Hokkaido Pass 3 วันก่อนเล่าถึง pass การเดินทางครั้งนี้ เราลืมเอาแพลนไป ปกติเราจะเซฟเป็น pdf โหลดลงมือถือ แล้วเปิดดูเอาระหว่างเดินทาง ถ้ายุคแรกๆ เราไปเที่ยวเราพริ้นท์ไปเลย A4 แต่พอหลังๆ เราว่ามันวุ่นวาย เลยเอาแบบลงมือถือง่ายกว่า ลืมแพลน แผนพังมั้ย ก็ไม่นะ พอจำได้ว่าจะไปไหนบ้าง บางที่เราก็ไปซ้ำไปเก็บตก ก็เลยพอจะมั่นใจได้ว่าเอาน่าไปได้ อีกอย่างที่เรามั่นใจเพราะเราติดหนังสือไปด้วย
credit จาก google เล่มนี้ โอเค ช่วยชีวิตเราได้ เพียงแต่จะเสียเวลาก่อนนอนเล็กน้อยที่ต้องมานั่งหาข้อมูลอีกรอบเพื่อความชัดเจน
เมื่อลืมแพลน! ที่อยู่ เบอร์โทร. ชื่อที่พักในญี่ปุ่น ถือเป็นข้อมูลสำคัญมากจะต้องใช้เพื่อกรอกเอกสารเข้าญี่ปุ่น พอเรารู้ว่าลืมแพลนที่มีรายละเอียดนี้ โอเค ไม่เป็นไร พอถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เราทำอะไรเสร็จระหว่างนั่งรอหน้าเกต เราเลยเปิดเว็บจากมือถือจดๆ ที่อยู่ เบอร์โทร โรงแรมไว้ในสมุดโน้ตให้เรียบร้อยก่อน เตรียมพร้อมสำหรับการกรอกเอกสารเข้าประเทศ การเดินทางครั้งนี้ ไปถึงซัปโปโรเช้าวันที่ 21/5 (บินดึกวันที่20/5) กลับมาถึงไทยเย็นๆ วันที่ 27/5 (บินเช้า) แพลนเที่ยวของเรา คือ Otaru, Hakodate, Noboribetsu และซัปโปโร ค่าใช้จ่าย pass คำนวณค่าเดินทางแล้ว เราเลือก pass สำหรับ 3 วันเริ่มใช้วันที่ไป Hakodate เราซื้อ pass กับ losttripthailand เช่นเดิม https://lostripthailand.com/ (รายละเอียดการซื้อ pass กับที่นี่อยู่ด้านล่าง *) สำหรับการเดินทางไป Otaru ไป-กลับ เราซื้อตั๋วจองที่นั่งกับ JR office
ส่วนอีก 2 วันที่เหลือ การเดินทางในซัปโปโร เช็คแล้วเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินทั้งหมดเราเลยกะว่าจะซื้อตั๋ววัน เขาจะมีตั๋วสำหรับวันธรรมดา ราคา 820 เยน เดินทางไปสัก 3 ที่ไปกลับก็คุ้มเกินราคาตั๋ว 1 วันแล้วค่ะ ส่วนวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ตั๋ว 1 วันรถไฟใต้ดินลดราคา เหลือ 520 เยน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่นะคะ ยิ่งคุ้มไปอิ๊ก แต่ตั๋ววันจะใช้กับรถรางใน Sapporo ไม่ได้ (การเดินทางไปชมวิวที่ Mt. Moiwa ต้องเดินทางด้วยรถราง จ่ายเพิ่มต่างหาก) ตั๋ว 1 วันกดที่ตู้จำหน่ายตั๋วได้เลยค่ะ one day pass มี 2 ราคา ผู้ใหญ่ และเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี
การเดินทางใน Hokkaido เราแนะนำว่าควรจองที่นั่งทุกครั้ง จะสบายกว่ากันเหนียว แต่วันที่เราไป Otaru ก็ไม่ได้จอง เพราะ พนง. บอกไม่ต้องจอง เราต้องไปรอตรงตู้ที่ไม่ใช่ reserved ลุ้นแทบตาย แต่ก็ได้นั่ง (ต่อการซื้อ pass *) การสั่งซื้อ pass กับ losttrip สามารถติดต่อสอบถามพูดคุยกันทางอีเมล ทางไลน์ ทางโทร. แจ้งว่าส่งได้ทันแน่นอน หลังจากโอนเงิน (ถ้าตัดบัตรเครดิตมี charge 3%) เขาจะอีเมลมาบอกเป็นระยะๆว่าตอนนี้ขั้นตอนไหนบ้างแล้ว Pass ถูกส่งด้วย DHL ไม่เกิน 3 วันเราก็ได้ pass แล้ว เร็วมากกกก ในซองมีส่วนลด big camera และดองกี้ด้วย ค่าเดินทางที่นี่ เราว่าราคาสูง ต้องวางแผนดีๆ เลยล่ะ อาจต้องใช้เวลาพอควรในการวางแผน ตอนเรามาเมื่อปลายปี 2560/2017 เราเลือกใช้ pass แบบ 7 วัน เพราะไป Otaru,Hakodate, Noboribetsu, Asahikawa และใช้ไปกลับสนามบิน ซัปโปโร ซื้อแบบ 7 วันคุ้มมาก
สำหรับการซื้อ pass จากที่เราสอบถามมีอีกที่ขาย pass ราคาถูกกว่า แต่ต้องส่งมาจากต่างประเทศ ซึ่งเราถามเขาแล้ว หนนี้เราซื้อค่อนข้างกระชั้นชิดเพราะเสียเวลาคำนวณความคุ้มค่าของตั๋ว เรามาซื้อก่อนเดินทางประมาณ 7 วัน เขาบอกไม่น่าจะทัน ต้องเผื่อเวลาไปประมาณสองอาทิตย์ แต่ที่บอกว่าอีกที่ถูกกว่าถูกกว่าไม่มากนะคะ ถูกกว่าหลักสิบแค่นั้นเอง ปล. ส่งท้าย อีกเรื่อง คือ รถไฟด่วนที่เรามักจะคุ้นเคยเดินทางใน Hokkaido คือ Hokutu แต่วันที่เรากลับจาก Noboribetsu พอดีเราเที่ยวเสร็จเร็ว เลยขอเปลี่ยนเวลาให้เร็วขึ้นได้รถด่วนเหมือนกัน แต่เป็นรุ่น Ltd. Express Suzuran เอ้ย ดีงามมากกว่า Hokutu เพราะ Suzuran ที่นั่งกว้างกว่า ที่เหยียดขากว้างกว่า มีที่ charge แบตฯมือถือ/โน้ตบุ๊ค หรืออื่นๆ ได้ โอเคเลย สำหรับ pass และการเดินทางมีแค่นี้
Create Date : 29 พฤษภาคม 2561 |
Last Update : 29 กันยายน 2564 19:35:54 น. |
|
0 comments
|
Counter : 754 Pageviews. |
|
|