ตื่นเช้า..เต่าชื้น..ยืนหาว..
วานนี้ ตื่นแต่เช้า เข้าประขุม..
ทำตัวเป็นเงาตะคุ่มๆ ตั้งแต่ไก่ยังหาว..
ผลของการตื่นแต่เช้า ทำให้เราดูเซ็กซี่ขึ้น.. ทำตาปรือได้ทั้งวัน
เพศตรงข้าม และ เพศใกล้เคียง ถึงกับเขินอายไปตามๆกัน..
นอกจากนี้ ยังทำให้เราดูฉลาดขึ้น เวลาอยู่ในที่ประชุม
ใครจะพูดอะไร เราพยักหน้ารับรู้ ดูเหมือนจะเข้าใจไปซะทุกเรื่อง..
จริงๆแล้ว แอบนั่งสัปปะหงก ..
การตื่นแต่เช้าๆ ทำให้ฟันแข็งแรง จากการรับอ็อกซิเจนขณะหาว..
**************
อันที่จริง ฉันชอบกลิ่นของตอนเช้ามาก..
แต่ไม่ค่อยได้ตื่นมาดม..
ชอบกลิ่นหมอกชื้นๆ ที่ยังหลงเหลือมาจากเมื่อตอนกลางคืน..
ผสมปนเปกับกลิ่นอากาศ ที่เริ่มอุ่นขึ้นจากแสงอ่อนๆของยามรุ่งสาง..
ดาวดวงที่สว่างที่สุดของเมื่อคืนนี้ เพิ่งจะเริ่มจาง ..
เห็นเป็นจุดขาวๆ.. เหมือนท้องฟ้ากำลังเป็นสิว..
เมฆสีเทาของยามค่ำคืน เริ่มเปลี่ยนเป็นสีทอง อมแดง ..
สีเหมือนมะม่วงน้ำดอกไม้กำลังสุก..
ถ้ามีแรงพอ อยากจะลองเขวี้ยงข้าวเหนียวมูนขึ้นไปบนนั้น..
ตกลงมา ก็กินได้เลย น่าจะอร่อย..
ฉันเป็นโรคต่อมจินตนาการรั่วขณะอยากหลับเสมอ..
ไม่รู้ทำไม?
*****************
บนรถไฟฟ้า ที่วิ่งอยู่ใต้ดิน..
ฉันเจอผู้คนมากหน้า กับตาของพวกเขาอีกคนละสองลูก..
เบียดเสียด และ ยัดเยียด..
พวกเขา พวกเธอ และฉัน หายใจด้วยอากาศที่เหลือจากปอดของกันและกัน..
สูดกลิ่นขี้มูกของกันและกัน โดยไม่รู้ตัว ...
แหวะ!!
*****************
บรรยากาศอันโรแมนติคเช่นนี้..
ทำให้นึกถึงคำ คำหนึ่ง ของกวีชาวเล....
นาม วารี วายุ..
คือคำว่า “ฝุ่นเมือง”
ฝุ่นเมือง ถูกกระแสทุนพัดพา ออกมาจากตรอก ซอก ซอย ในเวลาเช้า..
ล่องลอยอยู่ในตึกสูงใหญ่ และต่ำเตี้ย ในเวลากลางวัน..
และปลอบประโลมจิตวิญญาณอันบิ่นหัก ..
ด้วยแสงไฟ และ ภาพมายา ในเวลากลางคืน..
มีบ้างที่จ้องมองราตรีด้วยความสงสัย..
เหตุใดราตรีจึงมืดมิด ในเมื่อเราล้วนต้องการแสงสว่าง..?
บางคนก็ว่า... โลกนี้ไม่ยุติธรรม..
แบ่งเวลาตั้งครึ่งหนึ่ง ให้พวกค้างคาว และแมลงกลางคืน..
แต่ฉันว่าไม่จริงหรอก..
บางทีบนสวรรค์ อาจจะกำลังรนณรงค์ลดภาวะสวรรค์ร้อนอยู่ก็ได้..?
*************
ความจริง ฉันก็ชอบกลางคืนนะ..
แต่กลางคืนของกรุงเทพฯ ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่..
ดวงดาว และ พระจันทร์ ของที่นี่.. คงขี้เหงา และน้อยใจ..
เพราะโดนแสงไฟของเมือง บดบังความงามไปจนหมดสิ้น...
ท้องฟ้าตอนกลางคืนของที่นี่ เป็นสีแดง..
ใกล้เคียงกับดาวอังคารเข้าไปทุกที..
บางที มนุษย์ดาวอังคารอาจจะชอบบรรยากาศแบบนี้..
แต่ฉันไม่ค่อยชอบ..
ฉันเคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่ง...
ว่ามีหลายเมืองในหลายประเทศ ..
ออกกฎหมาย “ห้ามส่องไฟขึ้นฟ้าตอนกลางคืน”
ฝ่าฝืนมีโทษปรับหลายแสนบาท..
วิธีทำก็ง่ายๆ..
แค่เอาที่ครอบมาครอบด้านบนของโคมไฟ ไม่ให้รัศมีของแสงไฟ..
ไปรบกวนความมืดสวยๆของกลางคืนเท่านั้นเอง..
บ้านเราก็น่าจะทำ.. แต่พวกนายทุนอาจจะไม่ชอบหรอก..
บางที พวกเขาอาจจะเป็นมนุษย์ดาวอังคาร ปลอมตัวมา ก็ได้..
ถ้ามีกลางคืนสวยๆ มีดาวให้ดูเยอะๆ..
ผับ บาร์ และซ่อง..อาจจะเจ๊งกันระนาว..
หนุ่มสาว คงชวนกันนั่งมองดาวอยู่บ้าน หรือบนดาดฟ้ามากขึ้น..
อาจจะมีลำนำของคนเมือง พรรณนาถึงความงามของราตรี เกิดขึ้นมากมาย..
เวลาคนขี้เหงาอยากจะมองดาว..
ก็ไม่ต้องออกไปหาดวงไฟในผับบาร์ แทนดาวจริงๆ..
************
บางทีฉันก็คิด.. มนุษย์เรา อาจจะเป็นญาติห่างๆกับแมงเม่า..
แมงเม่าชอบแสงไฟ มันคิดว่าที่นั่นต้องมีตัวเมีย..
มันจะบินไปเพื่อหวังจะผสมพันธุ์..
และบางที่มันก็ไม่รู้..ว่านั่นคือกองไฟอันร้อนเร่า..
สามารถเปลี่ยนมัน จากแมงเม่าดิบ ให้กลายเป็นแมงเม่าสุกได้..
แมงเม่าใช้ปีกบินไป.. คนไม่มีปีก เลยขับรถที่หรูที่สุดไป...
แมงเม่า ผสมพันธุ์เสร็จ ปีกมันก็หลุด..
เอาปากคาบตูดตัวเมีย ฉันไม่รู้ว่ามันเจ็บมั้ย..?
แต่น่าจะเจ็บ เห็นมันวิ่งใหญ่..
อาจจะกำลังร้องว่า “ ปล่อยตูสิโว้ย!!! มากัดก้นตูทำมายยยยย”
ส่วนมนุษย์ .. สิ่งที่หายไป.. คือความศรัทธาในความรัก
ความนับถือตัวเอง และสายตา.. ที่มองมนุษย์ โดยความเป็นมนุษย์ที่แท้จริง..
โดยส่วนมาก เพศเมียจะเป็นฝ่ายเรียกร้องเพศผู้ให้รับผิดชอบ..
ในสิ่งที่ทำเข้าไป..(?)
และส่วนน้อย ที่เพศผู้จะสนองคำร้องนั้น..
เฮ้อ..
อ้อ..วันนี้ ผมก็ตื่นแต่เช้าครับ.
ขอบคุณ..ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ..
******************************
วันอาทิตย์ที่ 5 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2552
เมื่อวานไปดู วงษ์คำเหลา มาจ๊ะ...
เป็นหนังตลกร้าย เสียดสีสังคม ที่ดูถูกความสูงต่ำของดั้ง ของกันและกัน..
เต็ม 10 ให้ 7 จ๊ะเรื่องนี้..
เนื้อเรื่องอ่อนเกิน..
ฉากบางฉาก ก็ทำมาเพื่อเล่นมุก แค่มุกเดียว ..
ทำให้เนื้อเรื่องมันอ่อนจัด..
มุกบางมุกก็ไม่ฮาครับ..
แต่ผมฮาผู้หญิงสามคนที่อยู่แถวข้างหน้า..
พวกเธอฮา ตั้งแต่เห็นหน้าหม่ำ..
ยันจบเรื่อง..
อยากชวนพวกเธอมาเป็นแฟนจัง..
ชีวิตคงฮาน่าดู..
เพื่อนๆ คงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของบ้านหลังนี้นะครับ..
ถ้ามองไปมุมบน ซ้ายมือ..
จะเห็นว่ามีออฟชั่นเพิ่มขึ้นมาใหม่..
เป็นแผนที่เวลา ใช้บอกเวลาทั่วโลก..
เอาไว้ดู เวลาเข้าไปบ้านเพื่อนที่อยู่แดนไกล..
จะได้ทักถูก ว่ากี่โมงกี่ยามกันแล้ว..
อันที่สองเป็นตัวนับจำนวนเพื่อนที่ออนไลน์อยู่ในขณะนี้..
ว่ามีกี่คนกัน..
มันบอกพิกัดของเพื่อนที่เข้ามาเยี่่ยมเราได้ด้วยนะครับ..
ว่ามาจากมุมใดของโลกบ้าง?
ผมลองกดเข้าไปดู..
ปรากฏว่า มันบอกว่า
ขณะนี้ ผมอยู่กลางมหาสมุทร นอกชายฝั่ง แอฟริกาตะวันตก..
โอ่ห์...กลางทะเลที่ไหน จะรถติดขนาดนี้..?
ใครอยากเอาไปแปะบ้านบ้าง..
ก็กดไปที่ตัวมันตรงๆเลยจ๊ะ เขาให้มาฟรี..
ของฟรีมักมีของแถม ว่ามะ?
พรุ่งนี้วันพระ..
อย่าฆ่าวัวฆ่าควายกันนะครับ..
Create Date : 02 กรกฎาคม 2552 |
|
68 comments |
Last Update : 5 กรกฎาคม 2552 11:57:14 น. |
Counter : 2850 Pageviews. |
|
|
|
ดาวจ๋า
ดาวจ๋าดาวจ๋า
ดาวจ๋าดาวจ๋าดาวจ๋า
ดาวจ๋าดาวจ๋าดาวจ๋าดาวจ๋า
ดาวจ๋าดาวจ๋าดาวจ๋าดาวจ๋าดาวจ๋า
ดาวจ๋าคนซนๆ ขอเจิมบล็อก อสัญแดหวา ค่ะ