อุบลราชธานี Part 1.

อุบลราชธานี Part 1.


สวัสดีชาวโลก
ทอสกับโมออกเดินทางอีกแล้ว
คราวนี้เดินทางไปทางอีสานสุดแดนตะวันออก "อุบลราชธานี"


ต้องขอขอบคุณพี่หางแดงที่จัดโปรดีๆมาให้ ไปกลับคราวนี้ 800กว่าบาท
เป้าหมายเราถูกเลื่อนมาแล้วรอบหนึ่ง จองโปรไว้แล้วปล่อยทิ้งไปเฉยๆ
ปีนี้ลองจองซ้ำไปอีกที ได้ซะอย่างงั้น



ตอนแรกวางแผนเอาไว้ดิบดีว่าจะเป็นทริปประหยัด
จองที่พักที่โขงเจียมไว้เรียบร้อย บ้านเคียงน้ำ อยู่ใกล้ตลาด
ใกล้แม่น้ำโขง ใกล์ตรงจุดที่มีแม่น้ำสองสี

แต่พอหาข้อมูลเรื่องการเดินทางไปเรื่อยๆก็พบว่า มันเดินทางยากซะจริง
ถ้าจะไปโขงเจียมต้องนั่งรถไปลง พิบูลมังสาหารก่อนแล้วค่อยต่อรถ
ไปโขงเจียมอีกทอด ดูแล้วไม่น่าจะสะดวกเท่าไร

หลังจากลงเครื่องที่ อุบล แล้วเลยลองเดินไปถามเคาน์เตอร์เช่ารถ
ของ budget ดูได้ราคา Brio 1153บาท/วัน รวมประกันแล้ว
ราคาพอได้จัดไปโลด

หน้าตารถประจำทางครับเป็นแบบนี้ แล้วก็มีแบบที่เป็น 2 แถวใหญ่ๆด้วย



ก่อนเดินทางแวะไหว้ สิ่งศักดิ์ซะก่อนที่ วัดหนองบัว
นี่คือ พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ด้จำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา
ประเทศอินเดีย เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
รอบองค์พระธาตุเป็นกำแพงแก้ว ซึ่งทั้ง 4 มุม ของกำแพงแก้ว
ได้ประดิษฐานพระเจดีย์ขนาดเล็กอีก 4 องค์ ภายในองค์พระธาตุ
มีประตูทางเข้าทั้ง 4 ด้าน พระธาตุองค์เดิมมีขนาดกว้างด้านละ 5 เมตร
สูงประมาณ 17 เมตร เมื่อสร้างใหม่ครอบองค์เดิม คือพระบรมธาตุ
ที่เห็นในปัจจุบัน มีขนาดใหญ่มาก ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 17 เมตร
สูง 56 เมตร เสร็จสมบูรณ์ในปี 2512



สูงเสียดฟ้า
ยอดฉัตรที่เป็นรูปดอกบัวตูมนั้น เป็นเนื้อทองคำแท้หนัก 31 บาท



ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่ใกล้จะมีงานแห่เทียนพรรษาแล้ว แต่ละวันก็จะมีการ
จัดเตรียมเทียนเพื่อส่งเข้าประกวด วัดหนองบัวก็เช่นกัน



ขนาดยังไม่เสร็จยังสวยงามขนาดนี้  ปีที่แล้ววัดหนองบัวก็ชนะการประกวดซะด้วย



ต่อมาก็มาไหว้ต่ออีกหนึ่งวัด

วัดทุ่งศรีเมือง ตั้งอยู่บริเวณถนนหลวง ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี
อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ทางทิศตะวันออกของทุ่งศรีเมือง
เมื่อเนื้อที่ 19 ไร่ 2 งาน 23 ตารางวา สันนิษฐานสร้างขึ้นเมื่อ
พ.ศ. 2356 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
รัชกาลที่ 2 ในยุคสมัยสมเด็จกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์
ข้าหลวงต่างพระองค์ ได้ตกลงกับเจ้าของที่ดินหลายคน ยกที่ดิน (ที่ทำนา) ให้กับทางราชการ แรกๆ ชาวเมืองเรียกว่า "ทุ่งศรีเมือง"



ก่อนจะถึงโขงเจียมก็แวะเดินเล่น ที่เขื่อนปากมูลซะหน่อย แต่ทางเข้านี่มี
2 ทางนะครับ ทางที่ผ่านทางหมู่บ้านนี่ถนนเละมาก



เขื่อนปากมูล เป็นเขื่อนในจังหวัดอุบลราชธานี อยู่ห่างจากลำน้ำมูล
และน้ำโขงไปทางตะวันตกประมาณ 5.5 กิโลเมตร ก่อสร้างโดย
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนจาก
ธนาคารโลก โดยมีค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2537

โครงการสร้างเขื่อนปากมูลนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากเนื่องจากมีผล
กระทบต่อการทำประมงในแม่น้ำมูลเนื่องจากตัวเขื่อนขวางการเดินทาง
ของปลาในฤดูวางไข่ เพราะตั้งปิดประตูเขื่อนไม่เช่นนั้นไม่สามารถให้กำลัง
การผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างพอเพียง ได้แก้ไขคือ คือเปิดประตูเขื่อน
"สุดบาน" ปีละ 4 เดือนในฤดูปลาวางไข่



ต่อมาก็มาแวะเก็บแต้มที่ "อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ"
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียม
และอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี สภาพ พื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบ
และเนินเขาเตี้ยๆ โดยมียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุด ความสูงประมาณ 543
เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่านตาม
แนวเขตทางด้านทิศเหนือไปออกประเทศลาว บริเวณแก่งตะนะ
จะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึก อีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง จึงทำให้มีปลา
อาศัยอยู่ชุกชุม ตรงกลางมีโขดหินขนาดใหญ่เป็นเกาะกลาง
มีเนื้อที่ประมาณ 50,000 ไร่ หรือ 80 ตารางกิโลเมตร



แก่งตะนะ เป็นแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุด กลางแก่งตะนะมีโขดหินทราย
มหึมาเป็นเกาะกลางลำน้ำมูลที่เกิดจากลำน้ำมูลทั้งสองสายที่เชี่ยวกราก
และจะกัดเซาะลงในแนวหินสูงประมาณ 1 เมตร ถ้าสังเกตเกาะกลางแก่งตะนะจะเห็นสิ่งก่อสร้างรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยฝรั่งเศสยังล่าอาณานิคม
เพื่อใช้เป็นเครื่องชี้ร่องน้ำในการเดินเรือ บริเวณแก่งตะนะมีสายน้ำที่เชี่ยว
และลึก ใต้ท้องน้ำเป็นหลุมหิน โขดหิน ทั้งยังมีโพรงถ้ำใต้น้ำหลายแห่งจึงทำ
ให้มีปลามาอาศัยบริเวณแก่งตะนะชุกชุม ช่วงที่เหมาะในการไปเที่ยว คือ
เดือนพฤศจิกายน-มิถุนายน



ใกล้ๆ กันก็มีสะพานแขวนสวยๆ เอาไว้ให้ถ่ายรูปอีกด้วย



สะพานแขวน เป็นสะพานที่เชื่อมจากฝั่งที่ทำการอุทยาน ฯ กับดอนตะนะ
โครงสร้างเป็นเหล็กยึดโยงด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดชมวิวสองฟาก
ฝั่งของแม่น้ำมูลเหนือแก่งตะนะ และใช้เดินข้ามเข้าไปชมธรรมชาติบนดอน
ตะนะได้อย่างเพลิดเพลิน



ออกจากแก่งตะนะก็แวะเข้าที่พักก่อนเลย
กำลังขับรถข้ามสะพานเพื่อเข้าอำเภอโขงเจียม เจอวิวแบบนี้ถึงกับต้องจอด



ถ่ายคู่กับรถคู่ใจซะหน่อย



เก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย พักผ่อนนิดหน่อยพอหายเหนื่อย
ก็ออกเดินทางต่อ ตั้งใจจะไป "น้ำตกแสงจันทร์"
ระหว่างทางก็เจอวิถีชีวิตของชาวอุบลตลอดทาง ช่วงนี้กำลังดำนากันอยู่เลย



ภาพแบบนี้คนกรุงเทพแบบเราคงหาดูกันได้ยาก เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า
ข้าวแต่ละจานที่เรากินกันอยู่นั้นมันมีค่ามากแค่ไหน



ถึงแล้วน้ำตกแสงจันทร์เจ้าหน้าที่ใจดีให้เข้าฟรี ไม่ต้องเสียสตางค์
แถมเราเป็น 2 คนที่มาเที่ยวในตอนนั้นด้วย VIP มว๊ากก



เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก และพิเศษคือ สายน้ำจากลำห้วยท่าล้ง
จะตกลงปล่องหินลงสู่เบื้องล่าง ซี่งมองดูแล้ว คล้ายกับแสงจันทร์ที่เต็มดวง
ได้สาดส่องลงมา อีกทั้งเมื่อสายน้ำกระทบสู่ผืนน้ำเบื้องล่างยังจะกระจายตัว
เป็นรูปหัวใจสีขาวน่าอัศจรรย์ บริเวณโดยรอบนั้น มีโขดหินน้อยใหญ่เรียงรายกันอยู่

"รูหิน" เกิดจากการถูกน้ำกัดเซาะ เนื่องจากเป็นหินทรายจึงทนต่อการถูกกัดกร่อนน้อย จึงเกิดเป็นของน้ำตกแสงจันทร์ จึงเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ



อันนี้ถ่ายจากด้านบนของน้ำตกแสงจันทร์ เป็นธารน้ำเล็กก่อนจะตกลงรู
เราสามารถดูจุดที่น้ำมันไหลลงไปได้อีกด้วย



วันแรกขอเบาๆ ก่อน เดินทางกลับมาที่โขงเจียมก่อนครับ
ยังพอมีเวลาก่อนค่ำ เดินเล่นริมแม่น้ำโขงซะหน่อย



แสงพระอาทิตย์ยามเย็นสีทอง อาบไปทั่วท้องน้ำ ของแม่น้ำโขง



สวนสาธารณะ ริมโขงของคน โขงเจียม ประเทศลาวอยู่ใกล้แค่แม่น้ำกั้น
ทางฝั่งของ ประเทศลาว ยังดูเขียวอยู่เลย ไม่มีสิ่งแปลกปลอม มาแทรก
ปะปนอยู่กับธรรมชาติเลย



จบวันด้วยร้านอาหารริมแม่น้ำโขง จิบเบียร์ กินปลาแม่น้ำโขง พร้อมกับชม
"แสงสุดท้าย"ของวันก่อนใครในสยาม

ตอนต่อไปจะพาไปชม "แสงแรก"ก่อนใครในสยามกันครับ






Create Date : 22 กรกฎาคม 2555
Last Update : 22 กรกฎาคม 2555 21:28:51 น. 9 comments
Counter : 4687 Pageviews.

 
เยี่ยมๆๆ


โดย: ohm IP: 183.89.118.38 วันที่: 22 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:28:41 น.  

 
สวยงาม เหมือนเดิมครับ
เดินหน้าต่อไป ครับสู้ๆ


โดย: s IP: 27.130.40.111 วันที่: 22 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:32:13 น.  

 
ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆและข้อมูลดีๆค่ะ ^^


โดย: kungtalay IP: 171.6.245.213 วันที่: 22 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:03:10 น.  

 
องค์ประกอบภาพได้อารมย์มากครับ สดใสดีมากๆครับ


โดย: romeo IP: 110.77.219.17 วันที่: 23 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:45:29 น.  

 
กล้องอะไร เลนอะไรครับ สวย มว๊ววก


โดย: สวดยอด IP: 110.49.234.192 วันที่: 30 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:28:50 น.  

 
อ้อ กล้อง D90 คับ
เลนส์ 10-20 17-50 85 35 ประมาณเนี่ย


โดย: Tosdy14ank วันที่: 31 กรกฎาคม 2555 เวลา:8:22:27 น.  

 
ถ่ายได้สวยจัง


โดย: ขจก IP: 203.146.6.86 วันที่: 7 สิงหาคม 2555 เวลา:12:59:55 น.  

 
รูปภาพและบรรยาย....
เห็นแล้วยากกลับไปพักผ่อนจัง....เหนื่อยแล้ว..คิดถึงบ้าน
(อุปลีสาน)


โดย: ccw IP: 171.97.4.237 วันที่: 22 สิงหาคม 2555 เวลา:17:15:14 น.  

 
ที่อุบล มีอะไรให้เที่ยวอีกเยอะเลยนะคะ


โดย: nanamiji IP: 101.51.215.218 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2556 เวลา:17:49:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Papatos
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


















Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Papatos's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.