Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
2 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 

วุ่นนักรักเด็กมหาลัยตอนจบ

ฝนตกลงมาตั้งแต่เช้าช่างเป็นบรรยากาศที่น่านอนจังเลย
กริ๊ง ๆ กริ๊ง ๆ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมันช่างรบกวนโสตประสาทและการนอนของชลดาจัง เมื่อชลดารู้สึกตัวขึ้นมาก็รีบขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปซื้อของและเยี่ยมต้นสายที่โรงพยาบาล
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ชลดาก็พบว่าต้นสายนอนหลับยังไม่ตื่นเลย เธอจึงนั่งมองต้นสายที่นอนหลับอยู่บนเตียงคนไข้อยู่นาน จนกระทั่งต้นสายรู้สึกตัว
“อ้อมมานานแล้วเหรอ น่าจะปลุกพี่นะ มัวแต่ให้พี่หลับอยู่ได้”
“ก็อ้อมอยากให้พี่นอนพักผ่อนมาก ๆ นี่คะ วันนี้อ้อมมีผัดวุ้นเส้นของชอบของพี่มาฝากด้วยนะคะ เดี๋ยวพี่ล้างหน้าล้างตาแล้วมากินด้วยกันนะคะ”
“สงสัยถ้าพี่อยู่โรงพยาบาลนาน ๆ พี่คงจะอ้วนเหมือนหมูแน่ ๆ เลยได้แต่นั่งกินนอนกิน”
“ดูพูดเข้าสิ เอ....พี่ต้นคะหมู่นี้ทำไมไม่เห็นเจอพี่เอกเลย ไม่รู้หายไปไหนนานจัง”
“เห็นว่าต้องช่วยกิจการที่บ้านอยู่นะ ช่วงนี้กิจการที่บ้านเขากำลังไปได้สวยเลย”
“สงสัยพี่เอกคงจะนั่งนับเงินอยู่น่ะสิคะ” พอชลดาพูดจบทั้งคู่ก็หัวเราะอย่างเบิกบาน
“หัวเราะอารมณ์ดีกันตั้งแต่เช้าเลยนะคุยอะไรกันอยู่เหรอ” สมชายเดินเข้ามาพอดี

“เรากับอ้อมกำลังนินทานายอยู่พอดีเลยตายยากชะมัด”
“ลับหลังเป็นไม่ได้เลยนะ นินทากันจังนายต้น”
“ล้อเล่นหรอกน่านายเอกเพื่อนรัก ก็ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งหลายงันนึกว่านั่งนับเงินจนลืมซะแล้วว่าเพื่อนอยู่โรงพยาบาล”
“งานที่บ้านเยอะจนล้นมือเลยไม่มีเวลาว่างปลีกตัวไปไหนเลย ว่าแต่นายเถอะจะได้ออกจากโรงพยาบาลวันไหน”
“เราเห็นหมอบอกว่าเป็นวันพรุ่งนี้เย็น เออ....เราเกือบลืมไปว่า ถ้ากุ้งถามก็อย่าบอกตามตรงนะจะได้ไม่มากวนเราอีก” ต้นสายพูดแบบเอือมระอาอย่างเต็มทน
“พี่ต้นวันนี้อ้อมว่างทั้งวันนะคงได้อยู่ดูแลพี่ได้ทั้งวันนะ” ชลดายิ้มอย่างแจ่มใสและร่าเริง
วันนั้นทั้งวันชลดาได้อยู่คอยดูแลต้นสายตลอดทั้งวัน ได้พูดคุยในเรื่องที่ตนเองคิด แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่าง ๆ แก่กันและหลังจากที่ชลดากลับบ้านไปในวันนั้นก็มีแต่ความสบายใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะเธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกดี ๆ ที่ต้นสายมีให้เธอ
วันนี้อากาศแจ่มใสจัง ชลดามาที่มหาลัยตั้งแต่เช้าเพื่อมาดูผลการสอบ แต่เธอไม่อยากมาคนเดียวจึงโทรศัพท์ไปชวนแก้วกาญจ์มาเป็นเพื่อน ระหว่างทางที่ไปมหาวิทยาลัยชลดาพูดคุยกับแก้วกาญจ์อย่างเป็นกันเอง เพราะเธอยังคงเห็นแก้วกาญจ์เป็นเพื่อนที่ดีของเธออยู่เสมอ แต่สำหรับแก้วกาญจ์ เธอกลับไม่ได้คิดกับชลดาอย่างเพื่อนรักรัก แต่กลับคิดว่าชลดาเป็นมารหัวใจ
“อ้อมกลางวันนี้ไปกินข้าวกับเราก่อนได้ไหมแล้วค่อยกลับบ้าน” แก้วกาญจ์ชวนชลดา
“ได้สิกุ้ง มีอะไรให้ช่วยเหลือหรือเปล่าร้อยวันพันปีไม่เห็นชวนเราเลย”
“ก็เราเหงานี่นา พอเธอมีพี่ต้นเธอก็ไม่เคยมากินข้าวกับเราเลย ให้เรากินคนเดียวตั้งหลายวัน” แก้วกาญจ์แกล้งตัดพ้อ
“เราขอโทษนะกุ้ง เอาอย่างนี้ดีกว่านะ มื้อนี้เราเลี้ยงดีกว่า จะได้เป็นการไถ่โทษไง”
“ไม่เป็นไรหรอกอ้อม เพื่อเป็นการไถ่โทษเราขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหมล่ะ” แก้วกาญจ์ขออย่างมีเลิศนัย
“ขออะไรล่ะเราให้ได้หมดแหละ”
“ขอให้เธอเลิกคบกับพี่ต้นจะได้ไหม”
ปัง....เหมือนแก้วกาญจ์ใช้ปืนจ่อยิงเข้าไปที่กลางหัวใจของเธอ ไม่คิดเลยว่าทำไมเพื่อนที่เธอรักถึงได้กล้าขออย่างนี้นะ
“ทำไมล่ะกุ้ง ทำไมถึงอยากให้เราเลิกคบกับพี่ต้นล่ะ” ชลดากัดฟันถามถึงแม้จะรู้ว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหน
“ก็เพราะเป็นการไถ่โทษที่เธอปล่อยให้เรากินข้าวคนเดียวตั้งหลายวันไงล่ะ”
คนที่คิดอยากได้แฟนของเพื่อนมาเป็นของตนเอง ย่อมพยายามหาเหตุผลที่ไม่ว่าจะฟังขึ้นหรือไม่ก็ตาม เพื่อจะให้ได้มาซึ่งในสิ่งที่ตนหวังไว้ เมื่อฟังแก้วกาญจ์พูดจบชลดาก็เดินจากแก้วกาญจ์ไปอย่างช้า ๆ แต่เรื่องราวเมื่อครู่ที่เพิ่งผ่านไปล้วนแต่อยู่ในสายตาของสมชายทั้งหมด แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปพูดกับแก้วกาญจ์ได้
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนกลางวัน แก้วกาญจ์ก็โทรศัพท์หาต้นสาย
“พี่ต้นคะ พี่ว่างอยู่หรือเปล่าคะ อ้อมอยากพูดกับพี่สักเดี๋ยวเดียวจะได้ไหมคะ”
“ได้สิว่ามาเลยมีอะไรจะให้พี่ช่วยเหรอ” เมื่อต้นสายพูดออกมาอย่างนั้นทำให้ชลดาถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“พี่ว่ากุ้งเขาเป็นคนยังไงบ้างคะ”
“ถามพี่แบบนี้ทำไมล่ะ”
“พี่เลิกคบกับอ้อมเถอะค่ะ”
“ทำไมอ้อมพูดแบบนั้นล่ะ พี่ไม่ดีตรงไหน” ต้นสายถามด้วยความไม่สบายใจ
“พี่ดีทุกอย่างแหละค่ะ แต่อ้อมไม่ดีเองค่ะ”
“อ้อมฟังพี่นะ ไม่ว่าอ้อมจะเป็นคนไม่ดีขนาดไหนพี่ก็ยังเป็นคนเดิมนะ”
“กุ้งเขารักพี่มากนะ อ้อมอยากให้พี่คิดให้ดี ๆ นะคะ “
“อย่าคิดมากเลยอ้อม กุ้งเขาก็อยู่ส่วนเขา เราก็อยู่ส่วนเรา ไม่มีทางที่จะยุ่งเกี่ยวกันอยู่แล้วจริงไหม”
เมื่อสิ้นสุดการสนทนาแล้ว ต้นสายก็รีบโทรศัพท์ไปหาสมชายเพื่อปรึกษาถึงสาเหตุที่อยู่ ๆ ทำไมชลดาถึงได้โทรมาบอกเลิกกับเขา ซึ่งสมชายก็รู้เป็นอย่างดีว่าทำไมชลดาถึงได้ทำเช่นนั้น
ชลดาเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมายตามถนนที่ทอดยาว สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงที่เปิดขายของให้แก่นักท่องราตรี เธอเดินมาไกลเท่าไรแล้วก็ไม่อาจจะนึกได้ หากไม่ใช่เพราะความสับสนในใจของเธอที่คิดว่าต่อไปนี้เธอคงจะไม่มีต้นสายอีกแล้ว แค่คิดน้ำตาของเธอก็ไหลลงมาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
“อ้อมทำไมมาร้องไห้อยู่ตรงนี้ล่ะ” เสียงหญิงคนหนึ่งในวัยเดียวกันกับเธอ
“เปล่าหรอกเราแค่มาเดินเล่นเฉย ๆ “
“เดินเล่นมันทุกข์ถึงขนาดร้องไห้เลยเหรอ เอาอย่างนี้ดีกว่า เธอไปพักที่หอเราก่อนดีกว่านะแล้วถ้าเธอสบายใจแล้วค่อยเล่าให้เราฟังก็ได้นะ”
รจนาพาเธอมายังห้องพักเพื่อไม่ให้เธอต้องเหงาอยู่คนเดียว เพราะถ้าหากปล่อยเธอเอาไว้อาจจะเกิดเรื่องที่น่าเศร้ามากกว่านี้ก็ได้
เวลาที่ผ่านไปทำให้ชลดาอาการดีขึ้นและได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้แก่รจนาฟัง เมื่อเธอได้ระบายทุกสิ่งทุกอย่างออกมาแล้วทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาก รจนาจึงไดให้ชลดานอนค้างกับเธอที่หอพัก เธอคงช่วยชลดาได้เพียงเท่านี้
“อ้อมหายไปไหนมาทั้งคืน รู้ไหมพี่เป็นห่วงมากเลยนะ” ต้นสายถามทันทีที่ชลดาเดินเข้าบ้าน
“อ้อมไปนอนบ้านเพื่อนมาค่ะ แล้วพี่มาทำอะไรเหรอคะยัยกุ้งไปไหนทำไมไม่เห็นมาด้วยกันล่ะ” ชลดาถามหาเพื่อนรักทั้ง ๆ ที่ใจของเธอก็แสนจะปวดร้าว
“กุ้งก็อยู่ส่วนของเขาอ้อมไม่เห็นต้องสนใจเขาหรอกนะ”
“แต่เขาก็เป็นเพื่อนของอ้อมนะคะ อ้อมไม่อยากให้เพื่อนของอ้อมเสียใจเพราะการกระทำของอ้อม”
“..........”
ในช่วงที่ชลดาและต้นสายกำลังคุยกันนั้นแก้วกาญจ์ขับรถผ่านมาพอดี จึงเห็นเข้าก็รีบจอดรถและลงมาอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งคล้องแขนของต้นสายเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของและข่มชลดาในทางอ้อม
“คุยอะไรกันอยู่เหรอน่าสนุกจังขอคุยด้วยคนนะอ้อม”
“พอดีเรากำลังจะเข้าบ้านไปอาบน้ำแต่งตัว เรามีนัดไปทำปัญหาพิเศษกับรจขอตัวก่อนนะ”
“อ้าวกะจะไม่อยู่คุยกับเราก่อนเหรอ”
“ไม่หรอกเรารีบเดี๋ยวรจจะรอเรานาน” ชลดาแกล้งอ้างเหตุผลมันช่างเจ็บปวดมากจังทำไมโลกต้องกลมอย่างนี้ด้วยนะ ไม่มีอะไรมาช่วยให้เธอและต้นสายกลับมาเหมือนเดิมแล้วใช่ไหม
“รจ....รอเรานานไหม” ชลดาพูดทันทีที่มาถึง
“ไม่นานหรอกเราเพิ่งมาถึงเหมือนกัน”
“เรานึกว่าเธอต้องรอเรานานซะแล้ว งั้นเรามาเริ่มวิเคราะห์งานกันดีกว่าจะได้เสร็จเร็ว ๆ “ชลดากับรจนาช่วยกันทำปัญหาพิเศษอย่างขยันขันแข็งเพื่อจะให้เสร็จทันกำหนดส่ง
ในอีกมุมหนึ่ง แก้วกาญจ์พยายามเดินตามต้นสายไปทุก ๆ ที่ จนเขาเริ่มหมดความอดทน แต่ด้วยความที่เป็นสุภาพบุรุษมาโดยตลอด เขาจึงจำเป็นต้องรักษาภาพพจน์เอาไว้ และเมื่อได้โอกาสจึงได้หลบมาโทรศัพท์หาสมชายทันที
“ฮัลโหล.....ว่าไงต้น”
“เอกตอนนี้นายอยู่ไหน พอจะมาหาเราได้ไหม”
“เราอยู่ที่บริษัทนะ แต่พอจะไปหานายได้ ว่าแต่นายมีอะไรเหรอ”
“กุ้งตามเราแจเลยนายมาช่วยเราทีได้ไหม”
“นั่นแน่สาวกุ้งตามตามนายติดเลยน่ะสิ”
“เราอยู่ที่..........นะขอบใจนะเพื่อนรีบมาให้เร็วที่สุดเลยนะ”
“โอ.เค.เดี๋ยวเจอกันนะ เราจะรีบไปนะ”
สมชายรีบมาหาต้นสายยังที่ที่ต้นสายบอกและได้พบว่าเป็นไปอย่างที่ต้นสายบอก แก้วกาญจ์ตามติดต้นสายแจ เขาจึงรีบสาวเท้าเข้าไปหาทันที
“กุ้งวันนี้ไม่ไปทำปัญหาพิเศษเหรอ เห็นเพื่อน ๆ เธอกระตือรือร้นที่จะทำให้ทันส่ง” สมชายพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบและสุขุม
“เอ.....วันนี้ตาหูหม้อมาแปลก ปกติไม่เห็นพูดกันดี ๆ อย่างนี้เลย”
“เปล่า แค่อยากรู้เลยถามดู ก็เห็นเธอเที่ยววิ่งไล่ตามผู้ชาย จนไม่มีเวลาไปทำปัญหาพิเศษ”
“อ้าว งานของฉันนายไม่เห็นต้องเข้ามายุ่งเลย ยังไงฉันก็มีงานส่งอยู่แล้วนายไม่ต้องมาเป็นห่วงฉันหรอก”
“ใครเป็นห่วงเธอ น่าห่วงตายแหละ”
“ยี้...ฝากไว้ก่อนล่ะ วันนี้ไม่อยากอยู่ต่อปากต่อคำกับคนอย่างนายหรอก พี่ต้นคะกุ้งกลับก่อนะคะ คืนนี้เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะ” แก้วกาญจ์เดินออกจากร้านด้วยความหงุดหงิด เพราะเธอคิดว่าบรรยากาศรอบข้างเมื่อสักครู่กำลังไปได้สวยหากว่าสมชายไม่เข้ามาขวางไว้เสียก่อน
“อ้อมวันนี้ไปกินกาแฟสดร้านใหม่กันดีกว่านะ เห็นว่าเพิ่งมาเปิดได้ไม่กี่วันเอง มีแต่คนบอกว่าเจ้านี้กาแฟรสชาติกลมกล่อมหวานมันดีมากเลยนะ”
“ก็ดีนะกำลังนึกอยากกินอะไรร้อน ๆ พอดีเลยอากาศเย็น ๆ แบบนี้คาปูชิโนสักแก้วคงดีนะ”
ชลดาพูดไปพลางทำงานไป เธอไม่อยากอยู่คนเดียวเลย เพราะความเงียบเหงาจะทำให้เธอคิดถึงใครคนหนึ่งที่เธอคงหมดสิทธ์จะเรียกว่าคนรักเสียแล้ว
ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงบ่งบอกว่าเป็นเวลาเย็น ชลดาและเพื่อนสาวทำปัญหาพิเศษเสร็จสิ้นพอดี จึงชวนกันไปฉลองที่ร้านกาแฟเปิดใหม่ไม่ไกลจากบ้านของเธอมากนัก
แล้วเวลาแห่งความสำเร็จก็มาถึง ในขณะที่ชลดาและรจนากำลังถ่ายรูปคู่กับเพื่อน ๆ อย่างสนุกสานและมีความสุข ในมุมหนึ่งของมหาวิทยาลัย แก้วกาญจ์ต้องมานั่งหลบมุม เพราะว่าเธอยังเรียนไม่จบตามหลักสูตร การทำปัญหาพิเศษก็เป็นส่วนหนึ่งที่เธอยังไม่จบเช่นกัน
“กุ้งมาถ่ายรูปด้วยกันนะ”
“ไม่หรอกเธอถ่ายกันไปก่อนเถอะ”
แก้วกาญจ์หน้าเสีย เมื่อต้นสายเดินมาพร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่เพื่อแสดงความยินดีกับบัณฑิตสาวชลดา ระหว่างที่ต้นสายกำลังถ่ายรูปกับชลดา แก้วกาญจ์ก็เข้ามาแทรกกลางระหว่างต้นสายและชลดา สมชายจึงลากออกมา ต้นสายและชลดาจึงถ่ายรูปด้วยกันไปด้วยดีและสามารถปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด
พายุลูกใหญ่สงบลงไปทำให้ ทำให้ท้องฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้ง การเรียนสิ้นสุดลงแล้ว แต่ชิวิตของคนเรายังไม่สิ้นสุดลง และยังต้องดิ้นรนต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ที่รออยู่ในชีวิตและอาจจะเข้ามาในอีกไม่ช้านี้ ชลดาได้กลับมาช่วยกิจการทางบ้านหลังจากที่ตนเองเรียนจบ
“คุณอ้อมคะ มีแขกมาขอพบค่ะ” เสียงเลขาหน้าห้องต่อสายโทรศัพท์มาบอก
“เชิญเข้ามาได้ค่ะ”
“ว่าไงจ๊ะผู้บริหารคนเก่ง งานยุ่งจนไม่มีเวลาไปสมาคมกับเพื่อน ๆ เลยนะ”
“มาแต่เช้าเลยนะนิค แล้วไปเจอกับรจที่ไหนล่ะถึงมาด้วยกันได้”
“ก็เห็นเธอเงียบไปเลย เราก็นึกเป็นห่วงนี่นา ไม่นึกว่าที่หายไปคุณเธอจะกลายมาเป็นผู้บริหารหญิงไฟแรงซะแล้ว ไอ้เราก็นึกว่าโดนกงเล็บยายกุ้งไปแล้วซะอีกก็เลยชวนรจมานี่แหละ”
“โหขอบใจในความห่วงใยนะจ๊ะนิค เราไม่เป็นไรหรอกจ้าเราสบายดี”
“จะไม่เป็นอะไรได้ไงล่ะ เธอเกือบตายเพราะกุ้งมาหลายหนแล้วนะ”
“อ้อมว่าอีกไม่นานกุ้งคงจะเลิกคิดร้ายกับอ้อมสักทีนะ นิคกับรจจำตอนที่ไปภูกระดึงกันได้ไหม”
“จำได้สิ ทำไมเหรอ”
“ก็ตอนที่พี่ต้นพูดไงว่าพี่เอกน่ะมีแผนอะไรบางอย่างด้วย”
“แผนอะไรเหรอ”
“เอาเถอะน่าเธอลองสังเกตพี่เอกเอาก็แล้วกัน”
“ไม่รู้อะไรกันนักหนา กุ้งก็ไม่รู้จะเอายังไงกันแน่ ดุท่าทางจะกัดเธอไม่ยอมปล่อยเลยนะ”
“ช่างเขาเถอะอ้อมบอกแล้วไงว่าสักวันเขาต้องกลับมาเป้นกุ้งคนเดิม”
ชลดาได้แต่คิดแบบนั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรแก้วกาญจ์จะกลับตัวได้ เมื่ออุเทนกับรจนากลับไปแล้วต้นสายก็เดินเข้าหาและชวนออกไปกินอาหารกลางวัน
“อ้อมพรุ่งนี้ว่างไหม”
“มีอะไรเหรอคะพี่”
“ก็พรุ้งนี้เป็นวันวาเลนไทน์ไงลืมแล้วเหรอ”
“ลืมสนิทเลยค่ะพี่มัวแต่ทำงานเพลินค่ะ”
“พรุ่งนี้ไปเที่ยวกับพี่นะ สงสัยว่าหมู่นี้อ้อมต้องทำงานหนักเกินไปแน่ ๆ เลย ดูท่าทางซีดซะขนาดนี้”
“อ้อมคงพักผ่อนไม่พอมั้งคะพี่ช่วงนี้ลูกค้ามาติดต่องานเยอะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้อ้อมเข้านอนเร็ว ๆ นะ พี่ไม่โทรไปกวนดีกว่าอ้อมจะได้นอนพักผ่อน”
“ค่ะพี่”
ชลดาตอบและได้รู้ถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเองที่เริ่มมีอาการปวดหัวมากในเวลาที่เธอเครียดจัด แต่เธอก็ไม่ยอมไปพบแพทย์เพราะเห็นว่าจะเสียเวลาอย่างมากในการทำงานของเธอ ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่เธอไม่คาดคิดกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
วันวาเลนไทน์ที่แสนหวานมาถึงแล้ว ชลดารีบลุกขึ้นมารอต้นสายตั้งแต่เช้าและเก็บอาการเจ็บปวดของเธอที่มีอยู่ แต่ใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอนั้นไม่สามารถปิดบังต้นสายได้
“อ้อมพี่ว่าอ้อมน่าจะไปหาหมอดีกว่านะ พี่ไปส่งไหม”
“ไม่ดีกว่าค่ะ วันนี้เรามาเที่ยวกันนะคะ อ้อมไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ เอาไว้เดียวอ้อมจะไปหาหมอเองดีกว่าค่ะ” ชลดายืนยันหนักแน่น
“ตามใจอ้อมก็แล้วกันนะ ถ้ามีอะไรก็บอกพี่ได้นะ” ต้นสายพูดเหมือนรู้ว่าคนรักของเขากำลังป่วยด้วยโรคร้ายแรงแสนสาหัส
“แล้วพี่เอกไปไหนล่ะคะ”
“พี่เอกก็ไปกับแฟนเขาไง”
“แฟนพี่เอกใครกันเหรอคะไม่เห็นรู้เลยค่ะว่าพี่เอกมีแฟนแล้ว”
“ก็กุ้งไง”
“พี่เอกจีบกุ้งได้แล้วเหรอคะ”
“ไม่ต้องห่วงพี่เอกเขาหรอก รายนั้นลองได้รักใครแล้วไม่ต้องพุดถึง เขาต้องเอามาเป็นแฟนจนได้แหละ”
ชลดารู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นเพื่อนของเธอมีความสุขและคิดว่าเธอและแก้วกาญจ์คงจะได้กลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอีกอย่างแน่นอน
ชลดารู้สึกว่าอาการของตัวเองเริ่มรุนแรงมากขึ้น เธอจึงลองไปพบแพทย์เพื่อจับการตรวจว่าเธอป่วยเป็นอะไรกันแน่ ในระหว่างที่รอผลการตรวจนั้นนางพยาบาลก็เรียกเธอเข้าไปฟังผลการตรวจในห้อง
“ผลการตรวจของคุณออกมาแล้วนะคะ คุณอยากให้หมอเป็นผู้บอกหรือว่าคุณต้องการดูผลเองดีค่ะ”
“ให้คุณหมอบอกดีกว่าค่ะ” ชลดาบอกอย่างตื่นเต้น
“ถ้าอย่างนั้นถ้าหมอบอกคุณคุณต้องทำใจดี ๆ ไว้นะคะ”
“คุณหมอรีบบอกมาเถอะค่ะดิฉันยอมรับได้ค่ะ”
“คือคุณกำลังเป็นเนื้องอกในสมองค่ะ”
เหมือนฟ้าผ่าลงมาลงในดวงใจของเธอ ทำไมเรื่องร้าย ๆ ต้องมาเกิดขึ้นกับเธอแบบนี้นะ น้ำตาของเธอเริ่มไหลนองหน้าและเธอก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งน้ำตาที่ไหลรินได้ เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านจึงได้แต่ปิดห้องและอยู่คนเดียวและโทรศัพท์ไปหาต้นสาย
“พี่ต้นคะ พี่รักอ้อมไหมคะ”
“ทำไมถึงถามพี่แบบนี้ครับ พี่รักอ้อมเสมอนะไม่ว่าอ้อมจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตามนะ”
“พี่คะถ้าไม่มีอ้อมอยู่แล้ว พี่ต้องสัญญานะคะว่าพี่จะไม่ร้องไห้และจะไม่ปิดกั้นตัวเองจากความรักนะคะ”
“อ้อมยังต้องอยู่กับพี่ไปอีกนานทำไมถึงคิดอย่างนี้ล่ะ”
“พี่สัญญากับอ้อมก่อนสิคะ”
“จ้าพี่สัญญานะ”
“อ้อมรักพี่นะคะลาก่อนนะคะ” เมื่อพูดจบชลดาก็วางสายทันที
“อ้อมเดี๋ยวสิทำไมพูดแบบนี้”
ต้นสายยังไม่ทันได้รับรู้อะไร แต่ก็รู้ว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับชลดาแน่ ๆ
ที่บริษัทของชลดา เธอไม่ได้มาทำงานได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว พนักงานต่างก็พากันหากันวุ่นวายเพราะว่าเจ้านายสาวไม่เคยหายไปดื้อ ๆ แบบนี้ ทั้งอุเทนและรจนาก็สงสัยว่าเพื่อนของเขาหายไปไหน แต่ใครจะรู้บ้างไหมว่าภายในห้องนอนแสนสวยจะมีร่างของเจ้าของห้องที่นอนซมและไม่ยอมพูดและรับโทรศัพท์ใครเลย สิ่งเดียวที่เธอต้องการคือการได้เจอกับคนที่เธอรักได้เห็นคนที่เธอรักแจ่มใส ไม่อยากให้รู้ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน เธอจึงบอกเลิกกับต้นสายทั้งที่จ้นสายเองก็ไม่เข้าใจ ต้นสายเริ่มออกเที่ยวอย่างบ้าคลั่งโดยไม่ใส่ใจตัวเองอีก

***ปล่อยมือเธอ ยอมให้เธอเดินจากไป ฉันเองก็เสียใจ
เกลียดตัวเองทำไมต้องเป็นแบบนี้
ไม่อยากจะให้เธอปวดร้าว เพราะวันหนึ่งฉันคงต้องไป
ไม่ใช่ว่าไม่รักฉันยังรักเธอ
ปล่อยมือไม่ต้องหันมาได้ไหม
อยากให้เธอลืมฉัน จะได้ไม่เสียใจหากเธอลืมฉัน
ลืมว่าเคยรักกัน อยากให้เธอลืมฉัน อย่าเลยอย่าร้องไห้
ทำไมฉันต้องทำแบบนี้สักวันเธอจะเข้าใจ
(เพลงลืมฉัน : เพลงประกอบละครเรื่อง วายร้ายเฟรชชี่)

จนหลายวันผ่านไปอาการป่วยของชลดาเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะโรคร้ายที่เธอเป็นอยู่ล้วนต้องการกำลังใจที่จะต่อสู้กับมัน และกำลังใจนั้นคือ ต้นสาย
“พี่ต้นทำอะไรอยู่เหรอคะ”
“อ้อมสนใจพี่ด้วยเหรอ”
“ค่ะอ้อมคิดถึงพี่อยากให้พี่มาหาสักห้านาทีก็ยังดีนะคะ”
“ถ้าอ้อมคิดถึงพี่จริง ๆ พี่ก็จะไปหาเดี๋ยวนี้แหละ”
ระหว่างที่ชลดานั่งรอต้นสายอยู่อาการป่วยของเธอก็กำเริบขึ้นจนเธอช็อคหมดสติไป เมื่อต้นสายมาถึงก็ร้องเรียกแต่ว่าไม่มีใครตอบเขาจึงถือวิสาสะเข้าไป จึงพบร่างที่ไร้สติของชลดา และรีบพาเธอส่งโรงพยาบาล หลังจากที่เธอถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินไปแล้ว เขาก็ได้แต่นั่งรอจนแพทย์ประจำตัวของชลดาออกมาและบอกอาการของเธอให้เขาได้รับรู้ เขาถึงกับตะลึงไม่นึกว่าชลดาจะรักเขาได้มากขนาดนี้ รักมากจนไม่อยากให้เขาเจ็บ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรเมื่อเขาไม่มีโอกาสที่จะได้ดูแลเธอได้เพียงสองเดือนเท่านั้น
“อ้อมพี่อยากดูแลอ้อมตลอดไปได้ไหม” ต้นสายเอ่ยขึ้นในขณะที่เข็นรถผู้ป่วยพาชลดาไปเดินเล่น
“อย่าดีกว่าค่ะ อ้อมไม่อยากเป้นภาระของพี่นะคะ”
“อ้อมอย่าคิดแบบนี้ พี่รักอ้อมมากนะ”
“แล้วพี่จะดุแลอ้อมได้ยังไงคะงานของพี่ก็มีตั้งเยอะแยะ”
“ต้องได้สิ อ้อมแต่งงานกับพี่ได้ไหม”
“อ้อมรักพี่ต้นนะคะ อ้อมจะแต่งงานกับพี่ค่ะ”
สิ่งที่ทั้งคู่ได้ตัดสินใจในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการเสแสร้งแกล้งทำ หากมันคือรักแท้ที่ทุกคนต่างใฝ่ฝันและทั้งคู่ก็ได้ดูแลกันและกันจนถึงวันที่ต้องจากกัน ถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่แสนดีที่สุดของเขาและเธอจะมีเพียงน้อยนิด แต่มันจะอยู่ในใจของเขาและเธอตลอดไป





 

Create Date : 02 สิงหาคม 2550
0 comments
Last Update : 2 สิงหาคม 2550 16:09:35 น.
Counter : 520 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


น้องออมตังค์
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีค่ะ ทุก ๆ คนที่หลงทางผ่านเข้ามานะคะ บล็อกของทอใยรักอาจจะยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับทุกท่านมากนัก แต่ขอรับรองว่าทอใยรักจะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นนะคะ ส่วนในเรื่องของผลงานที่นำมาลงนั้นได้โปรดอย่านำไปก๊อปปี้ที่ไหนเลยนะคะเพราะทอใยรักพยายามทุ่มเทแรงใจในการเขียนถึงมันจะไม่ดีพอแต่มันก็คืองานเขียนที่ทุ่มเทนะคะ คอมเม้นต์ทุกคอมเม้นต์เป็นกำลังใจสำหรับทอใยรักนะคะ อย่าลืมนะคะ

เธอรู้บ้างไหม ว่าฉันเคยตามหา ใครสักคนที่เดินเข้ามาตอบคำถาม ให้หัวใจ ว่าความรัก ว่าคนรัก นั้นคือใคร อยู่ที่ไหน ทำไมฉัน ไม่เคยเจอ แต่วันนั้นเราแค่บังเอิญ ได้พบ ก็เป็นวันที่ฉันได้พบคำตอบ ของหัวใจ ว่าความรัก ว่าคนรัก ฉันคือใคร ไกลแค่ไหน แต่ฟ้าก็ยังให้เราได้พบกัน * แค่เพียงรู้ ... ว่าเธอคือความรัก ความฝันหรือความจริง ฉันมีเธออยู่เคียงข้างกาย แค่นี้ก็คงเพียงพอกับ คนที่ไม่เคย...เชื่อว่าความรักแท้มีจริง... จนวันที่ฉันได้พบเธอในวันนี้... ฉันไม่ได้นอนฝัน ความรักฉันคือเธอ มีตัวตนและหายใจวันนี้ฉันเองพูดไม่ออก ว่าโชคดีแค่ไหน กับการที่ได้รักเธอ และมีเธอนั้นคอยเติมเต็มชีวิตที่หายไป ขอบคุณฟ้า ที่ลิขิตรักมาแบบนี้ ให้ทุกลมหายใจที่เหลืออยู่ได้รักเธอ ก็พอแล้ว ฉันพอแล้ว ฉันได้เจอกับความหมาย ว่าโลกที่มีรักช่างสวยงาม
Friends' blogs
[Add น้องออมตังค์'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.