นิยายเรื่องรักยกกำลังสอง แนวโรแมนติกวัยมัธยม ผมไม่สามารถเล่าเนื้อเรื่องย่อได้ เพราะเนื้อหาทุกอย่างจะทำให้คุณลุ้นและเซอร์ไพรส์อยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณชอบอ่านนิยายแนวโรแมนติ และมีปริศนาให้คาดเดาและลุ้นไปกับมัน ลองเข้ามาอ่านเรื่องนี้สิครับ รับประกันความสนุก
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
26 มิถุนายน 2554

รักยกกำลังสอง บทที่ 31 เรเนซองส์พรีเมี่ยม (Renaissance Premium) ตอนที่ 4

ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าดาบของตัวเองไม่ได้แทงทะลุคอหอยของศัตรูด้วยซ้ำ เพราะด้านหลังของศัตรูไม่มีส่วนไหนของดาบทะลุผ่านออกไปแม้แต่นิดเดียว!?!

“หึหึหึ ติดกับชั้นจนได้ ถ้าฆ่าเธอไม่ได้ งั้นก็จงถูกจองจำอยู่ที่นี่ไปชั่วนิรันดร์เถอะ ฮ่า ๆๆๆ” น้ำเสียงของเอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดและโหดเหี้ยมอีกครั้ง!?!


“Hourglass Timeless!?!”
(นาฬิกาทรายไร้เวลา!?!)

แล้วเขาก็ร่ายเวท!??

ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีดำก็ขยายวงกว้างจนปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของเอย์จิ

แล้วเด็กหนุ่มก็รู้สึกเหมือนถูกอะไรบางอย่างดูดเข้าไปในความมืด แต่สิ่งที่ถูกดูดนั้นไม่ใช่ร่างกาย ทว่ามันคือวิญญาณ!?!

“กะ แก นี่ไม่ใช่การต่อสู้อย่างยุติธรรมนี่ ไอ้ขี้โกง!!” เขาตะโกนด่า โดยที่ไม่สามารถต้านทานแรงดึงดูดนั้นได้

“หึหึหึ ข้าไม่สนหรอกว่าจะต้องใช้วิธีไหนหรือเสียสละอะไรไปบ้าง ขอแค่ได้มาเรียกลับคืนมาก็พอ ฮ่า ๆๆๆ”

“สะ...เสียสละ งั้นเรอะ นี่แกยัง...กล้าพูด...คำนี้อีกเรอะ ต...ตัว แกเองเอาแต่ได้ ปล่อยให้...คนอื่นเสีย...สละแทนทั้งนั้นแท้ ๆ” เอย์จิพยายามเค้นแรงเฮือกสุดท้ายต้านทานเวทมนตร์ของเขาเอาไว้...แต่ก็ไม่เป็นผล

และแล้วในที่สุดวิญญาณของเด็กหนุ่มก็ถูกขังอยู่ในมิตินาฬิกาทราย คงเหลือแต่เพียงร่างกายที่ถูกแช่อยู่ในน้ำแข็งรูปคริสตัล 6 เหลี่ยมเท่านั้น!?

“หึ ถ้าเจ้ารู้ว่าข้าถูกคนอื่นแย่งอะไรไปบ้าง เจ้าจะไม่พูดแบบนี้หรอก ทาคุมิ เอย์จิ” เอ็ดเวิร์ดหันไปพูดกับร่างเปล่า ๆ ของเอย์จิที่ยังคงเหลืออยู่

และตอนนี้เปลวเพลิงสีดำที่ปกคลุมตัวเขาก็ค่อย ๆ มอดดับลง พร้อมกับแววตาสีแดงก่ำที่ค่อย ๆ เปลี่ยนกลับเป็นสีน้ำทะเลดังเดิม

และเมื่อการต่อสู้จบลง คิเรียที่ร่างละลายกลายเป็นน้ำไปแล้วก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่จากแท่งน้ำแข็งที่งอกออกมาจากพื้นถ้ำ

“กลับมาแล้วรึคิเรีย ใช้เวลานานเลยนะกว่าจะฟื้นขึ้นมาได้” บารอนหนุ่มหันไปคุยกับพ่อบ้านประจำตัว

“ขออภัยขอรับนายท่าน เป็นเพราะเวท Snowman (ตุ๊กตาหิมะ) ของผมยังไม่สมบูรณ์ขอรับ” คิเรียตอบแล้วก้มหน้ารอรับโทษ

“ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ช่วยแก้เบื่อให้ชั้นได้เยอะเลย” ท่านบารอนตอบพร้อมกับแสดงท่าทีไม่ถือสาหาความเรื่องที่ลูกน้องพ่ายแพ้ให้กับเอย์จิ

“ว่าแต่ การต่อสู้เป็นยังไงมั่งครับ” เขาถามเจ้านายแล้วก็หันไปมองร่างเอย์จิที่ถูกแช่ไว้ในน้ำแข็ง

“ชั้นจองจำเจ้าเด็กนี่ไว้แล้ว มันจะไม่มีวันได้ออกมาอีกตลอดกาล” เอ็ดเวิร์ดตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาและสีหน้าเฉยเมย

“สาสมกับที่มันเสียมารยาทต่อนายท่านแล้วขอรับ”

“เอาหล่ะชั้นจะไปดูเหยื่อของเราหน่อย เจ้าไปบอกอัลคาทาลให้เตรียมการทำพิธีไว้ให้พร้อม!!?”

“เยสมายลอร์ด”

แล้วทั้งเจ้านายกับลูกน้องก็พากันหายลับไปในความมืด โดยที่ทั้งคู่ไม่ทันสังเกตเห็นว่าที่ข้อมือของเอย์จิมีเลสเงินที่เจ้าตัวไม่ได้ใส่มาก่อนสวมอยู่

บนสร้อยเส้นนั้นมีข้อความสลักว่า…

Live Knight
(อัศวินพันธุ์ไลฟ์!?!)



ทางด้านเรกะกับเรนะที่เพิ่งตกหลุมพรางเวทลวงตาของเอ็ดเวิร์ด ทั้งคู่ก็ได้ตัดสินใจเลือกคำตอบของตัวเอง โดยเรนะเลือกที่จะเสียสละอยู่รอความตายในถ้ำแห่งนี้ ปล่อยให้พี่สาวกับเพื่อนชายรอดกลับไปได้เพียงสองคน ส่วนเรกะเลือกที่จะตัดขาดจากทั้งคู่ เลยทำให้ความมืดเข้าครอบงำจิตใจของเธอ


“หึหึหึ ดีมากเรกะ ฮิเมะ จงเปิดรับความเกลียดชังเข้าไปอีก เพื่อให้หัวใจของเจ้าถูกย้อมไปด้วยความมืด ฮ่า ๆๆ” เอ็ดเวิร์ดที่เฝ้าดูอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำหัวเราะอย่างสะใจ

แล้วจู่ ๆ ภาพของเรนะก็ฉายสะท้อนเข้ามาในแววตาของเขา

“หือ? นั่นมัน? ลิลิธงั้นเรอะ เตือนแล้วแท้ ๆ ว่าอย่ามายุ่ง! นังน้องไม่รู้จักฟัง!!”

ในภาพนั้นเขาเห็นลิลิธกำลังลากกระเตงเรนะเพื่อไปช่วยเอย์จิที่ถูกแช่แข็งเอาไว้

“แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้ใช้นังเด็กนั่นให้เป็นประโยชน์ในการเพิ่มความเกลียดชังให้กับพี่สาวของมัน!!!”

แล้วเอ็ดเวิร์ดก็ล่อลวงให้เรกะมาพบกับเรนะที่กลางถ้ำ!?!


“บอกไว้เลยนะต่อให้ชั้นตาย ชั้นก็ไม่มีวันยอมให้เธอหนีเอาตัวรอดไปมีความสุขกับเอย์จิหรอก!!!” เรกะตะคอกใส่น้องสาว

“ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะพี่”

“อย่าเผลอไปหลงคำพูดหวาน ๆ กับใบหน้าไร้เดียงสานั่นเชียวนะ เธอคงไม่อยากโดนหลอกซ้ำอีกใช่มั้ย” เสียงของเอ็ดเวิร์ดคอยกระซิบที่ข้างหู

“พี่คะ! ฟังหนูก่อน เรื่องทั้งหมดหนูอธิบายได้…”


“เพี๊ยะ!!!”

“หึ! สมหน้า!?”

“จากนี้ไปเธอกับชั้นขาดกัน ไม่ต้องมาเรียกชั้นว่าพี่อีก ชั้นไม่มีน้องเลว ๆ อย่างเธอ” พอพูดจบเธอก็สะบัดก้นเดินหายลับไปในความมืด

“พี่คะ!!!!!!!” โดยที่เรนะทำได้แค่ส่งเสียงเรียกตามหลังพี่สาวไป

แล้วหัวใจของฝาแฝดคนพี่ก็ถูกย้อมเป็นสีดำสนิททั้งดวง

“หึหึหึ ในที่สุดข้าก็ได้ครอบครองร่างที่เปี่ยมไปด้วยพลังเวท” ในถ้ำตรงส่วนที่ลึกที่สุดเอ็ดเวิร์ดที่เฝ้ามองอยู่ก็หัวเราะอย่างสะใจ

.
.
.





ตัดกลับมา ณ ปัจจุบันหลังจากเรนะโดนคิเรียลอบทำร้าย แต่เธอก็ได้ช่วยปลดปล่อยเอย์จิออกมาจากมิตินาฬิกาทรายจนได้ และเอย์จิก็เข้าต่อสู้กับศัตรูจนกำลังจะได้รับชัยชนะ!?!

“ฉับบบ!?”

เอย์จิรอจนคิเรียคืนชีพขึ้นมาจากแท่งน้ำแข็ง แล้วจึงพุ่งเข้าจัดการซ้ำจน…ศัตรูขาดสะบั้น!!??

“อ๊ากกก!!!” มารร้ายร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

“กะ…แก ทำไม…ถึง...ได้!!?”

“ชั้นบอกแล้วไงว่าจะจัดการนายให้เสร็จก่อนจบเพลง!!!” เด็กหนุ่มตอบ แล้วนักดนตรีก็ยุติคอนเสิร์ตตามที่เขาพูดไว้

ตอนนี้ร่างของคิเรียที่ขาดเป็นสองส่วนก็ค่อย ๆ สลายกลายเป็นผุยผง โดยมีเอย์จิคอยยืนเฝ้ามองจุบจบของวิญญาณร้ายอยู่

“อ๊าคคค ระ...เรา...กำลังจะสลายไป”

“นะ...นายท่าน กระ...ผม ขออภัยที่ไม่อาจอยู่รับใช้...”

ร่างครึ่งท่อนบนนั้นดิ้นทุรนทุรายราวกับแสบร้อนด้วยเพลิงนรก

เอย์จิก็เลยหันหลังกลับเพื่อจะรีบไปอุ้มเรนะที่ยังคงนอนหายใจรวยรินเพราะพิษบาดแผลที่โดนแทงทะลุอก…แต่ทว่า??

“แต่กระผมจะไม่ยอมตายเปล่าขอรับ!?!” คิเรียกลับรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายร่ายเวทมนตร์ต้องห้ามออกมา???

“It is a good day to die!?!”
(จงตายและก็หายไปซะ!?!)

ทันใดนั้นร่างที่เหลืออยู่ของเขาก็มีแสงสีส้มทะลักออกมา พร้อมกับเกิดระเบิดดัง!??


“บรึ้มมม!!”


“ถึงต้องตายข้าก็จะไม่ยอมตายคนเดียวหรอกโว้ย!!”

“แกกับนังเด็กนั่นจะต้องลงนรกไปกับข้าด้วย ฮ่า ๆๆๆ”

ปีศาจร้ายหัวเราะอย่างสะใจเป็นครั้งสุดท้าย


แล้วทั่วทั้งห้องก็สว่างไสวไปด้วยแสงสีส้ม!! เอย์จิที่เพิ่งไหวตัวทันก็รีบกระโดดเอาตัวเข้าบังเรนะกับลิลิธเอาไว้...อย่างไม่มีทางเลือก!!

“เร...นะ” เด็กหนุ่มส่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา

“ซู่มมม!!!”

เปลวเพลิงนั้นรุนแรงจนผนังหินถึงกับละลาย!!?


แล้วพอกระแสเวทมนตร์ของเขาเริ่มอ่อนแรงลง เพลิงนรกจากเวทระเบิดตัวเองของคิเรียก็เริ่มเผาไหม้ร่างกายของเขา??

“ถะ...ถ้าต้องป้องกันทั้งสามคน พลังเวทคงไม่พอแน่”
“เร...เรนะ รอดไปจากที่นี่ให้ได้นะ”

แล้วสิ่งที่เอย์จิตัดสินใจขณะที่ยังคงเหลือสติอยู่ก็คือ...

ทุ่มพลังเวททั้งหมดที่เขามีไปที่ร่างของเรนะกับลิลิธ เพื่อคุ้มครองพวกเธอเอาไว้!?!

แต่ระหว่างนั้นเองเรนะที่ใกล้จะหมดลมหายใจก็ปรือตาขึ้นมา...และมองหน้าเขา

“ขอ...โทษนะ ช...ช่วยเรกะด้วย” เอย์จิสั่งเสีย

“เอ...เอย์จิ...คุง” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ช่...ช่วยรอด...กลับไปให้ได้...นะ”นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของเด็กหนุ่ม...

ก่อนที่ร่างของเขาจะสลายกลายเป็นไอเพราะแรงระเบิด!!!

“เอย์จิจจจจ!!” เธอร้องออกมาได้ดังที่สุดเท่าที่จะมีแรงเปล่งเสียง พร้อมกับมีน้ำตาหนึ่งหยดไหลรินลงมาจากแก้ม

.
.
.
“ติ๊งงง!??”


“รับทราบการตัดสินใจ!??”

“เกียร์ (เวทมนตร์) เริ่มทำงาน!??”

แล้วพื้นถ้ำบริเวณที่น้ำตาของเรนะหยดลงไปนั้นก็กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดเท่าฝ่ามือ และปริมาณน้ำก็เพิ่มขึ้น ๆ จนขยายวงกว้างกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่รองรับร่างของเด็กสาวเอาไว้บนผิวน้ำ???

“จ๋อมมม??” แล้วบนผิวน้ำนั้นก็มีหาง??อะไรบางอย่างตวัดขึ้นมา

มันมีลักษณะคล้ายหางปลาโลมา แต่มันไม่ได้เป็นหางของปลาที่มีชีวิต เพราะผิวของมันทำจากแก้วเจียระไนสีน้ำเงินแบบเดียวกับปลาโลมาแก้วตัวเล็ก ๆ ที่เธอบังเอิญไปพบในศาลเจ้าก่อนที่จะมาช่วยเอย์จิ จะต่างกันก็ตรงที่ขนาดของมันใหญ่เกือบเท่าปลาโลมาจริง ๆ เท่านั้น!??


“ยืนยันการตัดสินใจ!??”

“ดำเนินการใช้เกียร์ (เวทมนตร์) ระดับพรีเมี่ยม??”

“เรเนซองส์!??”
(รังสรรค์ขึ้นใหม่!??)




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2554
1 comments
Last Update : 26 มิถุนายน 2554 20:30:22 น.
Counter : 361 Pageviews.

 

ขอเป็นกำลังใจให้ทำต่อจนจบนะคับสนุกมากเลย

 

โดย: คนทั่วไป IP: 111.84.180.197 19 ธันวาคม 2556 8:24:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


TonyLaFraga
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add TonyLaFraga's blog to your web]