่งเราได้แบบหลังและทันสมัยกว่า แน่ล่ะราคาก็แพงกว่า เนื่องจากรอบๆตัวเรือมีที่ชมวิว มีอาหารพวก sanwich และเครื่องดื่มขายด้วย (ไม่อนุญาติให้นำอาหารมาเองนะครับ) ... ซองฟอยร์ด ที่เราล่องเรือชมนี้ทาง UNESSCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติไว้แล้วครับ.


 

เราล่องเรือชมฟยอรด ด้วยเรือแบบนี้ (ขอบคุณภาพจากเวป)

Fjord (ฟยอร์ด) .... เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็ง และในบริเวณชายฝั่งทะเลซึ่งถูกน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่งมีลักษณะแคบและยาว เว้าลึกเข้าไปในฝั่งระหว่างแผ่นดินสูงชันหรือระหว่างหน้าผาสูงชันตามเชิงเขา 
ฟยอร์ดสามารถพบได้หลายที่ในบริเวณชายฝั่งเช่น อะแลสกา, บริติชโคลัมเบีย, ชิลี, กรีนแลนด์, ไอซ์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, สก็อตแลนด์, แลบราดอร์, นูนาวุต, นิวฟันด์แลนด์รวมถึงรัฐวอชิงตัน

ฟยอร์ดสามารถพบได้มากในบริเวณชายฝั่งของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งมีความยาวประมาณ 29,000 กิโลเมตร (18,000 ไมล์) และมีฟยอร์ดกว่า 1,190 แห่ง แต่มีพื้นที่ชายฝั่งประมาณ 2,500 กิโลเมตร (1,600 ไมล์) เท่านั้นที่ไม่มีฟยอร์ด



เรือที่จะใช้ล่องใน Sogne Fjord จาก Flam - Gudvangen
เรือใช้เวลาล่อง 2 ชั่วโมง แต่ทางรถยนต์จาก Flam - Gudvangen ใช้เวลา 20 นาทีเท่านั้น ... ขาจรทั่วไปจะ shuttle bus มาส่งที่ต้นทาง



เส้นทางล่องเรือชมฟยอร์ดจากฟล๊อม - กู๊ดวานเกน



ในเรือมีที่นั่งทานอาหาร กาแฟด้วย แต่ห้ามนำจากข้างนอกลงไป






วันนี้เราเดินทางมาหลายทางทั้งวันในนอรเวย์ ทั้งทางรถยนต์จากเบอร์เกนมาที่วอสส์ และจากวอสส์ก็ขึ้นรถไฟสายสีแดง (เบอร์เกน-ออสโล) ไปลงที่สถานี Myrdal ก่อนขึ้นรถไฟสายโรแมนติก Flambana ลงไปสู่ ฟล๊อมที่ด้านล่าง ก่อนล่องเรือชมฟยอร์ดจากฟล๊อมไปกู๊ดวานเกน เพื่อนั่งรถไฟพักที่สกีรีสอร์ทที่เมือ่ง Geilo ... เราขึ้นเรือก็มืดมากมาก ภาพที่ท่าเรือ Gudvangen ก็ไม่ดีมาก เลยไม่ได้เอามาลงให้ชม .... เอาไว้ไปชมบรรยากาศแบบหิมะๆ หนาๆที่สกีรีสอร์ในบล๊อกหน้าละกันครับ ... สำหรับบล๊อกนี้ขอบคุณที่ตามอ่านครับ.
 


ลาด้วยภาพนี้ครับ

 







Create Date : 13 มกราคม 2563
Last Update : 18 มกราคม 2563 7:46:05 น. 8 comments
Counter : 3272 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณsettembre, คุณSai Eeuu, คุณเริงฤดีนะ, คุณKavanich96


 
ว๊าวววววววววววววววววว
สุดยอด


โดย: อุ้มสี วันที่: 13 มกราคม 2563 เวลา:12:12:39 น.  

 
สวยมากค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 13 มกราคม 2563 เวลา:15:01:03 น.  

 
ภาพเปิดตัว สวยมากค่ะ

เดี่ยวต้องจดสถานที่ไว้ไปเที่ยวบ้างค่ะ เล็งจะไปหลายรอบแล้ว


โดย: Sai Eeuu วันที่: 13 มกราคม 2563 เวลา:22:22:28 น.  

 
ฟยอร์จ เคยเล่าเรียนมา
ตื่นเต้นๆที่ได้เห็นกับสายตาในบล็อกนี้ด้วย
พี่ๆแข็งแรงกันทีเดียวในการท่องเที่ยวดินแดนใกล้ขั่วโลก

Kjosfossen Waterfall ตกเป็นน้ำแข็งด้วย
So amazing จริงๆค่ะ

อ่านไปหนาวไปค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 15 มกราคม 2563 เวลา:10:57:49 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 17 มกราคม 2563 เวลา:1:05:06 น.  

 
เมืองที่ท่าเรือ สวย... เลื่อนภาพมาดูข้างล่างอีก ยิ่งสวยน่าไปเที่ยวมาก ๆ ครับแต่
คงต้องเก็บตังค์หน่อย 555 วันนี้หมดเป๋าครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 17 มกราคม 2563 เวลา:16:38:08 น.  

 
ตามมาเที่ยวค่ะ .. ใฝ่ฝัน ๆ ๆ ...


โดย: poongie วันที่: 18 มกราคม 2563 เวลา:12:20:57 น.  

 
เยี่ยมมากๆค่ะ อ่านเพลิน


โดย: Pool IP: 1.47.136.65 วันที่: 22 มีนาคม 2567 เวลา:11:48:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2563
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 มกราคม 2563
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.