|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ครั้งแรกในชีวิต.....ตามพระไปส่งวิญญาณ
ก็อย่างที่เคยเล่าไว้ว่า มีคนไทยแถวบ้านชื่อหน่องเสียชีวิตในห้องพักที่อาศัยอยู่คนเดียว
หลังจากที่ทางตำรวจสืบสวนสอบสวนจนแน่ชัดแล้วว่า ผู้ตายเสียชิวิตจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ไม่ได้มีการฆาตกรรมใดๆ ทางตำรวจก็ติดต่อให้เพื่อนๆที่รับจะเป็นผู้จัดงานฌาปนกิจศพให้ นำร่างอันไร้วิญญาณของผู้ตายออกจากโรงพยาบาลได้
ก่อนหน้านั้น ได้รับโทรศัพท์ให้ไปร่วมฟังแผนการจัดงานฌาปนกิจศพของหน่องด้วย เนื่องจากการเสียชีวิตของหน่อง เป็นเรื่องดังและเสียขวัญสำหรับคนไทยที่รู้จักชอบพอกับหน่องเป็นอย่างมาก
หน่องอาศัยอยู่ในเมืองที่อยู่มานับสิบปี มีเพื่อนมากมาย เพราะหน่องทำงานเป็นพ่อครัวและสารพัดงาน เพื่อนก็มากตามไปด้วยทุกวงการ เมื่อต่างได้รับทราบข่าวก็ทำให้สงสารและเห็นใจหน่องเป็นอย่างมาก
คุณเชอรี่ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยและมีกิจการอื่นๆในเมืองนั้น ซึ่งรู้จักสนิทสนมคุ้นเคยกับหน่องเป็นอย่างดี
จึงได้รับเป็นแม่งานร่วมกับเพื่อนๆจัดงานฌาปนกิจศพให้หน่อง ไม่ปล่อยให้กลายเป็นศพอนาถาไร้ญาติ
แต่เรื่องราวต่างๆก็ตามมามากมาย เมื่อมีเรื่องเงินเรื่องทองมาเกี่ยวข้อง ยังไม่ขอเล่าตอนนี้
จะเล่าตอนที่เราตกลงกันเรื่องการนิมนต์พระจากวัดปากน้ำมาสวดอภิธรรมและมาเป็นนำวิญญาณของหน่องไปสู่สุคติตามความเชื่อของคนไทย
เมื่่อวานเริ่มด้วยการ นิมนต์พระมาสองรูป มาฉันอาหารเพล ทำบุญให้แก่หน่อง มีเพื่อนๆมาร่วมกันประมาณยี่สิบกว่าคน
ในการนี้ มีเพื่อนหญิงที่ใจคอกว้างขวาง สามีเขาก็อนุญาตให้มาจัดงานได้ที่อพาทเม้นท์ ถึงแม้จะสถานที่คับแคบ แต่พวกเราอบอุ่นใจที่ได้มีพระมาสวดอภิธรรม ทำบุญให้หน่อง
ถึงแม้พวกเราจะอยู่ห่างไกลบ้านเมือง ห่างไกลญาติพี่น้อง แต่ด้วยความดีของหน่องที่เคยทำมาไว้บ้าง
เพื่อนฝูงพอรู้ข่าวก็มาร่วมงานกัน พระฉันเพลให้ศีลให้พรเสร็จแล้ว ผู้มาร่วมงานก็ร่วมกันรับประทานอาหาร เรียกว่าข้าวหม้อแกงหม้อ มีทั้งอาหารเหนือสูตรดั้งเดิม อาหารอีสานสูตรดั้งเดิม อาหารภาคกลาง สร้างความอบอุ่นใจได้มาก
ตามที่พวกเราได้ปรีกษากันไว้ว่า จะขอให้พระท่านไปที่อพาทเม้นท์ของหน่อง ที่หน่องเสียชีวิต
แต่เนื่องจากทางเจ้าของอพาท์ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในห้องนั้นได้ พระท่านก็ทำได้แต่เพียง ไปยืนหน้าห้อง เพื่อไปสวดนำวิญญาณของหน่อง ตามออกไปยังสถานที่ที่ทำการฌาปนกิจร่างอันไร้วิญญาณของหน่อง
เมื่อไปถึงนั้น เป็นครั้งแรกที่ได้มาที่พักของหน่อง ก็ดูน่ากลัวอย่างไรไม่รู้ ทั้งๆที่เป็นกลางวันแสกๆ
เพราะอพาท์ที่หน่องอยู่ ค่อนข้างอับทึบ และห้องที่เสียชีวิตก็อยู่ในสุด แสงแดดเข้าไม่ถึง ดูมืดหม่นหมองอย่างไรชอบกล
ห้องทุกห้องปิดเงียบ ไม่มีใครออกมาเลย หรือว่าจะไม่มีคนอยู่ก็ไม่ทราบได้ สงสัยเป็นอพาท์คนโสด
พระท่านไปยืนเอามือแตะห้อง และสวดอยู่ประมาณห้านาที เพื่อนๆที่ไปได้นำรูปถ่ายของหน่อง และเรียกวิญญาณหน่องให้ออกจากห้อง ตามไปที่สถานที่ฌาปนกิจศพ เราไปรถสองคัน
เมื่อไปถึงสถานที่ฌาปนกิจศพ มีเพื่อนมารอกันอยู่แล้วหลายคน เมื่อได้เวลาประมาณบ่ายสองโมง คนก็เริ่มมากันมาก นับได้ประมาณแปดสิบคน ทำให้งานไม่เงียบเหงา เรารู้สึกปลื้มใจแทนหน่อง ที่อย่างน้อยหน่องก็ไม่ได้จากไปโดยไร้ญาติขาดมิตร นั่นเป็นเพราะหน่องสร้างแต่ความสุขสนุกสนานให้เพื่อนๆ
ยามที่มีชีวิตอยู่ หน่องจะเป็นเพื่อนที่ดี ถึงแม้หน่องซึ่งมักจะขาดแคลนเงินทองอยู่เป็นประจำ แต่หน่องไม่เคยขาดแคลนน้ำใจ งานไหนหน่องไปช่วยทำอาหารให้ได้ หน่องยินดีไปโดยไม่เกี่ยงงอน
ถ้ามีเงินมากหน่องก็จะทำอาหารไปช่วย ไม่มีเงินก็เอาแรงกายไปช่วยทำอาหาร
เวลานับสิบปีที่อาศัยอยู่ที่เมือง สะสมมิตรภาพดีๆเอาไว้ให้กับเพื่อนๆเป็นอย่างมาก
เมื่อเสียชีวิตไป เพื่อนๆต่างมาร่วมงานกันอย่างมากมาย
ทางสถานที่ฌาปนกิจศพของญี่ปุ่นที่นี่ ก็โอ่อ่ากว้างขวางใหญ่โต ทันสมัยมาก
เขาเปิดห้องให้เพื่อนๆเข้าไปนำดอกไม้วางไว้บนร่างอันไร้วิญญาณของหน่อง ที่ห่อหุ้มด้วยผ้าขาวตลอดร่าง มีเสื้อผ้าและรองเท้าคู่เก่งที่หน่องรัก วางอยู่ในโลง
เพื่อนๆได้รับอนุญาตให้เข้าไปเอามาได้แต่เพียงรองเท้ากับเสื้อกางเกงชุดนี้ชุดเดียว เพื่อหน่องจะได้มีเสื้อผ้าใส่
ได้เวลาอันสมควร เราก็ย้ายมาอีกห้องที่จะทำการฌาปนกิจศพ พระท่านก็มาทำพิธีบังสุกุล หน้าโลงศพ เป็นภาพที่คิดว่า หน่องเป็นคนที่จากไปอย่างอบอุ่นในที่สุด มีพระถึงสององค์มาทำพิธีให้
เพื่อนๆเข้าเคารพศพ และกล่าวคำอำลาและขออโหสิกรรมเป็นครั้งสุดท้าย
เจ้าหน้าที่ทำการนำโลงเข้าห้องเผา โดยเปิดห้องสำหรับให้ญาติรอเก็บกระดูกหลังจากที่เผาเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง
ระหว่างการรอ เพื่อนๆหน่องก็มาปรึกษากันว่า ตอนนี้เกิดมีปัญหาตามมาก็คือ ทางเจ้าของอพาท์เม้นท์ เขาต้องการเรียกร้องค่าจัดเก็บทำความสะอาดห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่ค้างอยู่เป็นเงินจำนวนมาก
คนญี่ปุ่นที่เป็นคนค้ำประกันห้องก็ไม่ยอมที่จะต้องเป็นผู้จ่าย จะมาเรียกเก็บจากเงินที่เพื่อนร่วมกันช่วยงานศพ
สำหรับค่าพิธีฌาปนกิจศพนีั ใช้จ่ายเงินทั้งสิ้น 420,000 Yen เพื่อนก็ช่วยงานกันไปคนละนิดคนละหน่อยพอค่าใช้จ่าย
แต่จะมาให้จ่ายช่วยค่าอพาท์เมนท์ คงไม่มีใครช่วยแน่ ก็อย่างที่บอก ทางญี่ปุ่นเขาเข้มงวดเกี่ยวกับเรื่องค่าเก็บของทิ้งมาก
ไม่ใช่เหมือนเมืองไทย ทุกอย่างที่ญี่ปุ่นเป็นเงิน ค่าทำความสะอาดห้อง ค่าทิ้งของ เป็นเงินนับสิบหมื่นเยน
มีเพื่อนๆของหน่องหลายคนเริ่มไม่เห็นด้วยที่จะมาจัดงาน บางคนก็บอกว่าทำไมไม่ให้เป็นศพไร้ญาติไป
เพราะถ้าทำเป็นศพไร้ญาติ ไม่แสดงว่ามีเพื่อนฝูงเยอะแยะแบบนี้ ทางตำรวจเขาก็จะจัดการเผาแล้วส่งให้สถานทูตเอง
แต่นี่บรรดาเพื่อนๆก็มีน้ำใจจัดงานให้ และนำเถ้ากระดูกไปเก็บไว้ที่บ้านเพื่อน รอฝากคนนำกลับไปให้ญาติเขาที่เมืองไทย
น้ำใจจากเพื่อนต่างๆนี้ มากมายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แต่เมื่อมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง คนที่เป็นคนค่้ำประกันอพาท์เม้นท์ก็ไม่พอใจที่จะต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ร่างกายของหน่องก็ถูกเผาเป็นเถ้ากระดูกสีขาวๆ ทางเจ้าพนักงานได้ให้เพื่อนๆ มาคีบใส่โถ ได้เต็มโต โดยกำกับบอกทุกอย่างว่า กระดูกชิ้นนี้เป็นส่วนไหนของร่างกาย จนกระทั่งมาถึงกระดูกชิ้นสุดท้าย คือกระดูกส่วนศรีษะ ซึ่งจะถูกคีบมาอยู่บนสุด แล้วปิดฝา บรรจุใส่กล่อง ผูกผ้าขาว ส่งให้เพื่อนนำกลับไปเก็บไว้ที่บ้าน
เพื่อนๆได้นำโถบรรจุกระดูก กลับมาที่บ้านและนิมนต์พระมาสวดทำบุญกระดูกอีกครั้ง
เป็นการเสร็จสิ้นการฌาปนกิจศพหน่อง
เราไม่รู้สึกกลัวเลย เพราะเหมือนได้ไปส่งหน่องเขาไปสู่สุขคติจริงๆ วิญญานหน่องจะไม่ต้องเร่ร่อนไปที่โน่นที่นี่อีกต่อไป
สิ้นเดือนนี้มีเพื่อนสนิทของหน่องจะเดินทางกลับไปไทย และรับอาสาพาหน่องกลับประเทศไทย
หน่องจะได้กลับประเทศไทย หลังจากที่จากไปนับสิบปี แม้จะเป็นการกลับไปเพียงเถ้ากระดูก
แต่หน่องยังได้กลับไปหาพ่อแม่ ญาติพี่น้อง
เหลือแต่ตัวเรานี่แหละ ที่ยังไม่รู้วันตาย จะได้กลับไปอย่างหน่องหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ตายไปแล้ว ความดีที่ยังพอมีอยู่บ้าง คงไม่ทำให้เราต้องจากไปอย่างเศร้าเหงาหงอยมากนัก
ชีวิตคนเราก็แค่นี้ ยามอยู่ก็ให้เขารัก จากไปก็ให้เขาอาลัย ดีกว่ายามมีชีวิตอยู่ก็ไม่เคยทำความดีไว้ให้ใคร ยากตายจากไป มีแต่คนสาปแช่ง จงทำความดีเอาไว้มากๆ สิ่งที่เหลืออยู่คือความดีเท่านั้น ตายไปเอาอะไรไปด้วยไม่ได้เลย
Create Date : 19 มีนาคม 2553 |
|
17 comments |
Last Update : 19 มีนาคม 2553 8:39:12 น. |
Counter : 1948 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: natto (natto-kita ) 19 มีนาคม 2553 9:48:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: มูมู IP: 123.227.219.55 19 มีนาคม 2553 11:31:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: ศิริวรรณ IP: 203.144.144.164 19 มีนาคม 2553 15:29:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: เก่ง (keng_toshi ) 19 มีนาคม 2553 16:05:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: พลอย IP: 79.84.218.169 19 มีนาคม 2553 18:50:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: Boo IP: 203.144.144.165 19 มีนาคม 2553 20:06:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: KC, Mo IP: 24.145.241.225 19 มีนาคม 2553 21:04:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: Petersway IP: 216.255.164.144 19 มีนาคม 2553 22:47:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: keakai (tossagun1 ) 20 มีนาคม 2553 4:58:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: พนอจัน (พนอจัน ) 20 มีนาคม 2553 9:12:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: Por IP: 69.179.116.91 21 มีนาคม 2553 0:20:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: Nat IP: 78.20.149.218 14 เมษายน 2553 21:30:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: Nattaya IP: 78.20.149.218 14 เมษายน 2553 21:38:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: Beeze IP: 219.126.144.18 5 มกราคม 2554 8:18:33 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Japan
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 291 คน [?]
|
ป้าพนอจัน เกิด วันที่ ๒ พฤกษภาคม ๒๔๙๔ เป็นคนกรุงเทพ เกิด ที่ เขตดุสิต ถนนสุโขทัย
ชอบทำอาหาร ชอบดอกไม้ ชอบท่องเที่ยว
ตอนนี้แต่งงาน มาอยู่ประเทศญี่ปุ่น ได้ 16 ปี
|
|
|
|
|
|
|
|
นัทแวะมาร่วมส่งวิญญานคุณหน่องด้วยคนค่ะ ขอให้วิญญานของคุณหน่องไปสู่สุคติ....
และ ได้กลับไปยังบ้านเกิดด้วยค่ะ.....