....OUR FAMILY'S JOURNEY....
+ สีสันช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น 7 ... วัดคินคะคูจิ (วัดทอง) +









อัพบล๊อกวันนี้ เรายังอยู่ที่เมืองเกียวโต ประเทศี่ปุ่นเพื่อชมใบไม้แดงต่อนะครับ หลังจากบล๊อกที่แล้วเราไปชมใบไม้แดงที่วัดคิโยมิสึ-เถระ มาแล้ว และวันนี้จะพาไปชมใบไม้แดงต่อที่วัดทอง หรือตำหนักทอง หรือ วัดคินคาคุจิ (Kinkakuji Temple) ซึ่งในทุกๆฤดู วัดนี้ก็เป็นที่นิยมมาชมของนักท่องเที่ยวมากมายเสมอครับ ... เรามาถึงวัดทองเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ซึ่งในฤดูหนาวแบบนี้อากาศสบายๆครับ 10 กว่าองศา 



เข้าสู่บริเวณวัดคินคาคุจิ


จอดรถเสร็จก็เดินข้ามถนนเข้าประตูวัดไปเพื่อซื้อบัตรเขาชมในตัวตำหนักทอง คนละ 400 เยน .... ในช่วงปลายพฤศจิกายนแบบนี้ที่นี่เต็มไปด้วยใบเมเปิ้ลสีแดงตระการตาไปหมด แค่ในสวนส่่วนแรกที่เราผ่าเข้าไปก็เพลินกับการถ่ายภาพเสียแล้ว










เข้าสู่ส่วนที่เป็นวัดก่อน


ตัววัดคินคาคุจิที่อยู่ติดตำหนักทอง



ตำหนักทอง หรือชอบเรียกว่าตำหนักทองเป็นอาคารสูง 3 ชั้น 2 ชั้นด้านบนฉาบด้วยสีทอง ... ซึ่งแต่ละชั้นมีโครงสร้างทางสถาปัตย์ต่างกัน



คินคะคุจิ (วัดทอง)

คินคะคุจิ (金閣寺, วัดทอง) เป็นวัดในนิกายเซน ตั้งอยู่ทางเหนือของเกียวโต (Kyoto) ที่มีชั้นบนสุดของตัวอาคารตกแต่งด้วยทองคำเปลวสุกอร่ามตา แต่เดิมนั้น วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักในชื่อโรคุออนจิ (Rokuonji) โดยเป็นบ้านพักสำหรับบั้นปลายชีวิตของโชกุนอะชิคางะ โยชิมิทสึ (Ashikaga Yoshimitsu) และตามเจตน์จำนงค์ของท่าน ได้อุทิศให้กับนิกายเซนลัทธิรินไซ (Rinzai sect) ภายหลังจากที่ท่านสิ้นอายุขัยในปี 1408 คินคะคุจิเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างวัดกินคะคุจิ (Ginkakuji) หรือวัดเงิน ซึ่งก่อสร้างโดยหลานของโยชิมิทสึ นั่นคือโชกุนอะชิคางะ โยชิมาสะ (Ashikaga Yoshimasa) ในอีกสองสามทศวรรษถัดมา โดยตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเมือง






คินคะคุจิเป็นอาคารที่งดงามสร้างขึ้นโดยให้หันหน้าไปทางสระน้ำขนาดใหญ่ และเป็นอาคารเพียงหลังเดียวที่เหลืออยู่ในหมู่อาคารที่โยชิมิทสึใช้เป็นบ้านพักในบั้นปลายชีวิต อาคารแห่งนี้ถูกเผาทำลายหลายต่อหลายครั้งในประวัติศาสตร์ รวมถึงสองครั้งในช่วงสงครามกลางเมืองโอนิน (Onin War) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายให้กับเมืองเกียวโตอย่างมาก นอกจากนี้ในปี 1950 วัดทองยังถูกเผาอีกครั้งโดยพระคลั่งศาสนารูปหนึ่ง อาคารในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในปี 1955



ตัวอาคารวัดทอง หรือ Golden Pavilion


คินคะคุจิสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงความหรูหราของวัฒนธรรมคิตายาม่า (Kitayama) ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูงที่มั่งคั่งของเกียวโตในสมัยของโยชิมิทสึ ในแต่ละชั้นของอาคารสร้างขึ้นโดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมที่ต่างกัน

โดยในชั้นแรกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบชินเด็น (Shinden) ซึ่งใช้สำหรับการก่อสร้างอาคารของราชวังในสมัยเฮอัน (Heian Period) โดยเสาไม้ธรรมชาติและกำแพงปูนปลาสเตอร์สีขาวของชั้นล่างนี้ ช่วยขับให้ชั้นบนของอาคารซึ่งเป็นสีทองดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ภายในตัวอาคารชั้นหนึ่งประดิษฐานรูปปั้นพระศากยมุนี (Shaka Buddha) หรือพระพุทธเจ้าผู้ก่อตั้งศาสนาพุทธตามประวัติศาสตร์ และรูปปั้นของโชกุนอะชิคางะ โยชิมิทสึ อย่างไรก็ตาม อาคารนี้ไม่เปิดให้คนนอกเข้าชม แต่คุณยังคงสามารถมองเห็นรูปปั้นทั้งสองได้จากมุมสระน้ำฝั่งตรงข้าม หากพยายามมองเพ่งเข้าไป เนื่องจากหน้าต่างด้านหน้าของชั้นล่างมักจะถูกเปิดเอาไว้เสมอ

ชั้นที่สองของอาคารสร้างขึ้นโดยใช้แนวสถาปัตยกรรมบัคเค (Bukke) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ใช้ในการสร้างที่อยู่อาศัยของซามูไร และภายนอกได้รับการตกแต่งโดยการปิดแผ่นทองคำเปลวจนเป็นสีทองสุกอร่ามทั่วชั้นอาคาร ภายในชั้นสองจะประดิษฐานรูปปั้นพระโพธิสัตว์คันนอน หรือพระแม่กวนอิมปางประทับนั่ง รายล้อมด้วยรูปปั้นของท้าวจตุมหาราช (Four Heavenly Kings) ทั้งสี่พระองค์ อย่างไรก็ตาม รูปปั้นเหล่านี้ไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมสักการะ 

ชั้นที่สามซึ่งเป็นชั้นสูงสุด ใช้สถาปัตยกรรมแบบนิกายเซนของจีน (Chinese Zen Hall) และปิดทองทั้งภายนอกและภายใน ส่วนบนยอดอาคารมีรูปปั้นหงส์ (phoenix) ทองคำยืนอยู่



สระเคียวโคะจิ หรือสระกระจก


The Golden Pavilion ที่สะท้อนในสระเคียวโคะจิ 

สระเคียวโคะจิ หรือสระกระจก






มีตำนานเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องอิกคิวซัง ที่วัดนี้ ว่าวัดนี้เคยเป็นที่พำนักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ (Shogun Ashikaga Yoshimitsu)
ผู้ที่ชอบทายปุจฉา – วิสัชนา กับอิกคิวซังในการ์ตูนเรื่องอิคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา ก็จำลองเรื่องราวเหตุการณ์ของศาลาทองในวัดนี้ให้เป็นปราสาทของท่านโชกุน (โชกุนอาชิกางะ โยชิมิสึ ( Ashikaga Yoshimistsu ) 
















เดินอ้อมด้านหลังอาคารไปสู่สวน








หลังจากที่ได้ชมคินคะคุจิจากฝั่งสระน้ำแล้ว ผู้มาเยือนจะเดินทางผ่านอดีตที่พำนักของเจ้าอาวาส (โฮโจ) ซึ่งมีชื่อเสียงจากประตูเลื่อนหรือฟุซูมะ (Fusuma) ที่วาดเป็นลวดลายอย่างงดงาม อย่างไรก็ตาม อาคารแห่งนี้ไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชม จากนั้นเส้นทางจะนำคุณผ่านคินคะคุจิจากด้านหลัง ซึ่งจะออกไปสู่สวนของวัดที่ยังคงรักษารูปแบบเดิมเอาไว้ตั้งแต่ในสมัยของโยชิมิทสึ ภายในสวนแห่งนี้ยังมีจุดสนใจอื่นๆ อาทิเช่น สระอันมินทาคุ (Anmintaku Pond) ซึ่งกล่าวกันว่ามีน้ำที่ไม่เคยเหือดแห้ง และรูปปั้นที่เปิดให้ผู้เข้าชมโยนเหรียญเพื่อความโชคดี

เมื่อเดินทางผ่านสวนไป คุณจะพบกับเรือนชงชาเซคคาเทอิ (Sekkatei Teahouse) ซึ่งถูกสร้างเพิ่มเติมในสมัยเอโดะ (Edo Period) เป็นจุดสุดท้ายก่อนที่จะสิ้นสุดพื้นที่ที่ทางวัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม ด้านนอกทางออกจะเป็นร้านขายของที่ระลึก และสวนชา (Tea Garden) ซึ่งเป็นสวนเล็กๆ ที่คุณสามารถนั่งดื่มชาและขนมหวาน (500 เยน) และหอฟุโดะ (Fudo Hall) ซึ่งเป็นอาคารขนาดเล็กที่ประดิษฐานรูปปั้นฟุโดะเมียวโอ (Fudo Myoo) หนึ่งในห้าเทพรักษาพระธรรม (Five Wisdom King) และผู้ปกป้องพระพุทธศาสนา กล่าวกันว่ารูปปั้นนี้เป็นผลงานของโคโบ ไดชิ (Kobo Daishi) ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญด้านศาสนาในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น










จากเนินเขาบนสวนมองเห็นหลังคาอาคาร





เดินไปทางออกตรงสวนชงชากำลังมีพิธีกรรมกันอยู่



ทางออกที่เดินลงเนินไปตามบันได







การเดินทาง

คุณสามารถเดินทางไปยังคินคาคุจิ โดยขึ้นรถประจำทางเกียวโต ซิตี้ บัสสายตรงหมายเลข 101 หรือ 205 ที่สถานีเกียวโต (Kyoto Station) ซึ่งจะใช้เวลาเดินทาง 40 นาที และมีค่าใช้จ่าย 230 เยน อีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทาง ซึ่งอาจรวดเร็วกว่าและตรงเวลามากกว่า คือโดยสารรถไฟใต้ดินสายคาราสุมะ (Karasuma Subway Line) ไปยังสถานีคิตาโอจิ (Kitaoji Station) ใช้เวลา 15 นาที ค่าตั๋วโดยสาร 260 เยน แล้วนั่งแท็กซี่ต่ออีก 10 นาที ซึ่งจะมีค่าโดยสาร 1,000-1,200 เยน หรือโดยสารรถประจำทาง ใช้เวลา 10 นาที ค่าตั๋วโดยสาร 230 เยน โดยขึ้นรถหมายเลข 101, 102, 204 หรือ 205 จากที่สถานีไปยังคินคาคุจิ


วันนี้พาคุณๆเพลิดเพลินไปกับการชมใบไม้แดงที่วัดทอง ซึ่งสวยงามมากในปลายเดือนพฤศจิกายนเช่นนี้ คิดว่าคุณๆคงได้ชมภาพกันอย่างจุใจนะครับ ส่วนบล๊อกหน้าถือว่าเป็นบล๊อกส่งท้ายในการเที่ยวชมใบไม้แดงในเกียวโตแล้ว คอยติดตามนะครับ



Smiley ขอบคุณที่ตามอ่านครับ Smiley




ลาด้วยภาพนี้ครับ










Create Date : 12 มกราคม 2562
Last Update : 18 มกราคม 2562 11:21:32 น. 14 comments
Counter : 2374 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณเริงฤดีนะ, คุณtuk-tuk@korat, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณอุ้มสี, คุณhaiku, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณKavanich96, คุณหอมกร, คุณSweet_pills


 
เจิมๆๆๆ
วันนี้เมืองไทยอากาสร้อนมาก
ได้ตามมาเที่ยววัดชมภาพบรรยากาศสวยๆงามๆในญี่ปุ่น
ช่วยทำให้ความร้อนคลายลงได้จริงๆค่ะ



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 12 มกราคม 2562 เวลา:15:44:15 น.  

 
อยากไปมั่งค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 12 มกราคม 2562 เวลา:16:31:50 น.  

 
ถ่ายภาพได้สวยมาก ๆ...ครับ เดินทางไปกันเอง คงไม่ต้องเดินมากดีเลยครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 12 มกราคม 2562 เวลา:18:36:58 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เริงฤดีนะ Sports Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
คนขับช้า Movie Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog
ภาพสวยทุกภาพเลยค่ะโหวต


โดย: อุ้มสี วันที่: 12 มกราคม 2562 เวลา:20:54:23 น.  

 
ภาพเปิดสวยมากค่ะ

ชอบวัดทองค่ะ อยากไปทุกฤดูเลย น่าจะสวยต่างกันไปเนาะคะ



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 12 มกราคม 2562 เวลา:21:34:31 น.  

 
เพลินกับการชมรูปเลยค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 12 มกราคม 2562 เวลา:23:12:07 น.  

 
สายหมอกและก้อนเมฆ ... ภาพเปิดจาก Samsung J7+ ครับ


โดย: wicsir วันที่: 13 มกราคม 2562 เวลา:16:05:13 น.  

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 14 มกราคม 2562 เวลา:18:17:21 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 15 มกราคม 2562 เวลา:1:42:38 น.  

 
wicsir Travel Blog ดู Blog
เห็นภาพใบไม้เปลี่ยนสีนึกว่าโหวตให้คุณวิกแล้วนะเนี่ย



โดย: หอมกร วันที่: 15 มกราคม 2562 เวลา:7:55:32 น.  

 
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดจะไปวัดทองอีกเดือนพฤษภาค่ะ แต่น่าจะไม่ต่างจากครั้งที่แล้วที่มาเดือนมิถุนายน

ทริปใบไม้เปลี่ยนสี แพลนไว้ตุลาคมค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 15 มกราคม 2562 เวลา:20:03:45 น.  

 
วัดทอง น้ำใสราวกระจกและใบไม้เปลี่ยนสี สวยมากค่ะคุณวิค
ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 16 มกราคม 2562 เวลา:0:38:17 น.  

 
สำหรับท่านที่แพลนจะไปชมใบไม้เปลี่ยนสี โดยเฉพาะที่เมืองเกียวโต แนะนำให้ไปช่วงกลาง-ปลายเดือน พ.ย. นะครับ


โดย: wicsir วันที่: 16 มกราคม 2562 เวลา:20:19:26 น.  

 
สวัสดีปีใหมปีค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 1 มกราคม 2563 เวลา:14:11:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2562
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
12 มกราคม 2562
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.