|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
กว่าจะเป็นน้องต้นกล้า
ในปี พ.ศ. 2547 ผมกับภรรยาก็เริ่มไปพบคุณหมอเพื่อปรึกษาเรื่องมีบุตรเพราะแต่งงานกันมาหลายปีแต่ก็ไม่ตั้งท้องสักที การไปพบหมอครั้งแรกผมก็โดนจับตรวจเชื้อ ส่วนภรรยาก็ตรวจภายใน ผลตรวจเชื่อออกมาพอใช้ ส่วนของภรรยาก็ปกติ คุณหมอแนะนำให้ลองพยายามมีเองไปก่อน พอดีโรงพยาบาลที่ไปตรวจไม่ได้มีคลีนิกผู้มีบุตรยากโดยตรง แต่เป็นการตรวจทางสูติ-นารีเวชปกติ
ปีต่อมามีเพื่อนร่วมงานของภรรยาแนะนำให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลพญาไท 2 เพราะภรรยาเขาท้องแฝดจากการทำเด็กหลอดแก้ว ดังนั้นผมจึงพาภรรยาตรวจที่โรงพยาบาลพญาไท 2 คุณหมอก็สั่งตรวจเชื้อของสามี ส่วนภรรยาโดนตรวจภายในและทำอัลตร้าซาวด์ ผลตรวจเชื้อออกมาไม่ดี มีตัวอสุจิที่เคลื่อนไหวน้อยและในจำนวนตัวที่เคลื่อนไหวมีรูปร่างปกติน้อยอีกต่างหาก คุณหมอบอกว่าคงต้องทำ ICSI (Intra Cytoplasmic Sperm Injection) อย่างเดียว ส่วนภรรยาพบเนื้องอกที่มดลูกหลายก้อน ทำให้ต้องทำผ่าตัดเอาเนื้องอกออกก่อน คุณหมอบอกว่าคงต้องผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง เพื่อให้แน่ใจว่าแผลที่มดลูกจะแข็งแรงเพียงพอที่จะตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นภรรยาผมจึงเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกช่วงปลายปี
ต่อมาในเดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2549 ผมและภรรยาก็เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยาก โดยใช้วิธีการ ICSI เริ่มจากฉีดยาให้รังไข่สร้างไข่จำนวนมาก จากนั้นก็ทำให้ไข่ตก คุณหมอเก็บไข่รอบแรกได้ 9 ใบ จากนั้นฉีดอสุจิเข้าไปในไข่โดยตรง พบว่าเกิดการปฏิสนธิได้ตัวอ่อนแค่ 5 ตัว เลี้ยงตัวอ่อนได้ 3 วัน เหลือตัวอ่อนรอดแค่ 1 ตัว คุณหมอก็ให้กำลังใจ บอกว่าตัวเดียวก็ท้องได้ จากนั้นอีก 14 วันมาเจาะเลือดตรวจ ปรากฏว่าไม่ท้อง การทำ ICSI รอบแรกหมดเงินไปราวๆ 150,000 บาท ผมจึงพักโครงการมีลูกไว้ชั่วคราวเพื่อเก็บเงินและพักร่างกายของภรรยาสักพัก
ต้นปี พ.ศ. 2550 ผมก็เริ่มโครงการมีลูกอีกครั้ง แต่คราวนี้เปลี่ยนโรงพยาบาลไปทำที่โรงพยาบาลเจตตนิน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสำหรับผู้มีบุตรยากโดยเฉพาะ ผมและภรรยาไปพบหมอครั้งแรกโดยไม่ได้นัดหมอไว้ก่อน พอดีมีหมอเกรียงชัยว่าง คุณหมอเลยตรวจให้ คุณหมอทำการตรวจทุกอย่างใหม่หมด รวมทั้งเจาะเลือดหาโรคติดต่อต่างๆด้วย จากนั้นก็นัดมาเริ่มการทำ ICSI โดยใช้ขบวนการเดียวกัน ผมและภรรยารู้สึกประทับใจกับการบริการที่นี้มากเพราะเขาอธิบายขั้นตอนต่างๆได้ดี แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า ด้วย แต่ไม่ได้มากกว่ากันมากนัก การทำ ICSI ครั้งที่สองได้ไข่มากกว่าครั้งแรก แต่ปฏิสนธิได้ตัวอ่อนแค่ 7 ตัว ตายไประหว่างการเลี้ยง 1 ตัว ผมให้ทำการตรวจโครโมโซม (Preimplantation Genetic Diagnosis หรือ PGD) ของตัวอ่อนด้วยเพราะผมและภรรยาอายุมากแล้ว หลังจากตรวจ PGD เหลือตัวอ่อนปกติแค่ 5 ตัว ที่นี้เขาเลี้ยงตัวอ่อนจนถึงระยะบลาสโตซิส คุณหมอก็ใส่กลับเข้าไปที่มดลูก 3 ตัว โดยเลือกตัวที่ดีที่สุด จากนั้นอีก 14 วันมาเจาะเลือดตรวจ ปรากฏว่าไม่ท้อง ผิดหวังอีกตามเคย รอบนี้หมดเงินไปราวๆ 300,000 บาท คุณหมอก็วิเคราะห์หาสาเหตุและบอกว่ารอบหน้าคงต้องตรวจ antibody ด้วย ช่วงนี้ก็เลยขอพักร่างกายไว้ชั่วคราวก่อน
ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ผมและภรรยาก็กลับไปตรวจอีก คราวนี้มีการตรวจ antibody จากเลือดของภรรยาด้วย พบว่ามี antibody ถึง 2 ตัว ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้ คุณหมอบอกว่าสามารถรักษาได้ จากนั้นก็มีการส่องกล้องเข้าไปตรวจภายในโพรงมดลูก พบว่ามีเนื้องอกเกิดขึ้นอีกแต่ไม่ใหญ่มาก เลยต้องเข้าผ่าตัดอีกครั้ง แต่การผ่าตัดครั้งนี้ใช้วิธีส่องกล้อง ทำให้ไม่มีแผลภายนอกและฟื้นตัวได้เร็ว
ในเดือนพฤศจิกายนก็เริ่มขบวนการทำ ICSI อีกครั้ง คราวนี้หมอเพิ่มปริมาณยาฉีดเพื่อกระตุ้นไข่ด้วย คราวนี้เก็บไข่ได้ 17 ใบ แต่ปฏิสนธิได้ตัวอ่อน 11 ตัว คุณหมอพบว่าผนังมดลูกบางเกินไป เลยให้แช่แข็งตัวอ่อนระยะ 1 วันทั้งหมด แล้วนัดมาใส่ตัวอ่อนในรอบเดือนต่อไป ผมและภรรยาเลยขอพักร่างกายไว้สักพักก่อนที่จะกลับมาใส่ตัวอ่อน ช่วงนี้ภรรยาผมก็ได้ไป Fitness ทุกวันเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2551 ก็ได้ไปขอลูกจากสิ่งศักดิ์สิทธิต่างๆที่เขานับถือ ทั้งจากจังหวัดรอบๆกรุงเทพฯ เช่น อ่างทอง ไปจนถึงที่วัดมหาธาตุ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งไปหาหมอดูด้วยว่าจะมีโอกาศท้องสำเร็จหรือไม่ เพราะคิดว่าจะทำเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะหมดเงินและอายุก็มากแล้ว หมอดูบอกว่าจะมีผู้มีบุญมาเกิด เป็นอภิชาตบุตรด้วย แต่จะต้องฟันฝ่าอุปสรรค์ต่างๆก่อนจึงจะสำเร็จ ทำให้ผมและภรรยามีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป ระหว่างนี้ก็ทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระทุกวัน
ในเดือนเมษายน ผมและภรรยาก็ไปพบหมอเพื่อใส่ตัวอ่อนแช่แข็ง หมอให้ภรรยาทานยาเพื่อเพิ่มผนังมดลูก และละลายตัวอ่อนออกมา 6 ตัว ผมให้ตรวจ PGD ด้วย แต่ผลตรวจออกมาไม่ดี มีตัวอ่อนที่ปกติเหลือแต่สองตัวเอง พอได้ระยะ 4 วัน หมอก็ใส่ตัวอ่อนที่เหลือ 2 ตัวกลับเข้าไปที่มดลูก และนัดอีก 14 วันมาเจาะเลือด แต่รอบนี้ต้องฉีดยา Flaxiparine วันละ 1 เข็ม ซึ่งผมต้องเป็นคนฉีดยาให้ และต้องทาน baby aspirin ด้วยเพื่อแก้ปัญหาเรื่อง antibody ระหว่างนี้ภรรยาผมก็กินกับนอนอยู่บนเตียงเลย แต่พยายามไม่เครียด ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมาก ไม่เหมือนทำครั้งแรกที่ตั้งความหวังไว้สูง พอครบ 14 วันก็กลับไปเจาะเลือดและพบหมออีกครั้ง ตอนนั้นก็คิดว่าหมอคงบอกว่าไม่ท้องอีกแล้ว แต่หมอกลับบอกว่าผลเลือดเป็น positive คือ ค่าฮอร์โมน hcg ขึ้นไป 100 กว่าๆ และแสดงความดีใจด้วยว่าท้องแล้ว พร้อมกับนัดมาตรวจอีก 2 อาทิตย์ ผมและภรรยาออกจากห้องหมอด้วยอาการงงๆแต่ก็ดีใจมาก
Create Date : 09 ตุลาคม 2551 |
|
14 comments |
Last Update : 10 ตุลาคม 2551 8:43:01 น. |
Counter : 10810 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: mut IP: 61.19.66.158 9 ตุลาคม 2551 11:19:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: lelhi (lelhibaby ) 24 ตุลาคม 2551 12:23:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: belly IP: 125.24.5.149 18 ธันวาคม 2551 12:52:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: belly IP: 125.24.5.149 18 ธันวาคม 2551 12:57:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cessna182 IP: 58.97.5.6 26 ธันวาคม 2551 13:39:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: belly IP: 125.24.4.183 14 มกราคม 2552 12:31:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: จอย IP: 118.172.201.203 28 พฤศจิกายน 2552 10:38:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: นีน่า (nenaedy ) 9 มีนาคม 2554 12:31:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: รักเอย IP: 203.149.10.213 5 สิงหาคม 2554 10:58:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้อง IP: 202.91.18.206 10 พฤศจิกายน 2554 17:40:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: Eye IP: 118.174.88.146 25 พฤศจิกายน 2554 9:34:05 น. |
|
|
|
| |
|
|