ขุขันธ์เมืองเก่า ชนทุกเผ่าสามัคคี บารมีหลวงพ่อโตวัดเขียน กระอูบเกวียนครุน้อยเครื่องจักสาน ปราสาทโบราณเป็นศรี ประเพณีแซนโดนตา

Group Blog
 
 
สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
25 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

หัว ( ใจ ) หว้าวุ่น ยุ่งเรื่องรัก : บทที่ 1

บรรยากาศครึกครื้นท่ามกลางผู้ท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยซึ่งในทุกๆหนึ่งปีจะมีงานยิ่งใหญ่แบบนี้เสมอ ทั้งงานแสดงช้าง นับหลายร้อยตัวเพื่อมาอวดชาวต่างชาติที่ชอบและใฝ่ฝันอยากจะมาเที่ยวในทุกๆปี
แต่แปลกว่าทุกปีปีนี้หนุ่มธวัตรกลับไม่ค่อยอยากจะไปเที่ยวงานนี้เท่าไรตั้งแต่เขาเรียนจบมา แต่ในเรื่องของการติดเพื่อนและสังสรรค์เพื่อนฝูงยังคงเป็นมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่แปลกปีนี้เขากลับไม่อยากไปเที่ยวงานช้างเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ทุกคนในครอบครัวต่างพากันงุนงงกับธวัตร

" ธวัตรไม่ไปเดินงานช้างเหรอ "
" ไม่อะครับ ไม่อยากไปเบื่อพวกวัยรุ่นมันชอบตีกัน "
" 555 อ้าว ซะงั้นน้องชายฉัน "

พี่สาวธวัตรหัวเราะดังลั่น ท่ามกลางความครึกครื้นของคนในบ้านที่ตระเตรียมข้าวของไปขายในงาน

" งั้นก็ขับรถไปส่งแม่ละกัน แม่เขาจะเอาขนม และผลไม้ไปขาย "
" ได้ครับ งั้นเดี่ยวผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะพี่ "
" เร็วๆล่ะ ขับรถพาแม่ไปนะ ไม่ได้ไปกับสาวๆ ไม่ต้องหล่อมาก "

พี่สาวธวัตรก็ยังทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่รู้ใจน้องชายของเธอเองพร้อมกับเสียงหัวเราะเล็กๆ แต่ธวัตรทำทีท่าว่าไมสนใจเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

" แล้วนี่ยกของขึ้นรถกันหมดหรือยัง "
" ครบทุกอย่างอยู่ท้ายรถแล้ว ไปได้เลย "
" จะไปได้ไงน้องชายตัวดียังไม่ลงมาจากบ้านเลย ไม่รู้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือว่า เนรมิตตัวหรือเปล่า ป่านนี้ยังไม่มาเลย "
" มาแล้วครับพี่ บ่นอยู่นั่น เดี่ยวลูกของพี่ก็เป็นเหมือนพี่หรอก "


หลังจากที่ธวัตรขับรถพาแม่ไปตั้งร้านขายของในตัวเมืองเสร็จ อยู่ได้สักพักเขาก็กลับบ้าน ไม่นานเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

" มีอะไรไอ้โอ "
" โอโห ไอ้ธวัตรทุกวันนี้ฉันโทรหานายต้องมีเรื่องด้วยเหรอวะ "
" เออ มีอะไร "
" เปล่ามีฉันแค่มีเรื่องนิดหน่อยคุยด้วยสักหน่อย "
" อือ ว่ามา "
" ยังจะมาทำน้ำเสียงขรึมใส่ฉันอีก "
" จะเล่าหรือไม่เล่า "
" เออ เออ เล่าก็เล่าวะ "
" พอดีฉันรู้จักกับสาวคนนึง และกลางปีหน้านี้ฉันสัญญาว่าฉันจะพาเธอไปเลี้ยงข้าว แต่ไม่กล้าพาเธอไปคนเดียวฉันก็เลยอยากจะชวนนายไปด้วย "
" อือ แล้วเขาคนนั้นที่นายว่าละ เขาอยู่ไหน "
" เขาทำงานอยู่กรุงเทพฯ ทำงานอยู่ในห้างสรรพสินค้า "
" หมายความว่านายจะให้ฉันนั่งรถเข้ากรุงเทพฯเนี่ยนะ "
" ใช่แล้วเพื่อน นายจะกลัวอะไรก็ในเมื่อนายก็มีน้าอยู่ที่นี่อยู่แล้ว จะพักกับฉันหรือว่าไปพักกับน้าของนายก็ได้ ไม่เห็นเป็นไรเลย "
" ไอ้ที่ไม่เป็นนะ ไม่เป็นไรหรอก แต่ไม่ค่อยอยากจะเข้ากรุงเทพฯ เบื่อคนวุ่นวาย ไม่รู้อะไรนักหนา อยู่บ้านสบายใจกว่าตั้งเยอะ "

555555555 เสียงหัวเราะของเพื่อนชายที่คลับคล้ายคลาว่าตัวเองฟังผิดไปหรือว่าไอ้ธวัตรมันเพี้ยน

" อะไรกันนายธวัตรเปลี่ยนไปแล้วเหรอเนี่ย "

นายโอชายังตะขิดตะข่วนใจอยู่ ว่าทำไมเพราะเหตุใดธวัตรถึงเป็นแบบนี้ไปได้เพราะทุกปีที่ผ่านมาเห็นเข้าออกกรุงเทพฯบ่อยจะตายแต่พอมาวันนี้กลับต่างจากเดิมมากหลายเท่า

" ไม่ได้เปลี่ยน แต่เพราะฉันโตขึ้นมั้ง ดูๆมันไร้สาระวะ "
" ไร้สาระตรงไหน คนนี้ฉันตั้งใจคบเป็นแฟนนะเว้ย "
" ถ้าคบเป็นแฟนแล้วทำไมนายต้องโทรชวนฉันด้วยล่ะ ทำไมไม่พาเธอไปเลี้ยงกันสองต่อสองล่ะ "

" ก็มันเดทครั้งแรกนี่หว่า มันเขิลเข้าใจไหม "

ธวัตรก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าหญิงคนนี้จะทำให้โอชาเป็นถึงเพียงนี้ไปได้เพราะปกติเขาไม่ค่อยสนใจผู้หญิงคนไหนเลยแม้แต่คนเดียว แล้วคนนี้มีดีอะไรกัน

" อ้าวแล้วรู้จักกับเธอได้ไง "
" ก็รู้จักจากเพื่อนอีกคนที่เขาทำงานและก็เรียนด้วยกันมาและอีกอย่างก็พักอยู่ใกล้ๆกับเขา เธอชื่อว่า นภัส ไม่สวยหรอกแกไม่ต้องมาสนใจเลย ส่วนอายุก็น้อง สัก ปี สองปีได้มั้ง "

หลังจากโอชาเล่าเรื่องราวของเธอไปนั้น ยิ่งดูเหมือนว่าธวัตรอยากจะเห็นเธอด้วยซ้ำเพราะเดาใจเพื่อนออกว่าถ้าพูดประมาณนี้ ต้องสวยและก็น่ารักแน่ๆ

" ได้เดี่ยวฉันไปแต่อาจจะประมาณอาทิตย์หน้านะ เพราะช่วงนี้ต้องพาแม่ไปงานช้างด้วย "
" แม่นายไปขายของอีกเหรอ บอกให้แกหยุดขายได้แล้ว อายุก็มากแล้ว นายอะเป็นลูกชายทำงานหาเงินให้แม่ใช้บ้างได้แล้วนะ "
" ไม่ต้องมาสอน ถ้าไปเดี่ยวจะโทรบอกละกันอีกอย่างมันก็ใกล้งานวันคล้ายวันเกิดฉันแล้วด้วย "
" แล้วจะรีบมาทำไมวะ "
" จะขึ้นไปหางานทำ ตั้งแต่เรียนมายังไม่ได้ทำอะไรเลย "
" ก็ดีวะ จะได้มีเพื่อน โอเคแค่นี้ล่ะกัน บาย "

เฮ้อ ! โอชาเอ้ยแค่ผู้หญิงคนนึงก็ต้องให้ไปเป็นเพื่อนด้วย หน้าตาจะน่ารักแค่ไหนวะเนี่ย ธวัตรพูดกับตัวเองหลังจากวางสายจากโอชาไปเพียงไม่นาน

ธวัตรเข้ากรุงเทพฯมาทำงานและพักอยู่กับพี่ชายของเขา ส่วนเรื่องงานเขาได้งานทำที่บริษัทฯแห่งหนึ่งแถวหนองจอก ในทุกๆวันธวัตรจะขับมอเตอร์ไซค์ไปทำงานทุกครั้ง ส่วนพี่ชายเขาทำงานแถวบางชัน

ในขณะที่นภัสก็ยังตั้งใจทำงานเหมือนทุกครั้งและโอชาก็ติดต่อมาคุยด้วยไม่เว้นวัน โอชาเหมือนจะชอบนภัสมากว่าทุกๆวัน แต่ในขณะที่นภัสเองคิดกับโอชาแค่พี่และเพื่อนที่คุยกันถูกคอแค่นั้นเอง

" นภัสแล้วตอนนี้มีแฟนหรือยังเนี่ย "
" ยังพี่ ทำไมอะ ทำงานกับพี่มาตั้งนาน จู่ จู่ มาถามเรื่องนี้ มีอะไรปะเนี่ย "
" เปล่า พี่ก็แค่สงสัยอะ ว่า สายที่โทรเข้าเครื่องภัสนะ เขาเป็นใคร เห็นช่วงพักนี่มีสายเข้าตลอด แล้วคนนั้นเขาเป็นใครกันล่ะ "

เพื่อนร่วมงานเธอถามด้วยความสงสัยและอยากจะให้เธอมีใครสักคนมารับมาส่ง เพราะเธอเองก็น่ารัก อ่อนหวาน ถ้าใครสักคนเป็นแฟนคงจะโชคดีมาก

" อ่อ พี่เขาเป็นเพื่อนข้างห้องที่ภัสพักอยู่ค่ะ ไม่มีอะไร "
" อ้าวเหรอ แล้วเขาเป็นไงบ้างล่ะ "
" อะไรกันพี่ มาถามอะไรเนี่ย "
" ก็ถามถึงพี่เขาไง "
" ค่ะแล้วไงล่ะค่ะ ภัสงง นะเนี่ย "

ภัส ได้แต่ยิ้มรู้ทันว่าพี่เขากำลังจะเค้นหาคำตอบว่าภัสคิดยังไงกับพี่เขา แต่เธอก็ยังยืนยันคำเดิมคือพี่ที่รู้จักกันไม่ได้เป็นแฟนกัน

" ก็พี่ที่ภัสนับถือคนนึงไงค่ะ ไม่มีอะไรหรอก อีกอย่างเขาก็เคยคบกันกับพี่ที่ภัสรู้จักด้วย ไม่อะพี่ อยู่แบบนี้ล่ะดีแล้ว "

ภัสบ่ายเบี่ยงไม่สนใจในคำถามที่พี่เขาจะถามกลับต่อ เอาแต่สนใจงานที่อยู่ในร้าน เดี่ยวกลัวจัดช่อดอกไม้ให้ลูกค้าไม่ทัน

" มัวแต่พูดเรื่องนี้แหล่ะพี่เดี่ยว ลูกค้ามารับดอกไม้ ก็ไม่ทันกันพอดี "
" จ้าน้องสาวผู้ตั้งใจทำงาน ของพี่ "

เสียงหัวเราะเล็กน้อยสำหรับผู้เป็นพี่ที่ทำงานของภัส ยอมรับความน่ารักของน้องสาวร่วมงานตัวเองและจิตใจที่ยังมุ่งมั่นทำงานเพื่อความฝันของเธอนั่นก็คือการมีบ้านหลังใหม่สักหลังนึงเพื่อเธอและพ่อแม่ของเธอ พี่ที่ทำงานก็คอยเอาใจช่วยเสมอยามที่เธอเจอปัญหาหรือว่าไม่สบายใจเรื่องอะไร เปรียบเสมือนพี่คนนึงของภัสเลยทีเดียว

" แต่พี่ว่าการเป็นโสดนี่ก็ดีนะ "
" เอาอีกแล้วพี่ นึกว่าจบแล้วนะเนี่ย "
" จ๊า จบ ก็จบ งั้นพี่ไปทำงานต่อก่อนนะ จัดดอกไม้ช่อนั้นยังไม่เสร็จเลย "
" ค่ะพี่ น่าจะไปตั้งนานแล้วนะ แฮะ แฮะ "
" น้องคนนี้นี่ ไปละ "

หุ หุ นภัสยิ้มไม่หุบกับท่าทีของพี่ที่ทำงาน ที่จ้องจะจับคู่ให้กับพี่ๆที่ต่างมาสนใจภัส แต่ก็ไม่มีสักคนหรอกที่ภัสจะสนใจ เพราะเธอยังตั้งใจที่จะสร้างบ้านหลังใหม่ด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอเองโดยไม่ต้องพึ่งพี่สาวและพี่ชายของเธอเอง ก็ไม่ต่างจากธวัตรที่อยากจะทำงานแล้วสู่ขอสาวสักคนที่ใช่เพื่อครอบครัวอันแสนอบอุ่นของเขา เพราะจากที่พี่ทุกคนมีครอบครัวส่วนมากจะเป็นเรื่องราวของพ่อกับแม่ที่ต่างจะยื่นมือมาช่วยตลอด

ธวัตรกดเบอร์โทรหาโอชาเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันมา ถึงแม้จะไม่ใช่เพื่อนสนิทแต่ก็นับว่าตั้งแต่เรียนจบมาก็ติดต่อกันมาไม่เคยหายไปนานเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ

" โอชา นี่มันใกล้วันเกิดฉันแล้ว นายจะมาไหมเนี่ย "
" ไปสิถามได้ มีอะไรพิเศษหรือว่าขึ้นมาทำงานแล้ว เจอสาวโรงานถูกใจ ปิ๊ง บ้างยังวะ "
" นี่นายฉันมาทำงานนะไม่ได้มาหาแม่สาวอย่างที่นายกำลังจะหา "
" อ้าวเพื่อน นี่อายุเท่าไรแล้ว ไม่รีบมีตอนนี้แล้วจะมีตอนไหนวะ เดี่ยวก็เป็นผู้เฒ่าอยู่คนเดียวหรอก "
" 555 นายนะสิจะอยู่คนเดียว "
" ก็เดี่ยวไปว่าแต่นายจะเลี้ยงที่ไหนละ ปีนี้ "
" ก็ที่เนี่ยแหล่ะ ไม่อยากไปเลี้ยงข้างนอกเปลืองตังค์ "
" อ้าวเฮ้ย พูดแบบนี้หมายความว่ายัง หาว่าพวกฉันกินเยอะเหรอ "
" เปล่า แค่กินไม่ถามกระเป๋าตังค์เพื่อนเลย 55555 "
" นายนี่จะเพี้ยนใหญ่แล้วเนอะ " โอชาต่อว่าธวัตรไม่หยุด

" เอ่อเอ่อ งั้นแค่นี้ก่อนฉันมีอะไรต้องไปทำวะ จะเอารถไปซ่อมซะหน่อย "
" ซ่อมไว้ขับรับส่งสาวหรือคับคุณธวัตร 5555 "
" มีก็ดีสิ " ใจก็อยากจะมีนะแต่เห็นแล้วไม่ชอบเลยวะ
" ซะงั้น ทำไม วะ "
" ทุกคนมองแค่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ชอบวะ " ธวัตรแจงให้โอชาฟัง

ส่วนทางร้านของนัสลูกค้าเข้าเต็มร้านเกือบทุกวัน ทำให้เธอและพี่ต่างพากันหัวหมุน
" ก็ดีเหมือนกันนะพี่ ลูกค้าเข้ามาเพียบแบบนี้ จะได้ไม่ต้องโดนพี่เขาว่าเอา "
" ดีก็ดีแต่เราสิเหนื่อย "
" พี่เหนื่อยเหรอ สนุกดีออก ภัสว่า "

เฮ่อ น้องสาวพี่มองโลกในแง่ดีตลอด ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยเลยสักครั้ง แต่ใจลึกๆดีใจที่ได้มาทำงานกับภัส

" ภัส พี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ฝากหน้าร้านด้วย "
" ค่ะพี่ ให้ภัสไปส่งไหมค่ะ แฮะ แฮะ "
" ขอบใจมากนะน้องที่ห่วงพี่ ไป สิ เฮ้ยยยย ยัยเด็กคนนี้นี่ "

เป็นปกติทุกวันที่ทั้งสองต่างพูดหยอกล้อกันไปมาเหมือนพี่น้องกันมากกว่าเพื่อนร่วมงาน ไม่เคยโกรธหรือผิดใจกันแม้แต่น้อย

ปวีสาวน้อยเพื่อนร่วมสมัยของนภัส เธอเป็นสาวโรงงาน เพราะเธอเคยทำงานเป็น PC จัดชิมสินค้ามาก่อนแต่เพราะเหตุผลอะไรไม่รู้ถึงไม่อยากจะกลับไปทำอีก ได้เวลาเลิกงานเธอเดินทางกลับถึงห้องพัก แต่ท่าทางของเธอเหนื่อยไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนเธอไม่เคยท้อเลยสักครั้ง ยังหวังเพื่อที่จะให้พ่อกับแม่สบาย เพราะลำพังพ่อกับแม่ทำงานก็เหนื่อยมากกว่าเธอหลายเท่า ถึงเธอจะมีพี่ชายแต่เธอก็ไม่เคยหวังว่าพี่ชายเธอจะช่วยให้พ่อกับแม่มีความสุขได้ เพราะนานเป็นปีกว่าพี่ชายจะส่งข่าวคราวไปหาพ่อกับแม่

" เหนื่อยแทบบ้านะภัส " เธอเอนหลังลงบนที่นอนพร้อมกับหยิบมือถือFmiหาเพื่อนรักอย่างนภัส
" เอาน่า แกเดี่ยวก็หายเหนื่อยเองแหล่ะ คนอื่นเขาแย่กว่าเราตั้งเยอะเขายังสู้ และทนได้เลย " นภัสเห็นใจเพื่อนแต่กำลังใจของเธอก็ไม่เคยหมดหายไปจากที่เมื่อก่อนเป็นแบบไหนก็เหมือนเดิมทุกอย่าง

" เมื่อไรแกจะเลิกงานวะเนี่ย " ปวีถามด้วยความที่หิวข้าวและยังต้องรอเพื่อนเลิกงานกลับมาอีก

" ก็วันนี้มีออร์เดอร์ลูกค้าเยอะกว่าทุกวัน หัวหมุนเลยเนี่ย "
" อ้าว แล้วพี่เขา ล่ะ "
" ก็อยู่ช่วยกันนี่แหล่ะ ถ้าแกหิวข้าวก็กินก่อนเลยก็ได้ เดี่ยวจะเป็นโรคกระเพาะ .... กระเพาะห่วงฉัน 5555 "
" ยัยบ๋องเอ๋ย " คำพูดของภัสทำให้ปวียิ้มร่าขึ้นมาทันที
" งั้นแกก็ทำงานไปเถอะ เลิกงานแล้วรีบกลับมาล่ะ เดินทางกลับก็ระวังตัวด้วย รู้ไหมยัยเพื่อนรัก "
" ค่ะคุณเพื่อน อิ อิ อิ "

เฮ่อ เสียงถอนใจระหว่างที่วางสายจากภัส ยัยภัสนี่ก็เปิ่น เป๋อ บางทีก็เลี่ยนเป็นจนทำให้เรายิ้มได้ทุกทีน่า

หลังจากที่เก็บร้านปิดร้านเสร็จเรียบร้อย " ภัสวันนี้กลับเย็นหน่อยให้พี่ไปส่งไหม " พี่ที่ทำงานถามภัสเพราะเป็นห่วง

" ไม่เป็นไรค่ะพี่เดี่ยวแฟนพี่หาว่าภัสชวนพี่เถลไถลกลับบ้านช้าอีก ไม่อยากทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกค่ะ หุ หุ "
" ขอบใจนะที่ห่วงพี่ แต่ห่วงตัวเองบ้างก็ดีนะ อยู่แบบนี้หาใครสักคนมาดูแลได้แล้ว "

ภัสแยกทางกับพี่เขาเดินทางกลับบ้านได้ไม่นาน " ภัสกลับบ้านแล้วเหรอ "
โอชาก็โทรมาทันที

" ค่ะพี่ วันนี้งานเยอะหน่อยแล้วพี่ล่ะ งานเป็นไงบ้างล่ะ "
" ก็เรื่อยๆแหล่ะ ว่าแต่ภัส วันนี้เหนื่อยไหม "
" นิดหน่อย ค่ะ พี่แค่นี้ก่อนนะ รถมาแล้ว " เธอตัดบทโอชาโดยที่โอชาเองจะค้านไม่ทัน

แบบนี้ทุกทีเลยนะภัส ชอบเฉไฉ เรื่องอื่นไปเรื่อย พี่จะพูดเข้าเรื่องจริงก็ล้มเหลวตลอด โอชาตั้งใจจะบอกเธอทุกครั้งว่าคิดยังไงและรู้สึกแบบไหนกับภัสแต่ไม่สำเร็จเลยสักครั้ง


" มาแล้วค่ะเพื่อนรัก หายเหนื่อยยัง " ภัสถามปวีด้วยความเป็นห่วง
" หายตั้งแต่เพื่อนถามแหล่ะจ๊ะ " เธอยิ้มอย่างสุขใจ
" แล้วนี่กินอะไรยัง เดี่ยวลูกในท้องก็ร้องหาข้าวหรอก " ภัสยังหยอกเพื่อนไม่เลิก
" ถ้าพูดได้คงบอกว่าแม่หนูหิวข้าวแล้ว เฮ้ยยยย ท้องที่ไหนเล่า "

แฮะ แฮะ เสียงหัวเราะเธอทั้งสองมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก " แกนี่ก็สรรหาเรื่องมาคุยได้เกือบทุกวันนะภัส "

" แหม่ ไม่งั้นเพื่อนฉันจะมีความทุกข์มากกว่าสุขสิ ฉันไม่ยอมหรอก อยู่ด้วยกันก็แบบนี้แหล่ะจะให้เลิกงานมา ต่างบูดบึ้งทำหน้าใส่กันนะเหรอ งั้นก็อยู่กันละห้องเลยสิ " ภัสสาธยายไม่หยุด

" อ่อค่ะเพื่อน " ปวีเสียงอ้อนใส่
" ไหนดูสิวันนี้ซื้ออะไรมากินบ้าง หิวจะแย่อยู่แล้ว "
" ไม่มีอะไรพิเศษหรอก เพราะแกคือคนพิเศษของฉันแล้ว ไม่ต้องหามา "
" แวะ จะอ๊วกวะ ปวี " ภัสพูดจบพร้อมกับรอยยิ้ม
" อ้าวภัส ทำไมเล่า ก็แกคือเพื่อนคนพิเศษ และคนที่ฉันรักนี่ ทำไมล่ะ หรือว่าคิดว่าไม่ใช่ " ปวีทำหน้าขุ่นเคืองใส่ภัส
" ถ้าแกบอกว่าไม่ใช่สิมีเรื่อง 55555 " ภัสพูดจบด้วยเสียงหัวเราะอีกครั้งก่อนจะแกะกับข้าวเย็นมากิน

" แล้วไหนพี่โอชาอะไรของแกว่าจะพาไปเลี้ยงข้าวยังโอเคจะพาไปไหมเนี่ย " ปวีถามทั้งที่ข้าวยังเคี้ยวอยู่ในปาก

" ไปแต่ก็คงโทรมานัดอีกทีมั้ง ไม่รู้สิไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก ไปก็ไปไม่ไปก็ไม่ต้องไป "
" อ้าวทำไมพูดแบบนั้นล่ะ " ปวีค้านกับความคิดของภัส
" ก็ ก็ ฉันไม่ได้คิดอะไรกะพี่เขานี่ แต่คุยกับฉันทีไรฉันมักจะพูดเรื่องแกให้เขาฟัง เผื่อเขาจะสนใจแกบ้างไงปวี "
" ไม่ต้องเลยภัส ถ้ารักเพื่อนแบบนี้ไม่ต้องมาจับคู่ให้เพื่อนฉันไม่ชอบ "
" อ่อค่ะ แหม่หยอกเล่นหน่อยเดียวโกรธจริงเหรอเนี่ยย " หึหึหึ
" จะกินข้าวไหม พูดอยู่นั่นแหล่ะ " ปวียังไม่เลิก
" กินแล้ว กินแล้ว แหม่ทำเป็นสั่งนะ " หึหึหึหึ แล้วแกไม่ชอบพี่เขาเหรอ
" ภัส " ปวีเริ่มจะโมโหภัสอย่างแรง

" กินข้าวเสร็จแล้วอาบน้ำนอนก่อนเลยนะเพราะแกต้องตื่นแต่เช้า เข้าใจไหมปวี "
ภัสทำเสียงแข็งสั่งเพื่อนให้รีบนอนเร็วๆ ส่วนเธอต้องออกแบบการจัดช่อดอกไม้เพื่อที่จะไปจัดที่งานของลูกค้าที่โทรสั่งจองเมื่อเที่ยง ทั้งเป็นงานใหญ่ด้วย เธอก็หวั่นๆ เหมือนกันกลัวผลงานจะออกมาได้ไม่ดีโดนติเอาไม่คุ้มอีก

เวลาผ่านไปเกือบเที่ยงคืน ปวีงัวเงียตื่นขึ้นมาเห็นภัสยังไม่นอน " ภัสนี่แกทุ่มเทงานมากไปปะเนี่ย ดึกแล้วดูเวลาบ้างสิ นอนได้แล้ว "

" อือ จะนอนแล้วเนี่ย ฝันดีรอบสองเพื่อน "

ภัสกำลังจะนอนในระหว่างที่ธวัตรกำลังคิดถึงภัสว่า " เธอจะมีหน้าตาเป็นยังไงบ้างหนา ไม่งั้นก็คงไม่ทำให้ไอ้โอเป็นได้ถึงเพียงนี้ " ส่วนโอชาก็กำลังคิดถึงนภัสเหมือนทุกๆครั้ง อยากจะโทรหาก่อนนอนแต่ก็เกรงใจภัส เพราะว่าภัสเองก็ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันกลัวเธอจะรำคาญเอาได้













 

Create Date : 25 สิงหาคม 2553
0 comments
Last Update : 1 ตุลาคม 2553 12:08:18 น.
Counter : 394 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


noye-tooktoon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





การปล่อยให้ตัวเองได้อ่อนแอบ้าง
ไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลา
บางครั้งเวลารั้งความเข้มแข็งเอาไว้
ความอ่อนแอมันจะมีกำลังแข็งแกร่ง
และทำร้ายเราได้ง่ายขึ้น

ในวันที่เราอ่อนแอ ยอมรับเถอะว่าเราอ่อนแอ
ไม่ต้องดันทุรังบอกว่า ตัวเองยังไหวอยู่
ในวันที่เรารู้สึกแพ้ ยอมรับเถอะว่าเราไม่ชนะ
ไม่ต้องหลอกตัวเอง เพื่อที่จะเป็นคนเข้มแข็ง
ความอ่อนแอไม่ได้น่ารังเกียจแต่อย่างใด


Free Clock



















Friends' blogs
[Add noye-tooktoon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.