เปล่ากรน
ประวัติกลอนเปล่าเล่าโดยสังเขป
กลอนเปล่า(BLANK VERSE)กำเนิดขึ้นในศตวรรษที่ 16ที่ใต้ต้น มะขวิด ต้นหนึ่ง ทางตอนกลางของประเทศอังกฤษ เรื่องมันก็มีอยู่ว่า มีชายหนุ่มฝรั่งสองคนเป็นเพื่อนกัน ต่างก็ชื่นชอบการเขียนบทกวีทั้งคู่ ในแต่ละวันก็มักจะเขียน กลอน กาพย์ โคลง มาอวดประชันกันอยู่เสมอ วันนี้ก็เช่นเดียวกัน หลังกลับจากกิน ยำแหนมกับผัดผักบุ้ง ที่ปากซอยเมื่อตอนเที่ยง ทั้งสองก็ชวนกันมายังใต้ต้นมะขวิดต้นหนึ่ง ตอนบ่ายของเดือนยี่ในประเทศอังกฤษ อากาศร้อนอบอ้าว ทั้งคู่จึงนุ่งเพียงผ้าเตี่ยวเหน็บตูดคนละผืน ระหว่างที่นั่งกันอยู่ ฝรั่ง เอ ก็เอ่ยขึ้น เอ:"เฮ้เพื่อน! ร้อนๆอย่างนี้ ลงเล่นน้ำให้คลายร้อนกันเถอะ" บี:"ตามสบายเถอะเพื่อน บ่ายนี้อยากเขียนกลอนให้เสร็จสักบทหนึ่ง จากนั้นต้องรีบไปดูว้วที่ล่ามไว้ตรงริมแม่น้ำ กลัวมันจะหลุดไปกินเป็ดไล่ทุ่งของคนอื่นเข้า อ้อ !ระวังปลิงเข็มด้วยล่ะ โดนมันกัดเดี๋ยวเป็นคางทูม" สองชั่วโมงผ่านไป ฝรั่ง เอ หลัังจากขึ้นต้นมะขวิดกระโดดน้ำจนหนำใจ ก็เดินปากซีดขึ้นมา เขาผอมลงนิดหน่อยเพราะโดนปลิงดูดเลือดไปหลายซีซี ในมือถือปลาหมอซึ่งร้อยเป็นพวงใหญ่ นับได้สามตัว นอกนั้นเป็นปลากัด "ดูนี่! ฉันจับปลามาได้ตั้งเยอะ เอาปลากัดไปให้ว้วนายกินสิ ฉันเห็นท่าทางมันผอมๆคงจะขาดเกลือแร่" ฝรั่ง เอ กล่าวด้วยความอาทรต่อวัว ฝรั่ง บี ขอบอกขอบใจด้วยความตื้นตัน จากนั้นจึงควักตาปลาหมออกมากินแก้ง่วง "เพื่อนฉันอยากให้นายดู กลอนลิ้นรัว ที่ฉันเพิ่งแต่งเสร็จ นี่ไง" เขายก กระดานชนวนขึ้นให้เพื่อนดู ฝรั่ง เอ อ่านออกเสียงจนลิ้นรัวชัดเจน "รักแรก เร่าร้อน รุนแรง รักรอง เริ่มร้าย รุ่งริ่ง รักโรย รักรา ระริกระริน เรื่องร้ายเริ่มรบเร้า เริ่มรู้ รักแรง" "โอเพื่อน! ฉันนี่มันเหลวไหล มัวแต่ไล่จับปลาหมอ เห็นที่ต้องแต่ง กลอนลิ้นรัว แรงกว่านายให้จงได้" ว่าแล้วฝรั่ง เอ จึงรีบสะบัดตัวไล่น้ำที่เปียกออก หยิบกระดานชนวนเดินดุ่มๆหายไปหลังต้นมะขวิดที่อยู่ข้างกัน ครู่ใหญ่ๆต่อมามีเสียงกรนดังขึ้นมา จากทิศที่ฝรั่ง เอ อยู่ อนิจจา!เขาผล็อยหลับไปเพราะเมาแหนม ฝรั่ง บี เดินย่องๆกะจะไป เซิ้งกระติ๊บ ให้เพื่อนตกใจเล่นๆ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆจึงเห็นข้อความบางอย่างอยู่บนกระดานชนวนนั้น ข้อความนั้นมิใช่บทกวีที่เขาเคยรู้จัก ไม่มีสัมผัสวรรคตอนที่แน่นอน คลุมเครือในสาระและเนื้อหา แต่ก็เร้าอารมณ์ชวนให้ตีความหมายได้หลายทาง ฝรั่ง บี จึงโพล่งออกไปด้วยความสงสัย ตื่นเต้น เหงาและอยากจาม ปนกัน "เพื่อน! นี่เรียกว่าอะไร ทำไมดูแปลกชอบกล!?" "เปล่ากรนๆ" ฝั่ง เอ โพล่งขึ้นด้วยอารามตกใจ งัวเงีย เมาแหนม และปวดท้องน้อยปนกัน "เปล่ากรนรึ? อ๋อ! นี่เรียกว่าเปล่ากรน" อนิจจาฝรั่ง บี ก็เริ่มเมาแหนมเช่นกัน จากนั้นเป็นต้นมา บทกวีแนวใหม่นี้จึงเรียกว่า "เปล่ากรน" จวบจนสมัยปฏิวัติอุสาหกรรมในฝรั่งเศส ได้เกิดอักขรวิบัติขึ้น ทำให้ "เปล่ากรน" ผวนเป็น "กรนเปล่า" ต่อมาอีกในสมัยจอมพล ตงหม่งเหมียวขื่อ ของเอธิโอเปีย จึงเกิดการเพี้ยนมาเป็น "กลอนเปล่า"ดังเช่นในปัจจุบัน แหล่งข้อมูลอ้างอิง : มีซะที่ไหน
อยากทราบข้อมูลที่แตกต่างจากนี้ เล็กน้อย สามารถค้นได้ใน google ครับ
Free TextEditor
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 26 มีนาคม 2552 0:18:50 น. |
Counter : 415 Pageviews. |
|
|
|
ตลกอะ คุณเทวดา..
ประเทศอังกฤษมีต้นมะขวิดด้วยเหรอ เอิ้กๆๆๆ