เราใช้เวลาเดินเที่ยวชมเมืองเบิร์นตั้งแต่ประมาณ 9.00 น. ยาวมาจนถึงประมาณบ่าย 2 โมงครึ่ง โดยเดินจากสถานีรถไฟไปสวนสาธารณะ .... แล้วย้อนกลับเข้าถนนประวัติศาสตร์ย่านเมืองเก่า เรื่อยไปจนข้ามสะพานแม่น้ำอาเรอ เดินชมบ่อหมีทั้งที่หมีจำศีลไปแล้ว ก่อนที่จะขึ้นรถเมล์กลับมาลงที่บาห์นฮอฟพลัทซ์ (ฺBahnhof Platz) ใกล้ๆสถานีและนั่งรถไฟกลับซูริค.
ซูริค (Zurich)
รถไฟขบวน IR พาเรามาถึงนครซูริคประมาณ 15.30 น. เรากลับไปพักตั้งหลักที่อพาร์ทเม้นท์ก่อน ก่อนที่จะกลับออกมาเดินชมแสงสีในย่านเมืองเก่าหรือถนนช้อปปิ้งใกล้ๆสถานีรถไฟในตอน 17.30 น.
สถานีรถไฟซูริค
ซูริค เป็นเมืองหลวงของรัฐซูริค เป็นเมืองใหญ่คึกคักมากที่สุดในสวิส เป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งในสวิส ตั้งแต่ศูนย์กลางการคมนาคม การทำมาค้าขายเศรษฐกิจ การเงินการธนาคาร ฯลฯ ตลอดจนศูนย์กลางการท่องเที่ยว จะไม่โดดเด่นในเรื่องธรรมชาติเหมือนเมืองอื่นๆ แต่ในย่านเมืองเก่ายังรักษาความสวยงามไว้ให้เห็นเฉกเช่นเมืองเก่าในสวิสทั่วๆไป
ซูริค เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์และเป็นเมืองหลวงของรัฐซูริค ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนเหนือของประเทศ บริเวณจุดเหนือสุดของทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) มีประชากรในเขตตัวเมืองทั้งหมด 400,028 คน และประชากรบริเวณรอบตัวเมืองรวมทั้งสิ้น 1.4 ล้านคน ซูริคเป็นศูนย์กลางของระบบการขนส่งมวลชนของประเทศ อาทิ ระบบขนส่งรถไฟ เส้นทางการคมนาคม การจราจรทางอากาศ โดยเป็นที่ตั้งของสนามบินและสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดและการจราจรหนาแน่นที่สุดในประเทศ
ซูริคได้ถูกก่อตั้งมานานกว่า 2,000 ปี โดยชาวโรมันช่วง 150 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งขณะนั้นซูริคมีชื่อเรียกว่า Turicum อย่างไรก็ตามร่องรอยการเข้าอยู่อาศัยในซูริคได้ถูกค้นพบว่ายาวนานถึง 6,400 ปีแล้ว ในช่วงยุคกลาง ซูริคได้รับเอกราชเมื่อปี ค.ศ. 1,519 และเป็นศูนย์กลางการปฏิวัติศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ในยุโรปภายใต้การนำของ Ulrich Zwingli
ซูริคใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการ แต่อย่างไรก็ตามภาษาที่นิยมพูดกันเป็นหลักคือเยอรมันแบบภาษาถิ่นสวิส (Alemannic Swiss German dialect)
ซูริคเป็นเมืองชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในเมืองที่มีศูนย์กลางทางการเงินขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งตรงข้ามกับจำนวนประชากรที่ค่อนข้างน้อยของประเทศ เป็นที่ตั้งของสถาบันทางการเงินและการธนาคารยักษ์ใหญ่มากมาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมของศูนย์วิจัยและศูนย์พัฒนาของประเทศ เนื่องจากมีการเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำ ซูริคจึงดึงดูดให้นักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาตั้งบริษัทของตนเป็นจำนวนมาก
ตกแต่งร้านในช่วงใกล้คริสมาส
ในปี 2012 จากผลการสำรวจของ Monocle's 2012 "Quality of Life Survey" ได้จัดอันดับให้ซูริคเป็นหนึ่งใน 25 เมืองที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุด และจากหลายผลการสำรวจตั้งแต่ปี 2006 ถึง 2008 ยังได้จัดอันดับให้ซูริคเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตประชากรดีที่สุดของโลกและเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในสหภาพยุโรป
St. Peterskirche zürich
ในเมืองซูริคยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง รวมถึงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของสวิตเซอร์แลนด์ด้วย
เราเดินชมความงามยามค่ำคืนในนครซูริค ท่ามกลางการประดับประดาไฟคล้ายๆดวงดาวตามถนนต่างๆที่เราผ่านไป เช่น Lowenstrasse, Lintheschergasse และ Bahnhofstrasse ซึ่งถนนเหล่านี้เต็มไปด้วยร้านค้าที่ขายของระดับแบรนด์เนมทั้งนั้น
ซูริค มีอะไรมากมายให้เราได้เที่ยว ... เสียดายมาซูริคคราวนี้ แม้จะเป็นครั้งที่ 2 ของเราแล้วก็ตาม แต่ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เราไม่มีเวลาไปชม เพราะเรายังมีโปรแกรมที่จะไปเที่ยวต่อเมืองอื่นๆอีก เราจึงจำเป็นต้องลาเมืองซูริคเพื่อเดินทางไปยังเมือง St. Gallen และ Luzern ในวันพรุ่งนี้.
ปล. สถานีรถไฟ Zurich HB SZU เป็นสถานีที่ใหญ่มาก เวลาไปขึ้นรถต้องเผื่อเวลาด้วยนะครับ ชานชาลา หรือ Platform มีเป็นจำนวนมาก จึงต้องเผื่อเวลาเดินทางไปยังแต่ละชานชาลาครับ.
💘💘ขอบคุณที่ตามอ่าน แล้วเจอกันใหม่ในบล๊อกต่อไป💘💘
ลาด้วยภาพรถรางหน้าสถานีรถไฟซูริค
________________
ไปเที่ยวสวิสกันอีกครั้งมั๊ยคร้า
ภาพสวยมากๆ ขอบคุณที่แชร์เรื่องราวผ่านภาพคะ