ไข่ถือเป็นแหล่งสารอาหารชั้นเยี่ยมที่ร่างกายของคนเราต้องการ อาจทานวันละหนึ่งฟองหรืออย่างน้อย 3-4 ฟองต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้รับคอเลสเตอรอลในแต่ละวันได้อย่างพอดี โดยประโยชน์จากไข่ที่ส่งผลต่อผู้บริโภคนั้นมีมากมายดังนี้
1. ไข่อุดมไปด้วยโปรตีน โดย 1 ฟองจะมีโปรตีนคุณภาพดี 6 กรัม และกรดอะมิโนสำคัญอีก 9 ชนิด
2. ไข่ช่วยในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
ไข่มีคอเลสเตอรอล 200 มิลลิกรัม ไข่จะลดระดับของไขมัน LDL ซึ่งเป็นไขมันที่ไม่ดีในร่างกาย และช่วยเพิ่มระดับของไขมันที่ดี (HDL) ช่วยป้องกันคอเลสเตอรอล
3. ไข่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของคุณ
คุณอยากให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณเพิ่มขึ้น คุณต้องกินไข่วันละ 1-2 ฟองทุกวัน ไข่อุดมไปด้วยซีลีเนียมซึ่งจะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของคุณรวมทั้งควบคุมระดับฮอร์โมนต่อมไทรอยด์
4. ไข่ช่วยให้ระบบการทำการงานในร่างกายดีขึ้น
โคลีนเป็นสารที่พบในไข่และสารนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของร่างกาย การศึกษาวิจัยได้พิสูจน์แล้วว่า โรคอัลไซเมอร์หรือความผิดปกติของระบบประสาทเป็นเพราะการขาดโคลีน
5. ไข่ช่วยเสริมกระดูกและสุขภาพฟัน
ไข่เปรียบเสมือนแสงแดด ซึ่งแสงแดดเป็นแหล่งรวมที่ดีของวิตามินดี วิตามินชนิดนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกระดูกและฟันให้แข็งแรง ยังช่วยดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย และบำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เร่งการเผาผลาญและระบบย่อยอาหารของคุณ
6. ไข่ทำให้ผิวของคุณดูสดใส
ผิวของคุณต้องการวิตามินบีคอมเพล็กซ์ที่ทำให้ดูนุ่มเนียนและสดใส วิตามินเหล่านี้ยังช่วยเสริมสุขภาพของเส้นผมและอวัยวะสำคัญของคุณเช่นตาและตับ วิตามินบีคอมเพล็กซ์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของร่างกายและระบบประสาท
7. ไข่ดีต่อสุขภาพตาของคุณ
ไข่มีสารอยู่ 2 ชนิดที่สามารถต้านอนุมูลอิสระได้คือ ซีแซนทีนและลูทีน สารเหล่านี้จะช่วยพัฒนาสุขภาพตาของคุณ ยังเป็นที่รู้กันว่าช่วยป้องกันการเป็นต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม
8. ไข่ช่วยลดน้ำหนัก
ไข่ช่วยทำให้รู้สึกอิ่ม เมื่อคุณรู้สึกอิ่มคุณจะกินน้อยลง ไข่จึงเป็นทางเลือกของอาหารเช้าที่ดี ช่วยลดความอยากในระหว่างวัน ก่อนที่จะถึงมื้ออาหารกลางวัน
9. ไข่ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและลดระดับความเครียด
กรดอะมิโนจำเป็นที่พบในไข่ ช่วยทำให้สุขภาพจิตของคุณดีขึ้น เซโรโทนิน (serotonin) เป็นสารที่ทำหน้าที่ส่งเสริมเส้นประสาทที่ควบคุมอารมณ์ของคุณ ช่วยให้คุณผ่อนคลายและมีสมาธิ สารชนิดนี้จะผลิตและปล่อยออกมาจากกรดอะมิโนจำเป็นที่พบในไข่
10. ไข่ทำให้เส้นผมและเล็บมีสุขภาพดี
เพราะว่าไข่มีซัลเฟอร์สูง รวมถึงยังมีวิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิด หลายคนจึงพบว่าผมยาวเร็วขึ้นหลังจากที่เพิ่มไข่เข้าไปในอาหารที่รับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เคยขาดอาหารที่มีซัลเฟอร์หรือวิตามินบี12 มาก่อน
11. ไข่อาจจะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม
โดยผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่รับประทานไข่ 6 ฟองต่อสัปดาห์ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมลงถึงร้อยละ 44
ปัจจุบันนักโภชนาการและผลวิจัยส่วนใหญ่ต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า ไข่ไก่ เป็นอาหารชนิดเดียวที่มีสารอาหารครบถ้วนเกือบทุกชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะโปรตีนที่มีคุณภาพดีที่สุด เพราะเป็นโปรตีนชนิดเดียวที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ
และที่สำคัญองค์การอนามัยโลก (World Food Organization : WFO) ใช้โปรตีนไข่ (egg proteins) และกรดอะมิโน (amino acids) เป็นค่าเปรียบเทียบเพื่อประเมินคุณภาพโปรตีนกับอาหารชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ ไข่ยังเป็นแหล่งแร่ธาตุและวิตามินที่ครบถ้วน ยกเว้นเพียงวิตามินซีและเคเท่านั้น ไข่ไก่ จึงถือได้ว่า เป็นอาหารบำรุงร่างกายที่ดีที่สุด ที่หาได้ง่าย ราคาย่อมเยา เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย
วันนี้ขอยกตัวอย่างสารอาหารสำคัญบางชนิด ซึ่งสารอาหารชนิดหนึ่งที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของไข่ไก่ คือ โคลีน (Choline) เนื่องจากเป็นสารอาหารที่สำคัญและจำเป็นต่อคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และคุณแม่ที่อยู่ระหว่างการให้นมบุตร นอกเหนือจากที่โคลีนจะช่วยบำรุงสมองและเสริมความจำแล้ว จากงานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่า โคลีนยังเป็นสารอาหารที่ช่วยชะลอความแก่ เรียกว่าเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อคนเราในทุกช่วงชีวิต ตั้งแต่เป็นทารกจนวัยชราเลยทีเดียว
ส่วนลูธีน (Lutein) และ ซีแซนทิน (zeaxanthin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในไข่แดง ซึ่งช่วยชะลอโรคจอประสาทตาเสื่อม และในการผลิตไข่ไก่สมัยใหม่ยังสามารถเพิ่มปริมาณแร่ธาตุเช่น โอเมก้า3 DHA EPA ให้สะสมในไข่มากขึ้น เพื่อผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากแร่ธาตุดังกล่าวได้โดยตรง
คอเลสเตอรอล ในไข่ช่วยลดปัญหาหลอดเลือดอุดตัน
ที่ผ่านมาผู้บริโภคเคยมีความกังวลต่อคอเรสเตอรอลในไข่ไก่ เพราะเข้าใจว่าคอเรสเตอรอลเป็นตัวการสำคัญของการเกิดโรคหลอดเลือดและความดัน แต่งานวิจัยจากสถาบันที่เชื่อถือได้ที่ทำขึ้นในช่วงหลังๆ พบว่าในอดีตมีการวิเคราะห์ปริมาณคอเรสเตอรอลในไข่ไก่ไม่ตรงกับความจริง และจากข้อมูลของกองโภชนาการ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าไข่ไก่ 1 ฟองมีโปรตีนประมาณ 6.25 กรัม หรือประมาณ 10-15% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน มีคอเรสเตอรอลประมาณ 213 กรัม มีไขมันอิ่มตัวประมาณ 1.5 กรัมเท่านั้น ในขณะที่มีไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่าคือ 1.91 กรัม ซึ่งร่างกายจะนำไขมันไม่อิ่มตัวไปใช้ง่าย ไม่ก่อปัญหาโรคหลอดเลือด
..............