ชมการจุดอกไม้ไฟที่ Aragawa Kawa & Sumida Gawa
เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคม เป็นการประเดิมการจุดพลุดอกไม้ไฟประจำปีของชาวคันโต
มีการจุดพลุดอกไม้ไฟหรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า Hanabi จำนวน 12000 ลูก ที่ริมแม่น้ำArakawa Adashi Ku
ชาวบ้านหอบเสื่อกันไปปูนั่งชมดอกไม้ไฟกันแต่เย็น เริ่มจุดพลุเวลาหกโมงครี่ง เราออกจากบ้านไปห้าโมง เพราะฝนตกลงมา เดิมว่าจะไปแต่สี่โมงเย็น แต่งตัวเสร็จนั่งรอให้ฝนหาย ทำท่าจะไม่ได้ไป แต่ฝนก็หยุดตกให้
เริ่มมืด เสียงพลุลูกแรกถูกจุดขึ้นสู่ท้องฟ้า ด้วยการให้ผู้ชมช่วยกันนับถอยหลัง บรรยากาศสนุกดี
สาวๆแต่งชุดยูกะตะมาชมการจุพลุ
จากกล้องตัวเองถ่ายไม่ได้เรื่องเลย
พลุจากกล้องสามี เอาขาตั้งกล้องไปด้วย แต่ภาพก็ยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
............
พลุก็เหมือนๆกันทุกปี แต่ทำไมคนก็ตามไปดูกัน เพราะเหมือนเป็นการบอกว่าปีนี้ยังมีชีวิตอยู่ได้ชมพลุอีก
ปูเสื่อนอนดูพลุ แล้วก็คิดว่า ชีวิตคนเราก็เหมือนพลุ ถูกจุดขึ้นไปลอยอยู่บนฟ้า แค่เสี้ยววินาทีก็ตกสู่พื้นดิน
ดูพลุดอกไม้ไฟถึงสองทุ่มครี่ง ก็เป็นอันจบ ต่างหอบเสื่อหอมข้าวของกลับบ้าน
ต่อไปเป็นงานจุดดอกไม้ไฟใหญ่ประจำปีของชาวคันโต ที่ริมแม่น้ำสุมิดา จัดให้มีเมื่อวันเสาร์ที่ 25 งานนี้เราไปจับจองพื้นที่กันแต่เที่ยงวัน
ได้พบหลานๆนักเรียนไทยที่มาจับจองพื้นที่ชมดอกไม้ไฟ หลานเต้าหู้และหลานนอย น่ารักมาก แบ่งผัดไทยที่แสนอร่อยมาให้ทาน ติดใจมาก ปรกติไม่ค่อยได้ทานที่ถูกปากแบบนี้
ระหว่างนั่งรอ ก็แอบถ่ายหนุ่มๆสาวๆในชุดยูกะตะ น่ารักดี
นั่งอยู่ริมทางเดิน มองเห็นเท้าหนุ่มสาวญี่ปุ่นแล้วต้องหันกลับมามองเท้าตัวเอง เพราะชาวญี่ปุ่นเท้าขาวมากๆ
ผิดกับเท้าเรา ที่ทั้งหนาทั้งดำ ไม่สวยเหมือนเท้าคนญี่ปุ่น เรื่องนี้สามีชอบเอามาล้อเลียน เพราะเท้าเขาขาวมาก
สาวๆในชุดยูกะตะ วันนี้อยากจะเปลี่ยนชื่อเป็นวันยูกะตะเดย์เสียมากกว่า เพราะหนุ่มสาวญี่ปุ่นพร้อมใจกันแต่งมาชมดอกไม้ไฟ
ประเทศไทยเรา จะทำอย่างไรให้เด็กหนุ่มสาวสมัยใหม่ นิยมการแต่งกายประจำชาติเดินเที่ยวเหมือนเขาบ้าง
หนุ่มสาววัยรุ่น นักศึกษาแต่งชุดยูกะตะมานั่งปาร์ตี้รอชมพลุ
หนุ่มสาวไทยเราก็มาชมเหมือนกัน
เตรียมขาตั้งกล้องมาเก็บภาพพลุ
บรรยากาศผู้มาชมพลุแน่นขนัดตั้งแต่เที่ยง ต่างมาจับจองพื้นที่ บางคนมาตั้งแต่เมื่อคืน บางคนก็จ้างคนมานอนเฝ้า
การแสดงการจุพลุดอกไม้ไฟที่สุมิดะกาวา นี้ นับเป็นงานใหญ่สุดมีการถ่ายทอดทีวีให้ชาวญี่ปุ่นชมกันทั่วประเทศ มีดารามาร่วมงานเป็นประจำ สร้างความสุขสนุกสนานให้แก่ประชาชน นับเป็นการคืนกำไรให้แก่ประชาชนอย่างหนึ่ง
เมื่อได้เวลา พลุลูกแรกก็ถูกจุดขึ้นเสียงดังกัมปนาททั่วท้องน้ำ การจุดอกไม้ไฟแต่ละที่จะมีบริษัทห้างร้านเป็นสปอนเซอร์ นับเป็นการคืนกำไรต่อผู้มีอุปการะคุณอุดหนุนสินค้ามาเป็นเวลาหลายปี
ลูกแล้วลูกเล่าที่พุ่งสู่ท้องฟ้า
จากกล้องเรา แบตหมดพอดีได้ภาพสวยแบบนี้ เพราะเรานั่งอยู่หน้าที่จุพลุพอดี ไม่มีอะไรมาบดบังสายตา
ภาพจากกล้องสามี คราวนี้สวยกว่าที่อารากาวา
..........
,,,,,
พลุประมาณสองหมื่นกว่าลูกถูกจุขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
เสียงดังสนั่นไปทั่วท้องน้ำ
นำความสุข ความหวังมาสู่ชาวญี่ปุ่น
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา เมื่อพลุชุดสุดท้ายจบลงเมื่อเวลาสามทุ่มครึ่ง
ชีวิตวนเวียนเฝ้าชมพลุแบบนี้มาสิบสี่ปี แต่ยังจะอยู่ชื่นชมต่อไป
สามีชอบพูดว่าเราจะอยู่อีกยี่สิบปี ตอนนี้ห้าสิบแปด อีกยี่สิบปีก็เจ็ดสิบแปด จะนั่งเล่นเน็ตไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้
ชีวิตคนจะเอาอะไรแน่ เกิดปุบปับเป็นลมตายวันพรุ่งนี้ ใครจะรู้
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของเดือนกรกฏาคม ผ่านไปอีกหนึ่งเดือน ต่อจากนี้หลายๆพื้นที่ก็จะมีจุดดอกไม้ไฟแต่เป็นบรรยากาศเล็กๆ
ขอบคุณสามีที่ให้ความสุขมาตลอดสิบสี่ปีที่อยู่ร่วมกัน แม้มีหลายครั้งที่เราทะเลาะกัน แต่เราก็รักกันไม่ใช่หรือ ความรัก การให้อภัยซึ่งกันและกัน ช่วยให้เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตามสมควรแก่อัตถภาพ
Create Date : 31 กรกฎาคม 2552 |
|
10 comments |
Last Update : 31 กรกฎาคม 2552 8:31:46 น. |
Counter : 5058 Pageviews. |
|
|
|