....OUR FAMILY'S JOURNEY....

++ มิ ล า น... กลางสายฝน ++







อ่านตอนที่ 1 : โคลอสเซี่ยม..มหึมาบนซากชีวิต
อ่านตอนที่ 2 : จัตุรัสเวเนเซีย น้ำพุจตุมหานที และวิหารแพนธีออน
อ่านตอนที่ 3 : วาติกันมิวเซียมและมหาวิหารเซ็นปีเตอร์...ประติมากรรม & จิตรกรรมขั้นเทพ
อ่านตอนที่ 4 : น้ำพุเทรวี และบันไดสเปน...ท่ามกลางสายฝน
อ่านตอนที่ 5 : ฟลอเรนซ์...เมืองแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรม
อ่านตอนที่ 6 : หอเอนปิซา....มารำลึกถึงกาลิเลโอ
อ่านตอนที่ 7 : เวนีส...นครแห่งสีสันที่รอวันจากไป




บล๊อกที่แล้วเราไปเดินเล่นกันที่เมืองเวนีสมานะครับ ทานสะปาเก็ตตี้ดำที่นั่นด้วย เมืองเวนีสที่เป็นเกาะและมีแนวโน้มว่าอาจจะจมลงไปในทะเลในวันข้างหน้าก็เป็นได้ ถ้าเกิดปรากฏการณ์ที่น้ำแข็งแถบขั้วโลกละลายลงมามากๆ..







เส้นทางจากเวนีส - มิลาน





วันที่ 15 ตุลาคม 2012 เป็นวันสุดท้ายที่คณะเราจะอยู่ที่อิตาลี เรามีโปรแกรมที่จะแวะเมืองมิลาน ทานข้าวเที่ยงกันที่นั่น และแวะชม Duomo ที่ถือว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี ก่อนที่จะเดินทางต่อผ่านเมืองตากอากาศคูโม และข้ามพรมแดนเข้าสวิสไปที่เมืองอินเตอร์ลาเก็นกัน







ถนนในอิตาลี




เราออกจากโรงแรม Courtyart Marriott Venice Airport Hotel หลังทานมื้อเช้าที่โรงแรม อุณหภูมิทางเหนือของอิตาลีวันนี้ค่อนข้างเย็น อยู่ราวๆ 3-7 องศาเซลเซียส คนเมืองร้อนอย่างเรารู้สึกเย็น การเดินทางช่วงนี้ผ่านภูเขาและไร่องุ่นจำนวนมากมาย ส่วนเวลาที่ผ่านภูเขารถก็จะลอดอุโมง โดยไม่ต้องเสียเวลาปีน

เจ้าของบล๊อกเห็นด้วยว่าเป็นสิ่งที่ดีกว่าการตัดถนนขึ้นเขา เพราะนอกจากจะเสียต้นไม้และป่าแล้ว ยังเสียเวลาพร้อมสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย แต่ก็อย่างว่าแหละครับการจะเจาะอุโมงได้มากมายเหมือนเขา เราก็ต้องมีเงิน






ไร่นาบางแห่งก้กำลังเตรียมดิน




ระยะทางจากเวนีสไปมิลาน ประมาณ 273 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เส้นทางตัดจากด้านตะวันออกสู่ตะวันตกตรงประมาณกลางๆทางเหนือของอิตาลี ผ่านไร่องุ่น ไร่ข้าวโพดมากมาย เห็นระบบชลประทานบ้านเขาทำไว้ค่อนข้างดีใกล้ๆกับบ้านเรา แต่ของที่โน่นทำคลองส่งน้ำค่อนข้างถาวรและใหญ่กว่าของเรา... ถนนบางช่วงเจาะเป็นอุโมงผ่านเขา จุดตัดของถนนส่วนมากจะลอดด้านล่าง ไม่เห็นตัวสะพานลอยให้เกะกะลูกะตา






เข้าเขตเมืองมิลานฝนกำลังตก



การเดินทางวันนี้ เจอฝนเกือบตลอด แม้จะเข้าสู่เมืองมิลานแล้ว ฝนก็ยังลงไม่หาย มิน่าล่ะเขาถึงบอกให้เราพกร่มแบบพับได้กับเสื้อแจ็คเก็ตตลอดเวลาที่เดินเที่ยวในยุโรป เพราะฝนทางเมืองหนาวชอบตกหน้าหนาวซะด้วยสิ






ย่านใจกลางเมืองฝนกำลังลง




มาถึงมิลาน เรามีโปแกรมไปทานมื้อกลางวันที่ภัตตาคาร Leo D'Oro restaurant เป็นอาหารจีนสไตล์อิตาลีล่ะครับ ส่วนหน้าร้านนั้นมีรูปปั้นเป็นานงรำไทยใส่ชฎานั่งไหว้อยู่ที่ช่องกระจกหน้าร้าน

ที่ยุโรปนี่เขาชอบรูปนี้จังเลย นัยว่าเป็นสัญลักษณ์ว่ามีอะไรที่มาจากไทยๆว่างั้นเถอะ จขบ.สังเกตุเห็นร้านนวด (Thai massage) ก็มีรูปแบบนี้อยู่หน้าร้านเช่นกัน






ภัตตาคาร Leo D'Oro restaurant ..มีสัญญลักษณ์แบบนี้ที่หน้าร้าน




เรื่องอาหารการกิน ต้องบอกว่าทางทัวร์เขาจัดให้ดีครับ คือในแต่ละวันนอกจากเราจะได้ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองที่เราไปแล้ว เขาก็จะมีมื้อหนึ่งที่เป็นอาหารแบบบ้านเรา คือมีข้าวเป็นส่วนประกอบว่างั้นเถอะ กันว่าใครทานอาหารต่างถิ่นแล้วจะไม่อยู่ท้อง...ส่วน จขบ.ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ ทานได้ไม่ยากขออย่าให้รสจัดจนเกินไปก็พอ






สู่ย่านกลางเมืองมิลาน...ลุยฝนต่อ









มิลาน (Milano)




เมืองมิลาน (Milan) หรือ มิลาโน (Milano) ในภาษาอิตาลี เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี (Lombardy) เมืองมิลานมีประชากร ประมาณ 1,308,500 (ข้อมูลปี พ.ศ. 2547) โดยถ้ารวมบริเวณรอบนอกและเขตปริมณฑลจะมีประมาณ 4 ล้านคน ซึ่งเรียกเขตทั้งหมดว่า ลากรันเดมีลาโน (La Grande Milano) มิลานมีพื้นที่ประมาณ 1,982 ตร.กม. ชื่อเมืองมิลาน มาจากภาษาเซลต์ คำว่า "Mid-lan" ซึ่งหมายถึง อยู่กลางที่ราบ

ซ้าย : หน้าร้าน Prada ร้านแรกของโลก อยู่ใน Gallery Vittorio Emanuele II






เมืองมิลาน มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม นอกจากนี้มิลานยังเป็นที่รู้จักจากประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า ปาเนตโตเน (Panettone) อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึง สโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลาน และ สโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน








บน : ภาพวัวที่อยู่บนพื้นที่ทำขึ้นด้วยเซอรามิค (หน้าร้าน Prada) เชื่อกันว่าใครได้เหยียบ (ฝรั่งบอกว่า spinning) แล้วจะได้กลับมามิลานอีก... นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่เลยแทบเข้าคิวรอเหยียบ โดยเฉพาะสาวๆ เป็นที่สนุกสนานกัน

ที่เมืองมิลานนี้จะว่าไปแล้วนอกจากการทำธุรกิจ การค้า แฟชั่นแล้ว จุดดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวก็คือ Duomo นี่แหละครับ สินค้าแบรนด์เนมเราสามารถหาซื้อได้ใน gallery นี้ จะว่าไปแล้ว ณ ที่ตรงนี้ก็เหมือนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของมิลาน

ส่วนเรื่องสำคัญของเราชาวไทย คือ ห้องน้ำ รู้สึกว่าจะหายากครับ ที่นี่ตรงหัวมุมจะออกไป Duomo จะมีร้าน Autogrill อยู่เราแวะตรงนั้นล่ะครับ นอกจากนี้แล้วอีกที่หนึ่งคือร้าน Mc Donal ครับ







วิวภายใน Gallery Vittorio Emanuele II



Gallery Vittorio Emanuele II

เป็น shopping mall ที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลี ตั้งชื่อตามพระเจ้า วิตโตริโอ เอมานูเอลที่ 2 (Vittorio Emanuele II) หลังจากที่สถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของอิตาลี หลังจากรวบรวมอิตาลีเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันสำเร็จ ออกแบบในปี 1861 และก่อสร้างโดย Giuseppe Mengoni ในระหว่างปี 1865 - 1877 เป็นลักษณะ 2 อาเขต (Arcade) ประกอบด้วยตึกสูง 4 ชั้น มีหลังคาเป็นกระจก ซึ่งเป็นการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่นิยมกันมากในศตวรรษที่ 19 อาคารนี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อม 2 จตุรัส (Piazza) เข้าด้วยกัน คือ Piazza del Duomo และ Piazza della Scala.
(อ่านเพิ่มเติม)









ภายในกัลลอเรีย วิตโตริโอ เอมมานูเอลที่ 2 อีกมุม








มหาวิหาร (Duomo) ด้านซ้าย



DUOMO (มหาวิหาร)

ดูโอโม แห่งนี้ถือว่าเป็นมหาวิหารใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ที่โรม แต่เป็นวิหารแบบโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 1386 (ศตวรรษที่ 14) ในสมัย จีอัน กาเลอัซโซ (Gian Galeazzo) แห่งตระกูลวิสคอนติเพื่ออุทิศถวายแด่พระแม่มาเรีย ให้ทรงประทานบุตรชายเป้นทายาทสืบตระกูล แต่กว่าจะเสร็จต้องรอถึง 427 ปี






Duomo หน้าตรงๆบ้าง





วัสดุที่นำมาก่อสร้างเป็นหินอ่อนเกือบทั้งหลัง จากพื้นถึงยอดวิหารมีความสูง 157 เมตร กว้าง 92 เมตร หลังคาและตัวอาคารด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด โดยมีรูปสลักพระแม่มาเรียสูง 4 เมตร หุ้มด้วยทองทั้งองค์ ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่สูงสุด นอกจากนั้นแต่ละยอดก็ประดับไปด้วยรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปนักบุญองค์ต่างๆ ส่วนอื่นๆยังมีรูปปั้น รูปสลักทั้งนักบุญ บุคคลสำคัญและรูปสัตว์ต่างๆอีกกว่า 2,245 รูป.







Duomo ด้านขวาบ้าง




บางคนเรียกมหาวิหารแห่งนี้ว่า “มหาวิหารเม่น” นั่นเป็นเพราะด้านนอกมีแต่ยอดปลายแหลมสลักสเลลวดลวยสวยงามโผล่ขึ้นไปบนท้องฟ้าเต็มไปหมด การตกแต่งภายในกลับเรียบง่าย ภายในนั้นสามารถจุผู้คนได้ 40,000 คน .... ถ้าอยากชมหลังคาวิหารให้ไปด้านหลังด้านนอก จะมีลิฟท์ขึ้นไปชมทิวทัศน์ด้านบน






บนยอดแหลมของ Duomo มีรูปปั้นอยู่บนยอด




เสียดายที่ได้ภาพมาไม่ค่อยดี เพราะวันที่ไปฝนตกหนัก ต้องให้ผู้ช่วย (คนข้างตัว) รออยู่ใน Gallery Vittorio Emanuele II ส่วนตัวเองไหนๆก็มาแล้วเลยยอมเปียกบ้าง โดยกางร่มออกไปลุยฝน โต้ลมหนาวกลางจตุรัสเพื่อเก็บภาพพวกนี้กลับบ้าน แต่ก็ทำได้เท่าที่เห็นแหละครับ เพราะใช้คอหนีบร่ม มือถือกล้อง เจอทั้งละอองฝน นึกว่าไม่รอดซะแล้ว






อนุสาวรีย์ วิตโตริโอ เอมมานูเอลที่ 2







ถ่ายภาพเสร็จ วิ่งมาหลบฝนที่นี่ (อาคารด้านขวามือมหาวิหาร)









ภายใน Duomo มีภาพวาดมากมาย








ความสวยงามอีกอย่างของที่นี่คือกระจกสี







ด้านในอีกมุม







มีโรงศพนักบุญให้ชมและสักการะด้วย







ภายใน Duomo อีกมุม








นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กำลังฟังไกด์บรรยาย







ภาพมุมกว้างของ Duomo



ปิอัซซา เดล ดูโอโม (Piazza del Duomo)

เป็นจัตุรัสที่ถือว่าเป็นศูนย์กลางของเมืองมิลาน ที่นี่มีความสำคัญหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ศิลปกรรม, วัฒนธรรม, และเป็นจุดรวมด้านสังคมต่างๆ มีพื้นที่ทั้งหมด 17,000 ตารางเมตร

เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 และพัฒนามาพร้อมกับมหาวิหาร (Duomo) ซึ่งใช้เวลากว่า 6 ศตวรรษจึงสำเร็จเรียบร้อย รอบๆจตุรัจจะประกอบไปด้วย มหาวิหาร (Duomo), อนุสาวรีย์ วิตโตริโอ เอมานูเอลที่ 2, Vittorio Emanuele II Gallery และอาคาร The Royal Palace of Milan







กลับมาหลบฝนและซื้อสินค้าภายในกัลลอเรีย วิตโตริโอ เอมมานูเอลที่ 2







รูปปั้น รีโอนาโด ดาร์วินชี หน้ากัลลอเรียฯ



เลโอนาร์โด ดา วินชี

เลโอนาร์โด ดา วินชี (อิตาลี: Leonardo da Vinci) เป็นชาวอิตาลี เกิดที่เมืองวินชี วันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1452 - เสียชีวิตที่เมืองออมบัวซ์ ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1519

เป็นอัจฉริยบุคคลที่มีความสามารถหลากหลาย เป็นทั้ง สถาปนิกแบบเรอเนซองส์ นักดนตรี นักกายวิภาค นักประดิษฐ์ วิศวกร ประติมากร นักเรขาคณิต นักวาดภาพ

ดา วินชี มีงานศิลปะที่มีชื่อเสียงหลายชิ้น เช่น พระกระยาหารมื้อสุดท้าย และ โมนา ลิซ่า งานของ ดา วินชี ยังสร้างคุณประโยชน์กับวิชากายวิภาคศาสตร์ ดาราศาสตร์ รวมถึงวิศวกรรมโยธา ด้วยความที่เป็นบุรุษที่มีจิตวิญญาณที่รักในศาสตร์หลายแขนง เลโอนาร์โดทำให้เกิดจิตวิญญาณของสหวิทยาการในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ และกลายเป็นบุคคลสำคัญของยุคนั้น






Leonardo da Vinci




วันนั้นคั้งแต่วินาทีแรกจนถึงวินาทีสุดท้ายที่มิลาน เราเจอฝนตลอด การถ่ายภาพทำได้ยากมาก แต่ทำไงได้ เมื่อมาถึงแล้วมีภาพติดมือกลับบ้านก็ยังดีกว่ากลัวฝนและหนาว

ความสวยงามและอลังการของ Duomo ทำให้เราทึ่งถึงความสามารถของคนในยุคนั้น ที่สร้างมหาวิหารนี้ด้วยความจงรักภักดีและศรัทธาต่อสิ่งที่พวกเขาเคารพรักอย่างแรงกล้า แม้ว่าจะต้องใช้เวลามากมายเท่าใดก็ตาม ความงดงามทางสถาปัตยกรรมที่ทิ้งไว้ให้เราได้เห็นในปัจจุบันนั้นจึงมีค่ามากมายนัก

บล๊อกนี้เลยต้องจากกันดื้อๆแบบนี้ คอยพบกันใหม่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ครับ.






จากกันด้วยวิวเมืองมิลาน ภาพนี้ครับ






Paul Mauriat - Love is blue



_______________







 

Create Date : 24 ธันวาคม 2555
33 comments
Last Update : 28 กรกฎาคม 2556 14:08:59 น.
Counter : 8330 Pageviews.

 

LIKE


เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองเริ่มแล้ว

Merry Christmas & Happy New Year

 

โดย: deco_mom 24 ธันวาคม 2555 10:35:35 น.  

 

สวัสดียามใกล้เที่ยงค่ะ
ขอตามมาเที่ยวชม มิ ล า น... กลางสายฝน ด้วยคนค่ะ
ภาพสวยงามมากค่ะ

 

โดย: iamorange 24 ธันวาคม 2555 11:44:41 น.  

 

หวัดดีคุณวิก

ก่อนอื่นต้องร้อง วะวะว้าว กลับบล็อกอลังการมหากาพย์ที่เดินทางมาถึงตอนที่ 8 แล้ว

สวยงามครบเครื่องเหมือนเดิมครับ

ผมชื่นชมคุณวิกนะ ที่เพียรพยายามพัฒนาบล็อกตลอดมา เนื้อหาที่นับวันจะเข้มข้นขึ้น มีสรรสาระมากมาย แถมภาพถ่ายฝีมือคุณวิกก็รุดหน้าขึ้นเรื่อยๆเช่นกันครับ มิพูดถึงการจัดวางเลเอ๊าค์ที่ก็มีรูปโฉมน่ามองน่าอ่านเช่นกัน

ถ้าต้องการสนทนาแลกเปลี่ยนเรื่องเกี่ยวกับโค้ด เทคนิคอะไรที่มีในบ้านผมคุณวิกสนใจตรงไหนสอบถามได้เลยครับ ยินดีแบ่งปัน บล็อกแกงค์ของเราจะได้มีบล็อกที่น่าอ่านน่ามองรูปแบบคล้ายนิตยสารออนไลน์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นสาธารณะประโยชน์ดีครับ

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 24 ธันวาคม 2555 12:28:39 น.  

 



Merry Christmas ค่ะคุณวิค
................
ส่งขนมพร้อมส่งกำลังใจให้นะคะ
โบสถ์สวยมาก ภาพสวยเช่นเคยค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog
...................

 

โดย: Sweet_pills 24 ธันวาคม 2555 12:29:01 น.  

 

วันหยุดทั้งที ลองหาเวลาปรนเปรอตัวเองซะบ้าง ลองเริ่มด้วยการสร้างความสุขเล็กที่เริ่มจากตัวคุณผู้หญิงเองก่อนค่ะ วันนี้วีซ่าเลยขอนำเองวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้คุณผู้หญิงได้ปรนเปรอตัวเองในวันหยุดมาฝากกัน ด้วยการทำสปาเพื่อเท้าเนียนนุ่มที่บ้านด้วยตัวคุณเองที่บ้าน



ลองมาดูส่วนผสมของการทำสปาเท้ากันเลยค่ะ

ส่วนผสม :
น้ำร้อน 10 ถ้วย
น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล 1 ถ้วย
เกลือ 1/2 ถ้วย
น้ำมะนาวคั้นสด 2 ลูก

วิธีทำ
เริ่มต้นด้วยการเทส่วนผสมทั้งหมดลงในอ่างหรือกะละมังใบเล็กๆ ที่คุณผู้หญิงสามารถแช่เท้าทั้งสองได้อย่างสบายๆ
จากนั้นให้คุณผู้หญิง คนส่วนผสมให้เข้ากันแล้วแช่เท้าเป็นเวลา 15 นาที แล้วใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้ง จากนั้นให้ใช้หินขัดเท้าขัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วที่เท้าของผู้หญิงออกไปให้หมดค่ะ
การแช่เท้าสูตรนี้แนะนำให้คุณผู้หญิงทำก่อนอาบน้ำนะคะ เพราะว่าจะได้อาบน้ำแล้วชะล้างกลิ่นน้ำส้มสายชูที่อาจติดอยู่ที่เท้าของคุณผู้หญิงให้ออกไปด้วยเลยทีเดียว

ด้วยวิธีง่ายๆ แบบนี้ ถ้าคุณผู้หญิงคนไหนที่อยากมีผิวเท้าที่เนียนนุ่มละก็ ควรลองหาเวลาแช่เท้าในด้วยวิธีนี้ที่เราแนะนำกันดูนะคะ
ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพียงเท่านี้ผิวเท้าที่หยาบกร้านก็กลับมาเนียนนุ่มได้ง่ายๆ แล้วละคะ

บทความโดย : Ladyvisa.com
ขอบคุณภาพจาก : เพ้นเล็บ.blogspot.sg

 

โดย: emayza 24 ธันวาคม 2555 14:46:43 น.  

 

สวัสดีตอนบ่ายๆครับคุณ wicsir .....

เมืองมิลาน ได้ยินชื่อบ่อยๆ ในข่าวเกี่ยวกับวงการแฟชั่น และอีกอย่างก็คือทีมฟุตบอล .....

โบสถ์ Duomo สวยอลังการเป็นที่สุด แค่เห็นยอดแหลมจำนวนมากขาดนั้นก็อึ้งแล้วครับ ไม่แปลกเลยที่ต้องใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 400 กว่าปี แค่ได้ไปเห็นก็นับเป็นบุญตาแล้วนะครับ ถึงจะฝนตกเป็นผมก็ต้องขวนขวายหาทางไปเก็บภาพมาแบบนี้เหมือนกันครับ .....

ปล. ภาพสวยข้อมูลแน่นปึ้กเช่นเคยนะครับ .....

 

โดย: NET-MANIA 24 ธันวาคม 2555 15:18:20 น.  

 

สวยค่ะ ไม่รู้จะพูดอะไรดี ภายในช็อบปิ้งมอลล์ก็สวย ภายใน ภายนอกวิหารก็สวย ที่นี่เค้าสวย ประณีตตั้งแต่พื้นจรดเพดานเลยค่ะ

คงทำเหมือนกันค่ะ ไหนๆ ก็ไปถึงที่แล้ว ฝนตกก็สู้ตาย น่ารักนะคะ คนข้างๆ ก็รอ...

ปีใหม่นี้ตั้งใจจะไปเชียงใหม่ เชียงรายเหมือนกันค่ะ ไม่รู้จะเก็บได้หมดตามแพลนมั้ย


สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะคุณ wic ตั้งใจว่าวันพุธนี้น่าจะได้อัพบล็อกอีก หรืออาจจะยาวถึงวันศุกร์เลย แต่สวัสดีปีใหม่ไว้ก่อนไม่เสียหลายนะคะ

มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ทั้งกายและใจ หัวบล็อกใหม่น่ารักดีค่ะ ยิ่งเดินทางมาก ยิ่งรู้มาก...จริงค่ะ เห็นด้วย

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 24 ธันวาคม 2555 16:26:21 น.  

 

แวะมาเที่ยวมิลานด้วยคนค่ะ
Gallery Vittorio Emanuele II นี่ น่าเดินช๊อปปิ้งมากๆเลยนะคะ
มีหลังคาเดินไม่ค้องกลัวฝน กลัวแดดกันเลย
ถ้าเวเลซได้ไปจะขอเหยียบภาพวัวซักหลายๆที เผื่อจะมีโอกาสได้มาอีก
Duomo ก็สวยค่ะ
ถ้าละเลียดดู คงใช้เวลากันเป็นวันๆเลย
พุ่มดอกไม้หน้ารูปปั้น ลีโอนาโด ดาวินชี่ คือพุ่มดอกกุหลาบรึเปล่าคะ
สวยจัง






 

โดย: VELEZ 24 ธันวาคม 2555 18:49:16 น.  

 

ดูอาคารต่าง ๆ แล้วทึ่งมาก คนสมัยก่อนมีความคิดริเริ่มยอดเยี่ยม คงใช้เงินเยอะมาก
ในการก่อสร้าง.

ชอบการจัดบล๊อก จัดได้สวย ตัวหนังสืออ่านง่ายชัดมากครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 24 ธันวาคม 2555 20:55:37 น.  

 

Merry Christmas สุขสันต์ช่วงเทศกาลค่ะ
มีความสุขมากๆ นะคะคุณอ๊อด


 

โดย: Sweety-around-the-world 24 ธันวาคม 2555 22:22:33 น.  

 


ขอให้สุขทุกวารกาลสมัย
ขอสุขะ พลานามัย สมสุขศรี
เจริญลาภยศลือไกลชัยทวี
แลครอบครัวมั่งมีทวีเจริญ

ใครงานยุ่งขอให้มุ่งได้ไปเที่ยว
ใครอยู่เดี่ยวให้มีคู่ไม่ขัดเขิน
ไม่ขัดข้องทั้งการงานและการเงิน
ให้เจริญมีสุขทุกเวลา

พรดีดีที่ไหนใครว่าเลิศ
พรประเสริฐใดใดในทั่วหล้า
พรสวรรค์พรแสวงให้แบ่งมา
จงนำพาสู่ผู้อ่านบานตะไท

มาบันดาลให้ไทยนั้นสุขสันต์
มาบันดาลให้ทุกวันนั้นแจ่มใส
มาบันดาลให้มีสุขทุกคนไป
มาบันดาลให้ไทยนั้นรุ่งเรือง

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 24 ธันวาคม 2555 23:46:32 น.  

 

หวัดดีค่าคุณวิค

มิลานในความคิดริน เป็นเมืองแห่งศิลปะและวัฒธรรมที่ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวมากเลยค่า

แต่ละจุดเต็มไปด้วยศิลปะแห่งจินตนาการ
น่าชื่นชมฝีมือคนบ้านเมืองเขาด้วย


คุณวิคไปเที่ยว เชียงราย พะเยามา
อากาศกำลังดีดีเลยใชป่าวค่า

รอชมภาพนะคะ รินคงเดินทางอีกไม่กี่วันค่า
ฝ่ารถติดไปอีกแล้ว อิอิ



 

โดย: Rinsa Yoyolive 24 ธันวาคม 2555 23:53:28 น.  

 

Merry Christmas



+++ ส่งท้าย บล็อกสุดท้ายของปีแล้วค่า
เก็บตกคนสุดท้าย _____ พรรณไม้งาม อร่าม สวนหลวง ร.๙ +++




 

โดย: Rinsa Yoyolive 24 ธันวาคม 2555 23:53:40 น.  

 

สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะคุณ wicsir !





ฝีมือถ่ายภาพเยี่ยมมากๆค่ะ ดูสวยงามไปหมดจริง


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
wicsir Photo Blog

 

โดย: tui/Laksi 25 ธันวาคม 2555 1:08:29 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


...May the joy and peace of Christmas
be with you all through the Year.

ขอให้ความสุขสันต์ และความสงบในวันคริสต์มาส
อยู่กับคุณไปตลอดปี...

Merry Christmas ค่ะ คุณ wicsir

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 25 ธันวาคม 2555 6:55:01 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

อากาศเริ่มเย็นนิดหน่อย....รักษาสุขภาพด้วยค่า.......

 

โดย: Little My @ Moominland 25 ธันวาคม 2555 12:32:46 น.  

 





สุขสันต์วันคริสต์มาสครับท่าน

 

โดย: panwat 25 ธันวาคม 2555 12:36:15 น.  

 

มหาวิหารสวยมาก ๆ เลยค่ะ ภาพวาดน่าชมมาก ๆ เลยนะคะ

เที่ยวเหนือต้องขึ้นดอยนะคะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 25 ธันวาคม 2555 12:48:00 น.  

 

มหาวิหาร Duomo สวยจนไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยายค่ะ
ขนาดว่าฝนตก สภาพแสงดูอึมครึมก็ไม่ได้ลดความสง่างามของ Duomo ลงเลย
มองด้านนอกว่าสวยแล้ว ด้านในยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก ตื่นตาตื่นใจจริงๆค่ะ

เสียดาย จบทริปอิตาลีเสียแล้ว จะรอทัวร์ต่อไปค่ะ
ขอบคุณมาก ๆ สำหรับการแบ่งปันโลกทัศน์ใหม่ๆค่ะ

 

โดย: ฝากเธอ 25 ธันวาคม 2555 13:58:07 น.  

 

สุขสันต์วันคริสต์มาส



ขอให้มีความสุขนะคะ

 

โดย: iamorange 25 ธันวาคม 2555 14:05:42 น.  

 



ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
ขอบคุณด้วยค่ะ

 

โดย: mambymam 25 ธันวาคม 2555 14:49:46 น.  

 

merry x'mas ค่าา มีความสุขมากมากน้าค้า




 

โดย: tayya tatar 25 ธันวาคม 2555 15:53:35 น.  

 




 

โดย: andrex09 25 ธันวาคม 2555 18:47:00 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาส่งความสุขในเทศกาลแห่งความสุขนะคะคุณวิก

 

โดย: หอมกร 25 ธันวาคม 2555 22:58:10 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันพุธ
เริ่มวันใหม่ด้วยความสุขตลอดวันค่ะคุณ wicsir

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 26 ธันวาคม 2555 6:46:29 น.  

 


แหล่มมากเลยค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 26 ธันวาคม 2555 7:39:49 น.  

 

กลับมาโหวตให้ค่ะ เมื่อวานไม่ได้โหวต
มีความสุขกับการทำงานในวันพุธกลางสัปดาห์นะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Travel Blog ดู Blog

 

โดย: ฝากเธอ 26 ธันวาคม 2555 9:21:55 น.  

 

มาลุยฝน เที่ยวมิลาน ครับ
ปีใหม่มีโปรแกรมไปเที่ยวไหนครับ

 

โดย: เศษเสี้ยว 26 ธันวาคม 2555 13:09:56 น.  

 

สวัสดีวันสีเขียวค่ะ คุณ wic

ทริปเหนือของคุณ wic รอชมอยู่นะคะ


 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 26 ธันวาคม 2555 17:30:45 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณวิก
ไม่ได้แวะมาหานานเลย คุณ วิกสบายดีมั้ยคะ
ขึ้นเหนือมาเหมือนกันเหรอคะ หนาวดีนะคะ
มิลาน .. ชาตินี้นกจะมีโอกาสได้เห็นกะตาตัวเองซักครั้งมั้ยเนี่ย..

อลังการมากๆ สถาปัตยกรรมบ้านเค้านี่สวยใจขาดเลยนะคะเนี่ย
คุณ วิกไปกะทัวร์ใช่มั้ยคะ ออสก้าทัวร์รึเปล่าคะ อิอิ เห็นเป็นประเด็นไม่จบไม่สิ้นในพันทิป

ไปกะทัวร์อะไรคะ ดูแลเราดีมั้ยคะ ..

เผื่อสักวันจะได้ใช้บริการบ้าง อิอิ


ดาวที่บล็อค มันเป็นความใฝ่ฝันของนกมานานแล้วค่ะ ที่ผ่านๆมา อุปกรณ์ไม่ครบซักที
คราวนี้เลยมีโอกาสได้ถ่ายมา
ต้องใช้ความอดทนมากจริงๆค่ะ กลับมานกเป็นหวัดเลยค่ะ อิอิ

 

โดย: Nongpurch 27 ธันวาคม 2555 10:34:52 น.  

 

แวะมาทักทายคุณWIC และมาชมภาพสวยๆอีกค่ะ
ขอให้คุณและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขมากๆตลอดไปค่ะ ^_^

 

โดย: andrex09 27 ธันวาคม 2555 13:56:21 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๖
ขอให้เป็นปีที่มีแต่ความสุข
ขอให้เป็นปีที่มีแต่ความเจริญ
ขอให้เป็นปีที่มีแต่ความสำเร็จ
สุขภาพดี เงินทองไหลมาเทมาด้วยค่า




 

โดย: Rinsa Yoyolive 27 ธันวาคม 2555 17:41:36 น.  

 

สวยมากๆๆ อลังการงานสร้างจริงๆ เคยไปแต่โรมอ่ะค่ะ

 

โดย: Just a life 30 ธันวาคม 2555 5:16:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.