ว่าคลื่นที่ถูกปิดตัวลงตั้งแต่ปลายปี 2550 กลับคืนชีวิตขึ้นมาเพื่อทำกิจกรรมร่วมกับผู้ฟังจำนวนมหาศาล เต็มความจุ Hollywood Place รัชดาฯ
ปาร์ตี้นี้เป็นกิจกรรมที่กลั่นออกมาจากความคิดถึง จากใจของผู้ฟังและนักจัดรายการ ภายใต้ชื่องาน Party The Radio Live for REAL โดยได้สปอนเซอร์ที่น่ารักอย่าง KTC มาช่วยสนับสนุนอีกแรงหนึ่ง
เริ่มตั้งแต่ Intro ก่อนการเปิดงาน ที่ใช้ภาพ VDO ในวันสุดท้ายของการจัดรายการมาเปิดขึ้นจอ Projector พร้อมกับเสียงเพลงในแต่ละช่วงของ DJ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศถวิลหาตั้งแต่ก่อนงานเริ่ม
เวลาประมาณ 17.30 น. ภาพในจอ Projector หายไป พร้อมกับมีตัวอักษร Fade In คำว่า Close to You ขึ้นมาพร้อมกับเสียงหวานๆของน้องเปียโน ในเพลงที่มีชื่อเดียวกัน ท่ามกลางเสียงกรี๊ดของคนนับพันลั่น Hall เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า พวกเขา กำลังจะกลับมาหาคนฟังแล้ว
เปียโนและแม๊ป ออกมาคู่แรกเป็นปฐมบทรายการ กล่าวคำทักทายและสวัสดีผู้ฟังที่อยู่ใน Hollywood Hall แห่งนี้ น้องเปียโนยังคงเป็นน้องเปียโนคนเดิมเหมือนวันแรกที่จัดรายการ น่ารักและเป็นกันเอง โดยเฉพาะเวลาที่เธอบอกว่าตัวเองเขิน หรือเธอหัวเราะ รู้สึกว่าโลกดูสดใสขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
และแล้วการแสดงชุดแรกก็เริ่มต้นขึ้น เปียโนกับวง The Crazy Quilt ในเพลงแรกเสียแล้วเสียไป ที่ทำออกมาใน Style Blue ผสม Jazz เรียกว่าเท่ห์ไม่หยอก ขอบอกว่า มาดูเปียโนส่ายสะโพกเพลงนี้ก็คุ้มค่าแล้วล่ะครับ
จนมาถึงเพลงสุดท้าย เปียโนออกตัวว่าต้องขออภัยที่เลือกร้องเพลงนี้และพอเหมาะพอเจาะตรงกับเพลงที่วงมหาจำเริญเลือกมาพอดี งานเก่าของ Roberta Flack กับ Killing Me Softly with His Song (เพลงที่มีที่มาจากการดู Concert ของ Don McLean แล้วเธอถึงกับกล่าวออกมาว่า เสียงร้องของเขาช่างเพราะเหลือเกินเสมือนจะฆ่ากันให้ตายไปเลย) ผมก็อยากกล่าวแบบนี้กะเปียโนเหมือนกัน เพราะเปียโนร้องได้ดีมากๆ
สาม DJ ของเราออกมาทักทายผู้ชม พร้อมกับมุขตลกส่วนตัว (ที่เล่นได้เฉพาะเฮียหน่องคนเดียวเท่านั้น) นั่นคือมุข "นามสกุลนี้เข้าโรงพยาบาลไม่ได้ อายเค้า" ซึ่งยังคงเรียกรอยยิ้มได้จากแฟนๆอยู่เหมือนเดิม
คุณอ้อและคุณโรส สร้างความประทับใจให้กับพวกเราด้วยการหยิบข้อความให้กำลังใจ The Radio ที่ผู้เข้าร่วมงานเขียนไว้ด้านหน้ามาอ่านให้ฟังเป้นบางส่วน หลายๆข้อความถึงแม้จะสั้นๆ แต่ก็แสดงถึงหัวใจที่มีตราผูกพันไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน หลายๆข้อความก็ตรงกับความรู้สึกของผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ เช่น ไม่ได้เปิดวิทยุมาหลายเดือนแล้ว เมื่อไหร่จะหมุนเจอ The Radio สักที เป็นต้น
หลังจากคุณหน่องเรียกเสียงปรบมือระดมพลเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงคิวของเกมเก้าอี้ดนตรี ที่ใช้การส่งต่อกล่อง CD แทน กติกาคือส่งต่อกล่อง CD 3 กล่องไปเรื่อยๆ พอเพลงหยุดให้เปิดกล่อง CD ทีละกล่อง แล้วทำตามข้อความที่เขียนในกล่องนั้น
DJ หัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ของงาน พาลูกชายสุดหล่อมาร่วมเป็นพิธีกรในงานนี้เช่นเคย พร้อมหยอดมุขประจำว่า "พามาช่วยนี่ ดีนะ เงินก็ไม่ต้องจ่าย"
หลังจากทักทายเล็กๆน้อยๆแล้วก็ถึงคิวของ DJ อีก 1 คนที่เป็นเพื่อน Blog ที่อยู่ในนี้ด้วย คงเดากันถูกนะครับ พี่เอ๊ด พิทยากร ลีลาภัทรแห่งรายการ The Rewinder รายการประจำของผมนั่นเอง
พี่เอ๊ดยังคงมีแฟนๆมาให้กำลังใจอยู่เพียบ รวมถึงหลายๆคนที่เคยมาในงาน The Rewinder Flashback Party ก็มาในงานครั้งนี้อีกเป็นจำนวนไม่น้อย (เห็นจากจำนวนคนที่ยกมือ บอกได้ว่าแฟนประจำเยอะจริงๆ)
เกมในช่วงพี่เอ๊ดยังคงเป็นเกมเดิมที่ใช้ในงาน The Rewinder Flashback Party คนที่เคยไปคงจำได้ เกม Bingo ที่ต้องอาศัยทั้งความรู้และดวงควบคู่กัน
ผมนั่งคุยกับพี่ท่านหนึ่งที่นั่งโต๊ะเดียวกัน (เป็นพี่ที่รู้จักกันผ่านรายการ The Rewinder น่ะครับ พี่เค้าเป็น Marketing Manager ของค่ายเพลง S.Stack) คุยกันประมาณว่าจริงๆแล้วเพลงที่เปิดในรายการ The Rewinder ก็ไม่ใช่เพลงหาฟังยาก สามารถหามาฟังเองได้อยู่แล้ว แต่ ทำยังไงๆมันก็ไม่รู้สึกเพราะเท่ากับที่ฟังในรายการ The Rewinder เลยจริงๆ
คุณล่ะ รู้สึกแบบนั้นหรือเปล่า......
ขณะนี้มาถึงช่วงกลางของงาน Party The Radio Live for REAL แล้วนะครับ ทันทีที่เกม Bingo จบลง พี่หมึกและแม๊ปก็กล่าวขอบคุณแฟนๆรายการ รวมถึง KTC สปอนเซอร์ผู้แสนใจดีที่ให้การสนับสนุนเป็นแม่งานหลักในครั้งนี้
ถึงตรงนี้ ผมอยากแสดงความเห็นส่วนตัวนิดนึงว่า ผมเชื่อในเรื่องๆนึงเกี่ยวกับพลังของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสถานีนะครับ คือ เคยมีหลายคนบอกว่าคลื่นอย่าง The Radio เอาสินค้ามาลงยาก มีผลตอบรับทางการตลาดน้อย แต่จริงๆแล้วผมกลับมองว่าถ้าสินค้าตัวไหนยอมเทใจให้กับรายการวิทยุดีๆแบบนี้ คนฟังย่อมเปิดรับสินค้าตัวนั้นอยู่ในใจเช่นกัน
คุณฟิลก็ได้ปิดท้ายอีกเพลงกับ Killing Me Softly with His Song เพลงเดียวกะที่น้องเปียโนร้องนั่นแหละครับ ขับขานได้ไพเราะกันไปคนละแบบ
จากนั้นก็มาถึงช่วงของพิธีการเล็กๆน้อยๆครับ มีผู้บริหารของ KTC 2 ท่านขึ้นมามอบช่อดอกไม้ให้คุณฟิล พร้อมกับมอบคำพูดที่ประทับใจให้กับชาว The Radio ว่า KTC จะเปลี่ยน Slogan จาก Make Sense เป็น for REAL เพราะตั้งใจสนับสนุนในคนจริง ตัวจริง และคลื่น 99.5 The Radio ก็เป็นตัวจริงในสายตา KTC
ผ่านพิธีกรรมพอหอมปากหอมคอ ก็มาถึงก๊อก 2 ของวงมหาจำเริญต่อครับ มหาจำเริญไม่รอช้ากับ 2 เพลงสุดท้าย เร่งอารมณ์ให้คึกคักก่อนจาก หนึ่งในนั้นคือเพลง Right Here Right Now ผลงานของ Fat Boy Slim ทำเอาทั้ง Hall ลุกขึ้นกระโดดตามกันอย่างสนุกสนาน
DVD เพิ่งได้รับครับ เลยต้องขอเงินทางบ้านไปถอย DVD-RW ตัวใหม่มาโดยเฉพาะเลยครับ ขอพระคุณเป็นอย่างสูงครับ
ปล.ขอบคุณมากๆสำหรับคลิปงาน The Radio Live For Real ด้วยฮะ.....อยากดูอยู่พอดีเลยครับ คุณคูณนั่งอยู่ปีกซ้ายไกลๆแหงๆเลยฮะ....(ดูจากในคลิปอ่าฮะ) ของผมนี่ไปเร็วอ่าฮับเลยโชคดีได้โต๊ะตัวหน้าสุดติดเวทีตรงกลางเลยครับ เสียอย่างเดียวตรงที่อยู่ไกลตอนโคโยตี้น้ำโป่งแกเต้นอ่าฮะ ดูไม่ค่อยถนัด 5555555+
แวะมาอ่านก่อนไปนอน
ชอบสามสาว The Sis พี่น้องสามคนนี้จังค่ะ
เสียง luscious มาก