ใครชอบใครชังช่างเถิด 
ใครเชิดใครแช่งช่างเขา 
ใครเบื่อใครบ่นทนเอา ...
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
4 สิงหาคม 2552

ลักษณะของคนที่น่ารัก ตอนที่๓

๔. รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว

คือ ใครก็ตามถ้ารู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวในปัญหาต่างๆ ในข้อตกลงหรือปรึกษาหารือต่างๆ ไม่ดึงดันเอาแต่ความเห็นหรืออำนาจตามอำเภอใจของตนฝ่ายเดียว ย่อมรู้จักประนีประนอมในปัญหาต่างๆ ที่ขัดแย้งกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งรุนแรงหรือยืนยันแข็งขันในท่าทีหรือจุดประสงค์ของตน ก็ผ่อนปรนลงบ้าง ไม่ยืนกระต่ายขาเดียว ไม่ว่าในปัญหาครอบครัว การทำงานหรือในข้อขัดแย้งต่างๆ ทั้งนี้ ก็เพื่อความสามัคคี ถนอมน้ำใจกันและเพื่อความสงบสุขในครอบครัว ในหน่วยงานหรือในสังคม ถ้าเมื่อฝ่ายหนึ่งหย่อนยานเกินไป อันอาจจะก่อให้เกิดผลเสียหายได้ ก็มีท่าทีเข้มงวดเข้าไว้ ให้ถูกระเบียบและกฎเกณฑ์ ก็จะทำให้เกิดความพอดีขึ้น คนเช่นนี้สามารถดำเนินชีวิตไปอย่างสงบสุขราบรื่น ไม่ค่อยมีความขัดแย้งกับใคร จึงทำให้เป็นคนมีนิสัยน่ารัก เพราะรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว

การรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวนี้ ทำให้เกิดความพอดี ไม่เป็นเหตุให้เกิดความทะเลาะเบาะแว้ง และความขัดแย้งกับใครๆ เพราะไม่ตึงไม่หย่อนจนเกินไป เหมือนคนที่เล่นว่าว ถ้าเล่นว่าวเป็น ว่าวก็จะไม่ตกและเกินลมได้ดี คือ เมื่อลมแรงเกินไปก็ปล่อยสายป่านให้ยาวออกไป เพราะถ้าดึงไว้สายป่านก็จะขาดทำให้ว่าวตก หรือเมื่อลมอ่อนเกินไปก็พยายามดึงสายป่านเอาไว้ ว่าวก็จะกินลมได้ดีและไม่ตก การดำเนินชีวิตเหมือนกัน ถ้าจะให้ราบรื่นก็ต้องรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวในปัญหาขัดแย้งต่างๆ ถ้าไม่รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวแล้ว ก็จะขัดแย้งกับคนอื่นอยู่เสมอ ไม่ว่าในปัญหาครอบครัวหรือปัญหาใดๆ ไม่เป็นที่พอใจของคนทั้งหลาย ฉะนั้น การรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวจึงเป็นลักษณะนิสัยที่น่ารักของคนประการหนึ่ง

๕. พูดจาอ่อนหวาน

การพูดจาอ่อนหวานเป็นเสน่ห์ประการหนึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวน้ำใจของผู้อื่นไว้ได้ เพราะทำให้ผู้ฟังชื่นใจสบายใจ ทำให้เป็นกันเอง ทำให้ผูกมิตรผูกไมตรีไว้ได้ จึงเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหลาย ผู้ที่พูดจาไม่น่าฟัง พูดขาดสัมมาคารวะ พูดไม่รู้ที่ต่ำที่สูง หรือพูดส่อเสียดให้ผู้อื่นแตกกัน ย่อมเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย

การพูดจาอ่อนหวานนี้ จัดเป็นวาจาสุภาษิตประการหนึ่ง และวาจาสุภาษิตนั้น ต้องมีองค์ประกอบ ๕ ประการ คือ

๑. เป็นคำจริง
๒. เป็นคำอ่อนหวาน
๓. เป็นคำมีประโยชน์
๔. พูดถูกกาลเทศะ
๕. พูดประกอบด้วยเมตตา

คำพูดใดแม้จะเป็นคำจริง และเป็นคำอ่อนหวาน แต่ถ้าไม่มีประโยชน์แล้ว พระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนไม่ให้พูด เพราะไม่ได้ประโยชน์ หรือคำพูดใดแม้จะเป็นคำจริง คำอ่อนหวาน และมีประโยชน์ แต่ถ้าพูดไม่ถูกกาลเทศะ พระองค์ก็ไม่ตรัสสอนให้พูดเช่นกัน เพราะไม่เป็นวาจาสุภาษิต แต่ถ้าคำนั้นประกอบด้วยลักษณะ ๕ ประการ คือ เป็นจริง เป็นคำอ่อนหวาน เป็นคำมีประโยชน์ พูดถูกกาลเทศะ และพูดด้วยเมตตาจิต แล้วพระองค์ก็ตรัสสอนให้พูดคำเช่นนี้ เพราะก่อให้เกิดคุณค่าให้แก่ตนเองและผู้อื่นเป็นอันมาก ทำให้เป็นที่รักของคนทั้งหลาย และจัดเป็นมงคลแก่ชีวิต ฉะนั้น การพูดวาจาอ่อนหวาน จึงเป็นลักษณะนิสัยที่น่ารักของคน ประการหนึ่ง




Create Date : 04 สิงหาคม 2552
Last Update : 4 สิงหาคม 2552 15:02:59 น. 2 comments
Counter : 499 Pageviews.  

 
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ค่ะ ขอไป forward / post ต่อค่ะ

Elbereth



โดย: Elbereth วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:17:50:44 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

แวะมาอ่านจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:20:08:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

รถขนของ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




http://www.ponboon.com
นะ หิ เว เรนะ เวรานิ สัมมันตีธะ กุทาจะนัง อะเวเรนะ จะ สัมมันติ เอสะ ธัมโม สะนันตะโน ตัด
คาถาตัดเวร จะช่วยตัดเวรจากเจ้ากรรมนายเวรที่หัวดื้อๆ
อันนี้ขอให้ท่องทุกวัน..
พระคาถาแผ่เมตตาไปทั่วทั้ง 3 โลก
นโม พุทธสิกขีพระพุทธเจ้า
นโม สรรพพุทธานัง
นโม สรรพธัมมานัง
นโม สรรพสังฆานัง
นโม อิติ อิติ โพธิสัตว์

โอม ฉัพพรรณรังสีพระพุทธเจ้า
โอม ท่านท้าวจาตุรมหาพรหม
โอม ท่านท้าวพยายมราช
โอม ท่านท้าวสักกะเทวราช
โอม ท่านท้าวจาตุรมหาราช
ลูกขออุทิศส่วนกุศลด้วย อิทัง ปุญญะพะลัง

ผลบุญใดที่ลูกได้สั่งสมมารวมทั้งสวดพระนามพระผู้มีพระภาคเจ้า
ลูกขอแผ่ส่วนกุศลไปกับฉัพพรรณรังสีรัศมีหกประการขององค์สมเด็จพระพิชิตมารศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

ขอได้โปรดดลบันดาลให้สรรพสัตว์ทั้งสามโลก เจ้ากรรมนายเวร และญาติมิตร มีความสุขสำเร็จในชีวิต ได้หลุดพ้นจากวัฎสงสาร โดยสิ้นเชิง ด้วยพระบารมีมิอาจประมาณ ลูกขอน้อมนอบนมัสการด้วยจิตใจ ขอให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก เจ้ากรรมนายเวรญาติมิตรและจิตลูกสว่างสะอาดสดใส หลุดพ้นไซร้สู่บ้านพระนิพพานพร้อมด้วยบริวารทุกท่านเทอญ สัมปะติจฉามิ สัมปะจิตฉามิ นิพพานสุขัง

จาก ธรรมประทานพร เล่ม ๔
__________________

การจะแก้ไขกรรม หรือแก้ไขดวงก็คือ
การแก้เข้ามาในใจเรา แก้ไขความประพฤติ
ถึงจะแก้กรรมเก่าได้ แต่ถ้ายังไม่เลิกนิสัยชั่วๆ
มันก็ต้องทำกรรมชั่วอีกแหละ

กรรมใดผู้ทำ ทำด้วยความประณีต ผู้นั้นย่อมได้รับผลของกรรมอันประณีต
กรรมใดผู้ทำ ทำด้วยความหยาบ ผู้นั้นย่อมได้รับผลของกรรมอันหยาบ

ดังนั้น :

บุญใดเป็นบุญอันประณีต ผู้นั้นย่อมได้รับผลบุญอันประณีต
บุญใดเป็นบุญอันหยาบ ผู้นั้นย่อมได้รับผลบุญอันหยาบ

รู้ไม่ละหาพระไม่เจอ
สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรทำความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง
แม้กระทำความผูกพันและหมายมั่นให้สิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบัน ก็เป็นไปไม่ได้
ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกข์แต่ผู้เดียว โดยความไม่สมหวังตลอดไป
อนาคตที่ยังมาไม่ถึงนั้น เป็นสิ่งไม่ควรไปยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน

อดีตปล่อยไว้ตามอดีต อนาคตปล่อยไว้ตามกาลของมัน
ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้ เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ ไม่สุดวิสัย

บทพระนามพระมัญชุศรี มหาโพธิสัตว์ - Buddist
[Add รถขนของ's blog to your web]