ขออย่ายอมแพ้ ....อย่าอ่อนแอ ...แม้จะร้องไห้ จงลุกขึ้นสู้ไป จุดหมายไม่ไกลเกินจริง
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
10 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 

เล่าเรื่องเศร้า....

เมื่อวานตอนทุ่มกว่าๆ ได้รับโทรศัพท์จากน้องสาวคนไทยแถวบ้าน แจ้งข่าวการเสียชีวิตของเพื่อนคนไทย

สังคมคนไทยแถวถิ่นที่อยู่ มีคนไทยอาศัยทำมาหากิน มีครอบครัวอยู่ราวยี่สิบกว่าคน

ส่วนมากจะเห็นกันมานาน ใครเจ็บใครตายก็ส่งข่าวกันและกัน บางคนก็สนิทสนมพูดคุยกันบ่อย
บ้างก็แค่ทักทายพูดคุยในฐานะคนไทยด้วยกัน

แต่เพื่อนคนไทยที่เสียชีวิตนี้ เราคุยกันถูกคอด้วยมีรสนิยมการอ่านหนังสือชนิดเดียวกัน คืออ่านพลอยแกมเพชร

ก็ทำให้คุยกันเรื่องวงสังคมคนไทยที่เมืองไทยได้ต่อเนื่อง เรียกว่าคนคอเดียวกันในเรื่องการอ่าน

ขอสมมุติชื่อเพื่อนคนไทยคนนี้ว่า หน่อง

หน่องเป็นชายหนุ่มหัวใจสาว มีความสามารถในการพูดคุย และทำอาหารอร่อย

ประกอบอาชีพหลากหลายอย่างในประเทศญี่ปุ่นโดยไม่มีวีซ่า เป็นเวลายาวนานกว่าสิบปี

หน่องเป็นชาวเชียงใหม่ เดินทางมาทำงานที่ญี่ปุ่นในสมัยรุ่นแรกๆ หน่องเคยเล่าให้ฟังว่า

สมัยมาญี่ปุ่นรอบแรก สามารถเก็บเงินได้เป็นล้านๆ แล้วกลับไปเมืองไทย ใช้เงินไม่ถึงปีก็หมด
จึงหาทางมาญี่ปุ่นอีกรอบ การมารอบสองนี้ หน่องก็ทำงานสารพัด ไม่ว่าจะเป็นงานโรงงาน งานร้านอาหาร

แต่เนื่่องจากมีพรสวรรค์ในการทำอาหาร หน่องจึงมายึดงานพ่อครัว ตามร้านอาหาร

อาหารที่หน่องทำอร่อยมาก กินแล้วติดใจไม่ลืมคือ แกงโฮะ และหน่องนี่่แหละเป็นผู้สอนเทคนิคการทำแกงโฮะแบบสำเร็จรูปรวดเร็วให้



หน่องเป็นคนสนุกสนาน งานไหนงานนั้น ถ้ามีหน่องไปร่วมงาน งานมักจะไม่กร่อย
เพราะหน่องมีเทคนิคที่จะสร้างความสนุกสนานให้กับงานนั้นๆ

ล่าสุดที่ได้เจอหน่อง คือประมาณสองเดือนก่อน ที่ร้านอาหารแถวบ้าน ถามหน่องว่าสบายดีหรือ
หน่องก็บอกว่าไม่ค่อยสบาย เหนื่อยง่าย เหมือนจะเป็นโรคหัวใจ หน้าก็ซีดๆไม่อ้วนท้วมเหมือนเมื่อก่อน

เราก็พูดคุยกันไม่มากนัก แล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย เพราะวิถีชีวิตสวนทางกัน ถ้าจะพบหน่องต้องออกไปตอนกลางคืน
ตอนกลางวันหน่องจะนอนพักผ่อน ไม่ออกมาเดินเที่ยวเล่น ทำให้เราไม่ค่อยได้เจอกัน

เล่ามาเสียยาว เพิ่อเป็นการเกริ่น

โทรศัพท์ที่โทรมาบอกเมื่อวาน น้องคนไทยโทรมาแจ้งข่าวว่า หน่องเสียชีวิตแล้ว เสียชีวิตคนเดียวในห้องมาแปดวัน

โดยไม่มีใครเห็น จนกระทั่งมีคนสังเกตุว่า ห้องเปิดไฟตลอดวันตลอดคืนมาได้อาทิตย์หนึ่ง
น้ำก็ไหลตลอดวันตลอดคืน และเริ่มได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากห้อง

จึงมีชาวบ้านคนญี่ปุ่นแถวนั้น ไปแจ้งตำรวจให้มาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อตำรวจมา ก็ขอกุญแจจากเจ้าของอพาทเม้นท์ เปิดเข้าไป พบหน่องนอนเป็นศพ อยู่ในอ่างอาบน้ำ

เรียกว่าหน่องเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ ไม่มีใครรู้ใครเห็นเลย

มีคนบอกว่า เห็นหน่องครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 28 กุมภา

เพราะบรรดาขาหวย เริ่มสงสัยว่าหน่องหายไปไหน เพราะไม่เห็นมาเขียนหวย
บ้างก็คิดไปว่า สงสัยหน่องจะหลบเจ้าหนี้ ก็เลยไม่มีใครสนใจตามหา ก็ด้วยว่าหน่องมักจะหลบหน้าเจ้าหนี้หายไปบ่อยๆ

ก่อนวันที่จะได้รู้ข่าวการเสียชีวิตของหน่อง เราไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆคนไทยแถวบ้าน ยังคุยกันเลยว่า
ไม่เห็นหน่องมาหลายวันแล้ว สาวเพื่อนของหน่องก็ยังบอกว่า สงสัยหน่องหลบเจ้าหนี้ ไม่คิดเลยว่าเกิดเรื่องอะไรกับหน่อง

จนวันที่ได้รู้ว่าหน่องเสียชีวิต ก็เพราะมีคนญี่ปุ่นมาเล่าให้คนไทยฟังว่า มีผู้ชายไทยตายคาห้อง ตำรวจกำลังไปดูที่เกิดเหตุ

เพื่อนๆคนไทยจึงได้สังหรณ์ใจว่าจะเป็นหน่อง จึงตามไปที่อพาทเม้นท์ที่หน่องพักอยู่

ก็เจอตำรวจกำลังชันสูตรพลิกศพอยู่ เพื่อนของหน่องตกใจมาก รีบโทรแจ้งข่าวให้เพื่อนทราบ

ทุกคนตกใจและเสียใจกันมาก ไม่คิดว่าหน่องมาจากไปรวดเร็วอย่างนี้

เขาเล่ากันว่า หน่องกินเหล้า แล้วก็กินยาแก้ปวดหัว แล้วก็ไปแช่น้ำในอ่าง เกิดอาการหัวใจวายไปโดยไม่มีใครช่วยทัน

วันนี้เพื่อนโทรมาเล่าอีกว่า หน่องเคยพูดว่า อยากกลับเมืองไทยแล้ว

ไม่คิดเลยว่าหน่องจะจากไปก่อนที่จะได้กลับเมืองไทย หลับให้สบายเถืดหน่อง หน่องไม่ต้องทุกข์อีกแล้ว

เมื่อวานพอได้รับทราบข่าว เรานั่งคิดไปคิดมา ก็น้ำตาไหล ร้องไห้ไม่หยุด สามีก็บอกว่า
ทำไมต้องเสียใจอย่างกับเป็นญาติ ไม่ใช่ญาติไม่ใช่หรือ

เขาไม่เข้าใจความรู้สึกร่วมที่เรามี

เราคิดสงสารหน่องที่ต้องมาตายอยู่คนเดียว แล้วก็ทำให้เราพาลคิดไปว่า ความจริงการอยู่ต่างบ้านต่างเมือง

ถ้าเราเป็นอะไรไป จะไม่ได้ทันสั่งเสียลูกหลาน คงไม่มีใครทันมาเห็นใจแน่เลย
สามีก็บอกว่า ไม่ต้องกังวลไป อย่างน้อยก็มีเขาอยู่ เขาจะจัดการงานศพให้เรียบร้อย

เราก็บอกว่า ไม่ใช่อย่างนั้นที่กังวล เราเศร้าและกลัวว่า เราจะต้องจากไปอย่างว้าเหว่ ไม่มีญาติพี่น้องได้ทันมาเห็นใจ

การอยู่ไกลบ้านนี้ ก็เป็นเรื่องที่คิดไปก็เศร้า ที่เราต้องอยู่อย่างตัวใครตัวมัน จะสุขจะทุกข์ก็ต้องพึ่งตัวเอง

ตอนนี้ก็ปลงไปหลายอย่าง มองไปทางไหนก็คิดว่า เราตายไปก็เอาไปไม่ได้ ไม่มีอะไรเลยที่เราจะนำติดตัวไปได้ด้วย

เราต้องทิ้งทุกอย่างไว้ ไม่สามารถนำอะไรติดตัวไปได้เลย

สามีก็เริ่มเข้าใจ และได้จดเบอร์เอาไว้ให้ว่าถ้าเขาเป็นอะไรไป จะต้องโทรไปแจ้งใครบ้าง

ตัวเราตอนนี้ก็อายุมากแล้ว มีอาการเจ็บหัวใจเกิดขึ้นนิดๆ เวลาเครียด

ถ้าเกิดหัวใจวายเฉียบพลันไปเลยก็ไม่ได้กลัวอะไร ดีเสียอีกจะได้ไม่ต้องเจ็ยปวดมากนัก

ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน พูดกันอยู่ดีๆ อีกไม่กี่วันอาจจะเป็นอะไรไปก็ได้

เมื่อวานจนถึงวันนี้ รู้สึกเศร้าใจอย่างไรบอกไม่ถูก




 

Create Date : 10 มีนาคม 2553
22 comments
Last Update : 10 มีนาคม 2553 18:06:53 น.
Counter : 2072 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ ชีวิตของคนเราไม่แน่นอนเลยจริงๆค่ะ

ของรักดีก็บอกกับตัวเองแบบนี้ทุกๆวัน



 

โดย: รักดี 10 มีนาคม 2553 19:02:13 น.  

 

ขอไว้อาลัยด้วยค่ะ

 

โดย: @NBC 10 มีนาคม 2553 19:33:18 น.  

 



....รักแค่ไหนก็ให้ได้.....
ถ้าจริงใจมีให้กัน
สิ่งเดียวจะผูกพัน
นานเท่านานคือใจเรา
สัญญากี่ร้อยหน
หากใจคนนั้นว่างเปล่า
รักก็ยากจะยืนยาว
คงต้องเศร้าในสักวัน
รักแค่ไหนก็ให้ได้
ถ้าหัวใจเธอคงมั่น
พร้อมเคียงคู่ร่วมฝ่าฟัน
เคียงข้างกันอย่างอาทร

 

โดย: ooyporn 10 มีนาคม 2553 20:01:50 น.  

 

เสียใจด้วยนะคะคุณป้ากับการสูญเสีย เก่งอ่านแล้วก็คิดตาม รู้สึกเศร้าไปด้วยมากเลยค่ะ

 

โดย: เก่ง (keng_toshi ) 10 มีนาคม 2553 20:49:21 น.  

 

แสดงความเสียใจด้วยค่ะ แกไปสบายอยู่บนสวรรค์ ไม่เจ็บ ปวด ทุกข์ ร้อนแล้ว

ส่วนพวกเราคงได้แต่ทำทุกวันให้ดีที่สุดน่ะค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

โดย: Charlie^^ 10 มีนาคม 2553 21:32:44 น.  

 

อ่านแล้วก็เศร้าตามพี่ต้อยไปด้วย น่าสงสารเขาจังค่ะ

RIP

 

โดย: PatPDX IP: 70.176.254.67 10 มีนาคม 2553 21:52:17 น.  

 

ชีวิตของคนเรานี่ไม่แน่นอนจริงฯน่ะค่ะ
อย่างตายายปอเหมือนกัน จากไปโดยที่ที่ปอไม่ได้ลา เพราะอยู่ไกลกันเหลือเกิน จากไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
และเดือนเดียวกันด้วย ไม่อยากจะเชื่อเลยยยย เขาคิดถึงกันเลยไปด้วยกันตาจากไปต้นเดือน ยายจากไปปลายเดือน
ตา 88 ยาย 89อยู่ด้วยกันมา 70 ปี
รักษาสุขภาพน่ะคะ คุณลุงคุณป้า

 

โดย: por IP: 69.179.118.139 10 มีนาคม 2553 22:13:26 น.  

 

คุณน้าคะ อ่านแล้วเศร้าด้วยคนค่ะ

พักหลังๆรับฟังข่าวการเสียชีวิตบ่อยครั้ง ที่ทำให้ตกใจก็คุณสีหพันธุ์ ห้องBP แล้วล่าสุด คุณหมีมังกร ห้องก้นครัว ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวก็จริง แต่ก็เห็นกระทู้กันอยู่หลัดๆ...

ช่วงนี้ ถ้าถามว่ากลัวอะไรที่สุด...กลัวตายมากที่สุดค่ะ บางทีคิดๆเรื่องตาย แล้วก็น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้สาเหตุ กลัวเสียจนจับขั้วหัวใจ

เข้าใจความรู้สึกของคุณน้าเวลานี้มากๆค่ะ เพราะออยก็เป็นเหมือนกัน

คุณน้ารักษาสุขภาพด้วยนะคะ

 

โดย: Oil IP: 58.159.153.34 10 มีนาคม 2553 22:21:08 น.  

 

ป้าต้อยมีคุณลุงสาหร่าย
ไม่ต้องเศร้าค่ะ

 

โดย: ตา (ta/'o-o/' ) 10 มีนาคม 2553 22:58:57 น.  

 

รู้สึกเศร้าจริงๆค่ะ ในฐานะที่อยู่ต่างบ้านต่างเมืองเหมือนกัน

 

โดย: sneeuwbal 11 มีนาคม 2553 0:02:14 น.  

 

ขอให้คุณหน่องหลับสบายนะคะ

เรื่องเศร้าแบบนี้ อ่านแล้วใจหายนะคะ
ไกลจากบ้านเกิดเมืองนอน และต้องมาจากไปแบบนี้

 

โดย: kamaron 11 มีนาคม 2553 3:13:26 น.  

 

ขอให้คุณหน่องไปสู่สุขคติเน้อเจ้า
เป็นคนไกลบ้านเหมือนกัน อ่านแล้วใจหาย เป็นห่วงทางบ้านเสมอ เรื่องอย่างนี้ไม่มีใครห้ามได้ ใช้ชีวิตทุกวันให้ดีที่สุดและดูแลคนที่เรารักให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

โดย: คนไกลบ้านมากๆ IP: 89.103.12.38 11 มีนาคม 2553 5:15:33 น.  

 

เวลาอยู่ไกลบ้าน แล้วไม่สบายไม่มีใครคอยดูแล คิดแล้วมันเศร้านะคะ ยิ่งมาจากไปแบบนี้ด้วย
ขอให้คุณหน่องไปสู่สุขคตินะคะ

 

โดย: Mojo&Phadthai 11 มีนาคม 2553 6:21:01 น.  

 

ขอบคุณทุกท่าน ลืมเขียนเล่าไปว่า หน่องอายุ 47 ปี
ซึ่งก็ยังไม่แก่มาก ก่อนตายเขามีความเศร้าเสียใจระบายให้เพื่อนฟัง

เขาทำงานก็โดนคนไทยเจ้าของร้านโกงค่าแรง เล่นแชร์ก็ไม่ได้เงิน
นั่นก็เป็นเพราะเขาลงเล่นแชร์เพื่อใช้หักหนี้ พอเปียได้เจ้าหนี้ก็มาเอาเงินไป ยิ่งอายุมากยิ่งลำบาก งานการก็หาทำยาก หน่องเคยทำงานมาสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานกรรมกร งานโรงงานซักผ้ารีดผ้า งานนวด งานพ่อครัว เรียกว่าต้องอยู่อย่างตีนถีบปากกัด
แต่ยิ่งอยู่ก็ไม่ได้ทำให้ร่ำรวยหรือสบายขึ้น มีหนี้สินรุงรัง ก็เป็นอย่างนี้อีกหลายๆคน เพราะคนเราพออายุเริ่มมาก ร่างกายทำงานไม่ไหว คนก็ไม่ค่อยจ้าง หาคนหนุ่มคนสาวทำได้แรงมากกว่า

หน่องคงเหนื่อยใจเต็มทน เลยใช้เหล้าดับทุกข์ให้นอนหลับไปวันๆ
พอกินเหล้า แล้วกินยาแก้ปวดหัว อาจจะไปทำให้ร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วรับไม่ได้ หัวใจเลยวายเฉียบพลัน ไม่ทันที่จะมีใครได้ช่วย

และยิ่งอยู่ในห้องคนเดียว คนญี่ปุ่นก็รู้อยู่แล้วว่าตัวใครตัวมัน เขาไม่มาสนใจหรอกว่าใครจะเป็นจะตาย

ปัญหาตอนนี้ก็เริ่มมี เกี่ยวกับทรัพย์สินภายในห้อง ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากนอกจากหนังสือ
เพื่อนๆที่ว่าสนิทสนมกันหลายๆคนที่เคยกินเคยเที่ยวกัน ก็ไม่อยากจะไปยุ่ง

นั่นเป็นเพราะว่า ถ้าไปยุ่งหรือทำว่ารู้จักสนิทสนม ต้องเป็นภาระจัดการเรื่องของในห้อง เพราะที่ญี่ปุ่น การทิ้งของเสียเงินค่าทิ้ง แล้วอย่างนี้จะมีใครอยากไปเป็นญาติด้วย เพราะต้องรับผิดชอบใช้ค่าเสียหายที่เกิดในห้องแก่เจ้าของอพาทเม้นท์ ค่าเช่าที่ค้างอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ได้ข่าวที่เพื่อนๆเขาส่งมาว่า ตอนนี้หลายคนก็นิ่งกันไป ไม่มีใครกล้าไปให้ปากคำกับตำรวจ ภาระการนำกระดูกกลับเมืองไทยก็จะเป็นปัญหาที่สถานทูตต่อไป บางทีกระดูกคนที่รอกลับบ้าน ต้องไปค้างเติ่งอยู่ที่สถานทูต เพราะไม่มีคนรับอาสาถือขึ้นเครื่อง ถ้าไม่ใช่เพื่อนที่รักใคร่ชอบพอขนาดตายแทนกันได้

 

โดย: พนอจัน IP: 218.230.58.165 11 มีนาคม 2553 8:03:07 น.  

 

น่าสงสารจังเลยน่ะค่ะคุณป้า
ขอให้คุณหน่อง หลับให้สบายและไปสู่สุขคติล่ะกันค่ะ

 

โดย: por IP: 69.179.118.139 11 มีนาคม 2553 8:29:07 น.  

 

ตอนแรกว่าจะอ่านผ่าน ๆ แล้วรีบไปทำการบ้าน ที่ไหนได้ ข่าวเศร้าสะเหลือเกิน ขอแสดงความเสียใจกับเพื่อน และ ญาติผู้เสียชีวิตด้วยนะครับคุณน้า พวกเราคนอยู่ก็พยายามรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเข้าไว้นะครับ เป็นอะไรจะได้มีแรงไปหาหมอ หรือกลับเมืองไทยได้ ดูแลตัวเองแล้วก็คนใกล้ตัวดี ๆ เข้าไว้

สุดท้ายขอให้คุณหน่องไปสู่สุขคตินะครับ

 

โดย: พล (aoigata ) 11 มีนาคม 2553 15:17:17 น.  

 

แวะเข้ามาอ่านบล้อกค่ะ รู้สึกเศร้าใจไปด้วยเหมือนกันค่ะ ชีวิตคนเรามันไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่างนะคะ

 

โดย: GLA_GAW 11 มีนาคม 2553 17:42:18 น.  

 

เศร้าจังค่ะ

 

โดย: Boo IP: 203.144.144.165 12 มีนาคม 2553 23:06:02 น.  

 

อ่านแล้วเศร้าจังค่ะ สงสารคุณหน่อง ตัวคนเดียวจริงๆ
พักนี้คนเป็นโรคหัวใจแล้วไปฉับพลันเยอะมากๆค่ะ อ่านแล้วเป็นห่วงแม่ที่เมืองไทยจังค่ะ

 

โดย: โอ๋ IP: 211.5.119.17 13 มีนาคม 2553 8:33:05 น.  

 

เศร้ามาก

 

โดย: Ontaro IP: 60.45.157.183 13 มีนาคม 2553 11:55:24 น.  

 

เศร้า ...
ทุกวันนี้ก็ยังคิดเล่นๆเลย ว่าชั้นจะตายที่ไหนเนี่ย ..
มีลูกค้าคนนึง ตายในอ่างแบบคุณหน่องเปี๊ยบ คือ กินเหล้าหนักแล้วแช่น้ำ
สุดท้ายหัวใจวาย 8 วันเหมือนกันกว่าจะรู้ว่าเสียชีวิต เพราะอยู่คนเดียว
อยากเตือน ถ้ากินเหล้าก็หลับเลยไม่ต้องแข่น้ำ เพราะหัวใจวายได้ง่ายมาก
ขอให้เพื่อนไทยคนนี้ได้ลับบ้านด้วยนะคะ

 

โดย: รวมการฯ IP: 111.104.196.217 14 มีนาคม 2553 10:04:13 น.  

 

อ่านแล้วเศร้าจังค่ะ

ตอนนี้ญาติที่อยู่ทางใต้เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายค่ะ คุณแม่ซื้อชุดดำและลูกประคำและของใช้อื่นๆเตรียมเดินทาง ทางนั้นเค้าแจ้งมาเป็นเดือนแล้ว แต่ยังไม่เสียนะคะ ไม่คิดว่าคนที่นี่เค้าจะเตรียมการกันขนาดนี้ รู้สึกใจหายๆยังไงไม่รู้ค่ะ

 

โดย: ari1019 15 มีนาคม 2553 22:06:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พนอจัน
Location :
กรุงเทพฯ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 291 คน [?]




ป้าพนอจัน เกิด วันที่ ๒ พฤกษภาคม ๒๔๙๔

เป็นคนกรุงเทพ เกิด ที่ เขตดุสิต ถนนสุโขทัย

ชอบทำอาหาร ชอบดอกไม้ ชอบท่องเที่ยว

ตอนนี้แต่งงาน มาอยู่ประเทศญี่ปุ่น ได้ 16 ปี
New Comments
Friends' blogs
[Add พนอจัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.