Group Blog
 
<<
เมษายน 2561
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
21 เมษายน 2561
 
All Blogs
 
ก็เที่ยวไปเรื่อย ตอนที่ 20 ลุยเดี่ยวเที่ยวโอซาก้า-ญี่ปุ่น(Part 1)เตรียมตัวเดินทางสู่ญี่ปุ่นกันเลย





ถ้าพูดถึง ญี่ปุ่น ก็เป็นสถานที่ยอดฮิตที่ใครๆก็มักอยากจะไปเยือนกัน
     ให้ได้สักครั้งล่ะนะ เราเองก็เช่นกัน และเหตุผลที่เราไปนี้ก็เพราะ 
      ความบ้าการ์ตูนล้วนๆเลย อยากไปตามรอยการ์ตูนที่ชอบ 555

 ในทริปครั้งนี้ เป็นการเดินทางออกต่างประเทศคนเดียวครั้งแรกของเรา
    และเราก็อยากที่จะไปเอง แบบไม่ง้อทัวร์ จากการที่ศึกษาข้อมูลมา
   เมืองที่เราจะไปนั้น สามารถเที่ยวด้วยตัวเองได้ เราก็วางแผนเลยจ้า

การเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

1.ตั้งโปรแกรมก่อนเลยว่า อยากจะไปเที่ยวในเมืองไหน โซนไหนและ
   ช่วงฤดูไหนของญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นก็มีหลายภูมิภาค หลายเมือง
   และในแต่ละที่แต่ละช่วงฤดู ก็มีความน่าเที่ยวแตกต่างกันไป ซึ่งญี่ปุ่น
   นั้นแบ่งเป็น 8 ภูมิภาค 47 จังหวัด คร่าวๆตามนี้ แต่ละที่มีอะไร
   น่าเที่ยว น่าสนใจก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมกันดูนะ

   -ภูมิภาคฮอกไกโด เป็นเกาะใหญ่อยู่ทางเหนือ ประกอบด้วย
     จังหวัดเดียวเพียวๆเลย ก็คือจังหวัดฮอกไกโด 
   -ภูมิภาคโทโฮคุ ประกอบด้วย 6จังหวัด คือ อาโอโมริ,อิวาเตะ,
     มิยางิ,อาคิตะ,ยามากาตะ,ฟุกุชิมะ
   -ภูมิภาคคันโต เป็นศูนย์กลางของญี่ปุ่นและก็เป็นโซนท่องเที่ยว
     ยอดนิยม ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ อิบารากิ,โทชิงิ,กุนมะ,
     ไซตามะ,ชิบะ,โตเกียว,คานากาว่า
   -ภูมิภาคจูบุ ประกอบด้วย 9จังหวัด คือ นีงาตะ,โทยาม่า,อิชิคาว่า,
     ฟุคุอิ,ยามานาชิ,นากาโนะ,กิฟุ,ชิสึโอกะ,ไอจิ
   -ภูมิภาคคันไซ เป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะ
    เคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงเก่า ก่อนจะย้ายไปที่โตเกียว เป็นโซน
    ท่องเที่ยวยอดฮิตเช่นกัน ประกอบด้วย 7 จังหวัด คือ มิเอะ,ชิกะ,
    เกียวโต,โอซาก้า,เฮียวโงะ,นารา,วาคายามะ
   -ภูมิภาคจูโงขุ ประกอบด้วย 5 จังหวัด คือ ทตโทริ,ชิมาเนะ,
    โอคายาม่า,ฮิโรชิม่า,ยามากุจิ
   -ภูมิภาคชิโกกุ ประกอบด้วย 4 จังหวัด คือ คางาวะ,โทคุชิมะ,
    เอฮิเมะ,โคจิ
   -ภูมิภาคคิวชู ประกอบด้วย 8 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ,ซากะ,นางาซากิ,
    คุมาโมโตะ,โออิตะ,มิยาซากิ,คาโกชิม่า,โอกินาว่า

        แนะนำเมืองท่องเที่ยวจ้ะ ลองดูประกอบการพิจารณาได้ 

   ส่วนตัวเรานั้น ในทริปนี้เลือกไปเที่ยวเมืองโอซาก้าจ้า เฮ!ๆๆ

2.วางแผนว่าจะไปเที่ยวช่วงฤดูไหน แน่นอนว่าญี่ปุ่นเองก็มีหลากหลาย
   ฤดูกาล มีสภาพอากาศแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู แต่ละพื้นที่ เราควร
   ศึกษาก่อนว่าสถานที่ๆจะไปในช่วงนั้น ตรงกับช่วงฤดูอะไร สภาพ
   อากาศเป็นแบบไหน จะได้เตรียมเสื้อผ้าและของใช้ต่างๆให้เหมาะสม
   ซึ่งญี่ปุ่นนั้นมี 4ฤดูกาล ดังนี้นะจ๊ะ
   -ฤดูใบไม้ผลิ คือช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เป็นช่วงของการชม
    ดอกไม้ ดอกซากุระบาน อากาศช่วงนี้คือเย็นสบายๆ
   -ฤดูร้อน คือช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม เป็นช่วงชมผลไม้และ  
    เทศกาลฤดูร้อน แต่จริงๆหน้าร้อนบ้านเขายังเย็นกว่าบ้านเรานะ 555
   -ฤดูใบไม้ร่วง คือช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน เป็นช่วงของ
    การชมใบไม้เปลี่ยนสีและเทศกาลเก็บเกี่ยว
   -ฤดูหนาว คือช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ เป็นช่วงชมหิมะ เล่นสกี
    และเทศกาลหน้าหนาวต่างๆ ช่วงนี้จัดชุดกันหนาวไปเลยเต็มๆ

   ส่วนตัวเรานั้น ใช้วิธีการSearchแฮชแท็กในIG ว่าสถานที่ๆจะไปนั้น
 คนที่นั่นเขาแต่งกายกันแบบไหนในช่วงนั้นๆ สภาพอากาศเป็นอย่างไร
   (การติดแฮชแท็กในIGหรือในโซเชียลต่างๆนี่มันมีประโยชน์นะ 55)
  เราไปช่วงเดือนเมษายน(15-20)อากาศที่นั่นกำลังเย็นๆ ไม่หนาวมาก

3.เตรียมพาสสปอร์ตและจองตั๋วเครื่องบิน เมื่อมั่นใจแล้วว่าจะไปเที่ยว
  โซนนี้ ช่วงฤดูนี้ สิ่งที่ห้ามลืมเลยก็คือพาสปอร์ต ใครยังไม่มีก็ไป
   ดำเนินการทำให้เรียบร้อยนะ(ค่าทำเล่มใหม่1000บาท) และเมื่อมี
  วันที่แน่นอนแล้ว เราก็จัดการจองตั๋วเครื่องบินกันเลย ซึ่งเที่ยวบินไป
  ญี่ปุ่นนั้นมีหลากหลาย ทั้งบินตรงและบินแบบต่อเครื่อง ถ้าอย่างไรก็
  ต้องคอยดูบางสายการบินอาจจะมีช่วงโปรโมโมชั่น ให้จองตั๋วล่วงหน้า
  ในราคาที่ถูกกว่าปกติมาก(อันนี้ต้องมั่นใจว่าไปแน่นอน เพราะต้องจอง
   ล่วงหน้าหลายเดือนเลย จองจนเกือบลืม 55)

  เราจองล่วงหน้ากับแอร์เอเชียเอ็กซ์ ไปกลับราวๆ14000บาท สำหรับ
  เราแล้ว ราคาไหนพอจ่ายได้ โอเคก็จองเลยจ้า

4.จองโรงแรมหรือที่พักในญี่ปุ่น เมื่อพร้อมแล้วทั้งสถานที่และวันที่จะ
   เดินทางไป ต่อไปก็คือการจองที่พัก ควรจองล่วงหน้าไว้ดีกว่า เพราะ
  ญี่ปุ่นเป็นเมืองท่องเที่ยว โอกาสที่ๆพักดีๆราคาไม่แพงจะถูกจองเต็ม
  ไปก่อนนั้นมีมากเลย ซึ่งการจองนั้นสามารถจองผ่านAppต่างๆได้
   เช่น Agoda,Booking หรืออย่างอื่นตามแต่ละคนสะดวก และที่ญี่ปุ่น
  นั้นก็มีที่พักหลากหลายรูปแบบ เช่นโรงแรมเป็นห้องเดี่ยว พวกนี้ราคา
   อาจจะสูงหน่อย แต่ถ้าไปแบบลุยๆไม่ซีเรียสก็พักแบบเกสต์เฮาส์ก็ได้

   เราไปนี้จองที่พักที่Ken's House เป็นโฮสเทลจ้ะ เท่านี้ก็โอเค ถูกดี

   การจองที่พักนั้น แนะนำให้จองที่พักที่อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟไว้จะดีมาก
   เพราะไม่ว่าจะไปเดินเที่ยวที่ไหน เราก็สามารถหาทางกลับที่พักได้
   ง่ายๆ แค่จำสถานีที่ใกล้ที่พักของเราไว้ ไม่มีหลง 55

5.เตรียมพาสรถไฟและแผนการท่องเที่ยว ญี่ปุ่นนั้นมีความสะดวกใน
   การเดินทาง ยิ่งพาหนะหลักยอดนิยมคือรถไฟนั่นเอง รถไฟญี่ปุ่นนี่คือ
   ไปมันได้แทบทุกที่ เรียกได้ว่าสะดวกสบายมากๆ ซึ่งรถไฟที่ญี่ปุ่นนั้น
   มีหลายสาย หลายเส้นทาง ดูแผนที่แรกๆอาจจะงง แต่พอไปจริงๆ
   มันก็ไม่ได้งงเท่าไหร่นะ และสำหรับนักท่องเที่ยวนั้นจะมีตั๋วรถไฟ
   แบบที่ซื้อใบเดียวใช้ขึ้นรถไฟในญี่ปุ่นกี่เที่ยวก็ได้ ภายในโซนและ
   ภายในวันที่กำหนด ซึ่งแบบนี้คุ้มกว่าซื้อแบบเที่ยวต่อเที่ยวนะ
   ตั๋วรถไฟแบบเหมานี้สามารถซื้อได้เลยตั้งแต่ในไทยจ้ะ

   อย่างเราเองไปโอซาก้า เราเลือกซื้อตั๋วKansai Thru Pass จ้ะ
   เป็นแบบใช้ได้3วัน(ไม่ต้องติดต่อกันก็ได้ ใช้วันเว้นวันก็ได้)
   เพราะคิดดูแล้วเหมาะสมกับแผนของเราที่สุดละ

   ส่วนตั๋วแบบอื่นๆก็มีอีกหลากหลาย สนใจก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมกันนะ

6.การใช้Internet ที่ญี่ปุ่น แน่นอนว่าอินเตอร์เน็ตนี่เป็นสิ่งสำคัญมาก
  โดยเฉพาะคนที่เที่ยวคนเดียวเช่นเราด้วย 55 เพราะต้องใช้หาข้อมูล
  ต่างๆ เผื่อหลง เผื่อติดต่อกับคนที่บ้าน อะไรแบบนี้ ซึ่งการใช้เน็ตที่
  ญี่ปุ่นนั้น มีทั้งการใช้WiFiแบบพกพา ซึ่งสามารถติดต่อเช่าได้ ราคา
  ก็ราวๆวันละ150-300บาท แต่แบบนี้อาจจะเกะกะสักหน่อย เพราะ
  ต้องพกเครื่องสัญญาณWiFiเพิ่มไปด้วยอีกเครื่อง
   และอีกวิธีหนึ่งก็คือ การใช้ซิมโรมมิ่ง ซึ่งเดี๋ยวนี้ตามค่ายมือถือต่างๆ
   เรื่มมีการเปิดตัวซิมโรมมิ่ง สามารถเล่นเน็ตในต่างประเทศได้ ราคา
  แต่ละโซนก็จะแตกต่างกันไป(แต่ใช้เ่ล่นในไทยไม่ได้นะ) สำหรับเรา
 แล้ววิธีนี้สะดวกมากๆ เพราะก่อนจะขึ้นเครื่องบิน เราก็แค่เปลี่ยนซิมไว้
   พอไปถึงญี่ปุ่นก็ใช้งาน เล่นเน็ตที่นั่นได้เลย สบาย 55

7.แลกเงินเยนไว้ใช้ที่ญี่ปุ่น เมื่อเรามีงบประมาณที่แน่นอนแล้ว ก็ไปแลก
   เงินเยนไว้ได้เลย ร้านแลกเงินในไทยนี้ก็มีหลายร้าน แลกไว้ล่วงหน้า
   ดีกว่า เพราะถ้าไปแลกกะทันหันตามสนามบินนี่คิวยาวเชียว

8.อาหารการกินในญี่ปุ่น หลายคนคิดว่าที่ญี่ปุ่นค่าอาหารคงจะแพง
   มันก็แพงจริงๆแหละ 55 ถ้าเป็นตามร้านอาหาร เมนูหรูต่างๆนะ แต่
  ที่ญี่ปุ่นเองก็มีเซเว่น แฟมิลี่มาร์ท ร้านLawsan มีข้าวปั้นและข้าวกล่อง
  ราคาไม่แพงหลากหลายให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกเยอะเลย
  (ไปนี่เราไม่จำเป็นต้องกินหรูทุกมื้อก็ได้ สลับๆกันไป)

       ในการซื้อของตามร้านที่ญี่ปุ่น อย่ายื่นเงินใส่มือพนักงานนะ 
                 เราต้องวางเงินใส่ในถาดที่เขาเตรียมไว้ให้

9.ห้องน้ำที่ญี่ปุ่น มีทั้งแบบนั่งยองๆสไตล์ดั้งเดิมและแบบชักโครก(ส่วน
   ใหญ่เป็นชักโครก)มีปุ่มต่างๆเยอะแยะมากมายจริงๆ 555

10.การทิ้งขยะที่ญี่ปุ่น ถังขยะเขาแยกประเภทชัดเจน ทิ้งให้ถูกนะ

 เอาล่ะ เมื่อพร้อมแล้วเราก็ จัดกระเป๋าออกเดินทางสู่โอซาก้า-ญี่ปุ่นเล้ย

เที่ยวบินที่เราจะเดินทางไปนั้น บินตอนบ่ายสอง เราก็ออกเดินทางไปซะ
    ตั้งแต่ราวๆ8โมงเช้าเลย 55 เราชอบไปก่อนล่วงหน้าหลายๆชม.น่ะ
  เพราะจะได้ผ่านขั้นตอนการเช็คอิน อะไรต่างๆได้แบบไม่ต้องรีบร้อน

เราขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง ก็นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีMrtจตุจักร
(ฺBtsหมอชิต) จะมีรถเมล์สายA1วิ่งไปสนามบินดอนเมืองให้บริการอยู่
    ค่าโดยสารคนละ30บาท ใช้เวลาราวๆ 30-40นาที



 รถเมล์มาจอดที่หน้าทางเข้าอาคารผู้โดยสารขาออกเลย เราก็เดินเล่น
   ดูอะไรไปเรื่อย จนราวๆ11โมงกว่าๆ ได้เวลาเช็คอิน เรานี่ดีหน่อยว่า
สะพายเป้ไปอย่างเดียวสบายๆ ไม่มีข้าวของเยอะให้ต้องโหลดใต้เครื่อง

 สำหรับคนที่เพิ่งขึ้นเครื่องไปต่างประเทศครั้งแรก การเช็คอินนั้นคือ
 ยื่นแค่พาสปอร์ตอย่างเดียวก็ได้ เขาจะหาข้อมูลการจองของเราและ
 ปรินท์Boarding Pass ให้(ตั๋วเครื่องบินนั่นแหละ) ซึ่งในตั่วจะระบุ
 เลขที่นั่ง(เป็นแบบสุ่มนะ ถ้าเลือกต้องเสียเงินเพิ่มตอนจอง)และGate
 หรือประตูทางออกขึ้นเครื่อง และเวลาขึ้นเครื่อง 

  เมื่อได้ตั๋วมาแล้ว และต้องการไปนั่งรอที่Gate เราก็ต้องผ่านขั้นตอน
  การตรวจพาสปอร์ตก่อน เรียบร้อยแล้วก็ตรวจกระเป๋า ตรวจร่างกาย
       ว่านำของต้องสงสัยติดตัวไปหรือไม่ แน่นอนว่าเราผ่านฉลุย

แล้วเราก็เดินไปที่Gateจ้ะ ดูได้จากในตั๋วว่าหมายเลขอะไร ไปตามป้าย



      นั่งรอ รอแล้วรอเล่า เวลาผ่านไปจนในที่สุดก็ได้ขึ้นเครื่อง เฮ!



ในขณะที่อยู่บนเครื่อง แอร์ฯจะแจกใบตม.และใบศุลกากรให้เรากรอกไว้
  เพื่อเข้าญี่ปุ่น ซึ่งวิธีการกรอกนั้นดูได้จากคู่มือที่เสียบอยู่หน้าที่นั่งเรา
     ควรกรอกตั้งแต่บนเครื่องนะ เพราะเมื่อถึงแล้วจะได้ไปต่อแถวเลย

หลังจากใช้เวลาเดินทางราวๆ5ชั่วโมงกว่า เราก็มาถึงสนามบินนานาชาติ
   คันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นแล้ว! ความรู้สึกแวบแรกคือ เรามาแล้ว
    ในที่สุด เราก็มาถึงที่ๆเป็นถิ่นการ์ตูนที่เราชอบแล้ว ปลื้มมาก 555

  เวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทย2ชั่วโมงนะ แต่มือถือเรามันปรับ
  อัตโนมัติอยู่แล้วพอไปถึงที่นั่น ไปถึงก็2ทุ่มเวลาไทย ที่นั่นก็4ทุ่มแล้ว
  พอลงเครื่องก็ดำเนินการผ่านตม. ซึ่งถ้าเราไม่มีอะไรน่าสงสัย ก็แค่
  ตรวจพาสปอร์ต สแกนลายนิ้วมือ ถ่ายรูป ก็ผ่านได้สบายๆ

  และด้วยความงก เอ้ย!กะจะประหยัดค่าที่พักไปสักคืน คืนนี้เราก็นอนที่
  สนามบินนี่เลยจ้า ที่สนามบินคันไซนี้มีพื้นที่ให้นอนพักผ่อนได้สะดวก
  สบายและฟรีด้วย นั่นคือAero Plaza จ้ะ อยู่บริเวณทางเชื่อมที่ชั้น2



    มีป้ายบอกชัดเจน เดินไปตามทางเรื่อยๆจะเจอทางเข้าAero Plaza
        ด้านหน้าจะมีร้านเบอร์เกอร์คิงกับร้านLawsan เปิด24ชม.นะ



ภายในโซนพักผ่อนของAero Plaza เข้าไปจับจองที่นอนกันได้ มีปลั๊ก
ให้ชาร์ตแบตหลายจุด อ๊ะ!ปลั๊กไฟของญี่ปุ่นเป็นแบบขาแบนอย่างเดียว
นะ คือแบบที่ชาร์ตโทรศัพท์ของเรานี่ล่ะใช้ได้ มีผ้าห่มให้ยืมและมีห้อง
อาบน้ำ ห้องน้ำให้เรียบร้อย มีรปภ.คอยเดินตรวจ สะดวกปลอดภัยดีจ้า



   เมื่อได้ที่ของตัวเองแล้วก็ นอนเลย เป็นคนสบายๆ นอนไหนก็ได้ 55
    จนเวลาผ่านไป ก็ได้เวลาอรุณเบิกฟ้า ตื่นแล้วจ้า ออกไปหาอะไรกิน
 ร้านLawsan สักหน่อย คือ พวกขนมปังนี่ แปลไม่ออกนะว่ามันไส้อะไร
 แต่ด้วยความที่เรากินได้ทุกอย่างไม่มีแพ้ เราก็สุ่มๆหยิบเลย สนุกดี 55



                   ที่หยิบมาได้อันนี้ ไส้ถั่วแดง อร่อยดีเหมือนกัน



 นั่งเล่นกินมื้อเช้าแบบง่ายๆ ก่อนจะออกเดินทางไปเที่ยว สำหรับตอนนี้
     ก็ขอจบไปก่อนนะ แล้วตอนหน้าเราจะเริ่มตะลุยเมืองโอซาก้าแล้ว







Create Date : 21 เมษายน 2561
Last Update : 21 เมษายน 2561 23:04:06 น. 1 comments
Counter : 879 Pageviews.

 
เจ๋งอ่ะกวาง


โดย: แจ่มใส เงาศรี IP: 1.46.143.1 วันที่: 22 เมษายน 2561 เวลา:10:54:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไมตรีและมิตรภาพ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ชอบการ์ตูน ชอบวาดรูป ชอบท่องเที่ยว
ชอบเขียนอะไรไปเรื่อย บล็อกนี้มีหลายเรื่องราว
โปรดใช้จักรยานในการรับชม 555
: Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add ไมตรีและมิตรภาพ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.