นิยายเรื่องรักยกกำลังสอง แนวโรแมนติกวัยมัธยม ผมไม่สามารถเล่าเนื้อเรื่องย่อได้ เพราะเนื้อหาทุกอย่างจะทำให้คุณลุ้นและเซอร์ไพรส์อยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณชอบอ่านนิยายแนวโรแมนติ และมีปริศนาให้คาดเดาและลุ้นไปกับมัน ลองเข้ามาอ่านเรื่องนี้สิครับ รับประกันความสนุก
 
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
5 กรกฏาคม 2552

รักยกกำลังสอง บทที่ 3 สีทอง (Gold)

พอกลับมาถึงบ้านผมช่วยครอบครัวจัดของจนดึกแล้วจึงอาบน้ำนอน แต่ถึงจะเพลียแค่ไหนผมก็ยังข่มตาหลับไม่ลง ใจยังวนเวียนนึกถึงเรื่องวันนี้ ทำไมสองพี่น้องถึงไม่มีใครทักเรื่องที่เกือบถูกมอเตอร์ไซชนกับผมเลย และคนที่ผมพบตอนเช้าเป็นเรนะหรือเรกะกันแน่

เรนะที่เรียบร้อยอ่อนหวานกับเรกะที่ออกห้าว ๆ หน่อย แต่ในใจผมหวังนิด ๆ ว่าอยากผู้หญิงคนนั้นให้เป็นเรนะ ผมกะว่าพรุ่งนี้เช้าจะไปรอเธอที่หน้าปากซอย ผมเริ่มรู้สึกว่าการที่ได้ย้ายมาเรียนที่เมืองนี้และได้มาเจอเธอทำให้ผมเป็นคนที่โชคดีอย่างที่สุด ระหว่างนึกเรื่องเธอผมนอนยิ้มอยู่คนเดียวซักพักแล้วก็ผล็อยหลับไป

วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติ ท้องฟ้าแจ่มใสอากาศสดชื่น พออาบน้ำทานข้าวเสร็จผมก็รีบออกจากบ้านไปยืนรอชะเง้อมองหาเรนะที่ปากซอยโคโคเนะ ผมคิดว่าเธอคงยังไม่ออกจากบ้านเพราะผมมาเร็วกว่าเวลาเข้าเรียนพอสมควร

ระหว่างรอก็คิดว่าพอเธอเดินมาจะคุยอะไรดี มันจะดูน่าเกลียดมั้ยถ้าเธอรู้ว่ามาดักรอเธอ หรือถ้าผมจะทำฟอร์มเป็นเพิ่งมาถึงน่าจะดีกว่า ผมเลยไปยืนแอบ ๆ อยู่มุมซอยไม่ให้เธอเห็น คิดไปคิดมาก็สงสัยว่าเราดูเหมือนคนโรคจิตรึเปล่า หลังจากรออยู่นานผมเริ่มกระวนกระวายว่าหรือเธอจะไปแล้ว แต่ผมก็มารอตั้งแต่เช้าแล้วนะเธอยังจะออกเร็วกว่าอีกเหรอ หรือว่าผมจะไปโรงเรียนเลยอาจจะได้เจอกันกลางทาง

หลังจากรอไปซักพักผมก็ดูนาฬิกาปรากฏว่าใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว ผมเดาว่าเธอคงไปก่อนหน้าผมจะมาถึง “ทำไมเธอออกเช้าจังนะ?” ผมคิดในใจ ผมจึงตัดสินใจเดินออกจากหัวมุมซอย พอหันไปดูในซอยก็เห็นเธอกำลังเดินมาพอดี ผมจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนเพิ่งมาถึง

“อ้าว! เรนะอรุณสวัสดิ์” เอย์จิแกล้งทำหน้าตกใจนิด ๆ

เธอเดินมาทำหน้าบึ้ง “นายมารอเรนะเหรอ เค้าไปตั้งแต่เช้าแล้วเรนะเป็นเวรดูแลกระต่ายวันนี้” เรกะมีน้ำเสียงโมโหนิด ๆ

“อ้าวโทษที ไม่ได้มารอหรอกบังเอิญชั้นผ่านมาพอดี” เอย์จิกลบเกลื่อน

“อย่ามาโกหกซะให้ยากเลย ชั้นรู้หรอกน่าว่านายมารอ” เรกะพูดแล้วก็เดินจ้ำอ้าว ๆ ไป

“เดี๋ยวซี่รอก่อน! จะรีบเดินไปไหน” เอย์จิรีบเดินตามให้ทัน

“อ้าว ก็นายมารอไปโรงเรียนพร้อมเรนะไม่ใช่เหรอ แล้วจะมาเดินตามชั้นทำไม” เรกะพูดโดยไม่หันมามองผม

“เปล่า ไม่ใช่หยั่งงั้น ไหน ๆ ก็มาพร้อมกันแล้วเดินไปด้วยกันจะเป็นไรไป” เอย์จิโต้ แต่ถึงยังไงเราสองคนก็สายมากแล้วพวกเราจึงรีบเดินจ้ำจนแทบหายใจไม่ทัน

“เธอออกสายอย่างงี้ประจำเหรอ” เอย์จิถามหอบ ๆ

“บ้าเหรอ! เสียมารยาท เอ่อ…พอดีวันนี้ชั้นตื่นสายหน่ะ” เรกะทำเสียงฉุนแต่หน้าเธอแดงเล็กน้อย

ระหว่างทางเราสองคนแทบไม่ได้คุยกันเพราะต่างคนต่างรีบ ในใจผมคิดว่าจริง ๆ แล้วเรกะก็น่ารักนะแต่ทำไมเวลาคุยกันเหมือนเธอไม่ค่อยถูกกับผมเลยทั้ง ๆ ที่เราเพิ่งรู้จักกันแท้ ๆ

พวกเราเดินต่อไปซักระยะก็ถึงหน้าประตูโรงเรียนแล้วผมก็บอกเธอว่า “ขอโทษนะ”

“ขอโทษเรื่องอะไรเหรอ?” เรกะทำหน้าสงสัย

“เปล่าหรอก ชั้นเห็นเธอทำหน้าบึ้งมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เลยคิดว่าอาจจะทำอะไรให้เธอไม่พอใจ” เอย์จิตอบ

เรกะหัวเราะแล้วก็พูดว่า “นายนี่บ้าจริง ๆ”

เรกะมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากแล้วก็รีบวิ่งขึ้นบันได พอเธอวิ่งขึ้นไปได้ครึ่งทางก็เกิดสะดุดขาตัวเองหกล้มและกำลังจะตกลงมา ทันใดนั้นเอย์จิยื่นมือออกไปพยายามรับเรกะแต่เขายืนอยู่ต่ำเกินไป เรกะกำลังจะหัวฟาดบันไดแต่กลับมีบางอย่างเกิดขึ้น!?! เรกะลอยลงไปอยู่ในอ้อมแขนของเอย์จิอย่างช้า ๆ และนุ่มนวลราวกับถูกอุ้มลงไป แขนซ้ายของเอย์จิประคองอยู่ที่หลังของเรกะ มือของเขาจับหัวไหล่เธอไว้ ในขณะที่แขนขวาช้อนอยู่ที่เอวของเธอ

เมื่อเรกะลืมตาใบหน้าของทั้งคู่เกือบจะชนกันโดยบังเอิญ จมูกของทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึง 1 นิ้ว ผิวหน้าของแต่ละคนสะดุดไออุ่นจากลมหายใจของอีกฝ่าย ทั้งคู่สบตากันแล้วหน้าแดง มือของเขาสัมผัสได้ถึงผิวอันนุ่มนิ่มร้อนผ่าวของเธอ จมูกสัมผัสได้ถึงน้ำหอมกลิ่นคล้ายเกรฟฟรุตจากตัวเธอ แขนขวาสัมผัสได้ถึงเอวคอดกิ่วสะโพกผายงอน

“ปะ ปล่อยได้แล้ว” เรกะละล่ำละลัก

“อะ อื้อ ขอโทษที” เอย์จิตอบเสียงสั่นแล้วค่อย ๆ ปล่อยเธอยืนช้า ๆ

“ชั้นต้องไปแล้ว” เรกะพูดเสียงแผ่วเบาโดยไม่มองหน้าชายหนุ่มแล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินขึ้นบันได

เอย์จิมองตามหลังเธอโดยไม่พูดอะไร เมื่อเรกะเดินไปถึงชั้น 2 ก็หันมาพูดว่า “เมื่อกี้ขอบใจนะ” เธอยิ้มให้เขาแล้วก็รีบเดินเข้าห้องเรียน

ชายหนุ่มค่อย ๆ เดินเงียบ ๆ ไปถึงห้องเรียนของเขา ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจากปากของเขา ไม่มีแม้แต่ความคิดอะไรอยู่ในสมอง เมื่อเขาเข้าไปในห้องฟูจิกับคอนจิก็ทักทายเขาพร้อม ๆ กัน “เฮ้! รุนหวัดเอย์จิ”

เอย์จิค่อย ๆ รู้สึกตัวแล้วตอบเบา ๆ ว่า “อรุณสวัสดิ์พวก”

เขาเดินไปที่โต๊ะตัวเอง ข้าง ๆ มีเรนะนั่งอยู่ “อรุณสวัสดิ์จ๊ะทาคุมิคุง” เธอยิ้มให้เอย์จิ

“อรุณสวัสดิ์เรนะ” เอย์จิยิ้มตอบ “วันนี้เธอเป็นเวรดูแลกระต่ายเหรอ” เอย์จิถามเรนะ

“จ๊ะ เลยต้องมาแต่เช้าเลย แล้วเธอรู้ได้ไงอ่ะ” เรนะทำหน้างง ๆ

“เรกะบอกหน่ะ เมื่อเช้าชั้นเจอเค้ากลางทาง” เอย์จิอธิบาย

“เช้านี้ทาคุมิคุงมาพร้อมกับพี่เรกะเหรอ” เรนะถาม

“อื้อ” เอย์จิตอบแล้วหลบสายตาเธอ

“ดีจังที่เธอเดินมาโรงเรียนเป็นเพื่อนพี่เรกะ ปกติพวกเราจะมาพร้อมกันหน่ะ” เรนะยิ้มให้เอย์จิอีกครั้ง

“อื้อ” พอเธอพูดจบผมก็ยิ้มให้เธอ

ระหว่างคาบเรียนเอย์จิยังแอบชำเลืองมองเรนะเหมือนทุกที แต่คราวนี้ใจเขาหมกมุ่นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนบันไดจนเขาต้องบอกกับตัวเองว่าจะต้องลบเรื่องนี้ออกไปจากหัวให้ได้

คาบเรียนที่สองเป็นวิชาทดลองเคมีนักเรียนทุกคนต้องย้ายไปเรียนที่ห้องแล็บ มีการแบ่งกลุ่มทดลองตามโต๊ะที่นั่งติดกันผมจึงได้อยู่กลุ่มเดียวกับเรนะ การทดลองวันนี้มีสารเคมีที่ต้องระวังอยู่บ้าง ทุกคนจึงต้องใส่แว่นป้องกันไอระเหยเข้าตา และถ้าสารหกใส่ผิวหนังจะทำให้ระคายเคืองได้ จึงต้องระมัดระวังให้ดี

ผมกับเรนะช่วยกันจัดอุปกรณ์ที่ใช้ทดลองในวันนี้และเตรียมสมุดบันทึกผลการทดลองให้พร้อมก่อนจึงค่อยไปหยิบสารเคมี

“เดี๋ยวชั้นไปเอาสารเอง” เอย์จิอาสา

“จ๊ะ ช่วยหน่อยนะ” เรนะยิ้มพลางขอบใจ

ระหว่างที่เอย์จิไปหยิบสารเคมีพวกคอนจิกับฟูจิก็แกล้งกันอยู่ข้าง ๆ โต๊ะเรนะ เอย์จิหยิบสารเคมีมาประมาณสิบชนิดถือใส่ถาดกลับมา พอเดินมาจะถึงโต๊ะพวกคอนจิที่แกล้งกันอยู่ก็เซมาชนเอย์จิเสียหลักล้มไปทางเรนะ ขวดใส่สารหกกระจายไปทุกทิศทุกทาง เรนะยืนตกใจหลับตาปี๋ทำอะไรไม่ถูก

“ระวัง!” เอย์จิตะโกนเตือนเรนะให้หลบแต่สายไปแล้ว เอย์จิเสียหลักล้มทับเธออย่างจัง แต่น่าประหลาดใจที่สารเคมีหกอยู่แค่รอบ ๆ ตัวทั้งคู่พอดี จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

“พวกนายไม่เป็นไรนะ” ฟูจิถามทั้งคู่ด้วยความเป็นห่วงปนสำนึกผิด

เมื่อเอย์จิได้สติจึงยันตัวเพื่อจะลุกขึ้นและตอบว่า “อื้อ ไม่เป็นไร” แต่เมื่อเขาลืมตาจึงพบว่ามือขวาของเขากุมอยู่ที่หน้าอกของเรนะโดยบังเอิญ เมื่อเรนะรู้ตัวจึงร้องกรี๊ดออกมาแล้วตบหน้าเอย์จิไปตามสัญชาติญาณ เธอผลักเอย์จิที่นั่งคร่อมเธอและวิ่งออกนอกห้องไป เอย์จิที่กำลังช็อกอยู่นิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก

คูมิยะที่นั่งอยู่อีกฝั่งของห้องหันมาทำหน้าดุใส่เอย์จิ “นายทำอะไรหน่ะ!” แล้วเธอก็วิ่งตามเรนะออกไป

“โทษทีนะเอย์จิพวกเราไม่ได้ตั้งใจ” พวกคอนจิสำนึกผิดแล้วช่วยเอย์จิเก็บกวาด

“นี่แนะ! เดี๋ยวส่งรายงานแล้วครูจะตัดคะแนนพวกเธอฐานเล่นกันระหว่างทดลอง” อาจารย์คุมแล็บทำหน้าถมึงทึงแล้วดึงหูทั้งคู่

“โอ้ยยยย พวกเราผิดไปแล้วคร้าบบบบ” ฟูจิกับคอนจิร้องเสียงโอดโอย

ในห้องน้ำหญิงคูมิยะปลอบเรนะอยู่ “เป็นไรมั้ย” คูมิยะถามด้วยความเป็นห่วง เรนะยังร้องไห้สะอื้น

“นายทาคุมิหน้าตาก็ดีแท้ ๆ ไม่น่าเป็นคนแบบนี้เลย” คูมิยะโมโหแทนเพื่อน

ซักพักเรนะเริ่มสงบสติอารมณ์ได้คูมิยะเลยชวนเธอ “เดี๋ยวเธอมานั่งทดลองกับกลุ่มชั้นละกัน”

“อื้อใจนะคูมิจัง ชั้นไม่เป็นไรแล้วหล่ะ” เรนะเริ่มหายสะอื้นแต่ตาเธอยังแดงก่ำ

พอกลับเข้าห้องคูมิยะไปขออาจารย์ให้เรนะย้ายมาทำแล็บกับกลุ่มเธอ เอย์จิเลยต้องย้ายไปอยู่กับกลุ่มฟูจิ จนกระทั่งจบคาบเรียนเรนะก็ไม่ได้หันมามองหน้าเอย์จิเลย พอนักเรียนทยอยออกจากห้อง เอย์จิจะเดินเข้าไปขอโทษเรนะ แต่เรนะรีบกลับห้องเรียนไปก่อน พอไปถึงห้องเรียนคูมิยะขอให้นาโอมิที่นั่งข้างเธอสลับที่กับเรนะชั่วคราวเพื่อความสบายใจ

พอนาโอมิมานั่งข้างเอย์จิ เธอก็ถามเขาว่า “เมื่อกี้ในแล็บนายไปทำอะไรเรนะเหรอ?”

“มันเป็นอุบัติเหตุหน่ะ ชั้นไม่ได้ตั้งใจ” เอย์จิตอบเสียงเศร้า ๆ แล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้นาโอมิฟัง

“อื้อ แย่หน่อยนะ” นาโอมิมองหน้าเอย์จิ “ชั้นว่ารอซักพักให้เรนะใจเย็นลง แล้วเธอค่อยไปขอโทษ เค้าก็น่าจะเข้าใจ เรนะเค้าไม่ใช่คนที่จะโกรธใครนานหรอก” พอฟังที่นาโอมิแนะนำ เอย์จิก็เริ่มมีสีหน้าดีขึ้น

“งั้นเดี๋ยวตอนเที่ยงชั้นจะไปขอโทษเค้าอีกที” เอย์จิเริ่มมีความหวัง

“โชคดีนะ” นาโอมิยิ้มให้เขา

พอพักเบรกก่อนคาบเรียนที่ 3 คูมิยะกับเรนะก็พากันออกจากห้อง เอย์จิได้แต่มองตามทั้งสองออกไป “พวกนั้นไปไหนกันนะ เรนะเป็นยังไงบ้าง” เขานั่งกังวลอยู่ในใจ

ทางด้านคูมิยะที่พาเรนะออกไปหาขนมทาน ซักพักเธอก็ถามเรนะว่า “เป็นไงมั่ง โอเคมั้ย”

“อื้อไม่เป็นไรแล้วหล่ะ เมื่อกี้ชั้นตกใจไปหน่อยหน่ะ” เรนะตอบเพื่อน

“นายทาคุมิทำอย่างงี้ได้ยังไง” คูมิยะยังไม่หายฉุน

“คูมิจังวันนี้ชั้นขอนั่งที่นาโอะจังไปก่อนได้มั้ย” เรนะขอร้องคูมิยะ

“คงได้มั้ง นาโอะจังคงเข้าใจ” คูมิยะตอบ

“จ๊ะ” เรนะตอบเสียงเบา ๆ

พอเข้าห้องเรียนคูมิยะก็ขอนาโอมิให้สลับที่กับเรนะไปก่อนซักวันซึ่งเธอก็ยินดี พอพักเที่ยงคูมิยะกับเรนะก็รีบออกจากห้อง เอย์จิที่มองตามทั้งคู่ก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก “เรนะคงไม่ยอมยกโทษให้แน่” เขาพึมพำกับตัวเอง

“คงต้องให้เวลาเค้าซักพักแหละ” นาโอมิปลอบเอย์จิ

“เอย์จิ! พวกเราไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะ” คอนจิชวน

“ใช่ ๆ พวกผู้หญิงพอท้องอิ่มอาจจะอารมณ์ดีขึ้นมั่งก็ได้” ฟูจิมองโลกแง่ดี

“ขอบใจนะ พวกนายไปกันก่อนเถอะเดี๋ยวชั้นตามไป” เอย์จิยังไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรตอนนี้เพราะเขากังวลอยู่กับเรื่องของเรนะเท่านั้น

“งั้นชั้นไปทานข้าวก่อนนะ” นาโอมิเดินไปหากลุ่มเพื่อนของเธอ

“อย่าคิดมากน่า ไม่มีอะไรหรอก” ฟูจิปลอบแต่เอย์จิยังคงนิ่ง

“...งั้นพวกเราไปก่อนละกัน แล้วรีบตามมานะพวก” คอนจิพูดแล้วเดินไปพร้อมฟูจิ

เมื่อพวกฟูจิก็ไปถึงโรงอาหาร คูมิยะก็เข้ามาคุยด้วย “ฟูจิ คอนจิ”

“มีอะไรเหรอคูมิยะ” คอนจิหันไปหาเธอ

“วันนี้พวกนายแยกนั่งอีกโต๊ะไปก่อนได้มั้ย” คูมิยะขอร้องพวกฟูจิ

“อื้อได้สิ เรนะเป็นไงมั่ง” ฟูจิถามถึงเรนะ

“มันเป็นอุบัติเหตุจริง ๆ นะ เอย์จิมันไม่ได้ตั้งใจหรอก” คอนจิช่วยอธิบาย

“จริง ๆ แล้วพวกเราก็มีส่วนผิด ขอโทษนะ” ฟูจิพูดน้ำเสียงสำนึกผิด

“อื้อ รอให้เค้าดีขึ้นก่อนละกัน ขอโทษพวกนายด้วยนะ” คูมิยะทำเสียงละห้อย

“ไม่เป็นไร / ไม่มีปัญหา” ฟูจิกับคอนจิพูดเกือบจะพร้อมกัน

“ขอบใจมากนะ” คูมิยะยิ้มจาง ๆ

เอย์จินั่งซึมอยู่ซักพักก็ค่อย ๆ ลุกออกไปจากห้อง พอกำลังจะเดินลงบันไดเรกะก็วิ่งมาข้างหลัง

“นายทำอะไรเรนะหน่ะ!!!” เรกะวิ่งมาทำเสียงดุ

“เปล่า…คือชั้นขอโทษ ชั้นไม่ได้ตั้งใจ” เอย์จิหน้าเสีย

“ชั้นรู้เรื่องหมดแล้ว ไม่นึกเลยนะว่านายจะเป็นพวกชอบฉวยโอกาส” เรกะโมโหมาก

“เปล่านะ มันเป็นอุบัติเหตุจริง ๆ” เอย์จิพยายามอธิบาย

“แต๊ะอั๋งน้องชั้นแล้วยังมาบอกว่าเป็นอุบัติเหตุอีกเรอะ” เรกะทำหน้าดุ

“ชั้นไม่เคยคิดจะทำอย่างงั้นเลยจริง ๆ นะ” เอย์จิยังพยายามพูดให้เรกะเข้าใจ

“แล้วที่นายทำลงไปหล่ะ ยังจะมีหน้ามาพูด” เรกะยังโกรธ

“ชั้นสาบานได้เลยว่าชั้นไม่มีวันทำร้ายเรนะเด็ดขาด” เอย์จิทำสีหน้าจริงจัง

“คิดว่าชั้นจะเชื่อที่นายพูดเหรอ” เรกะยังไม่เชื่อเอย์จิ

“เชื่อชั้นเถอะนะ เพราะชั้น…” เอย์จิหยุดพูดกลางคัน

“เพราะชั้นทำไม!?! ถ้าจะพูดก็พูดมาให้จบ” เรกะสั่งให้เอย์จิพูดต่อ

เอย์จิยืนเงียบไปพักนึงเขาทำหน้าจริงจังแล้วก็พูดว่า “เพราะชั้นชอบเรนะ!!!”

เรกะอึ้ง! เธอค่อย ๆ มองตาเอย์จิ ทั้งคู่ยืนเงียบ ๆ ซักพักแล้วเอย์จิก็บอกว่า “ชั้นไปกินข้าวก่อนนะ พวกคอนจิรออยู่” แล้วเขาก็เดินลงบันไดไป

เมื่อเอย์จิเดินมาถึงโรงอาหาร เรนะที่ทานข้าวไปคอยชะเง้อมองหาเอย์จิไป พอเธอเห็นเอย์จิเดินเข้ามาเธอก็หลบสายตา เรนะเอาแต่ก้มหน้าทานข้าวโดยไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา

เอย์จิมองหาเรนะซักพัก ก็เห็นเธอนั่งทานข้าวอยู่กับเพื่อน ๆ เขาทำตาละห้อยมองไปที่เรนะ แต่เรนะที่รู้ว่ากำลังถูกมองไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา คูมิยะกับนายะเห็นอาการของทั้งคู่โดยตลอดก็ได้แต่ถอนหายใจโดยไม่ได้พูดอะไร

พอเอย์จิซื้อข้าวเสร็จคอนจิก็เดินมาหา “พวกเรานั่งอยู่โต๊ะนั้น” คอนจิชี้ไปที่ฟูจิที่นั่งจองโต๊ะอยู่

“อื้อ ไปกันเถอะ” เอย์จิพูดเสียงเหมือนคนหมดแรงแล้วเดินไปหาฟูจิ

ซักพักเรกะก็ถืออาหารมานั่งที่โต๊ะพวกเรนะ แล้วคูมิยะก็บ่นให้เรกะฟัง “นายทาคุมิไม่น่าเล้ยยย”

“อื้อ” เรกะตอบรับเสียงเบา ๆ แต่ไม่กล้าสบตาคูมิยะ

“บางทีเค้าอาจจะไม่ตั้งใจก็ได้นะ” นายะพูด

“ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ไม่รู้แหละ แต่นายนั่นทำเรนะร้องไห้นะ” คูมิยะโมโห

“อื้อ คงงั้นมั้ง” เรกะก้มหน้าพูดเสียงแผ่ว ๆ

“พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเหมือนไม่ค่อยสบายตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” เรนะถามพี่สาวด้วยความเป็นห่วง

“อ๋อ! เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่เธอเหอะเป็นไงมั่ง” เรกะมีน้ำเสียงเลิ่กลั่กแล้วย้อนถามน้องสาว

“เค้าดีขึ้นแล้วหล่ะ” เรนะฝืนยิ้ม

หลังจากพวกเรนะกำลังจะเดินกลับห้องเรียน เอย์จิก็เดินมาหาเรนะที่ทางออกโรงอาหาร เรกะมองเอย์จิด้วยสายตาที่ซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ ส่วนเรนะแอบมองเอย์จิแค่แวบเดียวแล้วไม่กล้าสบตาเขาต่อ ส่วนคูมิยะกับนายะที่ยืนอยู่ข้างหลังได้แต่มองเอย์จิเงียบ ๆ

“เอ่อ คือชั้นจะมาขอโทษเรื่องเมื่อตอนเช้าหน่ะ” เอย์จิมองหน้าเรนะแล้วขอโทษด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด เรกะกับคูมิยะไม่ได้พูดอะไร ทั้งคู่ได้แต่ยืนนิ่งเงียบรอฟังคำตอบจากเรนะ แต่เธอไม่ได้พูดอะไร ทั้งหมดยืนนิ่งกันซักอึดใจแล้วเรนะก็เดินก้มหน้าผ่านเอย์จิไป พวกเรกะพากันเดิมตามเธอไป ปล่อยให้เอย์จิยืนเศร้าอยู่คนเดียว ซักพักพวกคอนจิก็เดินมาข้างหลังเขาแล้วก็ตบไหล่เบา ๆ

“ไม่เป็นไรนะพวก” คอนจิปลอบใจเพื่อน

“ไม่ต้องคิดมากนะ ทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่” ฟูจิพูดอย่างมั่นใจ

“ปะ กลับห้องกัน” คอนจิเดินนำเอย์จิที่หมดเรี่ยวแรงกลับห้องเรียน

ตลอดช่วงบ่ายเอย์จิไม่มีโอกาสคุยกับเรนะเลย พอโรงเรียนเลิกเอย์จิจึงเดินกลับบ้านตามลำพัง เขาคิดว่าเรนะคงไม่มีวันยกโทษให้เขาอีกแล้ว ตกกลางคืนเขากังวลเรื่องเรนะจนข่มตานอนไม่หลับ ในใจหวังให้สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเพียงแค่ฝันร้าย ตอนนี้เขายอมแลกทุกอย่างเพื่อให้เธอยกโทษให้

ในขณะเดียวกันที่บ้านฮิเมะ เรกะเคาะประตูห้องน้องสาว “เรนะหลับรึยัง ขอพี่เข้าไปหน่อยนะ”

“ค่ะพี่” เรนะตอบ

เรกะเปิดประตูเข้าไปเห็นน้องสาวนอนห่มผ้าบนเตียงตรียมตัวจะนอน “หลับแล้วเหรอ? พี่มากวนเธอรึเปล่า?” เธอถามน้องสาว

“นอนเล่น ๆ ค่ะยังไม่หลับหรอก พี่มีอะไรเหรอ” เรนะตอบพี่สาว

“เปล่า แค่มาดูว่าเธอเป็นไงมั่งอ่ะ” เรกะถามด้วยความเป็นห่วง

“เค้าไม่เป็นไรแล้วแหละ” เรนะตอบ

“แล้วกับตาคนนั้นหล่ะ” เรกะถามถึงเอย์จิ

เรนะนิ่งไปพักนึงแล้วพูดว่า “เค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“ไม่รู้นี่หมายความว่าไงเหรอ” เรกะไม่เข้าใจน้องสาว

“คือใจนึงเค้าก็คิดว่าทาคุมิคุงอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้ แต่อีกใจก็ยังรู้สึกแย่ ๆ อยู่อ๊ะ” เรนะอธิบายความรู้สึก

เรกะถอนหายใจแล้วพูดว่า “ถ้าพรุ่งนี้หมอนั่นมาขอโทษเธอจะว่าไง ไม่สิ! แค่หมอนั่นเดินเข้ามาหาแล้วเธอจะทำไง”

“ไม่รู้สิคะพี่ เค้ายังไม่กล้ามองหน้าทาคุมิคุงหน่ะ” เรนะตอบ

“พี่ก็เข้าใจเธอนะ แต่เธอน่าจะลองฟังเหตุผลของเค้าหน่อย จริง ๆ แล้วเธอก็ไม่คิดว่าเค้าเป็นคนไม่ดีใช่มั้ยล่ะ” เรกะถามใจน้องสาว

“จ๊ะพี่ ขอเวลาเค้าทำใจซักระยะนะ” เรนะตอบ

“อื้อ แต่อย่าให้มันนานนักล่ะ เดี๋ยวจะกลับมาคืนดีกันไม่ได้” เรกะเตือนน้องสาว

“จ๊ะพี่” เรนะรับคำ

“งั้นพี่ไปนอนก่อนนะ” เรกะกำลังจะเดินออกจากห้อง

“เอ่อ เดี๋ยวก่อนค่ะพี่” น้องสาวเรียกพี่สาวที่กำลังจะเปิดประตู

“มีอะไรเหรอ” เรกะหันมามองน้อง

“คือพรุ่งนี้อ่ะเค้าต้องนั่งติดกับทาคุมิคุง แต่เค้ายังไม่พร้อมอ๊ะ จะรบกวนนาโอะจังอีกก็...” น้องสาวพูดเสียงค่อย

เรกะมองหน้าน้องสาวแล้วถอนหายใจ “เธอนี่น้าเหมือนสมัยเด็ก ๆ ไม่เปลี่ยนเล้ย ไม่เป็นไรงั้นพรุ่งนี้เราสลับตัวกันก็ได้ โอเคมั้ย”

“ขอบคุณนะคะ เวลาเค้ามีปัญหาก็ต้องพึ่งพี่ทุกครั้งเลย” เรนะยิ้มอย่างไร้เดียงสา

“จ้า ๆ ก็เธอเป็นน้องสาวสุดที่รักนี่ ไม่ช่วยเธอแล้วจะช่วยใคร” เรกะยิ้มตอบ

“ราตรีสวัสดิ์นะ” เรกะเปิดประตูเดินออกไป

“ฝันดีค่ะพี่” เรนะตอบ

วันรุ่งขึ้นเอย์จิฝืนลุกขึ้นเพราะนาฬิกาปลุก เขาหน้าตาซีดเซียวเพราะอดนอน พออาบน้ำแล้วเขาทานอาหารเช้าได้เพียงเล็กน้อยก็รีบไปโรงเรียน เมื่อผ่านหน้าปากซอยโคโคเนะเขามองเข้าไปอย่างมีความหวังเล็ก ๆ ว่าจะได้เจอเรนะ แต่แล้วก็เป็นเพียงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ เขาเดินไปจนถึงหน้าโรงเรียนก็เจอคูมิยะกับนายะเดินนำหน้าอยู่ พอทั้งสองรู้ตัวว่าเอย์จิอยู่ข้างหลังจึงหยุดรอ

“หวัดดีทาคุมิคุง” คูมิยะทักทาย

“หวัดดีสึสึโมะ คิโมอูเนะ” เอย์จิทักทายทั้งคู่ด้วยน้ำเสียงห่อเหี่ยว

“หวัดดี” นายะทักตอบ

“ทำไมขอบตาคล้ำเชียว เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ” คูมิยะถามด้วยความเป็นห่วง

“อื้อ นอนไม่ค่อยหลับหน่ะ” เอย์จิตอบเสียงค่อย

“มัวแต่คิดเรื่องเมื่อวานอยู่เหรอ ไม่ต้องคิดมากหรอกบางทีเรนะอาจจะหายโกรธแล้วก็ได้” คูมิยะช่วยพูดให้เอย์จิสบายใจ

“ถ้าได้อย่างงั้นก็ดีสิ” เอย์จิถอนหายใจ

“ว่าแต่นายไม่ได้ตั้งใจจะแต๊ะอั๋งเรนะจริง ๆ ใช่มะ” คูมิยะถามเพื่อความมั่นใจ

“ชั้นไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ เชื่อชั้นเถอะ” เอย์จิตอบเสียงละห้อย

“อื้อ ชั้นเชื่อนายละกัน คิดว่านายคงไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก” คูมิยะตอบ

“ใจเย็น ๆ นะแล้วพวกเราจะช่วยพูดให้อีกแรง” นายะพูด

“ขอบใจพวกเธอมากนะ” เอย์จิค่อยสบายใจขึ้น

พอขึ้นไปชั้น 2 นายะแยกตัวไปห้องของเธอ เอย์จิเดินเข้าห้องแล้วไปนั่งที่โต๊ะของเขา โต๊ะตัวข้าง ๆ ยังว่างเปล่า เขาจึงนั่งคุยกับพวกฟูจิไปพลาง ๆ พอใกล้เวลาเข้าเรียนเรกะก็สวมรอยเป็นเรนะเดินเข้ามาในห้อง ไม่มีใครเอะใจเลยว่าเธอไม่ใช่เรนะ

เอย์จิที่เข้าใจผิดลุ้นว่าวันนี้เธอจะสลับที่กับนาโอมิอีกรึเปล่า เรกะไปทักทายคูมิยะอยู่พักนึง แล้วเธอก็เดินไปทักทายเพื่อน ๆ คนอื่นในห้อง เสร็จแล้วก็เดินมานั่งที่โต๊ะของเรนะ เอย์จิชำเลืองมองเรกะแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะทักทายเธอ แล้วเรกะก็เป็นฝ่ายหันมาคุยกับเอย์จิก่อน

“เอ่อ อรุณสวัสดิ์ทาคุมิคุง” เรกะพยายามพูดให้เหมือนเรนะ

พอเอย์จิเห็นว่าเรนะยอมคุยกับเขาแล้วจึงดีใจมากแล้วตอบว่า “อรุณสวัสดิ์เรนะ เมื่อวานชั้นต้องขอโทษด้วยนะ คือชั้นไม่ได้ตั้งใจหน่ะ”

เรกะนิ่งเงียบ เธอกำลังคิดว่าควรจะตอบยังไงดี แล้วเธอก็ตอบไปว่า “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว ช่างมันเถอะ เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจนี่”

“ขอบใจมากนะ เมื่อคืนชั้นนอนไม่หลับเลย มัวแต่คิดว่าเธอจะให้อภัยชั้นรึเปล่า” เอย์จิพูดด้วยน้ำเสียงมีความสุขมาก

เรกะนึกในใจว่า “หมอนี่ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอที่ได้คืนดีกับเรนะ”

พวกฟูจิที่นั่งข้างหน้าเห็นทั้งสองคืนดีกันได้ก็สบายใจเลยหันมาคุยกับทั้งคู่แบบครื้นเครงอีกครั้ง บรรยากาศในห้องเริ่มกลับมาเป็นอย่างเดิม ตลอดคาบเรียนเอย์จิแอบมองเรกะเหมือนที่เคยมองเรนะ บางครั้งก็ชวนเธอคุย บางครั้งก็ยิ้มให้เธอจนเรกะหมั่นไส้ เธอนึกในใจว่า “หนอยพอได้นั่งข้างเรนะแล้วกระดี๊กระด๊าเชียวนะ”

ในคาบเรียนคณิตศาสตร์เรกะลืมเอาหนังสือเรียนมา เอย์จิเลยบอกว่า “เรนะดูกับชั้นก็ได้นะ” แล้วเขาก็เขยิบหนังสือไปใกล้ ๆ เธอ

เรกะตอบว่า “อื้อ ใจนะ”

ซักพักเรกะทำยางลบตก เอย์จิก็ลงไปเก็บให้เธอ “อะนี่” เขายื่นยางลบให้เธอ

“อะอื้อ” เรกะขอบใจแบบไม่เต็มเสียง

ส่วนคูมิยะที่นั่งมองอยู่อีกฟากได้แต่ถอนหายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คาบต่อไปเป็นวิชาเกษตรโดยทั้งคู่เป็นเวรไปเอาอุปกรณ์ เอย์จิกับเรกะเดินไปที่ห้องเก็บอุปกรณ์ด้วยกัน พวกเขาค่อย ๆ เอาของใส่ในรถเข็น แล้วเอย์จิบอกกับเรกะว่า “เรนะขนแต่ของเบา ๆ ก็ได้ เดี๋ยวของหนัก ๆ ชั้นจัดการเอง”

เรกะตอบว่า “อื้อใจนะ” แต่เธอนึกฉุนในใจว่า “หมอนี่ไม่ได้เอะใจเลยเหรอว่าเราไม่ใช่เรนะ น่าโมโหนักทีกับเราละพูดจาแข็งกระด้าง ทีกับเรนะละทำใจดีเชียว”

พอเอาของขึ้นรถเสร็จ เอย์จิก็ทำท่าจะเข็นรถคนเดียวแต่เรกะก็พยายามเอามือมาแตะ ๆ หมายจะช่วยขนด้วย เอย์จิจึงบอกกับเธอว่า “ไม่เป็นไรหรอก ชั้นเข็นคนเดียวได้”

“อย่าเลยชั้นไม่อยากเอาเปรียบเธอ” เรกะตอบแล้วก็ฝืนเอามือจับรถเข็นไว้พลางฉุนอยู่ในใจ

เนื่องจากทั้งคู่เข็นรถไปตามทางที่ขรุขระทำให้รถตกหลุมหลายครั้งจนทำให้แขนของทั้งคู่มาแตะกันโดยบังเอิญ ทั้งคู่หันไปสบตากันแล้วหน้าแดงนิด ๆ ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้กันเกือบจะเท่ากับเหตุการณ์บนบันได

“ระวังหน่อยนะแถวนี้หลุมเยอะหน่ะ” เอย์จิพูดเสียงตะกุกตะกัก เขานึกในใจว่า “วันนี้เรนะน่ารักจัง กลิ่นหอมอ่อน ๆ แบบนี้เหมือนเคยเจอไหนนะ?”

“อะ อื้อ ขอบใจนะ” เรกะตอบแล้วเบือนหน้าหนีเอย์จิ เธอนึกในใจว่า “แย่จัง ครั้งที่ 2 แล้วนะที่เจอแบบนี้”

แล้วต่างคนก็ขยับตัวให้ออกห่างกัน พอไปถึงแปลงเกษตรอาจารย์ก็แจกจ่ายอุปกรณ์ให้นักเรียนแต่ละคนแล้วก็สั่งงานที่จะให้ทำวันนี้ เอย์จิ เรกะ คอนจิและฟูจิอยู่กลุ่มเดียวกัน พวกผู้ชายช่วยกันพรวนดินจนเหนื่อย ส่วนเอย์จิให้เรกะเตรียมของเล็ก ๆ น้อย ๆ พอพักเที่ยงพวกเอย์จิก็พากันไปกินข้าว ระหว่างทางเรนะกับนายะก็เดินมาสมทบ
เอย์จิก็หันไปยิ้มทักทายเรนะ “หวัดดีเรกะ!”

นายะมองหน้าคูมิยะกับเรกะแบบไม่ค่อยสบายใจ “อะ อื้อ หวัดดีทาคุมิคุง” เรนะอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ทักเอย์จิ เธอพยายามพูดให้คล้ายเรกะมากที่สุด

เรกะมองเรนะแล้วนึกในใจ “แย่หล่ะสิ!!! ลืมไปว่าตอนเที่ยงก็ต้องมานั่นกินข้าวด้วยกันอยู่ดี” ส่วนเรนะก็นึกในใจว่า “แย่แล้ว!!! ทำไงดีอ๊ะ” แล้วเธอก็หันไปมองหน้าพี่สาวด้วยสายตาเว้าวอน แต่เรกะก็ส่งสายตาบอกว่าไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน เรนะเลยต้องเดินไปพลางหลบสายตาเอย์จิไปพลาง

แม้คอนจิกับฟูจิจะคบหากับสองพี่น้องฮิเมะมานานแต่ทั้งคู่ก็ไม่เอะใจว่าสองพี่น้องฝาแฝดแอบสลับตัวกัน พอไปถึงโรงอาหารฟูจิอาสาไปจองโต๊ะ ปล่อยให้พวกผู้หญิงไปซื้ออาหารกันก่อน ส่วนเอย์จิกับคอนจิรับอาสาไปซื้อน้ำมาให้ทุกคน ระหว่างที่คูมิยะกับนายะฝากคอนจิซื้อน้ำ เอย์จิก็หันไปหาสองพี่น้องฮิเมะ

“เรนะอยากจะดื่มอะไรหล่ะ” เอย์จิถามเรกะ

“เอ่อ เอาเป็นโค้กก็แล้วกัน...จ๊ะ” เรกะเกือบลืมที่จะต้องพูดให้คล้ายน้องสาว

“แล้วเรกะหล่ะ” เอย์จิถามเรนะต่อ

“อะ อะ เอ่อ ชั้นเอาสไปร์ทก็แล้วกันจ๊ะ” เรนะอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ตอบโดยไม่กล้ามองหน้าเอย์จิ

“วันนี้เธอไม่สบายรึเปล่า ดูแปลก ๆ ไปนะ” เอย์จิทักเรนะที่มีพิรุธ

“ปะ เปล่านี่ ทำไมเหรอ” เรนะตอบเสียงค่อย

“เปล่า ก็ดูเหมือนเธอไม่ค่อยร่าเริง ถ้าไม่มีอะไร...งั้นเดี๋ยวชั้นไปซื้อน้ำก่อนนะ” แล้วเอย์จิก็เดินไปกับคอนจิ

เรกะนึกโมโหในใจว่า “ใช่ซี๊ ชั้นมันร่าเริงเกินเหตุ ไม่น่ารักเรียบร้อยเหมือนเรนะนี่”

แล้วเรนะก็จูงเรกะไปซื้อข้าวด้วยกัน เธอกระซิบถามพี่สาวว่า “ทำไงดีคะพี่”

“ใจเย็น ๆ นายทาคุมินั่นไม่เอะใจซักนิด เธอก็ปลอมตัวเป็นชั้นต่อไปละกัน ไม่ต้องลุกลี้ลุกลน” เรกะบอกน้อง

“แต่เค้ากลัวความแตกอ่ะพี่” เรนะทำเสียงกระวนกระวายใจ

“เอาน่าเดี๋ยวกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันกลับห้องแล้ว แปบเดียวเองทนหน่อยละกัน” เรกะตอบ

ระหว่างที่ต่อแถวอยู่คูมิยะกับนายะที่ซื้ออาหารเสร็จก่อนก็เดินมาหาสองพี่น้อง “เป็นไงหล่ะจะสลับตัวเพื่อหนีหน้าเค้า คราวนี้ละงานเข้าเลย” คูมิยะแซวเรนะ

“คูมิจังละก็อย่าว่ากันซิ” เรนะหน้าเสีย

“ชั้นว่าเธอน่าจะคุยกับเค้าตรง ๆ นะ เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้” นายะแนะนำ

“ให้มันผ่านวันนี้ไปได้ก่อนเถ๊อะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที” เรกะถอนหายใจ

“ชั้นก็ว่างั้น พวกเราไปรอที่โต๊ะก่อนนะ” คูมิยะพูดแล้วพากันเดินไปที่โต๊ะพร้อมนายะ

พอคูมิยะและนายะกลับไปที่โต๊ะ ฟูจิก็ขอตัวไปซื้ออาหาร ซักพักสองพี่น้องก็เดินกลับมา ทั้งคู่นั่งข้าง ๆ กันโดยต่างคนต่างไม่มีกะจิตกะใจจะคุยอะไร ซักพักเอย์จิกับคอนจิก็ถือถาดเครื่องดื่มมา คอนจิเอาเครื่องดื่มให้คูมิยะกับนายะแล้วก็เดินไปซื้อข้าว

ฝ่ายเอย์จิพอยื่นโค้กให้เรกะแล้วก็พูดว่า “อะเรนะ”

ปรากฏว่าเรนะตัวจริงเผลอหันไปรับโค้กจากเขา!!! เอย์จิทำหน้างง เรนะตกใจมาก คูมิยะกับนายะทำหน้าตาตื่นแต่เรกะยังมีสติ เธอยื่นมือไปรับโค้กจากมือเรนะแล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะพี่”

เรนะที่หน้าซีดทำเสียงอ้อมแอ้มว่า “ไม่เป็นไร”

แล้วเอย์จิก็ยื่นสไปร์ทให้เรนะ จึงเดินไปซื้อข้าว พอเอย์จิเดินห่างจากโต๊ะพอสมควร คูมิยะก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “เกือบไปแล้วมั้ยหล่ะ”

“ขอโทษนะ” เรนะพูดเสียงอ่อย

“ไม่ต้องคิดมากหรอก” เรกะบอกน้อง

พอพวกผู้ชายกลับมาบรรยากาศเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง สองพี่น้องฮิเมะก้มหน้าก้มตาทานข้าวโดยไม่กล้าสบตากันเลย ฟูจิกับคอนจิมองหน้ากันด้วยความสงสัย ส่วนคูมิยะกับนายะก็ได้แต่ทำหน้าเซง ๆ

ซักพักคูมิยะก็ชวนคุยเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น “ตกลงพรุ่งนี้พวกเราจะไปโต้คลื่นที่หาดมิสึกันมั้ย”

“อื้อ แล้วจะเจอกันกี่โมงดีหล่ะ” ฟูจิถาม

“ก็สาย ๆ หน่อยเป็นไง” เรกะออกความเห็น แต่เอย์จิมองเธอด้วยสายตางง ๆ ว่าทำไมเรนะดูแปลก ๆ ไป พอเรกะรู้ตัวก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไป

“งั้นซัก 9 โมงดีมั้ย จะได้ไม่ร้อนเกินไป” คูมิยะถามความเห็นเพื่อน ๆ

“อือ ชั้นโอเค” คอนจิตอบ

“ชั้นก็ไม่มีปัญหา” ฟูจิตกลง

“ชั้นยังไงก็ได้ เพราะบ้านอยู่ใกล้ ๆ คูมิจังอยู่แล้ว” นายะพูด

“แล้วพวกเธอหล่ะ” คูมิยะหันไปถามเรกะ

“พวกเราไม่มีปัญหา จ๊ะ” เรกะระวังตัวไม่ให้ดูมีพิรุธ

“อื้อ” เรนะนั่งตัวเกร็งเพราะกลัวความแตก เธอเลยพยายามพูดให้น้อยที่สุด

“แล้วเอย์จิหล่ะว่าไง” ฟูจิถาม

“ชั้นยังไงก็ได้อยู่แล้ว” เอย์จิตอบ

“งั้นเป็นอันตกลงตามนี้นะ พรุ่งนี้ 9 โมงเจอกันที่ร้านมารีนน่า” คูมิยะย้ำ

“อื้อ” พวกผู้ชายตอบเกือบจะพร้อมกัน

พอทานข้าวกันเสร็จแต่ละคนก็แยกย้ายกลับห้อง แต่เอย์จิบอกคอนจิว่ามีเรื่องคุยกับเรกะนิดหน่อย เลยขอแยกตัวไปกับเรนะและนายะ ฝ่ายเรกะตัวจริงก็มองตามเรนะด้วยความเป็นห่วง

ก่อนที่เรนะจะเข้าห้องเอย์จิก็บอกว่า “เอ่อ เรกะ...คือเรื่องเมื่อวานหน่ะ”

เรนะทำหน้างงแล้วตอบว่า “เรื่องอะไรเหรอ”

“เรื่องเมื่อตอนกลางวันไงที่เธอคุยกับชั้นก่อนไปโรงอาหารอ่ะ” เอย์จิเตือนความจำ

“มีอะไรเหรอจ๊ะ” เรนะพยายามถามเลี่ยง ๆ ไม่ให้เอย์จิจับได้ แต่ก็ยังไม่วายส่อพิรุธ

“ที่ชั้นบอก เอ่อ...บอกกับเธอว่าชั้นชอบเรนะไง” เอย์จิพยายามพูดให้เสียงค่อยที่สุด

เรนะอึ้งนึกว่าตัวเองหูฝาด เธอพูดอะไรไม่ออกได้แต่คิดในใจว่า “เอ๋! อะไรนะ!?! เมื่อกี้ทาคุมิคุงว่าอะไร!?!”

พอเอย์จิเห็นเรนะอึ้งไปเลยกระซิบเธออีกทีว่า “เรื่องเมื่อวานไงที่ชั้นบอกเธอว่าชั้นแอบชอบเรนะหน่ะลืมแล้วเหรอ”

เรนะหน้าแดงหัวใจเธอเต้นโครมครามในใจคิดว่า “เอ๋! ทาคุมิคุงบอกว่าชอบชั้นงั้นเหรอ ทำไงดีอ๊ะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครมาพูดแบบนี้เลย…” เธอละล่ำละลักตอบเอย์จิว่า “จะ จ๊ะ”

เอย์จิพูดต่อว่า “ชั้นขอร้องเธออย่าไปบอกเรนะได้มั้ย คือชั้นยังไม่พร้อมหน่ะ”

เรนะยังอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ตอบว่า “ดะ ได้จ๊ะ” ตอนนี้เธอประหม่าไปหมดจนลืมไปแล้วว่าเธอยืนอยู่ในฐานะเรกะ

แต่เอย์จิที่มัวแต่อายที่จะต้องพูดเรื่องนี้ก็ไม่ทันสังเกต เขาพูดต่อว่า “ขอบใจมากนะเรกะ ชั้นไปหล่ะ” เขายิ้มให้เรนะแล้วรีบวิ่งกลับห้อง ปล่อยให้เธอยืนหน้าแดงอยู่คนเดียว ซักพักเรนะก็เดินเหม่อลอยไปที่โต๊ะของเรกะ

นายะเห็นเรนะมีอาการแปลก ๆ เลยถามเธอว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

เรนะที่ใจลอยอยู่ไม่ได้ยินที่เพื่อนถามจนกระทั่งนายะสะกิดเธอ ๆ จึงสะดุ้งแล้วพูดว่า “เมื่อกี้ว่าอะไรนะจ๊ะ”

นายะส่ายหัวแล้วตอบว่า “เมื่อกี้ทาคุมิคุงเค้ามาคุยอะไรเหรอ”

พอเรนะได้ฟังที่นายะถามก็อายหน้าแดง ใจนึกถึงคำพูดของเอย์จิเมื่อกี้ เธอก้มหน้าหลบตานายะแล้วบอกว่า “มะ ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ” นายะเห็นอาการของเพื่อนจึงไม่ถามอะไรต่อ

พอเอย์จิกลับมานั่งที่โต๊ะด้วยท่าทางสดชื่นเรกะก็เลยสงสัยว่าเขาไปคุยอะไรมา บรรยากาศการเรียนช่วงบ่ายก็ยังเหมือนเมื่อตอนเช้า เอย์จิยังอ่อนโยนกับเรกะเหมือนเดิม แต่ยิ่งเขาทำดีกับเธอมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เธอหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น จนเรกะคิดในใจว่า “วันนี้เราเป็นอะไรไปนะ ทำไมอะไร ๆ มันขวางหูขวางตาไปหมด”

พอเลิกเรียนทุกคนก็มารวมกันที่หน้าประตูตึก ขณะนั้นฝนกำลังตกพรำ ๆ แต่นักเรียนส่วนใหญ่ก็เตรียมร่มมาอยู่แล้ว เอย์จิเอาร่มที่ยืมจากเรกะมาคืนเธอด้วย

“อะเรกะวันก่อนขอบใจมากนะ” เอย์จิยื่นร่มไปทางสองพี่น้อง

ด้วยความที่เรกะหงุดหงิดมาตั้งแต่ช่วงบ่ายประกอบกับเรนะยังคงใจลอยกับคำพูดของเอย์จิ เรนะจึงไม่ได้ยื่นมือไปรับร่มในขณะเดียวกันเรกะก็เผลอยื่นมือออกไปแล้วพูดว่า “อื้อไม่เป็นไร”

เอย์จิเลยทำหน้างง คูมิยะกับนายะทำหน้าตื่น พอเรกะรู้สึกตัวก็เผลออุทานออกมาว่า “แย่แล้ว!!!” เรนะที่รู้สึกตัวพร้อม ๆ กับพี่สาวก็หน้าซีด

คอนจิตกใจแล้วพูดว่า “พวกเธอสลับตัวกันเหรอ”

เอย์จิที่เริ่มเข้าใจเรื่องราวถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก เพราะเรนะที่ใส่ชุดนักเรียนของห้อง 1/8 แท้จริงแล้วเป็นเรกะมาตลอด และคนที่เขาเข้าใจว่าเป็นเรกะกลับเป็นเรนะ!
เรนะที่ตกใจหน้าซีดรีบก้มหัวลงขอโทษเอย์จิ “ขอโทษนะจ๊ะทาคุมิคุง” แล้วเธอก็วิ่งตากฝนออกจากโรงเรียนไป

แล้วเรกะก็รีบวิ่งถือร่มตามเรนะไปและตะโกนเรียกน้องสาวให้หยุด “รอเดี๋ยวเรนะ!”

คูมิยะที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ถอนหายใจแล้วพึมพำกับตัวเองว่า “ไม่น่าเล้ย”

ส่วนนายะก็ได้แต่ทำหน้าเซง ๆ พวกผู้ชายก็ได้แต่อึ้งพูดอะไรไม่ออก ซักพักฟูจิก็บอกว่า “เอย์จินายรีบตามเรนะไปก่อนเถอะ”

“งั้น ชั้นไปก่อนนะ” เอย์จิรับคำแล้วรีบวิ่งไป

เขาวิ่งตามไปจนถึงปากซอยโคโคเนะก็ยังไม่เจอสองพี่น้อง เขาลังเลว่าจะวิ่งเข้าไปดูในซอยดีหรือเปล่าแต่เขาก็ไม่รู้จักบ้านของพวกเธอ สุดท้ายเขาตัดสินใจวิ่งเข้าไปในซอยซักระยะแต่ก็ไม่เจอใคร เขาจึงเดินกลับบ้านในใจคิดว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงได้เจอกัน

ตกกลางคืนเอย์จินอนคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้อย่างสับสน ตกลงเรนะที่นั่งข้างเขาตั้งแต่เช้าเรนะที่ยกโทษให้เขาจริง ๆ แล้วเป็นเรกะ แล้วเรนะตัวจริงหล่ะยกโทษให้เขารึยัง แล้วยังมีเรื่องที่เขาคุยกับเรนะหลังทานข้าวอีก

แสดงว่าตอนนี้เรนะรู้ความจริงหมดแล้วว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอ แล้วถ้าพรุ่งนี้เจอหน้ากันเขาจะทำยังไง บางทีพรุ่งนี้เรนะอาจจะไม่ไปเที่ยวกับพวกเราก็ได้ ถ้าเธอหลบหน้าเขาโดยที่เขายังไม่มีโอกาสขอโทษเธอ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอจะเป็นยังไงต่อไป พวกเราจะมีโอกาสกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกหรือเปล่า

เมื่อคืนก่อนเขายอมแลกทุกอย่างเพื่อให้เรนะหายโกรธ แต่คืนนี้เขาคิดอะไรไม่ออกว่าเขาควรจะภาวนาขอสิ่งใด

เช้าวันรุ่งขึ้นเอย์จิรีบออกจากบ้านเพื่อไปรอเรนะด้วยความหวังว่าจะได้ปรับความเข้าใจกับเธอ เขายืนกระสับกระส่ายอยู่ตลอดกังวลว่าวันนี้เธอจะมาหรือไม่ ถ้าเธอไม่มาแล้วจะทำไงดี เขารอเกือบชั่วโมงก็เห็นเรนะเดินมากับพี่สาว เขานิ่งอึ้งสบตากับเธอเป็นระยะ ๆ เรนะไม่กล้าสบตากับเขาจนเธอเดินเข้ามาใกล้

“ขอโทษนะเรนะ / ขอโทษนะจ๊ะทาคุมิคุง” ทั้งสองคนก้มหัวแล้วพูดเกือบจะพร้อม ๆ กัน

ทั้งคู่เงยหน้ามองกันด้วยท่าทางประหลาดใจ เอย์จิเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนว่า “ไม่หรอก ชั้นสิที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษเธอ”

“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ เรื่องนั้นพี่เรกะเล่าให้ชั้นฟังหมดแล้วว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ชั้นสิที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษทาคุมิคุง” เรกะพูดแล้วเธอก็ก้มหัวขอโทษเอย์จิอีกครั้ง “ขอโทษนะจ๊ะ”

“เอ่อ ไม่เป็นไรหรอก ชั้นเองก็ผิดเหมือนกัน เอาเป็นว่าเราเจ๊ากันไปดีมะ” เอย์จิทำหน้าเกรงใจ

“จ๊ะ” เรนะยิ้มให้เอย์จิด้วยหน้าตาน่ารักอย่างเคย

เอย์จิคิดในใจว่า “เรื่องที่ทำให้เขากังวลจนนอนไม่หลับมา 2 คืนติด ๆ กลับคลี่คลายได้อย่างง่ายดายจนไม่น่าเชื่อ”

“ชั้นก็ต้องขอโทษนายด้วยเหมือนกันนะ” เรกะมองหน้าเอย์จินิด ๆ แล้วเบือนหน้าหนี

“เรื่องมันแล้วไปแล้วอย่าคิดมากเลย” เอย์จิบอกเธอ

เรกะยิ้มให้เขาแล้วทั้ง 3 คนก็เดินไปที่หาดมิสึพร้อมกัน พอไปถึงร้านมารีนน่าทั้ง 3 คนก็เห็นพวกฟูจิยืนรออยู่แล้ว พอทั้งคู่เห็นเอย์จิมาพร้อมกับสองพี่น้องฮิเมะก็ยิ้มออก

แล้วคอนจิก็พาเอย์จิไปเลือกยื้มอุปกรณ์ในร้าน แต่ละคนเลือกกระดานโต้คลื่นมาคนละอันพร้อมด้วยเสื้อชูชีพ ซักพักคูมิยะกับนายะก็มาถึง พวกสาว ๆ จึงพากันไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำ ส่วนพวกผู้ชายก็ช่วยกันขนของไปที่ชายหาด

พอสาว ๆ ไปถึงชายหาดแต่ละคนทำให้ทิวทัศน์รอบ ๆ ชายหาดสดใสขึ้นถนัดตา คูมิยะที่เดิมก็สวยคมสูงยาวหุ่นดีอยู่แล้วใส่ชุดว่ายน้ำทูพีชสีฟ้าที่ทำให้เธอยิ่งดูโดดเด่น เรนะสวมชุดว่ายน้ำเรียบ ๆ แต่ขาวบริสุทธิ์

เรกะสวมชุดว่ายน้ำคล้าย ๆ เรนะ แต่เว้าตรงหน้าท้องและเปิดหลังให้กว้างทำให้เธอดูเซ็กซี่มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น นายะสวมชุดว่ายน้ำดูเด็ก ๆ แต่น่ารัก พวกผู้ชายยืนมอง 4 สาวจนตาค้าง

เมื่อคลื่นลมกำลังแรงได้ที่คูมิยะกับเรกะก็ลงไปโต้คลื่นเป็นกลุ่มแรก เรนะกับนายะนั่งมองทั้งสองอยู่บนชายหาด พวกผู้ชายก็เปลี่ยนชุดกันพร้อม แล้วฟูจิกับคอนจิก็เริ่มลงไปวาดลวดลาย เอย์จิเขยิบมานั่งใกล้ ๆ เรนะทั้งสองยิ้มให้กันเหมือนวันแรก ๆ

ซักพักเรกะก็ขึ้นมาแล้วพาเรนะไปหัดโต้คลื่นบริเวณที่น้ำตื้น คูมิยะก็พานายะไปหัดเล่นใกล้ ๆ กัน พวกฟูจิเลยขึ้นมาพาเอย์จิไปหัดอีกฟาก เอย์จิใช้เวลาไม่นานนักก็พอเล่นได้เพราะเขามีพื้นฐานในการเล่นกีฬาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ระหว่างที่เอย์จิกำลังฝึกทรงตัวบนกระดานโต้คลื่นพวกคอนจิก็ถามถึงเรื่องวันนี้

“เป็นไงมั่งตกลงเคลียร์กับเรนะเรียบร้อยแล้วเหรอ” คอนจิถามเอย์จิ

“อื้ออธิบายเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมดแล้วหล่ะ เหลือก็แต่...” เอย์จิตอบแล้วอึ้งไป

“เหลือก็แต่อะไรเหรอ” ฟูจิถามยิ้ม ๆ

“เปล่าไม่มีอะไรหรอก” เอย์จิตัดบทแล้วหันไปตั้งใจฝึกต่อ

“แหม ๆ เพื่อนเรามีเรื่องปิดบังอีกหล่ะซิ” คอนจิยิ้มอย่างมีเลศนัย

“บอกหน่อยน่า พวกเราเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ” ฟูจิคะยั้นคะยอ

“บอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรซี่” เอย์จิทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ตั้งหน้าตั้งตาฝึกทรงตัว

แล้วทั้ง 3 หนุ่มก็เดินกลับไปหากลุ่มสาว ๆ เรนะเริ่มชำนาญขึ้นมากแต่นายะยังทรงตัวไม่ได้ คูมิยะจึงต้องคอยดูอยู่ใกล้ ๆ พอเรนะเริ่มเก่งขึ้นจึงขอเรกะไปเล่นในบริเวณที่ลึกขึ้นอีกหน่อย

“อื้อ แต่ระวังหน่อยนะ” เรกะเป็นห่วงน้องสาว

“พี่ก็มาเล่นใกล้ ๆ เค้าสิจะได้หายห่วงไง” เรนะอ้อนพี่สาว

“แหม ๆ อะ ก็ได้” เรกะทำหน้ายิ้มนิด ๆ

เอย์จิที่อยู่ใกล้ ๆ ก็พลอยประทับใจกับความน่ารักของพี่น้องฝาแฝดคู่นี้ พอพวกผู้ชายโต้คลื่นไปซักพักก็เริ่มเหนื่อยเลยขึ้นฝั่งมาพักหาอะไรกิน ฝ่ายนายะที่หัดจนเหนื่อยแต่ยังไม่ก้าวหน้าก็กลับขึ้นฝั่งพร้อมกับคูมิยะด้วย

“ฝึกตั้งนานแล้วยังไม่เป็นซักที” นายะบ่น

“ค่อย ๆ หัดเดี๋ยวก็เป็นเองแหละ ดูเรนะสิเริ่มเก่งแล้ว” คูมิยะบอก

ทั้งกลุ่มมองดูเรนะกับเรกะโต้คลื่นกันอย่างสนุกสนาน พวกผู้ชายเริ่มนอนเอกเขนก ฝ่ายคูมิยะกับนายะก็พากันไปเดินหาซื้อน้ำผลไม้ดื่ม ซักพักลมเริ่มแรงขึ้นคลื่นที่พัดเข้าฝั่งเริ่มลูกใหญ่

“เรนะคลื่นเริ่มแรงแล้ว ขึ้นก่อนดีกว่า” เรกะชวนน้องให้ขึ้นฝั่ง

“ค่ะพี่” เรนะที่อยู่ไกลกว่าพยายามจะกลับเข้าฝั่ง ทันใดนั้นมีคลื่นขนาดยักษ์สูงกว่าบ้านสองชั้นพัดกระหน่ำเข้าใส่เธอแล้วม้วนเธอจนจมลงไป

“เรนะ!!!” เรกะที่พยายามจะเข้าไปช่วยก็ถูกคลื่นซัดจนลอยกลับเข้าฝั่ง

ถึงเรนะจะใส่เสื้อชูชีพแต่ด้วยความที่เธอว่ายน้ำไม่แข็งบวกกับอาการตกใจทำให้เธอโดนคลื่นยักษ์ที่ตามมาอีกหลายละรอกซัดจนจมน้ำ เรกะพยายามจะว่ายเข้าไปช่วยแต่ก็ไม่ไหว

พวกผู้ชายที่อยู่บนฝั่งเห็นเรนะจมน้ำจึงรีบลงไปช่วย เอย์จิกระโดดลงน้ำไปเร็วกว่าเพื่อน ฟูจิกับคอนจิก็กระโดดตามลงไปแต่ทั้งคู่โดนคลื่นยักษ์ซัดจนว่ายไปได้ไม่ถึงไหน

ตรงกันข้ามคลื่นบริเวณที่เอย์จิว่ายไปกลับแหวกเป็นแนวราวกับเปิดทางให้เขา แม้แต่เรกะที่ลอยคออยู่ในน้ำยังตะลึง เอย์จิว่ายไปถึงตัวเรนะก่อนที่เธอจะหมดลมหายใจ เขารีบพาเธอกลับขึ้นฝั่งแต่เรนะสลบไสลไม่ได้สติ

“เรนะเป็นไงมั่ง” เรกะที่กลับขึ้นฝั่งรีบเข้าไปหาน้องสาว

“เรนะสลบไปหน่ะสงสัยกินน้ำเข้าไปเยอะ ใครปฐมพยาบาลเป็นมั่ง?” คูมิยะถามเพื่อน ๆ

“คงจะต้องผายปอด” คอนจิพูด

“นายทำเป็นรึเปล่า” คูมิยะถามคอนจิ

“ชั้นไม่เป็นอ่ะ” คอนจิมีน้ำเสียงตื่นตระหนก

“ชั้นจะไปตามคนมาช่วยนะ” ฟูจิบอกทุกคน

เอย์จิคิดว่าถ้าปล่อยไว้อาจจะสายเกินไปจึงบอกทุกคนว่า “งั้นขอชั้นลองทำดูได้มั้ย” เขาหันไปมองหน้าทุกคน

“ทาคุมิคุงทำเป็นเหรอ” นายะถามเอย์จิ

“ชั้นเคยเรียนหน่ะ แต่ไม่เคยลองจริง ๆ ซักที” เอย์จิตอบด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ

“เอาเถอะดีกว่าไม่ทำอะไร” เรกะรีบบอกเอย์จิ

เอย์จิผายปอดเรนะตามวิธีที่เค้าพอจำได้คร่าว ๆ โดยมีเพื่อน ๆ ยืนลุ้นอยู่ข้าง ๆ เขาผายปอดซัก 5 – 6 ทีเรนะก็เริ่มได้สติ น้ำทะเลกระฉอกออกจากปากเธอพอสมควร

“พี่คะ” เรนะพูดเสียงเบา ๆ เธอค่อย ๆ ลืมตา

“เป็นไงมั่งเรนะ” เรกะถามน้องสาว

เรนะยังมึน ๆ นิดหน่อยเอย์จิจึงประคองเธอไปนั่งพัก คูมิยะกับนายะหาผ้ามาเช็ดตัวเธอให้แห้ง พอเรนะได้นั่งพักซักระยะก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น

“ต้องขอบใจทาคุมิคุงนะเนี่ย” คูมิยะหันไปยิ้มให้เอย์จิ

“เค้าลงไปช่วยเธอขึ้นมาจากน้ำแล้วก็ช่วยผายปอดเธอด้วยแหนะ” เรกะบอกน้อง

เรนะที่ค่อย ๆ ดีขึ้นมีสีหน้าตกใจกับสิ่งที่เธอได้ยิน เธอเอามือไปแตะรอบ ๆ ริมฝีปากของเธอซ้ำไปซ้ำมา

“ขอโทษนะที่ชั้น...” เอย์จิขอโทษเรนะแต่เขาไม่กล้าสบตาเธอ

“ไม่ต้องขอโทษหรอก นายช่วยชีวิตเรนะไว้นะ” เรกะหันมามองเอย์จิ

“อื้อ ขอบใจนะจ๊ะทาคุมิคุง” เรนะหันไปขอบใจเอย์จิ ดูเหมือนเธอจะตั้งสติได้แล้ว

ทุกคนนั่งพักซักระยะก็พากันไปสั่งข้าวเที่ยงมาทาน ตอนบ่ายแต่ละคนเล่นน้ำกันต่อนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ไม่มีใครลงไปโต้คลื่นอีกเนื่องจากคลื่นยังแรงอยู่

พอตกเย็นทุกคนก็จับกลุ่มนั่งมองพระอาทิตย์อัสดง ขณะนี้ผิวน้ำทะเลราวกับถูกฉาบด้วยแสงสะท้อนจากอำพัน คลื่นที่กระเซ็นสะท้อนแสงอาทิตย์เกิดแสงระยิบระยับบนผิวน้ำราวกับมีอัญมณีเม็ดเล็ก ๆ โปรยไปทั่วท้องทะเล

“สวยจังเลยนะ” นายะหันไปพูดกับเรกะ

“อื้ออย่างกับฝันไปเลย” เรกะตอบแล้วหันไปมองทิวทัศน์บนผิวน้ำทะเล

“เอ แล้วเรนะกับทาคุมิคุงหายไปไหนนะ” คูมิยะมองหาทั้งคู่

ฟูจิกับคอนจิมองตากัน แล้วฟูจิก็พูดว่า “สงสัยสองคนนั่นอยากจะคุยอะไรกันเป็นการส่วนตัวมั้ง”

เรกะรู้สึกไม่สบายใจจึงลุกขึ้นตามหาน้องสาว คูมิยะกับนายะเลยตามไปด้วย สุดท้ายพวกฟูจิก็ตามพวกผู้หญิงไป

ที่หลังโขดหินที่อยู่ใกล้ ๆ จุดที่ทุกคนนั่งอยู่เรนะยืนอยู่กับเอย์จิบนชายหาด ทั้งสองยืนมองตากัน เงาของทั้งคู่ทอดยาวขนานกันไปจนถึงถนนเลียบชายหาด แสงอาทิยต์อัสดงสะท้อนเม็ดทรายจนเป็นสีแดงส้ม

“เมื่อกี้ขอบใจนะจ๊ะทาคุมิคุง” เรนะยิ้มให้เอย์จิ

“ไม่เป็นไรหรอก” เอย์จิตอบเขิน ๆ

“ตั้งแต่ทาคุมิคุงย้ายมาก็เกิดเรื่องขึ้นเยอะเลยเนอะ” เรนะมองหน้าเอย์จิ

“อะ อื้อ” เอย์จิตอบเธอ

อีกฟากของโขดหินพวกเรกะแอบฟังทั้งคู่คุยกันอยู่ห่าง ๆ “อย่างงี้มันไม่เสียมารยาทเหรอ” คอนจิถามทุกคน

“ถ้านายไม่อยากฟังก็กลับไปสิ” คูมิยะหันไปบ่นใส่คอนจิ

“นี่พวกนายเงียบ ๆ กันหน่อยสิ เดี๋ยวสองคนนั้นก็รู้ตัวหรอก” เรกะทำเสียงดุ

ฟูจิกับคอนจิก็ทำหน้าเซง ๆ แล้วทำเป็นไม่สนใจจะแอบฟัง เรนะสบตาเอย์จิเหมือนจะอยากพูดอะไรแต่เธอก็ได้แต่เงียบ ทั้งสองยืนสบตากันหัวใจทั้งคู่เต้นแรงจนเหมือนกับจะได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่าย ทั้งสองคนมีเลือดฝาดที่แก้มแต่ด้วยแสงอาทิตย์อัสดงสีอำพันทำให้สีที่แก้มของทั้งสองกลืนไปกับแสงอาทิตย์ ทั้งสองยืนนิ่งอยู่พักนึงเรนะก็ยิ้มแล้วพูดว่า “พระอาทิตย์จะตกแล้วเรากลับไปหาทุกคนดีกว่าเนอะ”

“อื้อ กลับกันเถอะ” เอย์จิตอบแล้วก็เดินตามเรนะกลับไป พวกเพื่อน ๆ ที่ยืนเบียดกันหลังโขดหินก็เตรียมที่จะสลายวงกลับไปนั่งที่เดิม แต่แล้วเอย์จิก็พูดออกมาว่า “เอ่อ เรนะ...คือว่าชั้นมีเรื่องจะพูดด้วยหน่ะ”

พวกเพื่อน ๆ ที่ทำท่าจะเดินกลับไปก็เลยหันกลับมาแอบฟังอย่างตั้งอกตั้งใจไม่เว้นแม้แต่ฟูจิกับคอนจิ “ทาคุมิคุงมีอะไรเหรอจ๊ะ” เรนะหันไปถามเอย์จิด้วยสีหน้าไร้เดียงสา

“คือว่าเรื่องเมื่อวานตอนกลางวันหน่ะ” เอย์จิอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ “คือว่าเรื่องที่ชั้นพูดกับเธอหน่ะ” ส่วนเรนะก็นิ่งเงียบรอว่าเอย์จิจะพูดอะไร

“คือว่าเธอ เอ่อ...เธอจะรังเกียจมั้ยถ้าชั้นจะขอคบกับเธอแบบมากกว่าเพื่อนหน่ะ” เอย์จิยังพูดไม่เต็มเสียง

เรนะหน้าแดงหัวใจเต้นโครมคราม ในใจเธอคิดว่าควรจะตอบเอย์จิยังไงดี ส่วนพวกคูมิยะก็รอลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ จะมีก็แต่เรกะที่มีสีหน้าหมอง ๆ โดยที่ตัวเธอก็ไม่ทราบสาเหตุ

เรนะนิ่งเงียบไปซักพักแล้วเอย์จิก็พูดขึ้นมาว่า “เอ่อ ชั้นขอโทษนะถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร คิดซะว่าชั้นไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน” เอย์จิทำหน้าหมดหวังแล้วก็ก้มหน้าทำท่าจะเดินกลับไปหาเพื่อน ๆ

ทันใดนั้นเรนะก็ตะโกนไล่หลังเขาไปว่า “เดี๋ยวก่อนเอย์จิคุง!!!”

เอย์จิหันกลับไปทำหน้างง ๆ เรนะเลยพูดต่อว่า “ตั้งแต่วันแรกเอย์จิคุงก็เรียกชื่อชั้นนี่ งั้นต่อไปนี้ขอชั้นเรียกชื่อเธอบ้างนะ” แล้วเธอก็ยิ้มให้เอย์จิ

เอย์จิอึ้งไปซักพักแล้วก็ตอบว่า “อื้อได้สิ”

เรนะค่อย ๆ สบตาเอย์จิ เธอหน้าแดงมากขึ้นอีก แล้วเธอก็พูดต่อว่า “ตั้งแต่เกิดมาชั้นยังไม่เคยมีใครมาบอกว่าชอบเลย ก็เลยไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี แต่...แต่ชั้นก็ไม่คิดว่าเอย์จิคุงเป็นคนไม่ดีหรอกนะ เพียงแต่...” เธอก้มหน้าเอียงอาย

เอย์จิมองหน้าเรนะแล้วรอฟังอย่างเงียบ ๆ “เพียงแต่ชั้นยังไม่รู้จะให้คำตอบเธอยังไง ถ้างั้นพวกเรามาเริ่มจากการเป็นเพื่อนสนิทกันก่อนดีมั้ยจ๊ะ” เรนะยิ้มให้เอย์จิ

ณ วินาทีนั้นเอย์จิรู้สึกตื้นตันในหัวใจอย่างมาก เขายิ้มตอบเรนะแล้วก็พูดว่า “ได้สิ ขอบใจนะ”

ข้างหลังโขดหินเพื่อน ๆ ที่แอบฟังอยู่ต่างยินดีกับทั้งสองคน แต่เรกะกลับรู้สึกเหงา ๆ พิกล เธอรู้สึกเหมือนกับว่าหน้าอกของเธอมีช่องขนาดใหญ่ที่ทะลุไปได้ถึงข้างหลัง ราวกับว่าหัวใจของเธอหายไปจากตรงนั้น เพียงแต่เรกะก็ยังคงยิ้มยินดีไปกับทุกคน ซักพักเอย์จิกับเรนะก็เดินกลับมารวมกับคนอื่น ๆ แล้วทั้งหมดก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

วันถัดมาเป็นวันอาทิตย์เอย์จิช่วยครอบครัวทำงานบ้านอย่างมีความสุข เขานึกถึงใบหน้าของเรนะที่ริมหาดแล้วยิ้มคนเดียว พอทำงานเสร็จเขาก็ทำการบ้านที่ค้างมาตั้งแต่วันศุกร์ ตกเย็นก็เตรียมตำราเรียนที่จะเรียนในวันพรุ่งนี้ เขาเข้านอนอย่างมีความสุขในใจแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้พบกับเรนะในวันรุ่งขึ้น

ตอนเช้าเอย์จิตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น เมื่ออาบน้ำทานข้าวเรียบร้อยก็ออกจากบ้านไปรอเรนะที่หน้าปากซอย ซักพักเขาเห็นเรนะเดินมาคนเดียว เอย์จิรู้สึกว่าวันนี้เธอดูน่ารักกว่าที่เคย เธอยิ้มให้เขาแล้วทักว่า “อรุณสวัสดิ์จ๊ะเอย์จิคุง”

“อรุณสวัสดิ์เรนะ” เอย์จิยิ้มตอบ

“เอย์จิคุงผ่านมาพอดีเลยเหรอ?” เรนะทำตากลมโตมองหน้าเอย์จิ

“เปล่าหรอกชั้นมารอเธอหน่ะ” เอย์จิยิ้มให้แล้วตอบอย่างอาย ๆ

“แหมไม่ต้องถึงขนาดมารอชั้นก็ได้” เรนะหน้าแดง “เอางี้สิจ๊ะถ้าวันไหนเอย์จิคุงจะมารอไปโรงเรียนพร้อมกันก็โทรมาบอกสิ” เรนะบอกเอย์จิ

ในตอนนี้เอย์จิมีความสุขอย่างที่สุด เขารู้สึกว่าโลกทั้งโลกเป็นสีชมพู ราวกับฝันเป็นจริงเรนะที่น่ารักกว่าที่เขาเคยฝันถึงยอมให้เขามารอไปโรงเรียนพร้อมกัน “อื้อแต่ว่าชั้นยังไม่มีเบอร์เธอเลย”

“นี่จ๊ะ” เรนะหยิบมือถือมาแล้วก็แลกเบอร์กับเอย์จิ

“ขอบใจนะ แล้ววันนี้เรกะไม่มาด้วยกันเหรอ” เอย์จิหันมองซ้ายขวาไม่เจอเรกะ

เรนะหยุดคิดนิดนึงแล้วตอบว่า “วันนี้พี่จะไปสายหน่ะจ๊ะ”

เอย์จิทำหน้างง ๆ มองเรนะแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ทั้งสองเดินคุยกันอย่างมีความสุขไปจนถึงห้องเรียน ฟูจิกับคอนจิที่มาถึงก่อนผิวปากแซวทั้งคู่ที่มาพร้อมกัน ทำให้เรนะหน้าแดงต้องหลบสายตาเพื่อน

พอคูมิยะมาถึงเธอก็เดินไปทักทายพวกเอย์จิ พอใกล้จะเข้าเรียนก็มีเสียงเด็กนักเรียนคุยกันเซ็งแซ่อยู่ที่สนามข้างล่าง คูมิยะสงสัยเลยไปชะโงกดูแล้วถึงกับอุทานขึ้นมาแล้วยืนตัวแข็ง พวกฟูจิก็เลยชะโงกดูมั่งแล้วก็ร้องขึ้นมาแทบจะพร้อมกันทั้งสองทำหน้าตกใจมาก

เอย์จิสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นจึงขอดูมั่ง ปรากฏว่าเขาต้องตะลึงกับสิ่งที่เห็น เรกะกำลังเดินเข้าตึกแต่ผมที่เคยดำเงางามของเธอกลับกลายเป็นสีทองสว่างไสว!!!

พอเรนะเห็นพี่สาวก็บอกทุกคนว่า “พี่เค้าไปย้อมผมมาเมื่อวานหน่ะจ๊ะ ไม่รู้นึกยังไง”

แล้วออดเข้าเรียนก็ดังคูมิยะรีบกลับไปนั่งที่ ตลอดช่วงเช้าทั้ง 4 คนนั่งเรียนอย่างไม่มีสมาธิ พอพักเบรกก่อนคาบ 3 คูมิยะก็รีบวิ่งไปห้อง 1/3 “เรกะ! เธอไปทำอะไรกับหัวมาหน่ะ”

“อ๋อ! ไม่มีอะไรหรอกแค่อยากเปลี่ยนอารมณ์นิดหน่อยหน่ะ” เรกะตอบยิ้ม ๆ

“ก็ดูสมกับเป็นเรกะดีนะ” นายะหันมายิ้มให้คูมิยะ

“เธอทำชั้นแทบช็อกเลยนะ ถ้าจะไปย้อมผมทำไมไม่ชวนชั้นไปด้วยหล่ะ” คูมิยะท้วงเพื่อน

“โทษที ๆ คือมันกะทันหันหน่ะเลยชวนเรนะไปคนเดียว” เรกะตอบ

“ตอนที่พี่ชวนชั้นไปก็ไม่ได้บอกนะว่าจะไปไหน ชั้นเองยังตกใจเลยจ๊ะ” เรนะกับพวกฟูจิเพิ่งเดินมาถึง

“แต่อย่างงี้ก็ดูเท่ดีนะดูเป็นสาวห้าวดี” ฟูจิชมเรกะ

“อื้อ ดูดีไปอีกแบบ” คอนจิเสริม

พอเอย์จิเดินมาถึง เรกะก็มองหน้าเขาแล้วนิ่งไม่พูดอะไร เสียงออดหมดเวลาพักดังขึ้นพวกเอย์จิจึงพากันกลับห้อง เรกะเดินมาส่งเพื่อน ๆ นอกห้อง แล้วเอย์จิก็หันมาหาเธอ “เธอทำผมสีนี้ก็ดูสวยดีนะ”

เรกะตอบเขาเบา ๆ ว่า “ต่อไปนี้นายจะได้ไม่จำชั้นกับเรนะสลับกันอีกไง!?!” แล้วเธอก็หันกลับเข้าห้องไปทิ้งเอย์จิที่ยืนงงไว้คนเดียว!?!



Create Date : 05 กรกฎาคม 2552
Last Update : 4 กันยายน 2552 15:27:21 น. 0 comments
Counter : 208 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

TonyLaFraga
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add TonyLaFraga's blog to your web]