Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
28 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
วุ่นนักรักเด็กมหาลัย(ช่วงที่2)

ดวงตะวันขึ้นมาทักทายตั้งแต่เช้า ถ้าหากว่าดวงตะวันพูดได้มันคงจะบอกว่า
“ตื่นได้แล้วนะอ้อม เธอจะนอนร้องไห้อยู่ทำไม เธอยังมีสิ่งดี ๆ ให้ทำอีกมากมาย ไม่ใช่เหรอ” มันก็เป็นจริงที่ดวงตะวันพูดอย่างนั้น
ร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของชลดาผ่านการร้องไห้มาเป็นเวลานานยังคงนอนหลับใหล คงเพราะความอ่อนเพลียของเธอที่ได้ผ่านการร้องไห้มาเป็นเวลานานนับชั่วโมง ใบหน้าที่สดใสของเธอเต็มไปด้วยความทุกข์ที่เพิ่งโหมเข้าใส่ ซึ่งเป็นความทุกข์ที่ยากแก่การพรรณนาได้
เมื่อชลดาตื่นขึ้นมาลืมตาตื่นขึ้นมาก็นึกถึงข้อความในจดหมายที่ได้รับจากต้นสายเมื่อวันก่อน และใช้ความคิดเกี่ยวกับข้อความในจดหมายฉบับนั้น เพื่อตัดสินใจว่าเธอจะไปตามนัดของต้นสายดีไหม เพราะว่าเธอไม่อยากให้การตัดสินใจครั้งนี้มาทำให้เธอต้องเสียใจอีก อีกใจหนึ่งก็อยากจะไปพบต้นสายอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ว่า ต้นสายมีเธอคนเดียวเท่านั้นไม่ได้คิดที่จะนอกใจเธอแม้แต่น้อย แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า ไม่อยากไปสนใจต้นสายเพราะว่า เธอไม่อยากจะพบกับความเจ็บปวดอีกครั้งและต้นสายคงไม่รักเธอแล้วก็เป็นได้
ในระหว่างที่ชลดากำลังตัดสินใจอยู่นั้น คนที่เฝ้ารอพบเธออย่างใจจดจ่อหาใช่ใครอื่นไม่ หากแต่ว่า เขาคือ คนที่รักชลดายิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้ เขาเฝ้ารอการมาของชลดาอย่างกระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลา ด้วยความหวังว่า คนที่เขารักจะยอมรับฟังเขาบ้างสักครั้ง จนเวลาล่วงเลยไปถึงเวลานัด สายตาของเขาได้ไปสะดุดกับร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิงที่เขาเฝ้ารอคอยอย่างจดจ่อ น้ำตาใส ๆ ก็ไหลออกมาจากดวงตาของเขาด้วยความหวังว่าเขาคงจะได้อธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อชลดาเดินมายืนอยู่ตรงหน้าของต้นสาย และเขาได้พบว่า ชลดาดูเศร้าหมองและมีเพียงรอยยิ้มเศร้า ๆ บนใบหน้าของเธอในเวลานี้
“อ้อมดูซูบซีดลงไปนะ” ต้นสายถามด้วยความห่วงใย หลังจากที่ทั้งคู่ได้สบตากันและเขาก็ได้พบว่าคนรักของเขานั้นดูซีดลงไปจริง ๆ
“อ้อมนอนไม่หลับหรอกค่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอกอ้อมสบายดี” ชลดาตอบแต่ก็ไม่วายกลบเกลื่อนความเจ็บปวดของตัวเอง
“พี่ต้นคะ.....พี่ไม่ต้องมาสนใจผู้หญิงอย่างอ้อมหรอกค่ะ คนอย่างอ้อมไม่ดีพอสำหรับพี่และพี่ก็ไม่ต้องให้อ้อมเป็นคนที่สำคัญสำหรับพี่หรอกนะคะ กุ้งเขาดีกว่าอ้อมทุกอย่างค่ะพี่ไม่ต้องเป็นห่วงอ้อมนะคะ” เมื่อชลดาพูดออกมาอย่างนั้น ต้นสายก็เริ่มเดาเหตุการณ์ต่าง ๆ ออก ตั้งแต่ที่เขานัดชลดาไปดูหนังครั้งนั้น และบังเอิญที่ชลดามาพบว่า เขาอยู่กับแก้วกาญจ์
“อ้อมโกรธพี่เพราะเรื่องนั้นใช่ไหม ที่อ้อมเจอพี่ที่โรงหนังและพี่ก็อยู่กับกุ้งใช่ไหม พี่อธิบายได้นะแต่ขออย่างเดียวให้อ้อมฟังพี่บ้างนะ” ต้นสายวิงวอนเพื่อให้ชลดาเห็นใจและหวังให้เธอยอมเปิดใจรับฟังเขา
ชลดาน้ำตาไหลรินอาบแก้มทั้งสองข้างด้วยความไม่เข้าใจว่า เรื่องราวระหว่างเธอและต้นสายยังจะมีอะไรอีกหรือที่เธอยังไม่เข้า
“พี่ต้นคะ ระหว่างเรามันยังมีอะไรอีกหรือคะที่อ้อมไม่เข้าใจและไม่รู้ เมื่อภาพวันนั้นมันก็ฟ้องอย่างชัดเจนอยู่แล้วนี่คะ”
ต้นสายได้ฟังถึงกับอึ้งไม่คิดว่าชลดา หญิงผู้เป็นที่รักของเขาจะเชื่อในสิ่งที่เธอได้เห็นมากขนาดนี้ ภาพในวันนั้นมีอิทธิพลต่อเธอมากมายขนาดนั้นเลยหรือ
“อ้อม.......อ้อมฟังพี่นะ ไม่ว่าสิ่งที่อ้อมเห็นในวันนั้นจะเป็นอย่างไรก้อตาม แต่พี่อยากให้อ้อมได้ฟังพี่อธิบายสักครั้งจะได้ไหม แล้วไม่ว่าอ้อมจะเชื่อพี่หรือไม่ก็ตาม พี่จะยอมรับในสิ่งที่มันเกิดขึ้นนับจากวันนี้ต่อไป ไม่ว่ามันจะดีหรือเลวร้ายขนาดไหน พี่ก็จะยอมรับมันให้ได้ แต่ขอให้พี่ได้พูด ได้อธิบายให้อ้อมได้รับรู้สักครั้งหนึ่งเถอะ”
ต้นสายพยายามกล่อมให้ชลดายอมรับฟังในสิ่งที่เกิดขึ้น อากาศในช่วงเวลานี้ทำไมมันช่างเหมือนกับว่าโลกทั้งโลกไม่มีก๊าซออกซิเจนหลงเหลืออยู่เลย มันร้อนรุ่มไปหมดเหมือนกับว่าสิ่งที่ร้อนอยู่ภายในใจของเขามันส่งความร้อนออกมาข้างนอกอย่างไงอย่างนั้น แต่แล้วสิ่งที่ต้นสายแอบภาวนาก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อชลดาเอ่ยปากออกมาว่า
“ได้เลยค่ะพี่ต้น อ้อมจะลองฟังพี่สักครั้ง แต่ขอให้พี่พูดแต่ความจริงทั้งหมดนะคะ ไม่อย่างนั้นอ้อมจะไม่เชื่อคำพูดของพี่อีกเลยค่ะ”
เมื่อต้นสายได้ยินแบบนั้น ทำให้เขาดีใจมากเพราะเขาจะได้มีโอกาสที่จะอธิบายเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น รอยยิ้มของเขาเริ่มมีขึ้นบนใบหน้าที่คมเข้มของเขา
“เรื่องทั้งหมดเป็นอย่างนี้ คือ ตอนที่พี่กำลังรออ้อมอยู่ กุ้งก็เข้ามาบอกพี่ว่า อ้อมมาตามนักไม่ได้อ้อมเลยให้เขามาแทน พอดีเขาจะชวนพี่ไปนั่งแต่พี่หันไปเห็นอ้อมพอดีพี่ก็เลยรู้ว่า กุ้งเขาหลอกให้พี่ไปกับเขาโดยที่ทำให้พี่ต้องเป็นฝ่ายที่ผิดนัดอ้อมและทำผิดต่ออ้อม พอพี่จะตามไปอธิบายอ้อมก็ไม่ยอมฟังพี่เลย”
ต้นสายเล่าให้ชลดาฟังด้วยความน้อยใจที่เธอไม่มีความหนังแน่นและเชื่อใจเขา ทำให้คนที่จ้องจะเข้ามาทำลายความสัมพันธ์ของเขาและเธอสั่นคลอน หลังจากที่ชลดาได้ฟังต้นสายเล่าจนหมดแล้ว ทำให้เธอสามารถเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้นและได้รับบทเรียนที่ว่า การที่เราจะรักใครสักคน เราต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจคนที่เรารัก ไม่ใช่ว่าจะต้องตัดสินความตามที่ตาเห็น เพราะสิ่งที่เราเห็นอาจจะไม่ใช่ความจริงเสมอไป เมื่อชลดาคิดได้อย่างนั้นจึงบอกกับต้นสายว่า
“อ้อมเข้าใจพี่ต้นแล้วค่ะ อ้อมผิดเองที่ไม่เข้าใจพี่ตั้งแต่ทีแรก” ชลดาพูดอย่างสำนึกผิด
“แล้วอ้อมจะสัญญากับพี่ได้ไหมว่า ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกอ้อมจะต้องถามพี่และไว้ใจพี่นะ เราจะได้ไม่เข้าใจผิดกันแบบนี้อีก”
รอยยิ้มที่แจ่มใสกลับมาเป็นของชลดาและต้นสายอีกครั้งหนึ่ง และมันคือรอยยิ้มที่ทำให้ความรักของเขาและเธอมีให้กันอย่างหนักแน่นยิ่งขึ้น
“พี่ต้นคะ อ้อมอยากไปเที่ยวภูกระดึงค่ะ พี่จะไปกับอ้อมได้ไหมคะ”
“ได้สิอ้อมพี่ก็ไม่ได้ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดมานานแล้วนะ เมื่อก่อนพี่เคยไปแต่กับเพื่อน ๆ เออ.....พี่ว่าชวนเอกกับกุ้งไปด้วยดีไหมอ้อม แล้วพี่จะบอกทีหลังว่าทำไมพี่ถึงให้เอกกับกุ้งไปด้วย” ต้นสายตอบและขอความเห็นจากชลดา ที่จะขอให้ชวนแก้วกาญจ์และสมชายไปด้วย
“ดีเลยค่ะพี่ต้น อ้อมก็ไม่เคยไปเที่ยวเป็นกลุ่มมานานแล้วนะคะ ไปกันหลาย ๆ คนสนุกดีค่ะ”
เมื่อตกลงกันได้แล้ว ต้นสายกับชลดาก็ได้โทรศัพท์ไปชวนสมชายและแก้วกาญจ์ พอทั้งสองคนตอบตกลงจึงได้นัดแนะสถานที่และเวลาที่ที่จะมาพบกันและออกเดินทาง
และแล้ววันเวลาที่ทุกคนต้องออกเดินทางก็มาถึง ต้นสายได้ไปรับชลดาที่บ้านตั้งแต่เช้า เพื่อที่จะไปสมทบกับสมชายที่ได้ไปรับแก้วกาญจ์มาที่จุดนัดพบ เมื่อทุกคนมาถึงจุดนัดพบแล้วจึงได้พากันไปซื้อตั๋วรถโดยสารประจำทางเพื่อใช้เป็นพาหนะในการเดินทางไปเที่ยวของพวกเขา
ระหว่างการเดินทางนั้น ทั้งต้นสายและชลดาได้มีโอกาสชื่นชมทิวทัศน์ที่ต่างไปจากทิวทัศน์ภายในเมืองที่มีแต่ความแออัด อากาศในยามนั้นมีความสดชื่นมาก ตามสองข้างทางมีต้นไม้น้อยใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาเรียงรายกันอยู่เต็มสองข้างทาง การเดินทางในครั้งนี้นั้นทำให้ต้นสายและชลดามีความสุขมากเพราะว่าทั้งเขาและเธอจะได้พักผ่อนและได้รับอากาศบริสุทธิ์จากต้นไม้ที่ให้ความสดชื่นเย็นสบาย แต่คนที่ดูไม่มีความสุขเอาเสียเลยเห็นจะเป็นแก้วกาญจ์ เพราะเธอต้องถูกแยกออกจากต้นสายและต้องมานั่งคู่กับหนุ่มเจ้าทะเล้นที่ชื่อสมชายซะอีกการเดินทางของแก้วกาญจ์จึงไม่มีความราบรื่น เพราะตลอดการเดินทางนั้นไม่เธอก็สมชายที่ต้องเป็นฝ่ายหาเรื่องทะเลาะกันอยู่เรื่อย หรือไม่ก็แกล้งยั่วโทสะเมื่อเธอโกรธสมชายก็จะเป็นฝ่ายหัวเราะชอบใจซะอย่างนั้น
เมื่อเดินทางมาถึงตัวจังหวัดเลย ซึ่งเป็นจุดหมายของการเดินทาง รถโดยสารประจำทางก็ได้จอดเทียบท่ารถของสถานีขนส่งผู้โดยสารประจำจังหวัดเลย ผู้โดยสารภายในรถประจำทางทุกคนต่างก็ทยอยกันลงมาจากรถและมารับกระเป๋าเดินทางจาดพนักงานที่เป็นผู้ดูแลผู้โดยสาร เมื่อทุกคนได้รับกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้วก็ได้มาปรึกษากันเรื่องที่พักว่าจะพักกันที่ไหนและเมื่อตกลงกันได้แล้วจึงได้เดินทางไปยังที่พักเพื่อที่จะได้พักผ่อนให้หายเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางก่อนที่จะได้ไปพิชิตยอดภูกระดึงในวันรุ่งขึ้น
ในตอนเย็นนั้นในขณะที่ทุกคนกำลังจัดเก็บเครื่องใช้ส่วนตัวของตนเองนั้น ก็จวนจะได้เวลาที่ทุกคนต้องไปรับประทานอาหารเย็นพอดี ต้นสายจึงเดินมาชวนชลดาไปรับประทานอาหาร
“อ้อมจ๊ะ.....นี่ก็เย็นมากแล้วเราน่าจะไปหาร้านอาหารพื้นเมืองทานข้าวกันดีกว่านะครับเดี๋ยวทานข้าวไม่ตรงเวลาจะเป็นโรคกระเพาะนะ เราจะได้วางแผนการเดินทางกันด้วยนะครับ”
“ก็ดีนะคะพี่ต้น กุ้งหิวข้าวแล้วค่ะ ตั้งแต่กลางวันกุ้งยังไม่ได้ทานอะไรมาเลยค่ะ” แก้วกาญจ์แย่งชลดาตอบหน้าตาเฉย แต่ก็เหมือนโชคช่วยที่สมชายมาทันเลยเกิดศึกขนาดย่อมระหว่างสาวเปรี้ยวจ๋าอย่างชลดาและหนุ่มแสบจอมทะเล้นอย่างสมชาย
“อ้าวต้นไม่ได้ชวนเธอสักหน่อยหูเพี้ยนหรือเปล่า ต้นเขาชวนอ้อมไม่ใช่เธอยายแป๋น” เมื่อได้รับการตั้งฉายาใหม่ มีเหรอที่คนอย่างแก้วกาญจ์จะยอม เธอเลยรีบสวนตอบไปทันทีเลยว่า
“ฉันไม่ได้ชื่อแป๋น ฉันชื่อกุ้ง แล้วมันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของของนายด้วย ตาหูหม้อ พี่ต้นเขาจะชวนใครมันก็เรื่องของเขา แต่ฉันจะไปนายมีปัญหาไหม”
“มีสิ....นายต้นเขาอยากจะไปสวีทกับหวานใจของเขาบ้าง เธอจะตามเขาไปทำไมล่ะ” ขนาดมาถึงกันวันแรกยังไม่ทันไปไหนยังเกิดสงครามย่อม ๆ แล้ววันต่อ ๆ ไปจะเกิดอะไรขึ้นอีกก็ไม่รู้
“ทำไมฉันจะไปไม่ได้ ในเมื่อฉันมาเที่ยวที่นี่กับพี่ต้นไม่ได้มากับนาย”
ระหว่างที่สมชายและแก้วกาญจ์กำลังเปิดศึกกันอย่างดุเดือดนั้น ชลดาอดที่จะเอือมระอากับเพื่อนสาวไม่ได้จึงตัดบทว่า
“เอาล่ะ เอาล่ะ เอาอย่างนี้ดีกว่าค่ะ พี่เอก กุ้ง อ้อมว่า เราไปด้วยกันทั้งหมดนี่ดีกว่านะค่ะ มัวแต่เถียงกันเดี๋ยวก็ไม่ได้กินอะไรอร่อย ๆ กันพอดี”
คำพูดนี้เหมือนได้ผลเพราะว่า ต้นสายและสมชายต่างก็เห็นด้วย มีเพียงแก้วกาญจ์คนเดียวเท่านั้นที่ไปด้วยความไม่เต็มใจนักเพราะเธอต้องอดไปรับประทานอาหารตามลำพังกับต้นสายตามที่ตั้งใจไว้ พอไปถึงร้านอาหารที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเลย หนุ่มสาวทั้งสี่คนต่างก็สั่งอาหารที่ตนสนใจมารับประทาน อาหารที่รับประทานบวกกับบรรยากาศที่แสนจะสบายสบาย ทำให้ทุกคนที่เข้ามารับประทานอาหารในร้านนี้เต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม ต้นสายคอยเอาใจใส่และดูแลชลดาอยู่ตลอดเวลาเสมือนว่า เธอคือเจ้าหญิงน้อย ๆ ของเขาก็ไม่ปาน จนสร้างความไม่พอใจให้แก่แก้วกาญจ์ จนแก้วกาญจ์คิดวางแผน ที่จะทำร้ายเพื่อนของเธอ หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จแล้วเธอจึงพูดขึ้นว่า
“ตั้งแต่เรารู้จักกันมาเรายังไม่เคยจัดงานปาร์ตี้ร่วมกันเลยเลยนะคะพี่ต้น”
“จริงสินะ เรามัวแต่ยุ่ง ๆ เรื่องเรียน ไหนยังเรื่องกิจกรรมอีก เลยไม่มีเวลานึกถึงเลยนะ” ต้นสายพูดและเริ่มนึกถึงงานปาร์ตี้ที่ไม่ได้จัดมาตั้งนานแล้ว และอีกอย่างหนึ่งเขาก็ไม่มีเวลาเลยจริง ๆ จนลืมไปว่า เขาน่าจะจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ สักครั้งเพื่อให้เขาและชลดามีความสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น
“ว่าแต่พวกเราจะว่างเจอกันอีกทีเมื่อไรก็ไม่รู้นะ พี่ว่าเราน่าจะจัดปาร์ตี้กันช่วงที่ทุกคนว่างและสะดวกที่สุดนะ” ต้นสายออกความเห็น
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ต้องรอให้ทุกคนกลับไปจัดการงานที่ค้างไว้ก่อนใช่ไหมคะ” แก้วกาญจ์พูดด้วยน้ำเสียงที่ผิดหวัง เพราะเธอเห็นว่ามันช้ามากเลยจริง ๆ แต่เธอคิดว่าไม่เป็นไรหรอกช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม และวันนั้นเธอจะต้องได้เป็นแฟนกับต้นสายให้ได้
“เอาอย่างนี้ดีไหมคะ ถ้าหากว่าพวกเราพร้อมกันเมื่อไรเราค่อยตกลงกันเรื่องสถานที่ดีกว่านะคะ ที่ที่อ้อมคิดมีหลายที่ค่ะที่น่าไป” ชลดาออกความคิดเห็น และรู้สึกชอบใจมากเพราะเธอจะได้ไปเที่ยวและคลายความเครียดที่สะสมมาตลอดเทอมออกบ้าง
เส้นทางการเดินทางขึ้นภูกระดึงนั้นมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่พวกเธอคิด หากว่าการเดินทางในครั้งนี้มีแต่ความยากลำบาก เหมือนกับการที่ระยะทางจะเป็นการพิสูจน์ความจริงใจแก่คนรักของทุกคู่ที่ได้มาร่วมเดินทางเพื่อพิชิตยอดภูกระดึง เพราะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขา และไม่มียานพาหนะที่ใช้ในการเดินทางขึ้นไป
ในตอนแรกที่ทุกคนเริ่มก้าวเท้าเข้าสู่การพิชิตยอดภูกระดึงนั้น ทุกคนมีความตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะชลดาที่ไม่เคยมาชื่นชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิดอย่างนี้ แต่การเดินทางที่ยาวไกลก็มักจะมีอุปสรรคอยู่เสมอ เนื่องจากการที่อากาศร้อนและความเหนื่อยล้า ทำให้ชลดาอยากจะหยุดพักแต่ก็กลัวว่าเธอจะเป็นภาระให้กับต้นสาย จึงฝืนเดินต่อไปและไปเหยียบเอาก้อนหินทำให้ข้อเท้าพลิกและล้มลง ยังดีที่ต้นสายรับได้ทันศีรษะของเธอจึงไม่ฟาดฟื้น แต่การเดินทางของเธอไม่ได้หยุดลงแค่นั้น เธอพยายามที่จะเดินต่อไปเพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น ซึ้งผิดไปจากแก้วกาญจ์ที่เดินทางยังไม่ทันถึงไหนก็เริ่มบ่นและรู้สึกหงุดหงิดด้วยความที่ว่าเธอถูกเลี้ยงมาแบบได้รับการเอาอกเอาใจจากคนรอบข้างมากจนเกินไป
“เมื่อไรจะถึงสักที เดินมาตั้งนานแล้วยังไม่ถึงครึ่งทางอีกเหรอ” แก้วกาญจ์บ่น
“จะบ่นอะไรหนักหนายายแป๋น คนอื่นเขายังทนได้ ดูอย่างอ้อมสิ เขาขาพลิกยังเดินต่อไปได้ไม่เห็นบ่นเหมือนเธอเลยช่วยอดทนจะได้ไหม อย่าบ่นให้คนอื่นเขารำคาญเลย” สมชายอดไม่ได้ที่จะตำหนิแก้วกาญจ์ แต่การตำหนิของเขานั้นใช่ว่าแก้วกาญจ์จะเชื่อ แต่เธอจะต่อว่าเขากลับเท่านั้น
“ก็ฉันไม่ใช่อ้อมกับนายนี่ เดินได้ไม่รู้จักเหนื่อย เออ....ใช่ฉันลืมไปว่านายเป็นหูหม้อเลยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย” แก้วกาญจ์ยังคงบ่นไม่หยุด แถมยังกัดสมชายเล็กน้อยพอให้เลือดซิบจนเป็นที่ระอาใจแก่ต้นสายและชลดาเป็นอย่างมาก
กว่าจะเดินทางมาถึงยอดภูกระดึงทำเอาทุกคนเหนื่อยไปตาม ๆ กัน แต่สิ่งที่พวกเขาได้พบมันคุ้มค่ามากเพราะ เมื่อขึ้นมาถึงแล้วอากาศช่างดีเหลือเกินทำให้ทุกคนหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งและต่างก็พากันหามุมดี ๆ
สวย ๆ เพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่คนที่น่าหนักใจเห็นจะเป็นต้นสายอีกตามเคย เพราะเขาอยากจะถ่ายรูปคู่กับชลดา แต่ก็มีแก้วกาญจ์มาคอยขัดอยู่เรื่อย ๆ
“เอกแกช่วยหน่อยสิ เราอยากจะถ่ายรูปคู่กับอ้อมแต่ก็ถ่ายไม่ได้สักทีเพราะกุ้งไม่ยอมห่างจากเราเลย” ต้นสายรู้สึกหนักใจมาก จึงอยากให้สมชายช่วยเหลือด้วยวิธีใดก็ได้เพื่อเขาจะได้ถ่ายรูปคู่กับคนที่เขารักได้อย่างราบรื่นสักที
“เอาสิเพื่อน เราพอจะมีวิธีอยู่นะ ขอเวลาหน่อยนะ” สมชายขอเวลาเพื่อนรักสักเล็กน้อยเพื่อเตรียมหากลอุบายหลอกล่อให้แก้วกาญจ์ไปเสียที่อื่น ต้นสายจะได้ถ่ายรูปคู่กับชลดาอย่างสงบ ๆ เสียที
“ยายแป๋น......มาทางนี้กับเราหน่อย” สมชายชวนแก้วกาญจ์เพื่อเปิดทางให้ต้นสายและชลดา
“จะพาฉันไปไหนตาหูหม้อ ฉันจะอยู่ที่นี่ถ่ายรูปกับพี่ต้น” แก้วกาญจ์พูด
“ให้เขาได้อยู่กันตามลำพังดีกว่าเราเป็นคนนอกไม่เกี่ยวกับเขา” สมชายพูดและคิดว่าแก้วกาญจ์จะเข้าใจ แต่เปล่าเลย เธอกลับดันทุรังอยากจะอยู่กับต้นสายให้ได้ เขาจึงต้องใช้วิธีจับไปที่ข้อมือของแก้วกาญจ์และฉุดลากออกมาจากต้นสายและชลดา
เมื่อแก้วกาญจ์ถูกสมชายลากออกไปแล้ว ทั้งต้นสายและชลดาต่างก็ถ่ายรูปคู่กันและเดินชื่นชมธรรมชาติอย่างมีความสุขท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น หลังจากที่หนุ่มสาวทั้งสี่คนได้ชื่นชมธรรมชาติและบรรยากาศของยอดภูกระดึง ทุกคนก็เดินทางกลับมาที่โรงแรมที่พักเพื่อพักผ่อนให้หายเหนื่อยที่โรงแรมอีกหนึ่งคืนก่อนที่จะเดินทางกลับมาที่บ้านของพวกเขา และพวกเขาจะไม่ลืมวันที่พวกเขาได้มาท่องเที่ยวและฝ่าฟันอุปสรรคด้วยกันเลย
อากาศในวันนี้ช่างร้อนมากจัง บรรยากาศแบบนี้ทำให้ชลดาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงต้นสายคนรักของเธอ ตั้งแต่กลับมาจากที่ภูกระดึง ทั้งเธอและเขาต่างก็ไม่มีเวลาว่างที่จะไปไหนมาไหนด้วยกัน เพราะต้องจัดการกับรายงานที่อาจารย์สั่งให้เสร็จก่อนที่จะสอบปลายภาค ความคิดถึงของเธอที่มีต่อต้นสายมันยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นทุกวัน ถ้าหากว่าไม่ได้เจอเขาก็ขอแค่ได้ยินเสียงก็พอ เมื่อเธอคิดได้ดังนั้นจึงยกหูโทรศัพท์และกดเบอร์โทรศัพท์ของต้นสายที่เธอจำได้ดี แล้วเธอก็ได้ยินเสียงสัญญาณตอบรับว่า
“สวัสดีครับ ผมต้นสายนะครับ ตอนนี้ผมไม่อยู่ช่วยฝากข้อความข้อความไว้หลังเสียงนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ”
อึ้ง....ต้นสายของเธอไปไหน ทำไมถึงไม่อยู่รับสายเธอหรือว่าเขาจะแอบไปเที่ยวสนุกกับแก้วกาญจ์จนลืมไปว่ามีเธออยู่ ยิ่งคิดความน้อยใจก็เกิดขึ้น เธอจึงอยากออกไปเดินเล่นข้างนอก พอเดินไปถึงประตูบ้านโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอจึงรีบเดินมารับโทรศัพท์และพูดลงไปว่า
“สวัสดีค่ะ อ้อมพูดค่ะ”
“อ้อมเหรอ....นี่พี่เองนะ ตอนนี้อ้อมว่างไหม”
“ว่างพอดีเลยค่ะ มีอะไรให้อ้อมช่วยเหรอคะ”
“มาหาพี่ที่ตลาดนัดสวนจตุจักรได้ไหม พี่รออยู่ที่ป้ายรถเมล์นะ”
“อ๋อ......ได้ค่ะพี่ต้นเดี๋ยวอ้อมจะไปค่ะ”
“อ้อม.....แค่นี้ก่อนนะเดี๋ยวเจอกันนะสวัสดีครับ”
ชลดานั่งรถเมล์มาจนถึงตลาดนัดสวนจตุจักรก็ได้เจอกับคนที่เธอคิดถึงมาก ความดีใจของเธอทำให้ใจเต้นรัวและตัวสั่นเทา ความเงียบเริ่มปกคลุมชลดาจึงพูดขึ้นว่า
“ตั้งแต่เรากลับมาจากภูกระดึงเราไม่ค่อยได้เจอกันเละนะคะ แล้วพี่ไปไหนเหรอคะอ้อมถึงไม่ได้เจอพี่เลย”
“พี่ทำรายงานส่งอาจารย์ อาจารย์ให้ส่งก่อนสอบปลายภาค พี่กลัวว่าจะทำไม่เสร็จก็เลยเร่งมือทำ รู้ไหมว่าพี่ไม่ได้เจออ้อมหลายวันพี่คิดถึงอ้อมนะ” ต้นสายพูดแบบนี้ทำเอาชลดาหน้าแดง เพราะสิ่งที่เขาพูดมันช่างตรงกับใจกับใจของเธอมาก
“อ้อมล่ะ คิดถึงพี่ไหม อย่าบอกนะว่าไม่คิดถึงพี่ไม่อย่างนั้นพี่คงคิดถึงเก้อแน่ ๆ เลย” ต้นสายดักคอ
“อ้อม.....เออ....อ้อม....อ้อมคิดถึงพี่ต้นมากนะคะ ยิ่งช่วงที่พี่หายไปก็ยิ่งคิดมาก นึกว่าพี่แอบไปเที่ยวกับกุ้งที่ไหนแล้ว”
“หึงพี่เหรอครับคนดี พี่มีอ้อมคนเดียวนะชอบว่าพี่อยู่เรื่อยเชียว”
“ก็คนมีประวัตินี่คะ คุยกันมาตั้งนานพี่เรียกให้อ้อมมาหามีอะไรให้ช่วยเหรอคะ”
“พี่ว่าเราไม่เคยไปกินด้วยกันนานแล้วเลยอยากจะเลี้ยงข้าวอ้อมสักมื้อจะได้ไหม”
“ตกลงค่ะ อ้อมจะได้ประหยัดเงินเงินไปหนึ่งมื้อ”
“อะไรนะ....แฟนพี่เป็นคนขี้งกตั้งแต่เมื่อไรครับ” ต้นสายพูดติดตลกให้บรรยากาศไม่เงียบเหงาจนเกินไปนัก เพราะเขาและชลดาเดินกันแค่สองคนเลยทำให้บรรยากาศไม่ครึกครื้น
“อ้อมเปล่างกนะคะ แค่พูดล้อเล่นเฉย ๆ ทำจริงจังไปได้”
“พี่เปล่าจริงจังสักหน่อย พี่แค่ล้อเล่นเอง”
ต้นสายและชลดาหยอกล้อกันอย่างแจ่มใสและมีความสุข เหมือนโลกทั้งโลกของทั้งสองคนมีทุกอย่างเป็นสีชมพูไปด้วย เมื่อเจอร้านอาหารที่ถูกใจก็เข้าไปนั่งและชลดาก็หันไปเจอเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันเมื่อตอนมัธยมปลาย เพื่อนของเธอคนนี้ไม่ใช่ผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นคนรักสวยรักงาม เจ้าสำอาง แต่ในเวลานี้เพื่อนของเธอแต่งตัวมาดเท่ ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความแอบสาวของเขาเลย เธอจึงเริ่มมีความคิดดี ๆ เกิดขึ้น
“พี่ต้นคะ เดี๋ยวอ้อมไปที่โต๊ะโน้นก่อนนะคะ” ชลดาชี้มิไปยังโต๊ะที่เพื่อนของเธอนั่งอยู่
“นิคไปไงมาไง ไหนว่าไปเรียนต่างประเทศแล้วไง”
“ไปมาแล้วกลับมาแล้ว แต่เรายังเรียนไม่จบนะ มีปัญหานิดหน่อยเลยเรียนไม่จบ” อุเทนทำสีหน้าผิดหวัง
“เราเจอนายก็ดีแล้วนิค พอดีเรามีเรื่องอยากให้นายช่วยอยู่พอดีเลย นายพอจะช่วยเราได้ไหม”
“แล้วเธอจะให้ฉันช่วยเรื่องอะไร อย่าบอกนะว่าเรื่องเงิน แต่ฐานะทางบ้านเอคงไม่ใช่เรื่องเงินหรอกใช่ไหม”
“นายเดาเก่งมากเลยนิค คืออย่างนี้นะนายลองมองไปที่ผู้ชายที่นั่งโต๊ะเดียวกับเรานะ เขาเป็นแฟนกับเราเอง แต่เราอยากจะพิสูจน์อะไรสักอย่างหนึ่ง นายพอจะช่วยเราได้ไหม”
“ช่วยอยู่แล้วเราเป็นเพื่อนกันนะ แล้วเธอไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไรเหรอ เล่าให้เราฟังหน่อยได้ไหม”
ชลดาเริ่มเล่าแผนการทั้งหมดซึ่งอุเทนก็นั่งฟังอย่างตั้งใจและให้ความร่วมมือด้วย จนต้นสายที่มองอยู่ห่าง ๆ เริ่มเห็นว่าชลดาและอุเทนดูสนิทสนมกันดีเหลือเกิน เมื่อชลดาเล่าแผนทั้งหมดให้ต้นสายฟังจบแล้วก็ขอตัวกลับมานั่งที่โต๊ะกับต้นสาย
“พี่ต้นคะพี่จำได้ไหมคะ ตอนที่เราไปภูกระดึงกัน เราเคยนึกอยากจัดงานปาร์ตี้กัน ตอนนี้ทุกคนสะดวกกันหรือยังคะ”
“อํอ....พี่กับเอกว่างพอดีเลยเพราะวันเสาร์ก็ส่งงานกันเรียบร้อยแล้วนะ แล้วอ้อมกับกุ้งจัดการเรื่องงานกับเรื่องสอบเรียบร้อยแล้วหรือยัง”
“อ้อมกับกุ้งจัดการกันเรียบร้อยแล้วค่ะ ก็กำลังรอพี่ ๆ อยู่ว่าพี่ ๆ จะว่างกันตอนไหนจะได้นัดมาปรึกษาว่าจะเลือกสถานที่ที่ไหนกันดี เพราะที่อ้อมคิดไว้มีหลายที่เลย แล้วเราจะมาปรึกษากันวันไหนคะ คงต้องเป็นช่วงต้นสัปดาห์ดีกว่าค่ะทุกคนจะได้มีเวลาเตรียมตัวกันค่ะ” ชลดาขอความเห็น
“พี่ว่าวันพรุ่งนี้ดีกว่านะ ทุกอย่างจะได้เรียบร้อยดี”
หลังจากที่ต้นสายและชลดากลับจากการรับประทานอาหารด้วยกัน ต่างคนก็นัดเพื่อนของตัวเองให้มาปรึกษาหารือเรื่องสถานที่สำหรับการจัดงานปาร์ตี้ การที่ชลดาโทรศัพท์ไปนัดแก้วกาญจ์ทำให้แก้วกาญจ์ดีใจมาก เพราะเธอจะได้ทำในสิ่งที่เธอหวังมานาน



Create Date : 28 มิถุนายน 2550
Last Update : 28 มิถุนายน 2550 11:00:13 น. 0 comments
Counter : 241 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

น้องออมตังค์
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีค่ะ ทุก ๆ คนที่หลงทางผ่านเข้ามานะคะ บล็อกของทอใยรักอาจจะยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับทุกท่านมากนัก แต่ขอรับรองว่าทอใยรักจะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นนะคะ ส่วนในเรื่องของผลงานที่นำมาลงนั้นได้โปรดอย่านำไปก๊อปปี้ที่ไหนเลยนะคะเพราะทอใยรักพยายามทุ่มเทแรงใจในการเขียนถึงมันจะไม่ดีพอแต่มันก็คืองานเขียนที่ทุ่มเทนะคะ คอมเม้นต์ทุกคอมเม้นต์เป็นกำลังใจสำหรับทอใยรักนะคะ อย่าลืมนะคะ

เธอรู้บ้างไหม ว่าฉันเคยตามหา ใครสักคนที่เดินเข้ามาตอบคำถาม ให้หัวใจ ว่าความรัก ว่าคนรัก นั้นคือใคร อยู่ที่ไหน ทำไมฉัน ไม่เคยเจอ แต่วันนั้นเราแค่บังเอิญ ได้พบ ก็เป็นวันที่ฉันได้พบคำตอบ ของหัวใจ ว่าความรัก ว่าคนรัก ฉันคือใคร ไกลแค่ไหน แต่ฟ้าก็ยังให้เราได้พบกัน * แค่เพียงรู้ ... ว่าเธอคือความรัก ความฝันหรือความจริง ฉันมีเธออยู่เคียงข้างกาย แค่นี้ก็คงเพียงพอกับ คนที่ไม่เคย...เชื่อว่าความรักแท้มีจริง... จนวันที่ฉันได้พบเธอในวันนี้... ฉันไม่ได้นอนฝัน ความรักฉันคือเธอ มีตัวตนและหายใจวันนี้ฉันเองพูดไม่ออก ว่าโชคดีแค่ไหน กับการที่ได้รักเธอ และมีเธอนั้นคอยเติมเต็มชีวิตที่หายไป ขอบคุณฟ้า ที่ลิขิตรักมาแบบนี้ ให้ทุกลมหายใจที่เหลืออยู่ได้รักเธอ ก็พอแล้ว ฉันพอแล้ว ฉันได้เจอกับความหมาย ว่าโลกที่มีรักช่างสวยงาม
Friends' blogs
[Add น้องออมตังค์'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.