|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
/////// เล่าเรื่องสามี่ ลุงสาหร่ายของฉัน ///////
สำหรับท่านที่เพิ่งเข้ามาอ่าน หรือเคยอ่านเรื่องราวของป้ามาบ้าง
คงจะพอทราบว่า ป้าตั้งชื่อให้สามีว่า ลุงสาหร่าย และก็กลายเป็นนิคเนมที่หลายๆคนมักจะเรียกขานสามีของป้า
หลายท่านก็ถามว่า ทำไมตั้งชื่อสามีว่า มิสเตอร์สาหร่าย ก็ต้องขอตอบว่า เพราะลุงมีชื่อจริงว่า NORIICHI ซึ่งแปลว่าสาหร่ายที่หนึ่ง
ลุงสาหร่าย ปีนี้อายุจะครอบ 63 ในวันที่ 26 เดือนนี้
แต่ลุงแกดูไม่ค่อยแก่ ยอสามีตัวเอง นั่นก็เป็นเพราะว่า ลุงหุ่นดี ไม่อ้วนลงพุง ยังนุ่งกางเกงยีนส์เท่ห์ๆได้อีกนาน
ลุงจะมีสไตล์การแต่งตัวของแกเป็นแพทเทิน คือเสื้อยีนส์ กางเกงยีนส์ ถุงเท้าสีขาว
แต่งงานกันมาสิบหกปี แกจะแต่งอยู่แบบเดียว จนไม่กล้าซื้อเสื้อผ้าแบบใหม่ให้ เพราะซื้อไปก็ไม่ใส่
ลุงเกิดที่จังหวัด Wakayama เมือง Osaka
ลุงเป็นลูกชายคนโต มีน้องสาวอีกหนึ่งคน แต่ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องของคนทั้งสอง ไม่ดีนัก
สามีออกจากบ้านมาตั้งแต่เริ่มเป็นหนุ่ม เขาเล่าว่า เขาทะเลาะกับพ่อ แล้วก็เลยโบยบินออกจากรัง
ออกมาทำงานสร้างตัวคนเดียว ลุงเรียนมาทางสายอาชีวะ ก็ต้องทำงานเป็นพวกช่าง
เขาผ่านงานมาหลายที่ ตั้งแต่บริษัทใหญ่ จนกระทั่งงานเลี้ยงไก่
เรียกว่าทำงานมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ด้วยความขยันอดทน
ก่อนที่จะมาแต่งงานกับป้า เขาเคยผ่านการมีลูกมีเมียมาแล้ว เมียคนแรกของเขาเป็นสาวขับรถบรรทุก
อายุมากกว่าสามปี มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน อยู่กันได้หกปี ก็แยกทางกัน เมียเขาเป็นฝ่ายเลี้ยงดูลูก
ลุงไม่มีความผูกพันกับลูกเลย จะว่าใจดำก็ว่าได้
เช่นกัน ลุงก็ไม่มีความผูกพันกับ พ่อ แม่ พี่น้องเลย เหมือนตัวคนเดียว
หลังจากเลิกกับเมียคนแรก ลุงก็มีเล็กๆน้อยๆไปเรื่อยๆ เป็นแค่ระยะสั้นๆ สามเดือน หกเดือน
มาเมียญี่ปุ่นก่อนที่จะแต่งงานกับป้า อยู่กันได้นานถึงหกปี ก็มาด่วนตายจากไปก่อนด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตก
ดังนั้นเมื่อมาแต่งงานกับป้า เขาจึงกลัวว่าป้าจะเส้นโลหิตในสมองแตกตายเหมือนเมียเก่า
แต่ป้าก็ทนทายาท ไม่ว่าจะความดันขึ้นสูงเพียงไร เคยขึ้นไปถึง 190 ก็ยังไม่ตาย หัวสมองไม่ระเบิด
เมื่อเมียรักตายจาก ลุงก็ว้าเหว่อยู่สองสามปี จึงได้มาเจอสาวไทยคนหนึ่งที่ชินจูกุ ซึ่งไม่ใช่ป้า
สาวไทยคนนี้มาทำงานอาชีพพิเศษโดยเฉพาะ ตอนหลังเขามาเล่าให้ฟังเองนั่นแหละว่า ตั้งใจจับลุง
เพราะเห็นท่าทางใจดี แน่ละจะไม่ใจดี ได้อย่างไร พบกันวันแรกก็เล่นขอให้ช่วย ไม่อย่างนั้นจะโดนยากูซ่า ปรับ โทษฐานไม่มีเงินจ่ายหนี้
คงจะเป็นคราวโชคดีของสาวคนนั้นที่เจอลุง และเป็นคราวเคราะห์ของลุงที่เจอกับเขา
เพราะลุงไม่เคยรู้จักผู้หญิงไทยมาก่อนหน้านี้ ได้รู้จักเธอเป็นคนแรก ก็เกิดอาการ เห่อ
เพิ่งเคยรู้จักกับคนต่างชาติ มีแต่เมียญี่ปุ่นมาตลอด ไม่เคยได้พบได้รู้จักหญิงไทย
พอได้รู้จักก็ดีใจ อยากช่วยเขา พอเขาบอกว่าเป็นหนี้ยากูซ่า เงินตอนนั้นก็ประมาณ สี่แสนกว่าบาทไทย
วันรุ่งขึ้น ลุงไปถอนเงินมาหมดธนาคารให้เขาไปใช้หนี้เลย
สาวนั้นก็ดีใจมาก เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า มากินอยู่กับลุงเลย มีคนใจดีมาใช้หนี้ให้แล้ว
ความที่ลุงแกไม่เคยมีเมียต่างชาติ แกก็เอาอกเอาใจเขา แต่แกมาเล่าทีหลังว่า แอบไม่พอใจที่เมียเก่าคนนี้ชอบกินแต่เหล้า
เวลาเมาก็โวยวาย ด่าทอ หาเรื่องคนไปทั่ว
สร้างความปวดหัวให้ลุงแกเป็นอย่างมาก
สาวไทยคนนั้นเมื่อมาอยู่กับลุง ก็คิดว่าลุงเงินเดือนดี จึงถลุงเงินลุงอย่างไม่เสียดาย
จากการที่เธอมาจากแหล่งหาเงินได้คล่อง เมื่อต้องมาเป็นแม่บ้านธรรมดา เธอจึงทนไม่ได้
ไม่อยู่บ้านทำหน้าที่เมียที่ดี แต่งตัวออกจากบ้านไปเล่นการพนัน ไม่ยอมเลิกนิสัยเดิมๆ
ลุงแกก็เริ่มได้คิดแล้วว่า หาคนผิดมาเป็นเมีย
แกบอกว่า ทะเลาะกันทุกวัน เพราะเมียเอาแต่เที่ยวและกินเหล้า แกทนไม่ไหว
จนวันหนึ่ง ที่เมียเก่าเขาไปชินจูกุแล้วไม่กลับมาบ้าน แกก็ใจเด็ด เก็บเสื้อผ้าของใช้ของเมียลงกล่อง
นำส่งไปรษณีย์ไปยังบ้านที่เมียแกไปอาศัพพักค้างคืน แล้วโทรศัพท์บอกไม่ต้องกลับมาอีกแล้ว เลิกกัน
ใช้ระยะเวลาที่อยู่กินกันแค่ หกเดือน เรียกว่าหม้อข้าวยังไม่ทันดำ ก็ให้เลิกราจากกันไป
แกก็เข็ดเขี้ยวการมีเมียอยู่ได้ไม่กี่เดือน พอเลิกจากงานประจำ แกก็จะมักมาวนเวียนเที่ยวเล่นแถวชินจูกุ
จนมาวันหนึ่ง แกไปซื้อทุเรียนที่สโตร์ไทย และได้พบก้บน้องสาวป้าที่ไปส่งเงินค่าตั๋วเครื่องบินมาให้ป้าพาลูกเขามาเที่ยว
ลุงแกก็ดีใจที่ได้เจอสาวไทย มาคุยกับน้องสาวป้าและขอให้แนะนำผู้หญิงไทยให้เขาหน่อย
น้องก็บอกว่า พี่สาวกำลังจะมาญี่ปุ่น สนใจไหม แล้วก็เอารูปป้าให้ดู
เมื่อลุงดูรูปแล้ว ก็ขอเบอร์โทรศัพ์ โทรหาป้าทันที
อย่างที่เคยเล่าให้ฟังเมื่อตอนที่แล้ว
ลุงแกไปซื้อหนังสือแปลญี่ปุ่นเป็นไทย เอามาเปิดอ่านแล้วพูดขอแต่งงานทางโทรศัพท์ทันที ตามประสาวัยร่วงใจร้อน
ป้าก็รับปากไปว่า ถ้าไปถึงจะแต่งงานด้วย
เมื่อป้าเดินทางไปถึงประเทศญี่ปุ่น ตอนเย็นลุงก็มาพบ
ป้าเห็นหน้าลุงเขาครั้งแรก ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะลุงแกหน้าตาไม่ได้หล่อเหลา หุ่นก็ผอมๆ
ยังแอบนินทากับน้องและหลานว่า หน้าเหมือนหัวกระโหลก
แต่ไม่ได้รังเกียจอะไร เพราะจากการพูดคุยใกล้ๆกัน ชอบลุงอย่างหนึ่งคือ ลุงไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า ปากลุงจึงไม่เหม็น
ข้อนี้เป็นข้อแรกที่ตกลงปลงใจ แต่งงานกับลุงสาหร่าย
ตอนพบกันครั้งแรก รู้สึกประทับใจที่แกถามว่า มีเงินใช้ไหม แล้วแกก็แบ่งเงินให้ครึ่งหนึ่ง เพราะเงินเดือนยังไม่ออก
รุ่งขึ้นแกถึงได้รับเงินเดือน ซึ่งป้าก็รู้สึกได้ว่า แกมีน้ำใจ คิดว่าเรามาญี่ปุ่นจะมีเงินกินใช้หรือเปล่า มีนิดมีหน่อยก็แบ่งมาให้
แต่สิ่งที่แกควักออกมาจากกระเป๋านี่สิ ทำให้รู้สึกตื่นเต้น
นั่นก็คือสร้อยคอทองคำ ประมาณสามเส้น เส้นละบาท สองบาท สามบาท
ซึ่งแกบอกว่า แกมีแต่ทองที่ซื้อเก็บไว้เวลาคนร้อนเงินเอามาขาย
ทองสมัยนั้นเงินญี่ปุ่น ก็บาทละ หมื่นห้าพันเยน เรียกว่าถูกมากสำหรับเงินญี่ปุ่น
แกบอกว่า แกเตรียมไว้ให้เมีย
เมื่อเราพูดคุยกันและตกลงกันว่า ป้าจะยอมแต่งงานกับแก แต่ขอให้จัดงานแต่งงานกินเลี้ยงประกาศให้คนรู้ว่าเราอยู่กินเป็นผัวเมีย
เพราะป้าคิดว่า อย่างไรเราก็ยังมีญาติพี่น้องที่เมืองไทยที่ตองแคร์ อยู่ๆมาญี่ปุ่นแล้วได้สามีเลย ก็จะดูน่าเกลียดไป
จัดงานพอให้มีรูปไปแสดงกับญาติพี่น้องบ้างว่า เราไม่ได้หอบเสื้อผ้าหนีตามเขาไป เราจดทะเบียนกินเลี้ยงมีสักขีพยาน
ป้าได้ยื่นข้อเสนอไปอีกว่า ต้องการแหวนเพชรหนึ่งวง เป็นแหวนแต่งงาน ลุงก็รับปากไม่มีปัญหา
เป็นอันว่า เรากำหนดวันกินเลี้ยงกันได้
ป้าก็ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่า จะมาได้มีงานเลี้ยงแต่งงานเมื่ออายุสี่สิบสี่ปี
แต่ก่อนหน้าที่จะมาญี่ปุ่น เคยไปดูหมอดู คือหมอไพศาล หมอดูชื่อดังของเมืองไทย
เขาบอกว่า ป้าจะได้เดินทางไปต่างประเทศ และไม่ว่าจะไปประเทศไหน จะได้สามีแน่นอน
และยิ่งเป็นประเทศที่เป็นเกาะ อย่างญี่ปุ่น แล้วจะอยู่กันยืดยาวจนตายจากกัน
ป้าก็ยังไม่ค่อยเชื่อในตอนนั้น แต่มายอมเชื่อเมื่อได้แต่งงานกับลุงเรียบร้อยแล้ว เรื่องของชะตาฟ้าลิขิตจริงๆ
ยังมีตอนต่อ ขอออกไปทำธุระก่อน
Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
18 comments |
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2554 9:09:09 น. |
Counter : 3454 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: พนอจัน (พนอจัน ) 4 กุมภาพันธ์ 2554 8:54:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: GOOD IP: 123.227.112.187 4 กุมภาพันธ์ 2554 11:41:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: Hula Girl IP: 66.91.212.254 4 กุมภาพันธ์ 2554 11:47:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: pa_jeab (pa_jeab ) 4 กุมภาพันธ์ 2554 12:29:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: Beeze IP: 219.126.187.6 4 กุมภาพันธ์ 2554 13:10:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jujastar 4 กุมภาพันธ์ 2554 13:19:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไก่อเมริกา IP: 24.6.62.187 4 กุมภาพันธ์ 2554 13:24:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูแอบ IP: 220.147.175.77 4 กุมภาพันธ์ 2554 16:37:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: wasmb 4 กุมภาพันธ์ 2554 19:06:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: พนอจัน (พนอจัน ) 6 กุมภาพันธ์ 2554 19:24:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: Boo IP: 119.240.148.200 13 กุมภาพันธ์ 2554 19:46:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: kinobuli 19 กุมภาพันธ์ 2554 21:07:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: mcenziepitt IP: 192.168.0.65, 125.26.246.170 25 กรกฎาคม 2554 1:20:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: chula IP: 27.55.212.105 8 กรกฎาคม 2557 21:34:02 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Japan
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 291 คน [?]
|
ป้าพนอจัน เกิด วันที่ ๒ พฤกษภาคม ๒๔๙๔ เป็นคนกรุงเทพ เกิด ที่ เขตดุสิต ถนนสุโขทัย
ชอบทำอาหาร ชอบดอกไม้ ชอบท่องเที่ยว
ตอนนี้แต่งงาน มาอยู่ประเทศญี่ปุ่น ได้ 16 ปี
|
|
|
|
|
|
|
|
หายสงสัยเลยว่าทำไมใครๆ ถึงเรียกคุณลุงสาหร่าย
ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งสองคนเลยนะคะ