|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
16 ธันวาคม 2552
|
|
|
|
รักยกกำลังสอง บทที่ 18 เที่ยวชมเทศกาลยามราตรี (Tour the Night Festival) ตอน 1
เอย์จิ!!! ยูริหน้าซีดเอามือปิดปาก เธอรู้สึกช็อกอย่างแรง
แต่เรกะยังไม่เชื่อ เธอทำหน้าขึงขังแล้วพูดกับเขาว่า เล่นมุขอะไรของนาย เชยแล้วย่ะ ด้านเรนะก็ได้แต่เงียบราวกับกำลังลุ้นให้เอย์จิเฉลยว่าเค้าแค่อำพวกเธอเล่นเท่านั้น แต่สายตาของเขาที่มองมายังพวกเธอนั้น สัมผัสได้เลยว่าเป็นสายตาที่มองคนแปลกหน้า อย่ามัวแต่เงียบสิ เลิกล้อเล่นได้แล้ว เรกะเขย่าตัวเขาอย่างแรง
โอ้ย! เอย์จิเอามือกุมหน้าอก
พี่คะ!!! เรนะรีบห้ามพี่สาว
เจ็บรึเปล่าจ๊ะ ยูริประคองน้องชายอย่างเบามือที่สุด
พอความเจ็บปวดทุเลาลงเอย์จิก็ค่อย ๆ เงยหน้ามองสองพี่น้องฝาแฝด แววตาเลื่อนลอยของเขาทำให้ทั้งคู่พูดอะไรไม่ออก เรนะเริ่มมีน้ำตาคลอ ส่วนเรกะค่อย ๆ เขยิบถอยห่างออกจากเตียงช้า ๆ แต่น้องสาวเธอยังคงยืนนิ่ง เธอเลยต้องจูงให้ตามเธอมา สองพี่น้องทิ้งตัวลงบนโซฟาเหมือนคนหมดแรง ยูริเองก็พูดอะไรไม่ออกเช่นกัน บรรยากาศในห้องตอนนี้จึงมีแต่ความเงียบงัน
ซักพักยูริก็หันไปบอกพวกเรกะว่า เดี๋ยวพี่ไปตามคุณหมอนะจ๊ะ แล้วเธอก็เดินออกไป
หลังจากยูริออกไปแล้วเอย์จิก็มีท่าทีเหมือนจะพยายามนึกอะไรซักอย่าง แต่แล้วเขาก็เอามือกุมขมับตัวเองไว้ เขารู้สึกปวดหัวอย่างมาก เรนะเลยตกอกตกใจรีบลุกขึ้นไปทันที เอย์จิคุง ๆ เป็นอะไรจ๊ะ
ส่วนเรกะเห็นท่าทางไม่ดีเลยจะออกไปตามพยาบาล เดี๋ยวพี่ไปเรียกคนมาช่วยนะ แล้วเธอก็วิ่งออกไป
เอย์จิยังคงไม่หายปวดหัว เรนะไม่รู้จะช่วยเขายังไง เลยเอามือลูบหลังศีรษะเขาแล้วเป่าลมใส่เบา ๆ ไม่เป็นไรนะจ๊ะไม่เป็นไร โอมเพี้ยงความเจ็บปวดจงหายไป!!! ทันใดนั้นราวกับปาฏิหาริย์อาการปวดหัวของเขาหายเป็นปลิดทิ้ง เขาเงยหน้ามองเธอด้วยความประหลาดใจ เรนะเลยยิ้มให้เขา ไม่เป็นไรแล้วนะจ๊ะ
ขอบ ขอบคุณครับ เอย์จิพูดตะกุกตะกัก
จ๊ะ เรนะยิ้มรับแล้วชวนเขาคุย เอย์จิคุง เธอจำ...
ยังไม่ทันพูดจบเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น เอย์จิเป็นไงมั่ง!!! ยูริกับเรกะเข้ามาโดยมีคุณหมอกับนางพยาบาลตามมาข้างหลัง เธอรีบเข้าไปหาน้องชายทันที คุณหมอก็รีบเข้าไปดูเขา เรนะเลยค่อย ๆ ถอยออกมายืนข้าง ๆ พี่สาว
คุณหมอใช้เวลาตรวจอาการเอย์จิอยู่นานพอสมควรแล้วก็ถามอะไรเขา 2 - 3 ข้อ เสร็จแล้วก็ขอเอกสารจากพยาบาลมาเขียนแล้วส่งคืนเธอ แล้วคุณหมอก็ออกไปคุยกับยูริสองต่อสอง
อาการบาดเจ็บตามร่างกายคนไข้ดีขึ้นมากแล้วครับ อวัยวะภายในที่บอบช้ำก็เริ่มฟื้นตัว คิดว่าอีกซักอาทิตย์ก็คงหายสนิท ส่วนเรื่องที่คนไข้จำอะไรไม่ได้นั้นหมอคิดว่าอาจจะได้รับความกระทบกระเทือนตอนถูกรถชน พรุ่งนี้เช้าหมอจะให้แพทย์ด้านสมองมาตรวจอีกทีนะครับ
น้องชายหนูจะเป็นอะไรมากมั้ยคะ ยูริถามด้วยความกังวล
ตอนนี้หมอยังบอกอะไรไม่ได้นะครับ อาการทางสมองก็มีหลายแบบ ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจอย่างละเอียด คืนนี้ให้คนไข้พักผ่อนให้เต็มที่ดีกว่านะครับ แล้วพรุ่งนี้เช้าหมอจะรีบประสานไปทางแผนกประสาทวิทยาให้โดยเร็วที่สุด
รบกวนด้วยนะคะ ยูริโค้งให้หมอ
เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ แล้วหมอก็เดินจากไป
ตอนเช้าพ่อแม่ของเอย์จิก็มาหา พอทั้งคู่รู้ว่าลูกชายตัวเองรู้สึกตัวแล้วก็พากันดีใจ พอแม่ของเอย์จิเหลือบไปที่โซฟาก็เห็นสองพี่น้องฮิเมะนอนหลับพิงกันอยู่ก็รู้สึกงงเลยหันไปถามลูกสาว แต่ยูริทำมือเป็นสัญญาณบอกว่าอย่าเพิ่งส่งเสียงดัง
สองคนมาช่วยหนูเฝ้าเอย์จิเมื่อคืนค่ะ เพิ่งหลับไปเมื่อกี้เอง แล้วยูริก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง
พอรู้เรื่องทั้งสองก็ตกใจมาก เอย์จินี่แม่เองจำได้มั้ยจ๊ะ แม่พยายามถามลูกชาย
พอเอย์จิรู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคือแม่ของตัวเอง เขาก็รู้สึกเสียใจที่จำเธอไม่ได้ ยิ่งเห็นเธอมีท่าทางไม่สบายใจเขาก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น ขอโทษครับ เอย์จิพูดด้วยใบหน้าเศร้า ๆ
ขอโทษทำไมหล่ะจ๊ะ แม่ลูบหัวลูกชายอย่างเอ็นดู
ก็ผม
ทำให้คุณแม่เป็นห่วง
พอเธอได้ฟังที่ลูกชายพูด เธอก็โผเข้าไปกอดเขาทั้งน้ำตา โธ่! แม่ต้องเป็นห่วงสิ ก็ลูกเป็นลูกแม่นี่
ขอโทษครับ
ไม่ต้องขอโทษหรอกจ๊ะ ลูกไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แม่บอกลูกชายอย่างอ่อนโยน
ส่วนพ่อของเอย์จิที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ได้แต่ทำหน้าเคร่งขรึมคิดอะไรบางอย่าง แล้วซักพักก็เดินออกจากห้องไปปล่อยให้ภรรยาของเขาพูดคุยกับลูกชายตามลำพัง ส่วนยูริก็รีบตามไปติด ๆ คุณพ่อคิดอะไรอยู่เหรอคะ ลูกสาวถามอย่างรู้ใจ
ผู้เป็นพ่อนิ่งเงียบชั่วอึดใจนึงแล้วตอบว่า พ่อสงสัยอะไรนิดหน่อยหน่ะลูก
เกี่ยวกับเอย์จิเหรอคะ
อืม แต่ตอนนี้พ่อคงยังบอกอะไรไม่ได้ ขอเวลาพ่อตรวจสอบอะไรซักหน่อยนะ
ถ้าจะให้หนูช่วยอะไรก็บอกนะคะ
อื้ม ขอบใจลูกมากนะ แล้วพ่อก็โอบไหล่ลูกสาวอย่างเอ็นดู ทั้งคู่ต่างก็หวังว่าเรื่องทุกอย่างจะยุติและครอบครัวพวกเขาจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติโดยเร็ว
ระหว่างนั้นในห้องผู้ป่วยแม่ของเอย์จิก็พยายามเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ลูกชายฟัง แต่เขาก็นึกเรื่องเหล่านั้นไม่ออก ซักพักสองพี่น้องฮิเมะก็งัวเงียตื่นขึ้น อุ๊ย! คุณน้าสวัสดีค่ะ พอเรกะรู้ตัวก็รีบลุกขึ้นโค้งหัวให้แม่ของเอย์จิทันที ส่วนเรนะที่เพิ่งขยี้ตาเสร็จก็รีบลุกโค้งตามพี่สาว
สวัสดีจ๊ะ ขอบใจหนู ๆ มากนะที่มาช่วยดูเอย์จิ ลำบากกันรึเปล่าจ๊ะ แม่ของเอย์จิพูดอย่างอ่อนโยน
ไม่หรอกค่ะ จริง ๆ พวกหนูแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย เรกะตอบ
เอย์จิเพื่อน ๆ อุตส่าห์มา จำพวกเค้าได้มั้ยจ๊ะ แต่เอย์จิก็ทำหน้าซึม ๆ แทนคำตอบ
ซักพักประตูห้องก็เปิดออกแล้วพ่อของเอย์จิกับยูริก็เดินเข้ามาโดยมีนายแพทย์จากแผนกประสาทวิทยาเดินมาด้วย คุณหมอทักทายทุกคนแล้วก็เข้าไปตรวจอาการของเอย์จิ คนอื่น ๆ ก็ยืนลุ้นอยู่ใกล้ ๆ
คุณทาคุมิครับคุณจำชื่อตัวเองได้มั้ยครับ แต่เอย์จิก็ทำท่าซึม ๆ แล้วส่ายหน้า
แล้วคุณจำได้มั้ยว่าครอบครัวคุณมีใครบ้าง เอย์จิก็ยังส่ายหน้าเหมือนเดิม งั้นเมืองหลวงของญี่ปุ่นชื่ออะไรครับ
โตเกียวครับ เอย์จิตอบแล้วหมอก็ติ๊กเครื่องหมายถูกในใบตรวจ
แล้วนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคือใครครับ
คุณทะโร อะโซครับ เอย์จิตอบ (หมายเหตุ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบันชื่อยุกิโอะ ฮะโตะยะมะ)
หมอฟังคำตอบแล้วนิ่งคิดอะไรบางอย่างซักพักแล้วก็ยื่นปากกาให้เอย์จิด้ามนึง งั้นคุณลองแกะไส้ปากกาออกมาหน่อยได้มั้ยครับ เอย์จิรับปากกามาแล้วก็ค่อย ๆ หมุนปลอกปากกาถอดเอาไส้ปากกาลูกลื่นส่งคืนให้หมอ แล้วหมอก็ติ๊กเครื่องหมายอีกอันในใบตรวจ
ถ้างั้นคุณลองนึกชื่อสัตว์ที่ขึ้นต้นด้วย ก. ไก่มาซัก 5 ชื่อได้มั้ยครับ
กวาง เก้ง กระต่าย กระรอก ไก่ครับ เอย์จิใช้เวลานึกไม่นาน
แล้วหมอก็เขียนบางอย่างในใบตรวจส่งให้พยาบาล เสร็จแล้วก็หันมาบอกเอย์จิว่า โอเคครับ งั้นเดี๋ยวคนไข้ไปตรวจคลื่นสมองหน่อยนะครับ แล้วพยาบาลก็ให้เอย์จินั่งเก้าอี้รถเข็นไปห้องตรวจ
พอเอย์จิออกไปแล้วพ่อของเขาก็ถามหมอว่า ลูกชายผมเป็นไงมั่งครับ ส่วนแม่ของเอย์จิกับยูริก็ยืนลุ้นกุมมือให้กำลังใจกันอยู่ใกล้ ๆ เรกะกับเรนะก็รอฟังอยู่ข้าง ๆ เท่าที่ตรวจดูคร่าว ๆ คนไข้น่าจะมีอาการความจำเสื่อมประเภท Transient Global Amnesia หรือที่เรียกกันว่า TGA ครับ
มัน...เอ่อหนักแค่ไหนครับ พ่อของเอย์จิฟังที่หมอพูดไม่เข้าใจ
แล้วเอย์จิจะหายมั้ยคะ!!! แม่ของเอย์จิรีบถามด้วยความเป็นห่วง
คุณพ่อคุณแม่ใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ คือภาวะ TGA นี้เป็นภาวะความจำเสื่อมชั่วคราว คนไข้ที่มีอาการนี้จะลืมเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีต แต่จะยังจำเรื่องทั่ว ๆ ไปที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันได้ครับ
หมายความว่า
พ่อของเอย์จิพยายามทำความเข้าใจ
หมายความว่าคนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เกือบจะปกติครับ สมมุติว่าคนไข้เคยขับรถได้ ตอนนี้ก็ยังสามารถขับรถได้เหมือนเดิม เพียงแต่จะยังนึกเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นไม่ออกเท่านั้น และอาการนี้เป็นอาการทางจิตประสาทแบบชั่วคราวครับ ถ้าคนไข้ได้พบเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เคยพบมาก่อนหรือสะกิดใจเค้า ก็จะช่วยให้ความทรงจำกลับมาเร็วขึ้น
นานมั้ยคะกว่าจะหาย แม่ของเอย์จิถาม
โดยส่วนใหญ่แล้วไม่นานครับ ทั่ว ๆ ไปก็ประมาณ 1 เดือน เคสที่นานที่สุดก็ราว ๆ 1 ปี แต่ก็พบได้น้อยมากครับ พอครอบครัวของเอย์จิได้ฟังที่หมอบอกก็ใจชื้นขึ้น แต่ยังไงหมอขอตรวจคลื่นสมองอย่างละเอียดอีกทีนะครับ ช่วงนี้หมอขอให้คนไข้แอดมิตไปก่อนนะครับ
ครับคุณหมอ พ่อของเอย์จิรับคำ
ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ แม่ของเอย์จิโค้งหัวขอบคุณหมอ ยูริกับสองพี่น้องฮิเมะที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็โค้งตาม
ครับงั้นผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วหมอก็กลับไป
พอตอนบ่ายยูริก็ขอตัวกลับไปพักที่บ้าน โดยเปลี่ยนให้พ่อกับแม่เป็นคนเฝ้าแทน เรกะกับเรนะก็เลยกลับไปพักด้วย หลังจากนั้น 4 วันเอย์จิก็ออกจากโรงพยาบาลทั้ง ๆ ที่ความจำยังไม่กลับมา เนื่องจากหมอแนะนำว่าถ้าเขาได้เห็นสถานที่หรือบุคคลต่าง ๆ ที่รู้จักจะช่วยให้ความทรงจำกลับมาเร็วขึ้น อีกทั้งอาการของเขาไม่เป็นปัญหากับการใช้ชีวิตประจำวัน ครอบครัวของเอย์จิเลยปรึกษากันว่าจะให้เขาไปโรงเรียนและใช้ชีวิตตามปกติไปก่อน
ตอนเช้าพอเรกะกับเรนะก็มารับที่บ้าน อรุณสวัสดิ์จ้าเอย์จิคุง เรนะพยายามทำตัวให้ร่าเริงที่สุด
อรุณสวัสดิ์ครับ เขาเริ่มคุ้นเคยกับสองสาวแล้วแต่ก็ยังไม่สนิทเหมือนก่อน
นายเป็นไงมั่ง กินข้าวรึยัง เรกะถาม
ผมทานแล้วครับ เอย์จิตอบแล้วก็ทำหน้ากังวลใจเล็ก ๆ
เรกะเลยถามว่า มีอะไรเหรอ
เอย์จิอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ตอบว่า คือผมเกรงใจหน่ะครับที่คุณสองคนอุตส่าห์มารับ
มาเกรงจงเกรงใจอะไรกัน พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ เรกะพูด
นั่นสิจ๊ะ เพื่อนกันถ้ามีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้วจริงมั้ย เรนะยิ้มให้เขา
แต่ว่า
แล้วถ้าพวกชั้นไม่มา นายจะไปถูกมะ พอ ๆ เดี๋ยวก็สายกันพอดี เรกะตัดบทแล้วเดินนำหน้าไปก่อน
ขอโทษครับ
เรนะหัวเราะคิกคักแล้วรีบจูงมือเอย์จิเดินตามพี่สาวไป มาเถอะจ๊ะ รอยยิ้มที่สดใสกับสัมผัสที่นุ่มนวลและอบอุ่นทำให้เอย์จิใจเต้นแรงโดยที่เจ้าตัวก็ไม่เข้าใจ
ระหว่างเดินไปโรงเรียนพอผ่านชายหาดมิสึเขาก็หันไปมองตรงฟุตบาทด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ที่แห่งนี้เคยมีเด็กสาวคนหนึ่งกระโดดออกไปช่วยเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ที่เกือบจะโดนมอเตอร์ไซด์ชน ทำไมกันนะ รู้สึกแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้
พอไปถึงโรงเรียนเพื่อน ๆ ที่ห้องก็เข้ามารุมล้อมเขา เฮ้! เอย์จิเป็นไงมั่ง ฟูจิถามเป็นคนแรก แต่เอย์จิก็ได้แต่เงียบ
แล้วชั้นหล่ะ นายจำได้มั้ย คอนจิเสนอหน้าต่อ แต่เอย์จิก็ส่ายหัว
ขอโทษนะครับ
จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ คูมิยะถาม
เห็นว่าจำได้แต่เรื่องทั่ว ๆ ไปหน่ะ นายะตอบแล้วมองเขาอย่างเห็นอกเห็นใจ
แล้วจะหายมั้ยอะ นาโอมิถาม ฮิโรมิกับนางาเสะก็เข้ามาร่วมวงด้วย ถึงทั้งสามคนจะไม่ใช่เพื่อนสนิท แต่ทุกคนก็เป็นห่วงไม่แพ้กัน
ฟูจิเข้าไปตบไหล่เอย์จิเบา ๆ เฮ่ย! ไม่ต้องซีเรียส ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันจริงมะ แล้วก็ยักคิ้วถามคอนจิ
ใช่! ไม่ต้องคิดมากนะ คอนจิเสริม
คูมิยะกับนายะก็บอกว่า พวกชั้นก็เหมือนกันนะ คนอื่น ๆ ในห้องก็พยักหน้าด้วย เอย์จิเลยรู้สึกดีขึ้น เรกะกับเรนะก็พลอยรู้สึกดีไปด้วย
ช่วงพักกลางวันเอย์จิกลายเป็นเป้าสายตาในหมู่นักเรียน ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ไหนก็มีแต่คนจับกลุ่มกันซุบซิบ ๆ แล้วแอบมองมาที่เขา ทำให้เขาค่อนข้างลำบากใจ พวกเรกะเลยไม่ค่อยพอใจไปด้วย พวกนี้นี่ไม่รู้จักมารยาทซะมั่งเลย เรกะบ่น
นั่นสิ นายะพูดอย่างเอือมระอาเต็มทน
นี่ ๆ ไม่เคยเห็นคนรึไงยะ คูมิยะตวาดพวกที่จับกลุ่มนินทาเอย์จิ พวกนั้นเลยวงแตกรีบเดินหนีไป
ไม่เป็นไรหรอกครับ เอย์จิหันไปบอกทุกคน
เอาน่าเรื่องแบบนี้คูมิจังเค้าถนัดอยู่แล้ว คอนจิแซว
หมายความว่าไงยะ คูมิยะทำท่าจะหาเรื่อง
ขอโทษ ๆ คอนจิรีบยกมือยอมเธอ
ทันใดนั้นก็มีเสียงทักทายมาแต่ไกล เฮ้! ว่าไงได้ข่าวเอย์จิหายแล้วเหรอ เจ้าของเสียงที่ว่าคือทาคายูกินั่นเอง เขาเดินมาพร้อมกับโชโงะเพื่อนห้องเดียวกัน
สวัสดีครับ/ค่ะรุ่นพี่
เป็นไงบ้าง วันนั้นทำเอาชั้นใจเสียเลยนะ ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก โชโงะหันไปคุยกับเอย์จิ แต่เขาก็ไม่ตอบอะไร โชโงะก็เลยงงที่เห็นเอย์จิแปลก ๆ ไป
ทาคุมิคุงยังไม่หายดีเหรอ ทาคายูกิหันมากระซิบถามเรนะ
เรนะอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่รู้จะตอบยังไง นายะเลยตอบแทนให้ว่า ทาคุมิคุงเค้าได้รับความกระทบกระเทือนนิดหน่อยค่ะ
อ้าว! แล้วเป็นไรมากมั้ย
ก็
คือว่า
เค้าความจำเสื่อมชั่วคราวค่ะ นายะไม่รู้จะเลี่ยงยังไง คนอื่น ๆ ก็ได้แต่เงียบ
งะ งั้นเหรอ ทาคายูกิตะกุกตะกักเมื่อเห็นเอย์จิทำท่าไม่สบายใจ
โชโงะเลยเอามือตบไหล่เอย์จิเบา ๆ ไม่ต้องคิดมากหรอก วันนั้นนายดูสาหัสมากเลยนะ ที่ออกจากโรงพยาบาลได้เร็วขนาดนี้ก็ถือว่าโชคดีแล้ว
ใช่จ๊ะ เรื่องความจำหมอเค้าก็บอกแล้วว่าแค่ชั่วคราว เดี๋ยวก็หาย เรนะพยายามให้กำลังใจ
ทันใดนั้นคูมิยะก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า นี่ ๆ ชั้นนึกออกอะไรดี ๆ ออกแล้ว
นึกไรออกเหรอ เรกะทำหน้างง ๆ
หวังว่าจะเป็นเรื่องดีนะ ฟูจิมองเธอแบบไม่เชื่อน้ำยา
ดีสิยะ นี่ไงพอเลิกเรียนแล้วพวกเราพาทาคุมิคุงไปที่ ๆ เค้าเคยไปกันมะ ไม่แน่บางทีอาจจะพอนึกอะไรออกก็ได้นะ
จริงด้วย! ดีเหมือนกันเนอะ ฟูจิเห็นด้วย
หึหึ บอกแล้วไงชั้นนี่แหละแชมป์หัวใสตัวจริง คูมิยะยืดอกทำหน้าภูมิใจมาก
แต่เรนะกังวลว่าเธอจะไปไม่ได้เพราะต้องอยู่กับชมรมฟุตบอลเลยหันไปถามโชโงะว่า รุ่นพี่ค่ะเย็นนี้หนูขอไปกับเพื่อนได้มั้ยคะ
อืม ๆ จริง ๆ ก็ใกล้แข่งแล้วนะ แต่เรื่องทาคุมิคุงก็สำคัญ งั้นเรนะจังก็หยุดไปก่อนละกัน โชโงะตอบ
ขอบคุณค่ะรุ่นพี่ เรนะดีใจมาก
ว่าแต่วันแข่งเสาร์นี้มาได้ใช่มั้ย
ได้ค่ะรุ่นพี่
งั้นก็ไม่มีปัญหา เดี๋ยวชั้นคุยกับอาจารย์ให้เอง
ถ้ามีอะไรให้ชั้นช่วยก็บอกนะ ทาคายูกิบอกพวกคูมิยะ
ขอบคุณคะ/ครับ แล้วทุกคนก็พากันกลับห้องเรียน
ระหว่างเดินกลับห้องเอย์จิก็หันไปถามฟูจิ เอ่อคุณฟูจิครับ คุณเรนะเค้ามีธุระอะไรเหรอครับ
เฮ่ย ๆ เรียกชั้นฟูจิเฉย ๆ ก็ได้ ฟังแล้วจั๊กจี้หว่ะ
ขอโทษครับ
ฟูจิเห็นเอย์จิทำหน้าหงอย ๆ เลยบอกว่า เรนะเค้าเป็นผู้จัดการชมรมฟุตบอลหน่ะ ตอนเย็น ๆ เลยต้องอยู่ซ้อมกับทีม
เอย์จิเลยคิดในใจว่า เพราะเรา ทุกคนเลยต้องลำบาก
หลังเลิกเรียนเพื่อน ๆ พาเอย์จิไปที่ต่าง ๆ ทั้งชายหาดมิสึที่เขาเคยไปโต้คลื่น ห้าง DMC และโคโรคาคุเซ็นเตอร์ แต่เอย์จิก็ไม่รู้สึกคุ้นกับที่ไหนเลย พวกเพื่อน ๆ พาเอย์จิไปทุกที่เท่าที่จะนึกออกจนมืด สุดท้ายก็เลยกลับมานั่งพักที่ร้าน Amusesbouche
เฮ้อ เหนื่อยชะมัด ฟูจิทิ้งตัวลงบนเก้าอี้
ขอโทษนะครับ เป็นเพราะผม
เอย์จิหันไปบอกเขา
เฮ่ย ๆ ชั้นไม่ได้หมายความหยั่งงั้น ฟูจิรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธพัลวัน
เพราะนายแหละพูดไม่คิด ทาคุมิคุงเค้าไม่สบายใจรู้มั้ย คูมิยะหันไปต่อว่า
อะไร ก็ชั้นบ่นตามปกติของชั้นนี่
พอเถอะ ๆ ยิ่งพวกเรามาเถียงกันทาคุมิคุงเค้ายิ่งรู้สึกไม่ดีรู้มะ นายะปรามเพื่อน ๆ
ไม่ต้องคิดมากนะ ทุกคนเค้าเต็มใจช่วยอยู่แล้วจ๊ะ เรนะหันมาบอกเอย์จิ
ใช่ ๆ ปกติพวกนี้ก็กัดกันทุกวันอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับนายหรอก เรกะพูด คูมิยะกับฟูจิก็เลยหันมาแง่ง ๆ ใส่เธอบอกใบ้ว่าพวกชั้นไม่ใช่หมานะ
น้ำมาแล้วจ๊ะ คุณแม่กับพี่สาวของเอย์จิช่วยกันยกน้ำกับขนมมาเลี้ยงทุกคน
ว้าย! คุณแม่คะไม่ต้องก็ได้ค่ะ คูมิยะเกรงใจ
ไม่ต้องเกรงใจหรอกจ๊ะ ทานกันให้เต็มที่เลยนะ คุณแม่เอย์จิบอก
ถ้าท้องหิวสมองก็จะไม่แล่นนะ ยูริยิ้มบอกทุกคนแล้วถามความคืบหน้า วันนี้เป็นไงมั่งจ๊ะ
วันนี้พวกเราก็ไปมาหลายที่ค่ะ แต่ทาคุมิคุงยังนึกอะไรไม่ออกเลย คูมิยะตอบ
บางทีอาจจะเร็วไปก็ได้นะคะ ทาคุมิคุงเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวานเอง เรกะพูด
นั่นสิจ๊ะ แม่ว่าไม่ต้องรีบหรอก ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่านะ
นั่นสิคะ คุณหมอเค้าก็บอกแล้วว่าเป็นอาการระยะสั้น ไม่นานก็หาย ยูริพูด ทุกคนก็ทำท่าทางเห็นด้วย พออิ่มแล้วทุกคนก็เลยจะแยกย้ายกลับบ้าน
เฮ้ เอย์จิพรุ่งนี้เจอกันนะ ฟูจิโบกมือให้
ครับ เอย์จิตอบเนือย ๆ
บอกแล้วไงว่าไม่ต้องพูดสุภาพกับชั้น
อะ อื้อ เอ่อ
เอย์จิพยายามจะเรียกชื่อเพื่อน แต่เขายังจำไม่ได้
ชั้นชื่อโอสึกิ ฟูจิวาระ นายเรียกชั้นว่าฟูจินะ
อื้อฟูจิ เอย์จิทวน
ส่วนชั้นคอนจินะ คอนจิเสริม
อะอื้อ เอย์จิรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว แต่พอเขาพยายามจะนึกก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
เป็นไรรึเปล่าจ๊ะ เรนะรีบเข้ามาดูอาการเขา คนอื่น ๆ ก็พากันตกใจ
เอย์จิกุมขมับอยู่ซักพักความปวดก็ค่อย ๆ เบาลง ไม่เป็นไรครับ
เอาน่าไม่ต้องให้ทาคุมิคุงจำอะไรเพิ่มตอนนี้หรอก เดี๋ยวพอความจำกลับมาก็จำได้เองแหละ คูมิยะบอก
นั่นสิ ขอโทษนะ คอนจิพูด
อื้อ ให้ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า ฟูจิก็เห็นด้วย แล้วทุกคนก็พากันแยกย้ายกลับบ้าน เรกะกับเรนะเลยอาสาไปส่งเอย์จิที่บ้าน
ระหว่างทางที่ทั้งสามคนกำลังเดินกลับบ้านเอย์จิก็ชำเลืองมองมาที่ทั้งสองสาวเป็นพัก ๆ จนเรกะต้องเอ่ยปากถาม นายมีอะไรเหรอ
เปล่าครับ ผมแค่รู้สึกว่าเหมือนเคยเดินกับพวกคุณ
ก็แน่สิยะ เรกะพูด เอย์จิมองหน้าเธอแล้วงงเล็กน้อย
เรนะเลยหันมายิ้มให้เขาแล้วบอกว่า ก็พวกเรากลับบ้านด้วยกันออกบ่อยนี่จ๊ะ
เหรอครับ
ไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องแค่นี้นายก็ลืม เชอะ! เรกะแกล้งหยอกเขา
แต่เอย์จิกลับรู้สึกผิดจริง ๆ เขาทำหน้าเศร้า ๆ แล้วพูดว่า ผมขอโทษจริง ๆ ครับ
ชั้นแค่พูดเล่น นายไม่ต้องคิดมากนะ เรกะหน้าเสียที่ไปแกล้งเอย์จิ
โธ่พี่ค่ะ เรนะต่อว่าพี่สาวเบา ๆ
ขอโทษ ๆ พี่ไม่ตั้งใจ พี่แค่แกล้งนิดหน่อยเอง โหสินะทาคุมิคุง เรกะบอกเขา
เอย์จิคุงอย่าคิดมากนะจ๊ะ เรนะหันไปบอกเขา
ผมไม่คิดมากหรอกครับ เอย์จิโกหกเพื่อให้ทั้งสองคนสบายใจขึ้น
ซักพักทั้งสามก็ไปถึงบ้านเอย์จิ พรุ่งนี้เจอกันนะจ๊ะ เรนะโบกมือบ๊ายบายเอย์จิ
พรุ่งนี้พวกคุณจะมารับผมอีกเหรอครับ เอย์จิถาม
จ๊ะ เรนะตอบ
พวกคุณไม่ต้องลำบากก็ได้นะครับ ผมพอจำทางได้แล้ว เอย์จิบอกทั้งสองคน
เรนะยิ้มอย่างอ่อนหวานแล้วยื่นหน้ามาใกล้เอย์จิตามที่เธอเคยชินแล้วบอกเขาว่า ไม่ลำบากหรอกจ๊ะ ก็พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่
คะ ครับ เอย์จิอายจนพูดติด ๆ ขัด ๆ
คิก ๆ งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะจ๊ะ เรนะขำที่เห็นเอย์จิเขินจนหน้าแดง
ครับ แล้วเอย์จิก็โบกมือบ๊ายบายทั้งสองสาว
บ๊ายบาย พรุ่งนี้เจอกัน เรกะโบกมือให้เขาแล้วทั้งสองสาวก็เดินกลับบ้าน
ขณะเดียวกันหลังจากร้าน Amusesbouche ปิดแล้ว ครอบครัวทาคุมิก็เปิดประชุมลับ มีอะไรเหรอคะคุณพ่อ
ทุกคนคิดว่าไงเรื่องเอย์จิโดนรถชน พ่อของเธอถาม
ตอนแรกหนูก็ตกใจ แต่พอมาคิดดูก็น่าแปลกนะคะ ผู้ใช้เวทมนตร์อย่างพวกเราไม่น่าจะเป็นอะไรกับเรื่องแค่นี้!?!
ก็ปกติพ่อกับลูก ๆ จะใช้เวทบาเรียคอยป้องกันตัวอยู่แล้ว แม่ก็เลยไม่ค่อยเป็นห่วง แต่พอเอย์จิเกิดเรื่องแม่ก็ใจหายเหมือนกันนะ ผู้เป็นแม่ออกความเห็น เนื่องจากเธอเป็นสะใภ้ของตระกูลจึงใช้เวทมนตร์ไม่ได้
ใช่! ถ้าใช้เวทป้องกันตัวถึงจะโดนยิงก็แค่พอ ๆ กับโดนต่อยเท่านั้นแหละ เพราะงั้นพ่อถึงรู้สึกสงสัย
จะว่าไปแล้วเอย์จิก็เจ็บหนักเหมือนกันนะคะ ยูริฉุกใจคิด
นั่นสิถ้าจะเจ็บขนาดนั้น พ่อว่าคงต้องโดนตึกถล่มทับอย่างเดียวแหละ
งั้นพอเป็นไปได้มั้ยว่าอาจจะมีอะไรทำให้เอย์จิสลายเวทป้องกัน ผู้เป็นแม่สงสัย
ก็เป็นไปได้นะคะ ตอนนั้นเอย์จิอาจจะใช้เวทมนตร์ทำอย่างอื่นอยู่ก็ได้ ลูกสาวลองจินตนาการตาม
ฝ่ายพ่อก็คิดว่าเป็นไปได้แต่ยังไม่ฟันธงเลยบอกว่า อืม จะยังไงเราก็ต้องรอให้ความจำเอย์จิกลับมาก่อนนั่นแหละ แล้วเขาก็กังวลอยู่ในใจเพียงคนเดียวว่า ยังไงก็อย่าให้เป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุดละกัน!?!
พอประชุมกันเสร็จทุกคนก็เก็บของจะกลับบ้าน แต่ยูริก็เอ่ยปากถามอีกเรื่อง เอ่อ คุณพ่อคุณแม่คะ!
ทำไมเหรอลูก แม่ของเธอหันมาถาม
แล้วเรื่องความทรงจำของเอย์จินี่เราจะไม่ลองใช้เวทมนตร์ช่วยดูเหรอคะ ยูริเสนอ
ไม่ได้หรอกลูก จะใช้เวทคืนความทรงจำได้ก็ต่อเมื่อสาเหตุที่เสียความทรงจำเกิดจากเวทมนตร์เท่านั้นแหละ พ่ออธิบาย
แต่เราก็น่าจะลองดูนะคะ
ลูกคิดว่าสาเหตุที่เอย์จิเสียความทรงจำเกิดจากเวทมนตร์งั้นเหรอ น้ำเสียงของพ่อแฝงไว้ด้วยความตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
เปล่าค่ะ หนูก็แค่อยากช่วยเท่าที่ทำได้ ยูริเริ่มเสียงอ่อย
ถ้ามีคนอื่นใช้เวทมนตร์ทำร้ายเอย์จิจริง ก็คงไม่พ้นพวกนั้น ในที่สุดพ่อของเธอก็พูดออกมา ภรรยากับลูกสาวของเขาฟังแล้วก็พลอยเครียดไปด้วย เขาเลยพูดให้ทุกคนสบายใจว่า แต่คงไม่ใช่หรอก เพราะถ้าเป็นพวกนั้นจริงเอย์จิคงไม่เสียแค่ความทรงจำแน่
นั่นสิคะคุณ แม่ว่าคงมีเหตุผลบางอย่างมากกว่า
แล้วเราจะไม่ลองช่วยเอย์จิกันเหรอคะ ยูริเสียดาย
ไม่ใช่แค่นั้นหรอกลูก เวทฟื้นความทรงจำเป็นเวทมนตร์โบราณ ลำพังเราสองคนร่วมมือกันก็ยังใช้ไม่ได้หรอก พ่อบอกเธอ
ทุกวันนี้คนที่ใช้เวทนั้นได้ก็คงมีแต่ท่านผู้นั้น พอแม่พูดจบเธอก็ทอดสายตาไปไกลยังขอบฟ้าอันมืดมิด
ยังไงก็รอดูท่าทีซักพักก่อนละกัน นะ พ่อยูริเอามือตบไหล่ลูกสาวเบา ๆ แล้วทั้งสามก็พากันกลับบ้าน
วันรุ่งขึ้นสองพี่น้องก็มารับเอย์จิที่บ้านแต่เช้า แต่พอทั้งคู่กดกริ่งกลับเป็นยูริออกมาต้อนรับแทน อ้าว!?! เอย์จิออกไปแล้วจ๊ะ เค้านัดพวกเราไว้ที่หน้าปากซอยไม่ใช่เหรอ
เอ๋! สองพี่น้องอุทานพร้อมกัน เปล่านะคะ พวกหนูนัดเค้าไว้ที่นี่ค่ะ เรนะบอก
อ้าว! แล้วทำไมเอย์จิถึงออกไปก่อนหล่ะ ยูริงง
งั้นพวกหนูไปก่อนนะคะ ตามไปตอนนี้น่าจะทัน เดี๋ยวนายนั่นจะไปหลงทางที่ไหนซะก่อน เรกะก้มหัวลายูริแล้วรีบหันหลังวิ่งไป
เดี๋ยวค่ะพี่ รอหนูด้วย เรนะก็โค้งให้เธอแล้วรีบตามพี่สาวไป
ทั้งสองวิ่งไปตามทางที่ไปโรงเรียนเป็นประจำแต่ก็ยังไม่เห็นเอย์จิ ทั้งคู่เลยเริ่มเป็นกังวล เอย์จิคุงจะหลงทางรึเปล่านะ เรนะพึมพำเบา ๆ
แล้วทำไมหมอนั่นต้องรีบออกมาก่อนด้วยนะ เรกะฉุนเล็ก ๆ
ทั้งสองตามหาเอย์จิไปจนถึงหาดมิสึ วันนี้ลมพัดแรงกว่าปกติ คลื่นลูกใหญ่ถาโถมเข้ามาลูกแล้วลูกเล่า ทำให้ไม่มีใครลงเล่นน้ำเหมือนวันก่อน ๆ
พี่คะ
มีไรเหรอ
พี่ว่าทำไมเอย์จิคุงถึงไม่รอพวกเราหล่ะคะ
ไม่รู้สิ บางทีหมอนั่นอาจจะรำคาญหล่ะมั้ง เธอตอบน้องสาวแบบตรงข้ามกับที่ใจเธออยากให้เป็นแล้วก็เหม่อมองไปที่ชาดหาด ทันใดนั้นเธอก็เห็นเงาคนเล็ก ๆ ยืนอยู่ที่นั่น เรนะ นั่นใช่เอย์จิรึเปล่า เธอชี้ให้น้องสาวดู
จริงด้วย!!! เรนะเห็นเอย์จิก็จำได้ทันที เธอรีบวิ่งไปหาเขาโดยไม่รีรอ
รอด้วยสิ! แล้วเรกะก็รีบวิ่งตามน้องสาวไป
พอทั้งสองเข้าไปใกล้ก็พบว่าเอย์จิกำลังยืนเหม่อมองโขดหินอยู่ เอย์จิคุงอยู่นี่เอง เรนะร้องเรียกเขา พอเอย์จิได้ยินก็หันมามองทั้งสองคน ดูอะไรอยู่เหรอจ๊ะ
เปล่าครับ ไม่มีอะไร เอย์จิปฏิเสธแต่เขายังมองไปที่โขดหินอย่างไม่วางตา
พี่คะ เรนะหันไปหาพี่สาว
บางทีหมอนั่นอาจจะกำลังนึกอะไรอยู่ก็ได้ เราอย่าเพิ่งไปกวนเค้าเลย พอฟังที่เรกะบอก เรนะก็พยักหน้าหงึก ๆ ส่วนเรกะพอมองไปที่โขดหินก็นึกขึ้นได้ว่าเอย์จิเคยสารภาพรักกับน้องสาวเธอตรงนี้ พอเธอชำเลืองไปมองน้องสาวก็เห็นเธออายหน้าแดงอยู่
งั้นพี่ไปก่อนนะ เธออยู่เป็นเพื่อนทาคุมิคุงละกัน แล้วเธอก็หันหลังเดินไป
ดะ เดี๋ยวสิคะพี่ เรนะรั้งพี่สาวไว้
อ้าว! ก็เจอตัวทาคุมิคุงแล้วไม่ใช่เหรอ เรกะถามโดยไม่หันกลับมามอง
แล้วพี่ไม่อยู่ด้วยกันหล่ะคะ? ระหว่างที่ทั้งสองคนคุยกัน เอย์จิก็มองเรกะด้วยสีหน้าลำบากใจ
โรงเรียนอยู่แค่นี้เอง เธอพาเค้าไปละกัน
ขอโทษนะครับ
ขอโทษทำไมอะ เรกะถามกลับ
ก็ผมเป็นภาระให้คุณ
เปล่า ๆ ชั้นไม่ได้ว่านายนะ เรกะรีบออกตัว
ไม่มีใครคิดว่าเอย์จิคุงเป็นภาระเลยนะจ๊ะ เรนะช่วยพูดให้
ใช่ ๆ เรกะย้ำ
จริงเหรอครับ เอย์จิหันไปถามเธอ
อื้อ ถ้างั้น...ชั้นก็...รออยู่ด้วยละกัน เรกะตอบเสียงอ่อย ๆ
เรนะฟังแล้วก็ยิ้มออก ขอบคุณค่ะพี่
ทั้งสามคนเดินเล่นแถว ๆ นั้นจนระฆังเข้าเรียนดัง แต่สองพี่น้องก็ไม่มีท่าทีอะไร ทั้งคู่ตั้งใจจะอยู่เป็นเพื่อนเอย์จิจนกว่าเขาจะพอใจ แต่เอย์จิไม่อยากให้พวกเธอเข้าเรียนสายก็เลยบอกว่า ลมเริ่มแรงแล้ว ไปกันเถอะครับ
อ้าวจะไปแล้วเหรอ เรกะหันไปถาม เอย์จิก็พยักหน้ารับ
แล้วนึกอะไรออกบ้างมั้ยจ๊ะ เรนะถามมั่ง
ขอโทษครับ เอย์จิทำหน้าเศร้า ๆ เพราะเพื่อนทั้งสองอุตส่าห์อยู่รอเขาแต่ทุกอย่างก็สูญเปล่า
ไม่ต้องคิดมากหรอกจ๊ะ ให้มันค่อยเป็นค่อยไปดีกว่านะ เรนะปลอบใจเขา
จริงด้วย เดี๋ยวซักพักก็นึกออกเองแหละ เรกะบอก
ขอบคุณครับ
พอตอนสาย ๆ ระหว่างคาบเรียนเอย์จิเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เขานั่งนิ่งอยู่นานเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่ อาจารย์ที่กำลังสอนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะรับทราบเรื่องของเขาแล้ว พอระฆังหมดชั่วโมงดังคูมิยะก็เข้ามาคุยด้วย
เออนี่ เมื่อเช้ามีอะไรกันเหรอ เธอถามเรื่องที่เรนะกับเอย์จิมาสาย
ไม่มีไรหรอกจ๊ะ เอย์จิคุงเค้าเหมือนจะนึกอะไรออก ชั้นกับพี่เลยปล่อยให้เค้าค่อย ๆ นึกไปอะจ๊ะ
เหรอ ๆ แล้วเป็นไงมั่งอะ คูมิยะถามอย่างตื่นเต้น
แต่เรนะส่ายหัวทำหน้าผิดหวัง ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยจ๊ะ เอย์จิที่นั่งข้าง ๆ ก็ทำหน้าหงอย ๆ
ก็แหงอยู่แล้ว จะให้นึกออกในวันสองวันได้ไง คอนจิหันมาคุยด้วย ฟูจิก็พยักหน้าเห็นด้วย
รู้แล้วหล่ะย่ะ แต่ก็อยากให้ทาคุมิคุงเค้าหายเร็ว ๆ นี่ คูมิยะย้อน ส่วนเรนะก็หันไปยิ้มให้กำลังใจเอย์จิ
ซักพักคารินก็แวะมาเยี่ยมที่ห้องโดยเซริซาว่ากับนางาโตะตามมาข้างหลัง สองคนนี้ตามติดคารินเป็นตังเมตั้งแต่งานวันเกิดพี่น้องฝาแฝดเมื่ออาทิตย์ก่อน ทาคุมิคุงเป็นไงมั่ง ได้ข่าวว่าความจำเสื่อมเหรอ คารินพรวดพราดถาม
รุ่นพี่คะ! คูมิยะตีหน้ายักษ์ใส่หล่อน
ขอ ขอโทษจ๊ะ คารินขอโทษเสียงอ่อย
เฮ้! เอย์จิจำชั้นได้มั้ย นางาโตะหันไปถาม แต่เอย์จิก็ได้แต่ซึม ๆ
ชั้นก็จำไม่ได้เหรอ เซริซาว่าถามมั่ง แต่เอย์จิก็เหมือนเดิม
ทันใดนั้นคารินก็ดึงเอย์จิเข้าไปกอด ใบหน้าเขาซุกอยู่กับหน้าอกตู้ม ๆ ของเธอจนหายใจไม่ออก โอ๋ ๆๆ เข้ามารับไออุ่นจากพี่นะจ๊ะพ่อแมวน้อยหลงทาง พวกเซริซาว่ากับพวกคอนจิเห็นแล้วก็พากันตาถลนน้ำลายหกอิจฉาเอย์จิ คูมิยะกับนายะก็ตกใจอ้าปากค้าง ส่วนเรนะก็ลนลานทำอะไรไม่ถูก พี่สาวคนนี้จะปลอบใจให้เองนะจ๊ะ คารินทำท่าราวกับเอย์จิเป็นลูกแมวตกน้ำตัวหนาวสั่น
รุ่นพี่ทำอะไรค่ะ!!! คูมิยะทำหน้าดุควันออกหู
คารินเลยค่อย ๆ คลายรัดเอย์จิออกจากหน้าอกเธอ จริง ๆ ถ้าเธอรัดเขาไว้นานกว่านี้เอย์จิมีหวังขาดใจตายแน่ แหม ๆ ทำแบบนี้ความจำอาจจะกลับมาก็ได้นะ คารินทำหน้าอินโนเซ้น
รุ่นพี่คร๊าบบบบ พวกผมก็ความจำเสื่อมคร๊าบบบบ พวกเซริซาว่าทำหน้าตาหื่นกระโดดตัวลอยโผเข้าไปหาคารินทันที พวกฟูจิคอนจิเห็นก็ทำท่าจะตามน้ำเข้าไปด้วย
แต่คูมิยะใช้เวลาแค่เสี้ยววินาทีเข้ามาขวางด้วยสัญชาติญาณแล้วกระโดดถีบเท้าคู่ใส่ทั้งสองคนทันที นี่แน่!!!! บาทาพิฆาตหื่น
โอ้ยยยยย ทั้งคู่ร้องเสียงหลงกระเด็นออกนอกห้องไปติดระเบียง ทั้งสองร้องโอดโอย พวกฟูจิเห็นสภาพทั้งสองเลยชะงักเปลี่ยนใจทันไม่เสี่ยงไปรับลูกถีบของคูมิยะ
เออ แล้วหมอว่าไงมั่งจ๊ะ คารินถามเป็นการเป็นงาน แต่พวกเรนะก็ได้แต่ทำท่าทางหงอย ๆ แทนคำตอบ เอย์จิเห็นเพื่อน ๆ ไม่สบายใจก็พลอยหดหู่ไปด้วย งั้นเอางี้มั้ย พี่ได้ยินว่าที่ศาลชานเมืองมีหมอผีชื่อดัง ใครก็ ๆ พากันไปให้เค้าปัดรังควานให้ หายกันทุกคนเลยนะ!!!
รุ่นพี่ค่ะ คนป่วยนะคะไม่ได้โดนผีเข้า คูมิยะขัด
อ้าว แหม ใครจะไปรู้หล่ะ เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะ
ซักพักอาจารย์ผู้สอนวิชาต่อไปก็เข้ามา คารินกับพวกนางาโตะเลยรีบกลับห้อง นักเรียนคนอื่น ๆ ก็พากันกลับไปนั่งที่ ก่อนที่อาจารย์จะเริ่มสอน เอย์จิก็หันมาบอกเรนะว่า เดี๋ยวผมขอไปห้องน้ำก่อนนะครับ แล้วเอย์จิก็ลุกออกไป
หลังจากอาจารย์สอนไปได้ซักครึ่งชั่วโมงเรนะก็เริ่มชะเง้อมองหาเอย์จิ เอย์จิคุงช้าจัง เธอเริ่มกังวล
นั่นสิเข้าห้องน้ำแค่นี้เอง คอนจิก็สงสัย
งั้นนายไปดูที่ห้องน้ำทีสิ ฟูจิถือโอกาสใช้เพื่อน
อ้าว ทำไมเป็นชั้นหล่ะ คอนจิทำเป็นบ่นนู่นนี่แต่ก็รีบลุกออกไปตามเอย์จิ เรนะมองตามคอนจิไปแล้วกังวลว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า ซักพักคอนจิก็ตาลีตาเหลือกวิ่งกลับมาหอบแฮ่ก ๆ บอกทุกคนว่า แย่แล้ว ไม่รู้เอย์จิหายไปไหน!!!
หา!!! ฟูจิอุทาน ขณะที่เรนะทำท่าตกใจมาก
นายหมายความว่าไง ฟูจิถาม
คือพอชั้นไปดูในห้องน้ำก็ไม่เห็นใครอยู่ ชั้นเลยเดินหาแถว ๆ นั้น
แฮ่ก ๆ
แต่ก็ไม่เจอ เลยรีบวิ่งมาบอกพวกนาย
คอนจิกึ่งพูดกึ่งหอบ
ก่อนที่คอนจิพูดจบเรนะก็วิ่งออกจากห้องไปแล้ว เฮ้! เรนะจัง ฟูจิร้องเรียกตามหลังเธอแต่ก็ไม่ทัน อาจารย์ที่กำลังสอนอยู่ก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น คูมิยะเห็นเรนะวิ่งออกไปก็ตกใจ ส่วนคนอื่น ๆ ก็พากันสงสัย
อาจารย์ผู้สอนเลยเดินมาถามพวกฟูจิ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน
คือทาคุมิหายตัวไปครับ ฟูจิตอบ
หาา! นักเรียนที่ความจำเสื่อมหน่ะเหรอ แล้วหายไปนานรึยัง อาจารย์ฟังแล้วตกใจมาก
คือเค้าไปเข้าห้องน้ำตอนช่วงพักเบรกครับ แล้วก็ยังไม่กลับมาเลย
หาดีแล้วเหรอ
ครับ
แย่แล้ว! งั้นต้องรีบบอกผู้ปกครองเค้าก่อนแล้ว พวกเธออ่านหนังสือไปเงียบ ๆ นะ เดี๋ยวครูมา แล้วอาจารย์ก็รีบจ้ำอ้าว ๆ ไปห้องพักครู
พออาจารย์ออกจากห้องคูมิยะก็รีบเข้ามาถามพวกคอนจิ พอรู้เรื่องเธอก็รีบโทรไปบอกเรกะกับนายะ แล้วทั้งสามก็ออกจากห้องไป ส่วนนักเรียนคนอื่น ๆ ก็พากันกันพูดคุยกันอย่างเซ็งแซ่ ที่ห้องเรกะหลังจากที่พวกเธอรู้เรื่อง เรกะก็โกหกอาจารย์ขอตัวไปห้องพยาบาล โดยให้นายะพยุงเธอไป แล้วทุกคนก็ไปรวมตัวกันที่ทางเข้าตึก
ทำไงดี นายะถามอย่างร้อนรน
ใจเย็น ๆ เอย์จิอาจจะจำทางกลับห้องไม่ได้ก็ได้นะ บางทีอาจเดินหลงอยู่ในตึกก็ได้ ฟูจิพยายามมองโลกแง่ดี
แค่เดินตรงจากห้องเรียนไปห้องน้ำไม่ถึง 30 เมตรเนี่ยนะจะจำทางไม่ได้ เรกะท้วง
อ้าว ก็ไม่แน่นะ ก็หมอนั่นความจำเสื่อมอยู่ไม่ใช่เหรอ
บ้า วันนี้หมอนั่นยังเดินมาโรงเรียนคนเดียวได้เลย
อ้าววันนี้พวกเธอไม่ได้ไปรับทาคุมิคุงเหรอ นายะสงสัย
เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ ที่สำคัญตอนนี้เรนะจังก็หายไปเหมือนกันนะ คูมิยะบอก
ชั้นว่าเรนะคงตามหาเอย์...เอ่อ ทาคุมิคุงอยู่แหละ เรกะเดา
งั้นพวกเราก็ช่วยกันหาอีกแรงละกัน คูมิยะบอกเพื่อน ๆ
ชั้นว่าถ้าจะให้เร็ว เราแยกกันหาดีกว่านะ ฟูจิเสนอ
จริงด้วย ถ้าใครเจอแล้วโทรบอกด้วยละกัน คอนจิพูด แล้วทุกคนก็แบ่งกลุ่มกันตามหา โดยฟูจิกับคอนจิหาตั้งแต่ดาดฟ้าลงมา คูมิยะกับนายะเดินหาจากชั้นล่างขึ้นไป ส่วนเรกะตามหารอบ ๆ อาคาร
ระหว่างที่คูมิยะกับนายะกำลังตามหาเอย์จิ นายะก็มีสีหน้าเป็นกังวล คูมิยะเลยถามเธอว่า ทำไมเหรอ
แค่พวกเราจะหาทาคุมิคุงเจอมั้ย แล้วยังเรนะอีก
ใจเย็น ๆ เรนะหน่ะชั้นไม่ห่วงหรอกยังไงก็โทรหาได้ แต่ที่สำคัญตอนนี้คือทาคุมิคุงนั่นแหละ คูมิยะวิเคราะห์อย่างใจเย็น ในเวลาแบบนี้เธอกลับสามารถคุมสติได้ค่อนข้างดี
โรงเรียนเราก็ไม่ใช่แคบ ๆ นะ
งั้นโทรให้รุ่นพี่ทาคายูกิกับรุ่นพี่คารินมาช่วยมะ คูมิยะเสนอ
เอางั้นเหรอ พวกรุ่นพี่เรียนอยู่รึเปล่า
ก็ลอง ๆ ถามดู ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร พอพูดจบคูมิยะก็กดเบอร์โทรหารุ่นพี่ทันที
อีกด้านหนึ่งฟูจิกับคอนจิก็กำลังตามหาเอย์จิอยู่ เอย์จิมันหายไปไหนของมันว้าาาา ฟูจิบ่น
หรือว่ามันจะรำคาญพวกชอบนินทาเลยกลับบ้านไปแล้ว คอนจิเดา
เฮ่ย! ถึงมันจะจำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าจะกลับบ้านก็น่าจะบอกกันบ้างสิ ชั้นว่าน่าจะหลงทางมากกว่า
งั้นเหรอ คอนจิพูดแบบไม่ค่อยเชื่อ
ใครจะไปรู้หล่ะ ก็คนมันสมองกระทบกระเทือน อาจจะจู่ ๆ ก็จำอะไรไม่ได้ขึ้นมาก็ได้ ฟูจิเดาแล้วทั้งคู่ก็พยายามตามหาเอย์จิกันต่อไป
เอย์จิคุง ๆ เรนะตะโกนเรียกเอย์จิ ตั้งแต่เธอผลุนผลันออกจากห้อง เธอก็วิ่งตามหาเขาจนทั่วตึก แล้วพอไม่เจอก็เลยลงมาดูแถวสนามฟุตบอล นี่ ๆ เห็นเอย์จิคุงปี 1 ห้อง 8 บ้างมั้ยจ๊ะ เธอถามนักเรียนที่อยู่แถวนั้น
คนที่เค้าลือกันว่าความจำเสื่อมใช่มะ กลุ่มนักเรียนหญิงตอบ
ใช่จ๊ะ พวกเธอเห็นบ้างมั้ย
ขอโทษนะ ไม่เห็นเลยจ๊ะ แต่ไงเดี๋ยวพวกเราช่วยดูให้นะ
ขอบใจนะจ๊ะ งั้นถ้าเจอช่วยโทรกลับเบอร์นี้หน่อยนะ แล้วเรนะก็จดเบอร์เธอให้นักเรียนหญิงกลุ่มนั้น
ทางด้านเรกะเธอเดินหารอบ ๆ ตึกจนทั่วแต่ก็ยังไม่เจอเอย์จิ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างจึงเดินไปด้านหลังโรงเรียน ผ่านสระว่ายน้ำ สนามเทนนิส จนไปถึงแปลงเกษตร ที่นั่นเธอเห็นรอยเท้าคู่หนึ่งเดินลัดโคลนไปสุดอยู่ที่รั้วหลังโรงเรียน
เอย์จิคุง! ความคิดคำนึงของเธอมุ่งตรงไปที่เขาทันที เธอคิดว่านี่ต้องเป็นรอยเท้าของเอย์จิแน่ เธอเลยปีนรั้วตามเจ้าของรอยเท้าคู่นั้นไปอย่างไม่รีรอ
ขณะนั้นเองคูมิยะที่กำลังตามหาเอย์จิอยู่บนชั้น 4 ก็หันมาเห็นเข้าพอดี อ๊าาาา!!! เธอร้องเสียงหลง
นายะเห็นเพื่อนร้องเสียงดังเลยหันไปถาม มีอะไร ร้องเสียงดังเชียว... แต่พอเธอชะโงกหน้ามองลงไปที่แปลงเกษตรเธอก็ถึงกับอึ้ง
ยัยเรกะทำอะไรหน่ะ!!! คูมิยะโวยวายเสียงดัง
ก็เห็น ๆ อยู่ว่ากำลังปีนออกไปนอกโรงเรียน แล้วคิดว่าทำอะไรหล่ะ นายะทำหน้ายียวนย้อนเพื่อน
นี่หล่อน! คูมิยะเลยทำหน้ายักษ์ใส่เธอ
ขอโตดดดด เค้าล้อเล่นนนนน
แล้วจะทำไงดี นี่มันหนีโรงเรียนเลยนะ
ก็จะให้ทำไงหล่ะหรือว่าจะตามไป
จะบ้าเรอะ ถ้าตามไปก็กลายเป็นพวกเราหนีเรียนด้วยสิยะ เออจริงด้วย!?! คูมิยะเพิ่งฉุกใจคิดออก เธอรีบกดเบอร์โทรไปหาเรกะทันที
Create Date : 16 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 14 มกราคม 2553 10:49:55 น. |
|
0 comments
|
Counter : 214 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
TonyLaFraga |
|
|
|
|