space
space
space
<<
กันยายน 2560
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
space
space
8 กันยายน 2560
space
space
space

EP3: บ้านเรา หนาวจัง




บ้านเรา หนาวจัง


ตอนที่ถึงบ้าน Host

อารมณ์นั้นไม่ได้ตื่นเต้นใดๆ คิดเพียงแต่ว่านี่เราต้องลงแล้วเหรอ จากนี้ไปจะทำอะไร แล้วจะคุยกับเค้ายังไง

ผมลงมาเอาของจากท้ายรถแล้วก็เดินลากกระเป๋าไปที่หน้าบ้าน มีหญิงวัยประมาณ 50 กว่า ๆ มายืนรอที่หน้าประตูเธอสวมแว่น รูปร่างท้วม ผมประบ่าสีดำแซมด้วยผมหงอกตามวัยมองแวบแรกรู้เลยว่าเธอเป็นคนเอเชีย แถมหน้าตายังละม้ายคล้ายคนไทยเรามากพร้อมชายแก่ที่เมื่อสักครู่ทาสีรั้วบ้านอยู่ เดาว่าน่าจะเป็นสามี ผมหงอกเกือบหมดศีรษะ ทรงผมดูยุ่ง ๆ ตามแบบของคนที่ไม่ได้ออกไปไหนช่วงวันหยุดดูท่าทางแกจะอายุมากกว่าภรรยาซักเกือบ ๆ 10 ปี แกยืดตัวขึ้นพร้อมกับยิ้มค้างรอเห็นหน้าผู้อาศัยคนใหม่ของบ้าน

ผู้หญิงที่พาเรามาแนะนำตัวเองแล้วก็แนะนำผมคร่าวๆ ประมาณว่า นี่คือนักเรียนที่มาจากเมืองไทย จะมาอยู่กับคุณที่นี่ผมยกมือไหว้ในขณะที่หญิงเจ้าของบ้านยื่นมือมาจะจับมือผม

กว่าจะได้จับมือกันก็ยักแย่ยักยันกันครู่หนึ่งแล้วเค้าก็เชิญเข้าบ้าน เพื่อน ๆ ที่ตามมาด้วยก็เดินเข้ามาดูในบ้าน

ด้านในบ้านมีพรมปูอย่างสวยงามมีชุดรับแขกที่ไม่ได้หรูหรา แต่ก็น่านั่ง วางอยู่เกือบ ๆ กลางบ้าน

ตรงข้ามชุดรับแขกเป็นห้องของสามีภรรยาเจ้าของบ้านถัดเข้าไปขวามือเป็นห้องครัว ถัดจากห้องครัวเป็นห้องกินข้าว ดูทีวี

สาว ๆเข้ามาสำรวจบ้าน ส่งเสียงวี๊ดว้ายกันซักพักก็ต้องไปบ้านตัวเองกันต่อปล่อยให้ผมยืนคุยกับเจ้าของบ้าน

ผมหันมาโบกมือให้เพื่อนๆ ที่อยู่ในรถเรียบร้อยพร้อมเดินทางต่อ แล้วรีบตะโกนว่าอย่าลืมโทรหากันนะถ้าถึงบ้านของแต่ละคนแล้ว

รถเคลื่อนผ่านไปผมกับเจ้าของบ้านทั้งสองเข้ามานั่งคุยกันที่เก้าอี้รับแขก ฝ่ายภรรยาเสิร์ฟน้ำส้มแล้วก็ถามไถ่ถึงการเดินทาง และจุดประสงค์ของการมาอยู่ที่นี่

คุยกันไปสักพักเธอก็พาผมขึ้นไปชมห้องนอนชั้นบนซึ่งเป็นห้องพักของผมตลอดการเรียนที่นี่หากผมพึงพอใจที่จะอยู่จนครบ 7 เดือนห้องมีขนาดกะทัดรัด ไม่เล็ก ไม่ใหญ่มาก มีตู้ใส่เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานอยู่ข้าง ๆเตียง เธอสอนวิธีใช้เตียงอุ่น คือผมก็เพิ่งเคยเห็นเตียงที่มีผ้าเหมือนเป็นตัวปล่อยความร้อน มีปุ่มปรับระดับอยู่ข้างเตียง เธอบอกว่าให้ปรับไประดับที่ไม่ร้อนจนเกินไปเมื่อจะนอนแล้วก็ค่อยปิด นอกจากนั้นบนเตียงยังมีผ้าห่มผืนหนาและหมอนใบใหญ่

อากาศมันหนาวมากซะจนผมคิดในใจว่ามันจะพอมั้ยเนี่ยแต่พอได้ลองนั่ง ๆ นอน ๆ บนเตียงอุ่น ๆ แล้วก็พอใช้ได้ ประทังความอุ่นได้บ้างหน้าต่างมองเห็นทางหลังบ้านที่เป็นสนามหญ้าและสวนเล็ก ๆ มีเรือนเพาะชำอยู่ด้านซ้ายมือ ดูท่าว่าเจ้าของบ้านคงชอบปลุกต้นไม้และทำสวนเป็นแน่แท้

ลืมบอกไปว่าคู่สามีภรรยาที่เป็นHostของผม สามีชื่อมูฮาเหม็ด เป็นชาวอิยิปต์แต่ย้ายมาอยู่ที่เมลเบิร์นตั้งแต่หนุ่ม ๆ ส่วนภรรยาชื่อ ยูส (Yus) เป็นคนอินโดนีเซีย ทำงานเป็นพยาบาล เวลาผมคุยกับเพื่อน ๆคนไทยมักจะเรียกแทนแกว่า แม่ยูส เพราะคิดว่าแกน่าจะอายุใกล้ ๆ กับแม่ผมครอบครัวนี้มีลูกชาย 2 คน คนโตไม่ได้อยู่บ้านนี้ทำงานและอาศัยอยู่ไหนซักแห่งก็จำไม่ได้ส่วนคนเล็กเรียนจบมหาวิทยาลัยและและเพิ่งได้งานทำ เค้าให้ผมเรียกเค้าว่า “โม”เป็นคนอัธยาศัยดี แต่ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เพราะโมออกไปทำงาน กลับมาก็ดึกไม่ก็ไปนอนค้างที่ไหนซักแห่ง นานๆ จะเจอกันที

ความที่แม่ยูสเป็นคนแถบอาเซียนเหมือนกันเลยทำให้เราได้คุยกันบ่อยกว่าสมาชิกคนอื่นในบ้านแกทำกับข้าวสไตล์อินโดนีเซียผสมกับแนวแขก ๆซึ่งผมเองก็เรียกไม่ค่อยถูกว่ามันเป็นแบบไหนเอาเป็นว่าส่วนผสมของอาหารส่วนใหญ่จะเป็นผงกระหรี่ ผัก เครื่องเทศและแน่นอนว่าทั้งบ้านเป็นมุสลิม ผมเลยได้กินเนื้อและไก่เกือบทุกมื้อที่อาศัยอยู่ที่นั่น

ผมจัดแจงเก็บข้าวของเข้าตู้เสร็จสรรพจัดห้องให้ดูน่านอนแต่อากาศหนาวของที่นี่มันช่างหนาวเสียดแทงเข้าไปในสรรพ์ภางค์กายเหลือเกินเกินกว่าที่จะนอนห่มผ้านิ่ง ๆ อยู่ที่ห้อง ก่อนออกจากห้องไปแม่ยูสพูดอะไรซักอย่างกับผม จับใจความได้ว่าเดี๋ยวจะพาไปดูโรงเรียนและไปซื้อของที่จำเป็นไม่รู้ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า แต่ก็ใช้เวลาในห้องซักพัก แล้วเดินลงมาข้างล่างกะว่าจะถามแม่ยูสว่าผมจะออกไปหาซื้อซิมการ์ดได้ที่ไหนบ้าง

“How can I getthe sim card?” ผมถามแบบงู ๆ ปลา ๆ

“You want simcard? OK just wait we’ll go for it”

แม่ยูสตอบประมาณนี้แกรีบลุกขึ้นแต่งตัวและขับรถพาผมออกไปซื้อซิมการ์ดที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ ๆ บ้านจัดแจงสอบถามโปรโมชั่นให้ผมเสร็จสรรพ แต่ยังลงทะเบียนไม่ได้ต้องให้เจ้าของซิมทำเองผ่านโอเปอเรเตอร์หรือเว็บไซต์ แล้วก็พาไปซื้อบัตรรถสาธารณะพร้อมบอกวิธีใช้ซึ่งเป็นแบบเติมเงิน สามารถใช้กับระบบขนส่งมวลได้ทุกชนิด ตั้งแต่รถบัส แทรม(รถราง) และรถไฟ

จากนั้นแม่ยูสก็พาผมไปแวะดูโรงเรียนใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน เพราะบ้านอยู่ไกลจากโรงเรียน มาถึงที่แกก็ขับรถวนรอบ ๆให้ดูแล้วชี้มือชี้ไม้บอก โรงเรียนอยู่ตรงนี้นะถ้านั่งบัสมารถจะจอดตรงข้ามโรงเรียนเลย แต่ถ้านั่งรถไฟจากที่บ้านมาก็ประมาณ 4-5สถานี พอลงรถแล้วเดินตัดสนามหญ้ากว้าง ๆหลังโรงเรียนไปอีกประมาณกิโลหนึ่งก็ถึงแล้ว

ตอนนั้นก็โพล้เพล้พอดีมองเห็นบริเวณโรงเรียนและสนามหญ้าที่ต้องเดินตัดเข้าด้านหลัง พยายามจำเส้นทางไว้เพราะคิดว่าถ้าไปทางบัสมันไกลกว่า ไปรถไฟนี่แหล่ะ ง่าย สะดวก และเร็วดีด้วย กะว่าพรุ่งนี้จะมาลองเดินทางไปโรงเรียนดู

กลับถึงบ้านก็ค่ำแล้วผมจำไม่ได้ว่าตัวเองได้กินอะไรก่อนนอนมั้ย รู้แต่ว่าอากาศโคตรหนาว น่าจะประมาณ8-10 องศา กะเหรี่ยงไทย หนุ่มน้อยจากแดนอีสานอย่างเรา เจอแต่อากาศร้อนชื้นไม่ก็ร้อนตับแตก เหงื่อไหลย้อยผ่านจั๊กกะแร้มาตลอด มาเจอบ้านเมืองอากาศหนาวสุด ๆเย็นยะเยือกแบบนี้ ไม่ต้องถามว่าเวลาอาบน้ำต้องยืนภาวนานานขนาดไหนโชคดีที่ที่บ้านมีน้ำอุ่นให้อาบ แต่ก็ต้องจำกัดเวลาและจำนวนครั้ง ซึ่งมารู้ทีหลังว่าที่บ้านHostของเพื่อน ๆ ก็เป็นแบบนี้ บางบ้านเคี่ยวกว่าคือให้อาบได้ครั้งเดียวแถมยังมีการมาเช็คด้วยว่าแอบอาบน้ำเกินจำนวนที่กำหนดไว้หรือเปล่า

คืนนั้นพออาบน้ำเสร็จพยายามใช้ซิมที่มีโปรโมชั่นใช้โทรต่างประเทศได้ที่ซื้อมาจากเมืองไทยโทรหาเพื่อน ๆแต่ก็ไร้สัญญาณใด ๆ ใจก็หวิว ๆ เหมือนกัน ยิ่งอากาศหนาว ๆ ในสถานที่ใหม่ ๆมันยิ่งทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยว ในใจก็คิดว่าพรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์นั่งรถไฟเข้าเมืองไปหาสัญญาณ wifi แรง ๆ โทรหรือไลน์หาเพื่อน ๆก็ได้ แล้วค่อยไปสำรวจเส้นทางไปโรงเรียน

อากาศหนาวหมากดีที่แม่ยูสเตรียมผ้านวมให้ 2 ผืน นับเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็ค นอนขดยังกะกิ้งกือใส่ทุกอย่างที่สามารถปิดบังผิวหนังได้ เสื้อแขนยาว 2 ชั้น กางเกงขายาว 2 ชั้น หมวกถุงเท้า ถุงมือ ถ้ามีอะไรที่ปิดหน้าได้คงจะใส่นอนแล้ว แต่กลัวหายใจไม่ออก

พรุ่งนี้จะเข้าไปสำรวจในCBD

แล้วเจอกัน Melbourne




 

Create Date : 08 กันยายน 2560
0 comments
Last Update : 8 กันยายน 2560 10:18:45 น.
Counter : 960 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

เสชาคริต
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add เสชาคริต's blog to your web]
space
space
space
space
space