....OUR FAMILY'S JOURNEY....

พาชมปราสาทเอดินเบิร์ก










บล๊อกนี้ไม่ได้พาทัวร์เอดินเบิร์ก หรือ เอดินบะระมากนักนะครับ เพราะมีเวลาน้อย แต่ถ้าหากคุณๆสนใจชมภาพและอ่านบล๊อกฉบับสมบูรณ์กว่านี้ ก็ตามอ่านได้ตามลิงค์ด้านบนที่ผมเคยเขียนไว้ เมื่อคราวที่ไปเที่ยวเมืองนี้ในหน้าร้อนช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2016 นะครับ.

Smileyเช้าวันที่ 4 ธันวาคม 2017 เราออกจากเมืองนิวคาสเซิ่ล เดินทางขึ้นเหนือสู่เมืองสวยงามและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน สู้รบปรบมือกับอังกฤษก็หลายครั้ง จนในที่สุดก็ตกอยู่ภายใต้ฟ้าเดียวกันกับอังกฤษ และแปลเปลี่ยนมาเป็นสหราชอาณาจักร หรือ United Kingdom ในปัจจุบัน ... สก๊อตแลนด์คือดินแดนที่ตั้งของกรุงเอดินเบิร์ก เมืองหลวงของสก๊อตแลนด์ ที่เป็นศูนกลางการค้า การบริหาร แต่ปปัจจุบันเมืองเศรษฐกิจและการจัดการ เช่นด้านวิศวกรรม การเงิน ท่าเรือ พาณิชย์ จะเข้ามาอยู่ที่กลาสโกว์ซึ่งใหญ่ในเกาะอังกฤษ ซึ่งเป็นรองแค่กลอนดอนเท่านั้น ... แต่เอดินเบิร์กก็ยังคงมีสเน่ห์และมนต์ขลังอยู่อย่างไม่สร่างซา เพราะเมื่อเราพูดถึงสก๊อตแลนดืแล้ว นอกจาผู้ชายเป่าปี่และใส่กระโปงลายสก๊อต ก็นี่แหละเมืองเอดินเบิร์ก และที่เอดินเบิร์กก็นี่เช่นกันยังมี "ปราสาทเอดินเบิร์ก" หรือ Edinburgh Castle. ที่นับว่าสวยงามมาก ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมปราสในหน้าหนาวกันครับ




Balmoral Hotel Clock Tower

เราขับรถฝ่าอากาศที่หนาวเย็นในเดือนธันวาคม 2017 มาเกือบ 200 กม. เลียบมหาสมุทแอตแลนติคทางด้านตะวันออกของเกาะอังกฤษขึ้นไป พอถึงเมืองก็จำที่จอดข้างสวนสาธารณะเดิมไม่ได้เสียแล้ว เลยก็ต้องอาศัย GPS หาที่จอดรถ ได้ Park & Ride นอกเมือง ไกลพอควร ต้องนั่งรถบัสเข้ามเมืองมาประมาณเกือบ 40 นาที คนขับรถถามเราว่าจะซื้อตั๋วแบบวันหรือแบบเที่ยวเดียว เราก็เอาแบบวัน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 4 ปอนด์ครับใช้ได้กับรถทุกสายตลอดวัน (24 ชั่วโมง) ที่เมืองนี้ ... ถือว่านั่งรถเมล์ชมเมืองก็แล้วกันครับ ตลอดเส้นทางที่รถวิ่งผ่านวิวสวยงามมาก ทั้งเลียบทะเล ขึ่นเขา มองเห็นสถานที่สำคัญๆหลายแห่ง ในที่สุดเราก็มาถึง City Center หรือ หน้าสถานีรถไฟเอดินบะระ 

ลงรถแล้วว่าจะพาคุณภรรยาไปนั่งเจ้ารถ City Sightseeing ซึ่งมีหลายบริษัท ซึ่งใช้เส้นทางที่ต่างกัน ส่วนมากก็ผ่านสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเราสามารถลงเที่ยวชมและขึ้นคันใหม่ต่อไปได้ ซึ่งฝรั่งเรียกว่า Hop On  - Hop off ครับ แต่เมื่อมาดูเวลาแล้วสงสัยจะไม่ทัน เลยเลือกเดินชมงานคริสมาสที่สวน Princes Street Gardens ก่อนเดินขึ้นสู่ถนน Royal Mile ย่านเมืองเก่า และเข้าชมปราสาท



ยอดแหลมสีทึมๆนั่นคือ Scott Monument อยู่ใกล้สถานีรถไฟเอดินบะระ



ที่สวน Princes Street Gardens กำลังมีงานเทศกาลคริตมาส





การเข้าชมปราสาทเอดินเบิร์ก จะต้องซื้อตั๋วเข้าชมนะครับ ราคาอยู่ที่ 16 ปอนด์ สำหรับผู้ใหญ่ และ 9.6 ปอนด์ สำหรับเด็ก (แพงนะผู้เขียนว่า..บ้านเราเขาจ่าย 200 บาทยังบ่นอุ๊บเลย)
 เวลาเปิด-ปิด คือ 9.30 - 18.00 น. (ต.ค.-มี.ค. เปิดถึง 17.00 น. ควรเข้าก่อนปราสาทปิด 1 ชั่วโมง) ... วันนี้เราไปถึงช่วงที่จะมีการยิงสะลุตจากปืนใหญ่บนปราสาทพอดี คือช่วง 11.00 น. เลยไปแห่ดูกับฝรั่งหน่อย แต่ที่ชอบมากคือวงทหารเป่าปี่สก๊อตหน้าทางเข้าปราสาทครับ

ปราสาทพวกฝรั่งมักจะตั้งอยู่บนที่สูง เช่นภูเขา นัยว่าป้องกันศัตรูที่เข้ามารุกราณได้ดี (เพราะเมื่อก่อนสู้กันด้วยดาบ หอก ธนู ... แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีมันเจริญ ขืนอยู่ที่สูงก็ตายเรียบ จึงพัฒนามาอยูในอุปโมงค์หรือหลุมหลบภัย เช่นหลายๆประเทศสร้างไว้) ... เมื่อเราอยู่บนบริเวณปราสาทจึงมองเห็นทิวทัศน์รอบได้ชัดเจนมาก การยิงสะลุดปืนใหญ่ก็เพื่อว่าให้เรือที่อยู่ในทะเลได้ยินประมาณนั้น 

เมื่อซื้อบัตร (เข้าคิวยาวมาก หนาวก็หนาว) แล้วเราจะได้แผนที่การชมปราสาทมาด้วย เดินผ่านประตูเข้าไปจะมีที่ให้เช้าหูฟังและกดตามจุดต่างๆ (ถ้าเคยไปชมพระราชวังดอยตุง นั่นแหละเหมือนกันเลย) แต่ผู้เขียนเคยมาแล้วเลยพอรู้บ้างว่า แต่ละที่นั่นคืออะไร หลักๆก็มีห้องขังนักโทษ พิพิธภัณฑ์ ห้องรับรองหรือ Great Hall เป็นต้น (เข้าไปอ่าน)



ปราสาทเอดินบะระมองจากด้านล่าง



ด้านหน้าทางเข้าปราสาท




ปราสาทแห่งเอดินเบิร์ก (Edinburgh Castle)

ปราสาทแห่งเอดินเบิร์ก (Edinburgh Castle) เป็นปราสาทที่งดงามและเป็นสถานที่เก็บรักษามหามงกุฎแห่งราชวงศ์ เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์สก็อต เคยถูกทำลายลงหลายครั้งแต่ทุกครั้งก็ได้รับการบูรณะและสร้างใหม่ให้กลับคืนสู่ความสง่างามดังเดิม และยังถือว่าเป็นจุดชมเมืองเอดินเบิร์กได้เป็นอย่างดีเนื่องจากเป็นเนินเขาสูง มองเห็นเด่นเป็นสง่าจากทุกมุมเมือง และยังได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองเอเธนส์แห่งทิศเหนือเนื่องจากสถาปัตยกรรมการก่อสร้างที่คล้ายคลึงกับวิหารแพนธีออนในประเทศกรีซ

ปราสาทเอดินเบิร์กตั้งอยู่บนเขาหินภูเขาไฟที่ปะทุขึ้นเมื่อประมาณ 350 ล้านปีที่ผ่านมา บนแผ่นหินที่เรียกว่า Castle Rock ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองเอดินเบิร์ก จากประวัติปราสาทสร้างขึ้นโดยเดวิด ที่ 1 เมือ่ศตวรรษที่ 12 และใช้เป็นที่พำนักของราชวงศ์มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 1633 ... ปราสาทเอดินเบิร์กถูกยึดครองโดยราชวงศ์อังกฤษและเปลี่ยนเป็นราชวงศ์สก๊อตหลายครั้ง จนในที่สุดก็ถูกอังกฤษยึดครอง .... ในปลายศตวรรษที่ 18 ปราสาทได้ถูใช้เป็นที่คุมขังนักโทษทางทหารจากสงครามต่างๆในอังกฤษ จนกระทั่งปี 1814 ปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติไป ... ในปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ปราสาทได้รับการบูรณเรื่อยมา และในปี 1927 บางส่วนของปราสาทก็ได้ปรับให้เป็น Scottish National War Memorial.


เดินอ้อมขึ้นปราสาท







ริมหน้าผาจะมีกำแพงสามารถยืนชมวิวเมืองที่สวยงามได้







กับปืนใหญ่บนกำแพงปราสาท



ด้านหน้าจากทางขึ้น



หน้าพิพิธภัณฑ์ปราสาทเอดินบะระ



เข้าชมปราสาทภายใน






ด้านในปราสาท



ทางเดินขึ้นปราสาท



ถ่ายจากบนปราสาท



อาเธอร์ซีท (Arthur's Seat)



Arthur's seat (อาร์เธอร์ ซีท)

เป็นจุดสูงสุดและกว้างที่สุดจาก 3 ส่วนของภูเขาไฟอาร์เธอร์ซีท (Arthur'seat Vocano) ซึ่งจุดสูงสุดประมาณ 251 เมตร หรือ 822 ฟุตจากระดับน้ำทะเล อาร์เธอซีทอยู่ห่างจากปราสาทเอดินเบิร์กไปทางตะวันออกประมาณ 1ไมล์ ซึ่งอยู่กลางเมืองเอดินเบิร์กเช่นกัน ด้านบนนั้นนับว่าเป็นจุดชมวิวเมืองเอดินเบิร์ที่ดีที่สุดจุดหนึ่งครับ ส่วนการเดินขึ้นเขานั้นนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นได้จากทุกทาง แต่ที่นิยมมากที่สุดคือขึ้นจากทางทิศตะวันออกหรือทาง Holyrood Park เพราะไม่ชันนัก



วิวเอดินบะระอีกมุมจากปราสาท

EDINBURGH

เอดินเบิร์ก หรือ เอดินบะระ (ขอเรียกเอดินเบิร์ก)  เป็นเมืองหลวงของประเทศสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของสก๊อตแลนด์ เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยกลาง ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงอยู่กลางเมือง เป็นที่ตั้งของปราสาทเอดินเบิร์กอันเป็นทำเลที่ได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ในสมัยก่อน โดยรอบภูเขาถูกปรับพื้นที่เป็นคูเมืองเพื่อประโยชน์ในเชิงการทหาร รอบนอกเป็นที่ราบลดหลั่นเป็นขั้น ๆ กระจายออกโดยรอบ

เอดินเบิร์กเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งใหม่ของสกอตแลนด์ (เพิ่งแยกออกมาจากรัฐสภาของสหราชอาณาจักร) ตั้งอยู่บนถนนสายหลักของเอดินเบิร์กคือ รอยัลไมล์ (The Royal Mile) ซึ่งสร้างตามแนวสันเขาเชื่อมโยงพื้นที่ประวัติศาสตร์ระหว่างปราสาทเอดินบะระและพระราชวัง สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ บริเวณรอยัลไมล์ ปราสาทเอดินเบิร์ก และสวนพฤกษศาสตร์ โดยเฉพาะปราสาทเอดินเบิร์กเป็นปราสาทที่เป็นสถานที่เปิดตัวของหนังสือเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ เนื่องจากมีลักษณะใกล้เคียงฉากเมืองแม่มดในท้องเรื่อง

เอดินเบิร์กเป็นเมืองที่เจริญมากที่สุดเมืองหนึ่งในสหราชอาณาจักร มีศูนย์กลางเมืองตั้งอยู่รอบ ๆ ปราสาทเอดินเบิร์ก เมืองเอดินเบิร์กนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งเทศกาลต่าง ๆ ตัวอย่างงานสำคัญที่ถูกจัดขึ้นในเมืองเอดินเบิร์ก ได้แก่ เทศกาลศิลปะนานาชาติ Fringe ภาพยนตร์ วิทยาศาสตร์ งานหนังสือเด็ก เพลงแจ๊ส และเพลงพื้นบ้าน ในช่วงเทศกาลเหล่านี้ โดยเฉพาะช่วงเดือนสิงหาคมหรือช่วงหน้าร้อนของสหราชอาณาจักร ที่เมืองเอดินเบิร์กจะมีจัดงานเทศกาลประจำปีที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาที่เมืองนี้เป็นจำนวนมาก จนทำให้เมืองเอดินเบิร์กติดอันดับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับสองของสหราชอาณาจักรรองจากลอนดอน

นอกจากนั้น เมืองเอดินเบิร์กยังเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น "เมืองที่เป็นมิตรกับเด็ก" (The Child Friendly City) เนื่องจากภายในเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับเด็กมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์วัยเด็กและเรื่องเล่าของผู้คน (Museum of Childhood and People’s Story) สวนสัตว์ที่มีศูนย์การศึกษาที่เคลื่อนไหวได้จริง (Dynamic Education Centre) โลกแห่งผีเสื้อและแมลง (Butterfly & Insect World) และโลกทะเลลึก (Deep Sea World) เป็นต้น

ในแง่ของเศรษฐศาสตร์ เมืองเอดินเบิร์กเป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสหราชอาณาจักรรองจากลอนดอนและใหญ่เป็นอันดับห้าของยุโรป โดยมีมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ถึงสามแห่งด้วยกันคือ มหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก มหาวิทยาลัยแฮเรียต-วัตต์ และมหาวิทยาลัยเนเปียร์



ภาพจากปราสาทเอดินเบิร์ก



ตู้โทรศัพท์ภายในปราสาท


เราชมปราสาทนานพอควร (เอาให้คุ้มเงิน 16 ปอนด์) ก่อนเดินกลับลงไปที่สวน Prince Street Garden .... เจ้าสวนนี้จะอยู่ตรงหุบเขาระหว่างเมืองใหม่-เก่า ตรงจุดต่ำสุดจะเป็นสถานีรถไฟเอดินเบิร์ก มีสะพานเชื่อมระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่ ถ้าเราเดินข้ามสะพานจะมองเห็นสถานีรถไฟอยู่ด้านล่าง ติดกันนั้นจะเป็นศูนย์การค้า และ Information Center จะอยู่ในนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปถามเกี่ยวกับการเดินทางได้ทุกเรื่อง .... ศูนย์อาหารก็อยู่ในศูนย์การค้านั้นด้วย เที่ยวเหนื่อยก็มาหาอะไรกินได้ที่นี่.

เราไปรอรถเมล์เพื่อกลับไปที่จอดรถนอกเมือง ซึ่งป้ายรถก็อยู่หน้าป้าย Information นั่นแหละครับ รถแทบทุกสายมาจอดที่นั่น ส่วนรถ City Sightseeing จะอยู่ก่อนทางแยกบนสะพานใกล้ๆสวนครับ .... ขึ้นรถกลับไปที่จอด แล้วตั้ง GPS กลับนิวคาสเซิ่ล ออกไปไม่นานก็มืดแล้ว เพิ่งจะ 5 โมงเย็นเอง ค่อยๆขับไปตา Speed Limit จนถึงที่พักในนิวคาสเซิ่ล ก่อนนั่งแท๊กซี่ออกไปทานอาหารเย็น ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดินนัก .... ที่ไม่ขับออกไปเพราะที่จอดในใจกลางเมืองแบบนั้นหายากมากครับ ถึงมีค่าที่จอดก็แพง เผลอๆแพงกว่าค่าแท๊กซี่ด้วยซ้ำ ... พูดถึงบรรยากาศที่ร้านอาหารไทยหน่อยนะครับ วันนั้นคนเยอะมาก อาจจะเพราะเทศกลาลรับปริญญาของ ม.นิวคาสเซิ่ลก็เป็นได้ คือโตะต้องจองนะครับ เจ้าของร้านเป็นคนไทย มีเพียงเด็กเสริฟเท่านนั้นที่เป็นต่างชาติ น้องคนที่เสริฟเราเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แต่พูดไทยแทบไม่ได้ เธอใช้สิทธิฐานะคนอังกฤษเรียนที่นี่ (คนอังกฤษเสียค่าเรียประมาณตรึ่งหนึ่งของคนต่างชาติ และกู้เงินเรียนได้โดยส่งคืนหลังทำงานแต่รัฐเขาให้ผ่อนคืนแบบเบาๆครับ) คนที่เข้าร้านเกือบทั้งหมดเป็นคนอังกฤษ

ได้เวลาพอประมาณเราก็นั่งรถกลับที่พักให้ทุกคนพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ 5 ธค. 2017 เป็นวันสำคัญของเจ้าลูกชายที่จะเข้ารับ ป.โท วิศวกรรมเคมี ที่มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิ่ลในช่วงเช้า.



Smileyขอบคุณที่ตามอ่านครับSmiley




ณ ร้านอาหารไทยที่เมืองนิวคาสเซิ่ล



ลาด้วยภาพจากเอดินบะระภาพนี้ครับ


__________________








 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2561
10 comments
Last Update : 25 พฤษภาคม 2561 15:05:32 น.
Counter : 1033 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณtuk-tuk@korat, คุณTui Laksi, คุณKavanich96, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSweet_pills, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณnewyorknurse, คุณruennara, คุณซองขาวเบอร์ 9

 

 

โดย: tuk-tuk@korat 23 พฤษภาคม 2561 14:59:57 น.  

 

เป็นเมืองที่มีความตัดกันในด้านสีสันอย่างลงตัวนะครับบรรยากาศสงบเงียบไม่มีสายไฟดี

 

โดย: เป็ดสวรรค์ 23 พฤษภาคม 2561 16:51:01 น.  

 

เก็บเกี่ยวเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีมากใน ตปท.คะ
และบันทึกไว้เเตือนความทรงจำด้วยภาพที่สวยมากๆคะ
บรรยากาศมุมสูงและมุมกว้างสวยมาก ชอบด้วยคะที่ไม่มีสายไฟมาบังตึกอาคารเลย
ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Tui Laksi 23 พฤษภาคม 2561 21:06:56 น.  

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 25 พฤษภาคม 2561 4:05:45 น.  

 

ปราสาทเอดินเบิร์กดูแข็งแรง ใหญ่โต สวยมากทั้งปราสาทและวิวค่ะคุณวิค
หินที่ใช้ในการสร้างปราสาท ชมใกล้ๆแล้วเห็นความแตกต่างของสีที่ชัดเจนทีเดียวนะคะ
เห็นด้วยกับคุณวิคค่ะ สมัยนี้ต้องสร้างอุโมงค์หรือหลุมหลบภัยเพื่อไม่ให้เป็นจุดเด่น

วิวจากจุดชมวิวอาร์เธอร์ ซีท ก็สวยกว้างไกลมาก
ทานอาหารไทยในต่างแดนน่าอร่อยมากๆค่ะ
ขอแสดงความยินดีกับคุณวิคและครอบครัวกับความสำเร็จของลูกชายอีกครั้งนะคะ

 

โดย: Sweet_pills 26 พฤษภาคม 2561 8:11:49 น.  

 


มาเที่ยวด้วยค่ะ
ภาพสวยมากค่ะ

 

โดย: newyorknurse 27 พฤษภาคม 2561 2:41:47 น.  

 

ตามมาเที่ยวอีกรอบครับ

 

โดย: เป็ดสวรรค์ 27 พฤษภาคม 2561 14:11:45 น.  

 

ขอบคุณแรงเชียร์จากแฟนปีศาจแดง แมนยู
ศึกชิงแชมป์ครั้งนี้เราได้แค่ปลื้มที่ได้เข้าชิงคร้า...แง แงๆ

 

โดย: Tui Laksi 27 พฤษภาคม 2561 20:07:59 น.  

 

มองไปทางไหนก็มีแต่ตึกแทบทุกตารางเมตรเลยนะคะ
สิ่งก่อสร้างอลังการงานสร้างมาก
ถ้าไปอยู่ที่ไหน คงเหงาและคิดถึงเมืองไทย
แต่ไปเที่ยวคงสนุกน่าดู

 

โดย: JinnyTent 29 พฤษภาคม 2561 19:00:36 น.  

 

ตามมาเที่ยวเอดินเบิร์กด้วยค่ะ
ชอบยุโรปมาก
บ้านเรือนดูขลังดี
เขาเก็บรักษาปราสาทเก่าได้นานและสมบูรณ์มากนะคะ

สวยมาก

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 29 พฤษภาคม 2561 19:58:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2561
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
23 พฤษภาคม 2561
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.