....OUR FAMILY'S JOURNEY....

++ ขับไป..เที่ยวไป จากมวกเหล็ก - อยุธยา ++







ย่างเข้าหน้าฝน ถนนหนทางชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ หลายครั้งหลายคราที่เราคิดว่า เที่ยวหน้าฝนแล้วจะลำบาก น่ากลัว และอันตรายมาก .... ในความเป็นจริงเรื่องอันตรายมันก็มีกันอยู่ทุกฤดู เพราะวินัยการขับรถของคนในบ้านเราไม่เหมือนกัน บางคนก็เคร่งครัดในกฏระเบียบ แต่บางคนก็ทำตัวเป็นพวกมนุษย์ป้า คือขอฉันก่อนประมาณนั้น

แต่ถึงอย่างไรหน้าฝนมันก็มีเสน่ห์ไม่น้อยกว่าหน้าอื่น คือสภาพภูมิประเทศที่ฉาบไว้ด้วยสีเขียว ขับรถไปมองไป ไม่เครียด... มีคนบอกว่า สีเขียว เป็นสีที่ทำให้มีชีวิตชีวา และทำให้เรามีความสุข ... นั่นจริงแท้แน่นอนทีเดียว

บางภูมิภาคของไทยเราความน่าเที่ยวจะไม่เหมือนกัน อย่างทะเลคนก็ชอบเที่ยวหน้าร้อน เทือกเขาก็เที่ยวหน้าหนาว ส่วนที่ราบสูงอย่างอีสานผมว่าหน้าฝนเหมาะที่สุดครับ






น้ำตกเจ็ดสาวน้อยในหน้าฝน




วันนี้เจ้าของบล๊อกเลยจะพาคุณๆขับไป-เที่ยวไปอีกบล๊อก โดยจะเริ่มที่ อ.มวกเหล็ สระบุรี ไปสิ่นสุดที่การไหว้พระใน จ.อยุธยาครับ .... เราออกเดินทางจากขอนแก่นในเช้ามืดของวันที่ 2 สิงหาคม เป้าหมายคือไปส่งเจ้าลูกชายที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่ย่านฝั่งธน โดยให้ถึงหอพักบ่ายวันที่ 3 สิงหาคม เพราะมหาวิทยาลัยจะเปิดเทอมในวันที่ 4 สิงหาคม

เราวางแผนการเดินทางคือจะแวะที่น้ำตกเจ็ดสาวน้อย อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี แล้วขับต่อเข้าตัวเมืองเก่า อยุธยา เพื่อไหว้พระในช่วงเย็นและช่วงเช้าก่อนเข้ากรุงเทพฯ นี่จึงเป็นเหตุแห่งการเดินทางเที่ยวนี้ครับ









ความสมบูรณ์ของธารน้ำตก



อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย อำเภอมวกเหล็ก จ.สระบุรี ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอมวกเหล็ก และอำเภอวังม่วง มีลำห้วยมวกเหล็กไหลผ่าน จุดเด่นซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวคือ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย เป็นน้ำตกที่ไหลลดหลั่นมาตามแนวลำธาร มีประมาณ 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูงราว 2-5 เมตร แอ่งน้ำมีบริเวณที่เล่นน้ำกว้าง และร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมล่องแก่งเรือคยัคในห้วยมวกเหล็ก ติดต่อได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ











การเดินทาง

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถ.พหลโยธิน) เมื่อถึงตัวเมืองสระบุรีให้เลี้ยวขวาใช้เส้นทาง สระบุรี-นครราชสีมา (ทางหลวงหมายเลข 2 หรือ ถ.มิตรภาพ) กม.ที่ 142 ก่อนถึงตลาด อ.ส.ค. ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2224 (มวกเหล็ก-หนองย่างเสือ) ประมาณ 12 กม. ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย









ผู้คนมาพักผ่อนเล่นน้ำกันมากมาย แม้จะเป็นหน้าฝน



หลังจากได้ไก่ย่าง ส้มตำ และต้มยำไก่บ้านที่บริเวณร้านค้าที่น้ำตกแล้ว เราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าเข้าอำเภอวังน้อย แล้วเลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา

คุณๆรู้สึกเหมือนกันไหม เมื่อคราใดที่เราก้วย่างเข้าเมืองเก่า หรือสถานที่โบราณแบบอยุธยานี้ จะรู้สึกเหมือนๆมีอะไรมากระตุ้นให้หวนระลึกถึงความหลัง เมื่อครั้งสถานที่นั้นๆเคยเจริญรุ่งเรืองมาแต่ในอดีต ยิ่งเคยอ่านเรื่องราวเหล่านั้นมามากเท่าใด ความคิดยิ่งเวียนกลับมามากมายขึ้น

อยุธยาที่เคยเป็นราชธานีของไทยเรามาสี่ร้อยกว่าปี มีทั้งความสุข ทุกข์ แกร่งแย่ง ชิงดี บิดเบือน และอะไรมากมายสาระพัดที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ... วันนี้เราจึงมาเยือนที่นี่อีกครั้ง แต่จะมาเพื่อไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีมายาวนานในเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ จะไม่พาคุณๆลงรายละเอียดมากมายนักทางประวัติศาสตร์



เรามาเริ่มกันในตอนบ่ายวันที่ 2 สิงหาคม 2557 ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร ซึ่งมีประวัติเกี่ยวพันกับต่างชาติด้วย ไฮไลท์ของวัดนี่คือ หลวงพ่อโต (พระพุทธไตรรัตนนายก) และ "พระนางสร้อยดอกหมาก" ซึ่ง จขบ.ได้วางลิงค์ไว้ให้ตามไปอ่านรายละเยียดแล้วครับ






บริเวณวัดพนัญเชิงวรวิหาร





เข้าไปไหว้พระด้านใน



หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิงถูกสร้างขึ้นในคราวที่พระยาเลอไทย กษัตริย์รัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงสุโขทัยราชวงศ์พระร่วงครองราชย์เป็นที่ ๗

สำหรับผู้สร้างนั้น สันนิษฐานกันว่าคือ “พระเจ้าสายน้ำผึ้ง” กษัตริย์ผู้ครองกรุงอโยธยาก่อนกรุงศรีอยุธยาจะเกิด สาเหตุแห่งการสร้าง
วัดและสร้างหลวงพ่อโตก็เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรัก ความอาลัยและเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระมเหสีราชธิดากษัตริย์กรุงจีน
ที่ทรงพระนามว่า “พระนางสร้อยดอกหมาก” นั่นเอง






พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต)



ออกจากวัดพนัญเชิงเราก็ขับกลับมาทางวัดใหญ่ชัยมงคล เพื่อมากราบพระที่นี่ ...คือทุกครั้งที่เรามาอยุธยา เราต้องมากราบพระที่นี่กันเป็นประจำครับ มีความรู้สึกว่า ถ้าได้กราบพระประธานที่โบสถ์แห่งนี้แล้วจะมีความรู้สึกดีๆ

มาเที่ยวนี้รู้สึกแปลกตาขึ้น กับการจัดระเบียบที่จอดรถ ทั้งด้านหน้าและในวัด คือเป็นระเบียบขึ้นครับ








ไหว้พระนอนที่วัดใหญ่ชัยมงคล


"สันนิษฐานว่าวัดใหญ่ชัยมงคล เป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทอง หลังการสร้างกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ.1893 ไม่นานนัก โดยพระองค์ให้ขุดพระศพของ เจ้าแก้วเจ้าไทย ที่สิ้นพระชนม์ด้วยอหิวาตกโรค เอาขึ้นมาเผาเสีย และที่ปลงพระศพนั้นให้สถาปนาพระเจดีย์และพระวิหาร แล้วให้นามว่า วัดป่าแก้ว"






"ชาวบ้านเรียกวัดนี้ว่า วัดใหญ่ ซึ่งเกี่ยวกับการสร้างมหาเจดีย์เมื่อคราวที่พระนเรศวรรบชนะพระมหาอุปราชแห่งพม่า ทำให้อยุธยาประกาศความเป็นอาณาจักรอิสระได้อีกครั้งนับแต่ต้องเป็นรัฐบรรณาการของพม่า เมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 1 พ.ศ.2112 ดังนั้น พระองค์จึงให้สร้างมหาเจดีย์ “ชัยมงคล” องค์หนึ่งขึ้นมาที่วัดนี้ และชื่อวัดจึงเปลี่ยนจาก วัดป่าแก้ว มาเป็น วัดใหญ่ชัยมงคล"






พระประธานที่โบสถ์





เจดีย์ชัยมงคล และพระพุทธรูปปูนปั้นรอบๆกำแพง







ยามค่ำที่วัดพนัญเชิง ริมฝั่งแม่น้ำป่าสัก (ถ่ายจากโรงแรมริเวอร์วิวเพลส)


คืนนั้นเราพักกันที่โรงแรมริเวอร์วิวเพลส ริมแม่น้ำป่าสัก หรือใกล้ๆกับที่แม่น้ำสามสาย (ป่าสัก ลพบุรี และเจ้าพระยา) มาบรรจบกัน เราได้ห้องใหญ่ ที่พักกว้างขวาง มีร้านอาหารที่ทำเป็นระเบียงริมน้ำป่าสัก ทำให้มองเห็นบรรยากาศยามค่ำคืนที่วัดพนัญเชิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้ และแสงสีจากวัดสวยงามมาก





วิหารหลวงพ่อมงคลบพิตร



ตื่นเช้าวันที่ 3 สิงหาคม หลังอาหารเช้าที่โรงแรม เรามีโปรแกรมท่องอยุธยาอีก 2 ที่ก่อนเดินทางเข้า กทม. โดยเราเริ่มกันที่ไปไหว้หลวงพ่อใหญ่มงคลบพิตร ก่อนไปตลาดน้ำอโยธยา ... วันี้เราไปเช้าคนเลยยังไม่มากเท่าไหร่


พระมงคลบพิตร ไม่ปรากฏหลักฐานชัดว่าสร้างในรัชกาลใดแห่งกรุงศรีอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้างใน สมัยอยุธยาตอนต้น เพราะพระพักตร์แม้จะมีลักษณะค่อนข้างเป็นวงรีแล้ว แต่ก็ยังคงเห็นเค้าพระพักตร์เป็นเหลี่ยมอยู่ ซึ่งเป็นพุทธลักษณะแบบอยุธยาตอนต้น เมื่อพิจารณาถึงเส้นพระขนงที่โค้ง ก็จะพบว่าเป็นศิลปที่ ผสมผสานกับศิลปะสุโขทัยอีกด้วย องค์พระก่อด้วยอิฐแล้วหุ้มสำริดแผ่น นับเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดองค์ หนึ่งของไทย






ไหว้หลวงพ่อมงคลบพิตร




เมื่อวานเย็นเรามาที่นี่ก่อน คือวัดดพระศรีสรรเพชญ์ ที่อยู่ติดกับวิหารหลวงพ่อมงคลบพิตร

วัดพระศรีสรรเพชญ์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตร เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวงเทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งกรุงเทพมหานครหรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชมณเฑียรเป็นที่ประทับที่บริเวณนี้ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือและอุทิศที่ดินเดิมให้สร้างวัดขึ้นภายในเขตพระราชวังและโปรดเกล้าฯให้สร้างเขตพุทธาวาสขึ้น เพื่อเป็นที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญต่างๆ จึงเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา






วัดดพระศรีสรรเพชญ์



วัดดพระศรีสรรเพชญ์ พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดหลวงในพระราชวังโบราณ ต้นแบบของวัดพระแก้วในปัจจุบัน ถูกพม่าเผาเอาทองไปตั้งแต่สมัยเสียกรุงครั้งที่ 2 ซึ่งความโบราณที่หลายจุดกลายเป็นซากปรักหักพังนี้ ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูขลังและหลอนในสายตาของชาวต่างชาติไม่น้อย

เข้าไปเดินในนั้นเมื่อไหร่ ขนลุกทุกที คิดไปต่างๆนาๆ คิดถึงละครไทยหลายเรื่องที่แต่งขึ้นอาจจะตามบันทึกประวัติศสตร์แต่งเติมด้วยจินตนาการ ... แม้จะอย่างนั้นก็เถอะ ในสมัยโบราณที่เมื่ออำนาจจะถูกเปลี่ยนจากกษัตรย์องค์หนึ่งสู่องค์ต่อไป เหตุการณ์ระหว่างนั้นมันเกิดอะไรขึ้นมากมาย ... เดินไปคิดไป ก็ได้คำตอบบางอย่างที่เหมือนกันเกือบทั้งโลก นั่นคือสัญชาติญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์ แม้ปัจจุบันก็ยังคงอยู่














ชมปรางช้าง


ไปต่อกันที่ตลาดน้ำอโยธยครับ

ตลาดน้ำอโยธยา แหล่งท่องเที่ยว บนเนื้อที่ 60 ไร่ ตั้งอยู่ที่เดียวกับปางช้างอโยธยาข้าง วัดมเหยงคณ์ จะเรียกได้ว่าเป็นตลาดน้ำที่ยิงใหญ่ที่สุดในเมืองอยุธยา เป็นตลาดย้อนยุคแบบโบราณ แวดล้อมไป ด้วยธรรมชาติ แบบไทยพื้นบ้านและสายน้ำ มีสะพานเดิน ริมแม่น้ำเพื่อ เลือกซื้อสินค้าจากกลุ่มชาวบ้านต่างอำเภอ หรือสินค้า OTOP มากมายหลากหลายชนิด






ตลาดน้ำอโยธยา




น่ารัก


จุดเด่นอีกเรื่องหนึ่งที่ตลาดน้ำอโยธยาได้นำมารวบรวมไว้ที่นี่ คือการนำชื่ออำเภอทั้งหมดของ จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยาทั้งหมด มาตั้งเป็นชื่ออาคาร สถานที่ เพื่อให้ผู้ที่มาเยือนได้รู้จักสินค้าของแต่ละอำเภอ และสามารถ จดจำชื่ออำเภอต่างๆของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เป็นอย่างดี เช่น ตลาดบางซ้าย เครื่องจักรสาน ตลาดบางบาล ขนมของฝาก ตลาดบางปะหัน โรตี, ขนม, ของฝาก ตลาดเสนา กุ้งสด, ปลาเผา ลานการแสดง กรุงศรีอยุธยาเป็นต้นจุดเด่นอีกเรื่องหนึ่งที่ตลาดน้ำอโยธยาได้นำมารวบรวมไว้ที่นี่ คือการนำชื่ออำเภอทั้งหมดของ จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยาทั้งหมด มาตั้งเป็นชื่ออาคาร สถานที่ เพื่อให้ผู้ที่มาเยือนได้รู้จักสินค้าของแต่ละอำเภอ และสามารถ จดจำชื่ออำเภอต่างๆของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เป็นอย่างดี เช่น ตลาดบางซ้าย เครื่องจักรสาน ตลาดบางบาล ขนมของฝาก ตลาดบางปะหัน โรตี, ขนม, ของฝาก ตลาดเสนา กุ้งสด, ปลาเผา ลานการแสดง กรุงศรีอยุธยาเป็นต้น






น่ากิน





นี่ก็น่ากิน





น่าซื้อ








น่าเที่ยว


ช่วงบ่ายเราอออเดินทางเข้า กทม. เพื่อไปส่งลูกชายที่หอพัก
ก่อนขับกลับขอนแก่นในบ่ายวันเดียวกัน
ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ




ถ่ายกับภาพสามมิติ..ก่อนลา








____________







 

Create Date : 22 กันยายน 2557
17 comments
Last Update : 6 พฤษภาคม 2561 9:17:40 น.
Counter : 12624 Pageviews.

 

อยากไปอยุธยาค่ะ
ปล่อยโคมลอยกันใหญ่

 

โดย: tuk-tuk@korat 22 กันยายน 2557 20:34:10 น.  

 

...... แม้จะอย่านั้นก็เถอะ ในสมัยโบราณที่เมื่ออำนาจจะถูกเปลี่ยนจากกษัตรย์องค์หนึ่งสู่องค์ต่อไป เหตุการณ์ระหว่างนั้นมันเกิดอะไรขึ้นมากมาย ... เดินไปคิดไป ก็ได้คำตอบบางอย่างที่เหมือนกันเกือบทั้งโลก นั่นคือสัญชาติญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์ แม้ปัจจุบันก็ยังคงอยู่...ฯ
-------------------------------------------------------------------
ใช่เลยครับ...สรุปได้น่าฟังมากครับ
อ่านประวัติศาสตร์สมัยอยุธยาทั้งหมดแล้ว ต้องอ่านอีกหลายครั้ง เพราะบางช่วงบางตอน สับสนเพราะว่าแต่ละฉบับก็ไม่ลงตัว แต่ก็น่าติดตาม อ่านได้ไม่เบื่อเลย

แต่ถึงอย่างไรก็จะเป็นอุทาหรณ์ให้เราสามัคคีกันเข้าใว้ คนไทยเผ่าสุดท้ายแล้ว

 

โดย: พายุสุริยะ 22 กันยายน 2557 21:25:11 น.  

 

สวัสดีค่า ^^
มาชมภาพสวยๆอีกแล้วค่ะ

เมืองโบราณสวยมากค่ะ
เคยไปตอนเด็กๆ จำไม่ได้แล้ว
ตลาดน้ำน่าไปมากค่ะ
ได้ยินชื่อมานาน ตลาดน้ำอโยธยา แต่ก็ไม่มีโอกาสไปซะที

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆนะคะ

 

โดย: lovereason 23 กันยายน 2557 0:29:58 น.  

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 23 กันยายน 2557 4:02:16 น.  

 

ว้าววว น้ำตกหน้าฝนสวยงามจริงๆ เขียวชอุ่ม น้ำเยอะดี

ไปอยุธยาต้องแวะกินกุ้งแม่น้ำกะซื้อโรตีทุกที

หลวงพ่อโตดูอลังกาลมาก

 

โดย: 3KKK 23 กันยายน 2557 8:00:40 น.  

 

ตามมาทัวร์วัดค่า
ไปที่ยวฝนดีตรงไม่ร้อนแดดค่ะ
เห็นน้ำตกแล้วเย็นตาสบายใจดีจัง ^_^

 

โดย: AdrenalineRush 23 กันยายน 2557 19:51:07 น.  

 

wicsir Travel Blog ดู Blog

มาโหวตค่ะวันนี้

 

โดย: tuk-tuk@korat 23 กันยายน 2557 20:15:19 น.  

 

ปติมากรรมไทยสวยเสมอครับ

 

โดย: cdes 24 กันยายน 2557 8:46:25 น.  

 

บล็อกนี้เต็มอิ่มค่ะ ทั้งภาพและเรื่องราว
เห็นภาพกรุงเก่าแล้วรู้สึกเหมือนกันค่ะ
ว่ามีมนต์ขลัง ชวนขนลุก แต่ลึกๆก็ภูมิใจในรากเหง้า
ภูมิใจในความเป็นชาติที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ที่เห็นและเป็นมา Photo Blog ดู Blog
คนบ้า(น)ป่า Literature Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog

 

โดย: ฝากเธอ 24 กันยายน 2557 20:28:39 น.  

 

จริงค่ะ

รูปถ่ายถือเป็นประวัติศาตร์อย่างหนึ่งเลยทีเดียว
แต่เห็นแล้วมีความสุขนะคะเวลาได้ดูรูปเก่าๆ

 

โดย: AdrenalineRush 25 กันยายน 2557 22:06:05 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
ภาพเยอะมากเลยจ้าคุณวิก


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Travel Blog ดู Blog


 

โดย: หอมกร 26 กันยายน 2557 21:49:16 น.  

 

ไว้ต้องหาโอกาสไปสัมผัสเจ็ดสาวน้อยดูซักหนแล้ว

อยุธยาใกล้ๆแค่นี้ก็ยังไม่ได้ไปอีกหลายที่ใช้บล็อกนี้ตามรอยสบายเลย

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 27 กันยายน 2557 9:02:56 น.  

 

wicsir Travel Blog ดู Blog

 

โดย: newyorknurse 27 กันยายน 2557 9:05:30 น.  

 

ตามมาเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อยด้วยคนค่ะ
เคยไปเมื่อนานมากแล้ว มาเห็นภาพแล้ว อยากไปอีกค่ะ
เที่ยวป่าๆ หน้าฝน กลัวค่ะ แต่เห็นสีเขียวแล้ว สดชื่นนะคะ

อยุธยาไปหลายครั้งแล้วเหมือนกัน ชอบตรงที่ซากโบราณสถาน วัดเก่าๆ อยู่ใกล้ๆกัน
และที่สำคัญเหมือนอยู่ใจกลางเมือง ทำให้ไปง่าย ไม่น่ากลัว
หลายๆจังหวัด โบราณสถานอยู่อำเภอไกลๆ ขับรถไปเป็นร้อยกี่โล ไปแล้วแทบไม่มีอะไรให้ดู
แถมรู้สึกน่ากลัว เปล่าเปลี่ยวมาก ถ้าไม่ชอบจริงๆ หรือมีอะไรที่โดดเด่น ไม่ไปเลยค่ะ

 

โดย: ดาวริมทะเล 27 กันยายน 2557 12:39:33 น.  

 

น้ำตกน่าเล่นมากเลยค่ะ
ที่บ้านเวลาไปอยุธยาก็จะแวะวัดใหญ่ชัยมงคลทุกครั้ง ชอบมากๆเลยค่ะ
เดี๋ยวนี้ภาพสามมิติมีทุกที่เลยนะคะ ชอบอีกเหมือนกัน ^^

 

โดย: VELEZ 27 กันยายน 2557 19:25:45 น.  

 

เมืองไทยจุดขายเยอะนะคะ สวย อยากให้ได้รับการดูแลดีกว่านี้

 

โดย: mariabamboo 28 กันยายน 2557 16:41:08 น.  

 

ไม่ได้ไปอยุธยานานมากค่ะ ถ้าไปก็...วัดพนัญเชิงไม่พลาดอยู่แล้วค่ะ แต่ก่อนไปตอนตรุษจีนค่ะ ก่อนที่ว่านั่น หลายปีมาก จะ 10 ปีแล้วมังคะ

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย คิดว่าไม่เคยแวะนะคะ น้ำตกคุณ wic สวยทุกภาพค่ะ


 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 7 พฤศจิกายน 2557 14:10:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
 
กันยายน 2557
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
22 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.