Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
3 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
อย่าใช้จุดเด่น ของตน........

อย่าใช้
จุดเด่น
ของตน
เปิดโปง
จุดด้อย
ของผู้อื่น

ปรัชญายิน - หยาง ของจีนเชื่อว่าสรรพสิ่งในจักรวาลนั้นมีสองด้านที่ขัดแย้งกัน และดำรงอยู่คู่กันเสมอ เช่น กลางวันกับกลางคืน มืดกับสว่าง ดีกับชั่ว ..... ฯลฯ ในร่างกายของมนุษย์ก็ดุจกัน มีเซลล์ที่เกิดกับเซลล์ที่ตาย มีฮอร์โมนเพศหญิงกับเพศชาย มีสารที่กระตุ้นและสารที่ยับยั้ง .... ฯลฯ ดำรงอยู่ร่วมกันในตัวเราทุกขณะเมื่อมีชีวิตอยู่ เพียงแต่มีสัดส่วนที่ต่างกันตามเงื่อนไขต่าง ๆ รอบ ๆ ตัวเรา เช่นในวัยเด็กเซลล์ที่เกิดจะมากกว่าเซลล์ที่ตาย ปรากฏการณ์ของเด็กก็จะแสดงให้เห็นถึงความเจริญเติบโต ในผู้ชายจะมีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าฮอร์โมนเพศหญิง ปรากฏการณ์ของร่างกายคือ ลักษณะที่แสดงออกถึงเพศชาย ในกลางวันสารกระตุ้นจะทำหน้าที่ภายในร่างกาย ทำให้เรามีความกระฉับกระเฉงในการทำงาน เป็นต้น

มนุษย์ทุกคนในสังคมก็เช่นกัน ล้วนแล้วแต่มีจุดเด่นและจุดด้อยอยู่ในตัว กล่าวโดยหลักการแล้วในการปฏิบัติตน เราควรสำแดงศักยภาพภายในตัวเราที่เป็นจุดเด่นออกมา เพื่อกลบจุดด้อยในตัวเรา

แต่ในความเป็นจริง บางครั้งมนุษย์อาจยึดมั่นและอาศัยจุดเด่นของตนมากเกินไป จนกระทั่งจุดเด่นได้กลายเป็นจุดตายสำหรับตนเอง จุดเด่นนั้นเป็นเหมือนไพ่ตายในมือ เพื่อที่จะสามารถดำรงอยู่ได้ในสังคม เมื่อถึงยามวิกฤติ เราจะต้องสำแดงจุดเด่นออกมาให้เห็น แต่จะต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังและรอบคอบ มิฉะนั้นจุดเด่นอาจจะกลับตาลปัตรกลายเป็นแรงสะท้อนกลับเข้าเล่นงานเรา

ผู้ที่มีความสามารถและฉลาดกว่าผู้อื่น ที่ชอบดูถูกดูแคลนคนรอบข้างว่าไม่เก่งเหมือนตน หากมีความคิดเช่นนี้ และแสดงออกมาให้ปรากฏภายนอกด้วยท่าทีที่หยิ่งยะโสโอหัง มองคนอื่นไม่อยู่ในสายตา พฤติกรรมเช่นนี้ นอกจากจะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดี คนรอบข้าง ไม่พอใจแล้ว ยังทำให้ขาดการสนับสนุนจากผู้อื่นอีกด้วย ดังคำพูดของม่อจื่อที่กล่าวไว้ว่า
“ มนุษย์ตายเพราะจุดเด่นของตน “
โดยปกติคนที่ชอบโอ้อวด มักเป็นผู้ที่มองข้ามจุดอ่อนของตนเอง และสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ มักจะมองเห็นแต่จุดอ่อนและชอบเปิดโปงจุดอ่อนของผู้อื่น

ในชีวิตประจำวัน เมื่อพบว่าผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเด็กที่เกิดความผิดพลาดในการทำงาน ก่อนอื่นเราจะต้องพินิจพิเคราะห์ให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน ถ้าเป็นเรื่องทำผิดโดยไม่จงใจ และเป็นเรื่องที่ไม่หนักหนาสาหัสสากรรจ์ ก็ต้องทำเป็นมองไม่เห็น ไม่ไปตำหนิติเตียนเขา แต่ถ้าเป็นเรื่องที่อาจทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจะนำภัยพิบัติอันใหญ่หลวงในภายหน้าได้ ผู้นำหรือผู้ปกครองจะต้องรีบตักเตือน แล้วให้รีบแก้ไขก่อนที่จะสายเกิดแก้

การตำหนิติเตียนคนอื่นนั้น จะต้องมีท่าทีที่ดีและถูกต้อง เหมือนกับยุทธวิธีในการรบ การโอบล้อมศัตรูนั้นจะไม่โอบล้อมทั้งสี่ด้าน แต่จะต้องเปิดช่องไว้ให้ศัตรูมีทางหนีได้ ทั้งนี้เพราะเมื่อถูกโจมตีอย่างหนักในภาวะที่จนมุม ศัตรูก็จะฮึดสู้ แต่ถ้าเราเปิดช่องให้ศัตรูหนี การต่อสู้เมื่อจนตรอกอย่างเอาเป็นเอาตายก็จะไม่เกิดขึ้น

ด้วยเหตุนี้ในการคบค้าสมาคมกับบุคคลต่าง ๆ ในสังคม เราไม่ควรทำอะไรที่จะก่อให้เกิดลักษณะจนตรอก เพราะเมื่อจนตรอกสถานการณ์ต่างๆ อาจจะพลิกกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่รุนแรง จนบางครั้งเราอาจเพลี่ยงพล้ำได้

ศิลปะในการอยู่ร่วมกันกับคนอื่นนั้น เมื่อเห็นเพื่อนทำผิดก็ควรตักเตือน แต่ไม่ควรเรียกร้องให้เขาปฏิบัติตามที่เราแนะอย่างเข้มงวด หรือทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจในการปฏิบัติ ด้วยเหตุนี้ในการตำหนิจะต้องพินิจพิจารณาว่าคำเตือนของเรานั้นเหมาะสมเพียงใดแคไหน

การชี้แนะให้คนอื่นปฏิบัติตนเป็นคนดีนั้น ไม่ควรตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไป เพราะอาจทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดความท้อแท้และปฏิบัติไม่ได้จะต้องพิจารณาถึงกำลังความสามารถ ตลอดจนความเหมาะสมเป็นหลัก จึงจะสอดคล้องกับความเป็นจริง และสามารถบรรลุเป้าหมายได้

ในการชี้แนะใด ๆ ถ้าเป็นไปได้ ควรจะต้องนำไปปฏิบัติกับตนเองก่อน ถ้าตนเองไม่สามารถปฏิบัติได้ก็อย่านำไปยังเยียดให้กับคนอื่นปฏิบัติ หรือบางครั้งเราสามารถปฏิบัติได้ แต่เงื่อนไขของคนอื่นทำไม่ได้ เราก็ควรมีท่าทียืดหยุ่นในการเสนอแนะ

ต่อประเด็นนี้ หงอิงหมิงได้ชี้แนะอย่างแจ่มชัดว่า
“ ในการตำหนิติเตียนผู้อื่น อย่าเรียกร้องเขามากเกินไป ควรคำนึงว่าผู้อื่นสามารถรับได้ไหม ในการสอนให้ผู้อื่นทำความดี อย่าคาดหวังในสิ่งที่สูงเกินไป ควรให้เขาสามารถปฏิบัติได้จึงจะดี “

การคบค้าสมาคมกับเพื่อนมนุษย์ในสังคมนั้น ต้องยึดหลักไม่โอนเอียงไปหาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่ใช่เป็นแบบเพื่อเฮโลไปเราก็เฮโลตามและก็ไม่ใช่ว่าจะทำตนให้แตกต่างไปจากคนทั่วๆ ไปจนเข้ากับคนอื่นไม่ได้ จนถูกโดดเดี่ยวจากผู้อื่น ด้วยเหตุนี้การประพฤติตนจึงไม่ควรก่อให้ผู้อื่นรังเกียจ ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเพื่อน นั่นคือ การปฏิบัติตนจะต้องไม่เอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งนั่นเอง ต่อประเด็นดังกล่าว หงอิงหมิงได้เตือนไว้อย่างแจ่มชัดว่า
“ ในการคบค้าสมาคมกับเพื่อน จะต้องไม่เฮโลตามกัน แต่ก็ไมใช่จะปฏิบัติตนแปลกแยกไปจากคนอื่น เรื่องที่ทำก็ไม่ควรทำให้ผู้อื่นรังเกียจ แต่ก็ไม่ใช่ทำเพื่อให้เขาชอบใจ “

จาก ปรัชญาชีวิต และงาน
เรียนรู้แก่นภูมิปัญญา พุทธ เต๋า ขงจื่อ เพื่อการดำรงชีวิตที่ดี




Create Date : 03 กรกฎาคม 2552
Last Update : 3 กรกฎาคม 2552 17:47:41 น. 0 comments
Counter : 823 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Toad
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Friends' blogs
[Add Toad's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.