ตามสุดฟ้า ล่าสุดรัก ตอนที่4. ผู้อาศัยที่ไร้ยางอาย
4 อ่า...เดี๋ยวนะคะเรื่องด่วนที่คุณให้ฉันวิ่งตามจนรองเท้าส้นแหลมของฉันแทบพลิกก็คือ...ให้ฉันมาซ่อมไอ้เจ้านี่นะเหรอคะด็อกเตอร์ภาคภูมิ คริสต์ชี้มือไปยังเครื่องชงกาแฟรุ่นโบราณที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์เครื่องดื่มทั้งหรี่ตามองด็อกเตอร์วัยกลางคนที่ถึงเขาจะไม่แนะนำตัวเธอก็สามารถรู้จักชื่อเขาได้จากป้ายที่แขวนอยู่บนคอ ความรู้สึกตอนนี้ไม่ต่างจากถูกลองภูมิแต่หากคิดจะลองภูมิเธอจริง ๆ ล่ะก็ ขออะไรที่มันยากกว่าการซ่อมไอ้เครื่องชงกาแฟแรงดันไอน้ำเก๋ากึ๊กอันนี้หน่อยจะได้ไหมอาทิเช่น พวกเครื่องทดสอบแรงดึง กด กระแทก อะไรประมาณนี้ มันสำคัญกับชีวิตผมมากเชียวนะครับถ้าด็อกเตอร์สามารถซ่อมมันได้ จะเป็นพระคุณยิ่ง เมื่อเห็นสีหน้าอ้อนวอนราวกับว่าเธอคือหมอเทวดาที่เขากำลังฝากชีวิตลูกสาวสุดที่รักเอาไว้ในมือแล้วอาการที่อยากจะปี๊ดแตกบนใบหน้าก็มีอันอ่อนลงไปพร้อมกับคำพูดเจ็บ ๆที่กลืนลงไปในลำคอในคราวเดียว มันก็แค่เครื่องชงกาแฟนี่คะให้ทหารช่างคนไหนมาช่วยซ่อมก็น่าจะได้ คริสต์แนะนำ ทหารช่างที่นี่ซ่อมเป็นแต่รถยนต์กับเครื่องบินของสำคัญแบบนี้ พวกเขาทำไม่ได้หรอกครับ ดร.ภาคภูมิเอ่ยพลางทำหน้าเศร้า ของสำคัญ?ไอ้เครื่องกาแฟรุ่นพ่อยังหนุ่มนี่นะ... ฉันเองก็ไม่เคยซ่อมของพวกนี้มาก่อนเหมือนกันค่ะ...เอาอย่างนี้ไหมคะ...เช่นนั้นก็ยกไปร้านที่มีความชำนาญในการซ่อมหรือไม่ก็ซื้อเครื่องใหม่ไปเลย เก่าแบบนี้โละทิ้งไปก็ดูสมเหตุผลนะคะดิฉันว่า ไม่ได้เด็ดขาดครับ...เครื่องนี้มันอยู่กับผมมาตั้งแต่ผมเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ ยังไงผมก็ไม่ยอมทิ้งให้มันนอนเศร้าอยู่ในห้องเก็บของเด็ดขาดดร.ภาคภูมิเอ่ยเสียงแข็ง ยืนยันจุดยืนที่ชัดเจนโอบกอดเครื่องชงกาแฟเครื่องนั้นอย่างหวงแหนชวนให้คิดถึงเด็กน้อยที่กำลังหวงของเล่นชิ้นโปรด เมื่อรู้ว่ามันกำลังจะถูกนำไปทิ้งก่อนจะเงยหน้าสบตาหญิงสาวด้วยแววตาอ้อนวอน อัจฉริยะอย่างด็อกเตอร์คริสต์ผมเชื่อในความสามารถของคุณ...ซ่อมเถอะครับ ภายในห้องที่แค่คริสต์กวาดตามองไปก็ดูออกว่าที่นี่ถูกใช้เป็นห้องวิจัยภายในมีเจ้าหน้าที่วิจัยหลายคนกำลังทำงานกันเงียบ ๆ ไม่มีใครหันมาสนใจเธอกับด็อกเตอร์ภาคภูมิเลยสักคนแต่กระนั้นคริสต์ก็ยังมองเห็นรอยขบขันบนสีหน้าที่พยายามแสดงความเรียบเฉยจริงจังกับงานของพนักงานบางคนอยู่ดี เอาล่ะค่ะ...เดี๋ยวดิฉันจะดูให้...แต่บอกตามตรงนะคะว่าไม่เคยซ่อมเครื่องกาแฟเลยสักครั้งจริง ๆ ถ้าพังก็อย่ามากล่าวโทษกันนะคะคริสต์รับปากในที่สุดก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดและค้นอะไรบางอย่างในอินเตอร์เน็ต ปากเอ่ยขอในสิ่งที่ต้องการขอเครื่องมือช่างด้วยค่ะ ถ้าไม่มี คงทำอะไรไม่ได้ ครับๆ ไกรสรไปเอาเครื่องมือมา รับปากแล้วก็ตะโกนสั่งลูกน้องต่อ สายตายังมองการกระทำของด็อกเตอร์สาวที่ยังคงให้ความสนใจกับโทรศัพท์ในมือจนอดที่จะถามไม่ได้ ด็อกเตอร์หาอะไรอยู่ครับ หาว่าเครื่องชงกาแฟอันนี้เป็นแบบไหนมีระบบการทำงานยังไงจะได้รู้ว่าส่วนที่มันมีปัญหาน่าจะอยู่จุดไหนได้บ้าง...เอาล่ะเจอแล้วคริสต์ยิ้มกับข้อมูลที่มีอยู่ในมือ เครื่องมือมาแล้วครับอาจารย์เจ้าหน้าที่วิจัยผู้ได้รับมอบหมาย ส่งกล่องเครื่องมือมาวางบนโต๊ะ ข้าง ๆของสำคัญของหัวหน้าหน่วย คริสต์เริ่มแกะชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องออกอย่างเบามือ และวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบก่อนหลังจนกระทั่งมองเห็นกลไกต่าง ๆ ที่อยู่ภายในมองหาสิ่งผิดปกติที่อาจมีขึ้นในตำแหน่งสำคัญ ทั้งหม้อต้ม ท่อผ่านแรงดันของน้ำ และการนำเข้ากระแสไฟฟ้ารวมไปถึงสิ่งแปลกปลอมที่อาจเล็ดลอดเข้าไปก่อความเสียหาภายในตัวเครื่องภายใต้แววตาแสดงความสนอกสนใจและชื่นชมในความสามารถ ความพิถีพิถัน ละเอียดรอบคอบของเธอจากบุคคลที่ยืนดูอยู่ไม่ห่าง เมื่อทุกอย่างถูกตรวจสอบแก้ไขเรียบร้อยคริสต์ประกอบอุปกรณ์ทุกชิ้นเข้าด้วยกันตามลำดับของชิ้นส่วนที่วางเรียงเอาไว้แต่แรกจนกระทั่งแล้วเสร็จหมดจด สมบูรณ์แบบ ในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที เสร็จแล้วค่ะ...ด็อกเตอร์คริสต์เอ่ย ทั้งรู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นรอยยิ้มดีใจของอีกฝ่าย เมื่อเขาทดลองใช้งานและได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังเอาไว้ ดีเหมือนใหม่เลยครับขอบคุณด็อกเตอร์ ที่ทำให้ผมยังมีโอกาสได้อยู่กับมันไปอีกนาน...ผมขอตัวเอาไปเก็บก่อนนะครับว่าแล้วด็อกเตอร์หัวหน้าศูนย์วิจัยก็โอบอุ้มเครื่องชงกาแฟขนาดกะทัดรัดเดินจากไปอย่างทะนุถนอม อ้าว...เครื่องนี้ไม่ได้มีไว้ใช้ในศูนย์วิจัยแห่งนี้หรอกเหรอคริสต์มองตามทั้งพึมพำอย่างไม่เข้าใจ เปล่าหรอกครับเครื่องที่ใช้ประจำที่นี่วางอยู่ทางโน้นส่วนเครื่องนั้นเป็นของอาจารย์ที่หอบหิ้วมาใช้ส่วนตัว คนอธิบายคือหนุ่มทีมวิจัยนามไกรสรผู้ที่นำเครื่องมือซ่อมมาให้ ผมไกรสร ยินดีที่ได้รู้จักครับ เขาถือโอกาสแนะนำตัวกับด็อกเตอร์สาวสวยผู้มีชื่อเสียงโด่งดังด้วยสีหน้าและแววตาชื่นชม สวัสดีค่ะดิฉันคริสต์ ริกเกอร์ คริสต์แนะนำตัวเองบ้าง ทั้งยื่นมือไปสัมผัสทักทายตามธรรมเนียมสากลกับมือที่ยื่นออกมารออยู่ก่อนพร้อมรอยยิ้มว่าแต่ไอ้เครื่องชงกาแฟเครื่องนั้นสำคัญยังไงดูเหมือนด็อกเตอร์ภาคภูมิจะทั้งรักทั้งหวงอยู่ไม่น้อย ได้ยินมาว่าเป็นของขวัญชิ้นแรกที่ภรรยาของอาจารย์ซื้อให้หลังจากได้เข้าทำงานที่ศูนย์วิจัยแห่งนี้ ท่านเคยบอกไว้ว่าทุกครั้งที่ดื่มกาแฟจากเครื่องชงเครื่องนี้เป็นเสมือนภรรยาของท่านชง ก็ถือได้ว่าเป็นของทดแทนใจที่จะใช้ระลึกถึงภรรยาของอาจารย์ที่จากโลกนี้ไปแล้วหลายปีล่ะครับด็อกเตอร์ไกรสรเอ่ยด้วยสีหน้าซาบซึ้ง พลอยให้คนฟังรู้สึกซาบซึ้งไปด้วย ไม่อยากจะเชื่อ...เครื่องชงกาแฟก็สามารถเป็นอนุสรณ์แห่งความรักได้ไม่ต่างจากดอกไม้ เครื่องประดับ หรือสถานที่ที่สวยงาม...น่าประทับใจจริงๆ คุณเก่งมากสมคำร่ำลือจริงๆ ใช้เวลาซ่อมไม่ถึงสิบนาทีซะด้วยซ้ำ เก่งจริง ๆ ภาคภูมิเดินกลับมาสมทบ ทั้งยังเอ่ยชมไม่ขาดปาก ก็แค่ขั้วสายไฟที่อยู่ภายในมันเสื่อมสภาพและหลุดออกมาแค่นั้นเองค่ะใส่กลับเข้าไปใหม่มันก็ใช้งานได้แล้ว...ปัญหาแบบนี้ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เป็นใครก็ทำได้ ผมไม่กล้าให้ใครมาแตะเครื่องนี้หรอกครับ แล้วทำไมถึงกล้าให้ฉันซ่อมให้ล่ะคะคริสต์ถามด้วยความสงสัย เพราะคุณคืออัจฉริยะทางฟิสิกส์และยังเป็นอัจฉริยะด้านวิศวะเครื่องกลที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วทุกมุมโลกต่างรู้จัก คำเฉลยของด็อกเตอร์ภาคภูมิเล่นเอาคริสต์ถึงกับใช้มือปาดเหงื่อ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ เรื่องชื่อเสียงพวกนั้นมันก็แค่ข่าวที่เขาเขียนโอเว่อร์เพื่อขายเท่านั้นเอง จะยังไงก็แล้วแต่ในที่สุดคุณก็ซ่อมเครื่องชงกาแฟให้ผมได้สำเร็จ...ถือเป็นการการันตีความสามารถที่ดีเยี่ยมเลยเชียว...มาทางนี้ครับเดี๋ยวผมจะแนะนำสมาชิกผู้ร่วมงานในศูนย์วิจัยแห่งนี้ให้คุณได้รู้จักเอาไว้ คริสต์อยากจะหัวเราะออกมาดังๆ ซะจริง ๆ กับความสิ่งที่การันตีความสามารถของเธอ...นี่แค่ซ่อมเครื่องชงกาแฟเท่านั้นนะ หากพวกเขารู้ว่าเธอผ่านการสร้างหุ่นยนต์มาแล้วเขาจะว่ายังไง...แต่เอ๊ะ!... หรือพวกเขาจะรู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน... เสียงเคาะประตูที่ดังเป็นจังหวะด้วยรหัสมอร์สเรียกให้นภจรลุกจากโซฟาที่หน้าทีวีมาส่องที่ช่องตาแมวภาพตรงหน้าคือชายสวมหมวกปิดบังใบหน้า แต่งกายคล้ายช่างซ่อมแอร์แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาต้องยิ้มออกมาเมื่อคนภายนอกโชว์บัตรแข็งใบหนึ่งมาที่ช่องตาแมวให้เขาเห็นฐานะคนภายนอกได้ชัดเจน สมกับฉายาหูผีจริงๆ นี่ขนาดย่องมาที่ประตูยังสามารถรู้ได้นภจรเอ่ยชมเมื่อเปิดประตูต้อนรับช่างแอร์จำเป็นให้เข้ามาภายในห้องทั้งปิดประตูเรียบร้อย สวัสดีครับผู้กอง...ไม่ใช่แค่หูดีเท่านั้นนะครับมือผมยังเบาเป็นนุ่นด้วย ผู้มาใหม่เอ่ยแล้วก็หัวเราะ ก่อนจะพูดถึงจุดประสงค์ที่มาท่านผู้พันท่านให้ผมมาดูสภาพผู้กอง ท่านไม่วางใจ เห็นว่าถูกยิงกลัวเสียเลือดเกินสภาพร่างกายจะรับไหว นายช่างแอร์ตะเบ๊ะในท่าทำความเคารพก่อนจะวางเครื่องมือช่างไว้บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา ไม่เป็นอะไรมากหรอกหมอ...แค่ถากๆ กระสุนไม่ฝัง ว่าแต่ขึ้นมาจนถึงที่นี่ได้ ยามไม่สงสัยเหรอ นภจรเอ่ยถามเมื่อทรุดตัวลงนั่งบนโซฟายาวที่เดิมที่เขาใช้นอนพักรักษาตัวทั้งกลางวันและกลางคืน เรื่องแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาหรอกครับท่านผู้พันท่านจัดการไว้เรียบร้อย ผมแค่แสดงให้สมบทบาทเท่านั้นเองผู้มาใหม่เอ่ยถึงผู้การกรัณย์ หัวหน้าหน่วยคอมมาโดผู้โทรศัพท์ติดต่อเขาแต่เช้าพร้อมแผนการที่วางไว้เสร็จสรรพ สมเป็นผู้นำทีม แผนท่านผู้พันเป็นแบบไหนนะอยากรู้จังเผื่อมีโอกาสเอาไปใช้ได้บ้าง ทีวีถูกปิดการใช้งานในทันทีเมื่อความสนใจถูกดึงมาที่ผู้มาเยือนเรืออากาศโทนายแพทย์คิมหันต์ ทหารสังกัดหน่วยแพทย์กองทัพอากาศ ผู้มีเครื่องหมายพญาอินทรีโฉบดาบและสายฟ้าติดที่อกขวาเหนือป้ายชื่อในเครื่องแบบปกตินั่นก็หมายถึงความสามารถปฏิบัติการพิเศษและปฏิบัติการค้นหาช่วยชีวิตหรือที่รู้จักกันดีในชื่อคอมมานโดซีซีทีแอนด์พีเจ ก็แค่ให้คนแสดงเป็นเจ้าของห้องโทรเข้ามาบอกว่าจะมีช่างแอร์เข้ามาซ่อมแอร์แค่นั้นครับเมื่อท่านมีข้อมูลอยู่ในมือ ก็อย่างที่บอก เรื่องนี้ก็แค่เรื่องขี้ประติ๋ว แม้นายแพทย์คิมหันต์จะอยู่สังกัดแพทย์แต่เขาก็เป็นบุคคลหนึ่งที่เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดเพราะเหตุผลนี้ทำให้เขาเข้าร่วมฝึกจนสามารถเป็นหนึ่งในสมาชิกของหน่วยคอมมาโดกองทัพอากาศเฉกเช่นเดียวกับผู้กองนภจรที่ทำงานอยู่ในสังกัดคอมมานโดโดยตรงที่มีขีดความสามารถที่เหนือกว่านายแพทย์ทหารรุ่นน้องซึ่งหากแต่งเครื่องแบบเต็มยศป้ายที่หน้าอกของนภจรยังมีปลาฉลามโต้คลื่นที่เป็นสัญลักษณ์ของนักทำลายใต้น้ำหรือที่เรียกกันว่าหน่วยซีลเพิ่มเข้ามาอีกอย่าง อีกทั้งยังเป็นนายทหารหน่วยคอมมาโดเพียงไม่กี่คนที่มีความสามารถในการขับเครื่องบินรบแต่ความสามารถด้านการรักษา ใครไหนเลยจะสู้เขาผู้นี้เรืออากาศโทนายแพทย์คิมหันต์ พงษ์พิทักษ์ เอาล่ะ...ขอตรวจดูหน่อยเถอะครับเรายังต้องรับใช้ประเทศชาติอีกมาก ยังไงก็ทำร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงพื้นตัวเร็วหน่อยเป็นดีที่สุด นายแพทย์หนุ่มในคราบช่างแอร์เปิดกล่องเครื่องมือช่างกล่องใหญ่ที่ภายในบรรจุอุปกรณ์ทางการแพทย์เอาไว้ไม่ขาดตกบกพร่อง แม้กระทั่งถุงน้ำเกลือ ยังสามารถบรรจุรวมมาได้ นภจรถอดเสื้อออกอำนวยความสะดวกให้นายแพทย์หนุ่มได้ทำหน้าที่ของเขาอย่างสะดวกเผยให้เห็นร่องรอยการทำแผลอย่างง่าย ที่ดูไม่เรียบร้อยเท่าที่ควรจะเป็น ผมคงต้องทำแผลให้ผู้กองใหม่แล้วล่ะรอยกระสุนถากไปเยอะ ปากแผลเปิดกว้าง มีรอยไหม้ที่หากปล่อยให้หายเองตามธรรมชาติคงต้องใช้เวลานานเอาเป็นว่าผมจะเลาะเนื้อเยื่อที่ไหม้เกรียมพวกนี้ออกแล้วเย็บใหม่ถ้าทำแบบนี้แค่หนึ่งสัปดาห์ก็สมานกันสนิทพร้อมตัดไหม นายแพทย์คิมหันต์เอ่ยก่อนจะหันไปจัดเตรียมอุปกรณ์ ว่าแต่ตอนนี้ผู้กองมีอาการวิงเวียนหน้ามืดบ้างหรือเปล่าครับ ถามพลางแกะผ้าสะอาดออกจากถุงพลาสติกสุญญากาศมาปูบนโต๊ะแล้วหยิบอุปกรณ์ที่ต้องใช้ วางเรียงลำดับเพื่อสะดวกในการหยิบมาใช้งานไม่ลืมแม้กระทั่งผ้าปลอดเชื้อที่ใช้คลุมเหนือปากแผลและถุงขยะที่ใช้ทิ้งเศษวัสดุปนเปื้อน ก็มีบ้างแต่ไม่มากพอทนได้ เมื่อคืนมีไข้เล็กน้อย ได้เช็ดตัวกับกินยาลดไข้อาการก็ดีขึ้นคนป่วยให้ความร่วมมือตอบคำถามโดยไม่ปิดบังอาการ อาจเพราะเสียเลือดเยอะและแผลเริ่มมีการอักเสบ หลังทำแผลเสร็จผมจะให้ยาไว้รับประทานแต่การทำแผลให้ผู้กองใหม่คงต้องใช้เวลาสักหน่อยว่าแต่เพื่อนร่วมห้องของผู้กองจะกลับมาเมื่อไหร่ครับ ถามไปพลางทำหน้าที่ไปพลาง อันนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจแต่เห็นเธอบอกว่าไปรายงานตัวเพื่อเข้าทำงาน กะไม่ถูกจริง ๆ ว่าจะยังไงเอาเป็นว่าหมอรีบจัดการหน่อย เอาแบบรวบรัดหมดจดแต่สมบูรณ์แบบก็แล้วกัน นภจรคิดว่าถึงแม้เจ้าของห้องจะกลับมาตอนนี้ก็คงไม่ใช่ปัญหาก็ในเมื่อเธอรับรู้เรื่องราวทั้งหมดมาแต่ต้น ทั้งยังถือว่าให้ที่หลบซ่อนแก่เขาจะด้วยความเต็มใจหรือไม่ก็ตาม นี่ถือว่าสมรู้ร่วมคิดได้เหมือนกัน โอเคครับสุดความสามารถเลยก็แล้วกัน กระสุนไม่โดนอวัยวะสำคัญ ไม่ใช่เรื่องยากนายแพทย์หนุ่มตอบ เขากวาดตาไปทั่วห้องพักที่นายทหารรุ่นพี่พักรักษาตัวก่อนจะก้มลงมาสนใจกับงานในมือ ทั้งชวนคุย ไม่น่าเชื่อนะครับคนที่เพิ่งจะได้มารายงานตัวเข้าทำงาน จะอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมหรูราคาเฉียดล้านในย่านธุรกิจแบบนี้ ผมเองก็ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรของเธอมากสักเท่าไหร่เท่าที่ดูเธอก็ค่อนข้างไร้เดียงสาอยู่ไม่น้อย นภจรคิดถึงพฤติกรรมเก้ ๆ กัง ๆพร้อมใบหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความอายเมื่อพยายามข่มไว้ขณะดูแลอาการป่วย ขณะสัมผัสร่างกายของเขาด้วยความจำเป็นนั้นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้แต่พอมีสายตาคมอีกคู่หนึ่งจับจ้องอยู่ เขาก็จำเป็นต้องปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ข้อมูลบางส่วนผมส่งท่านผู้พันไปแล้วตอนนี้แค่รอแค่คำตอบยืนยัน สายข่าวทางทหารเฉียบคมว่องไวอยู่แล้ว ไม่น่าจะเกินวันนี้คงได้คำตอบที่พอประเมินได้ว่า หากผมต้องหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่สักระยะเวลาหนึ่งจะมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน ผู้กองคิดจะอยู่ที่นี่ต่อเหรอครับแล้วเรื่องที่กำลังตามอยู่ล่ะ นายแพทย์คิมหันต์เอ่ยถามขณะเลาะเนื้อเยื้อเพื่อสร้างความสดให้เกิดขึ้นบริเวณบาดแผล ผมมีวิธีติดตามงานแต่ตอนนี้พวกมันน่าจะรู้ระแคะระคายอะไรบางอย่างบ้างแล้วโดยเฉพาะเรื่องที่ผมต้องการสืบ จำเป็นต้องให้พวกคนร้ายตายใจ คิดว่าผมหายสาบสูญหรือไม่ก็ตกคลองตายไปแล้ว การหายไปเฉยๆ คงยากที่จะทำให้คนร้ายเชื่อนะครับผมว่า ถ้าพวกมันเห็นศพคงตัดปัญหาเรื่องความสงสัยนี้ออกไปใช่ไหมหมอ ผู้กองหมายถึง...สายตาคมกล้าของสองนายทหารหนุ่มสบกัน ไม่จำเป้นต้องเอ่ยออกมาเป็นคำพูดก็รู้ถึงความคิดอ่านของอีกฝ่ายได้ทะลุปรุโปร่ง วันนี้คริสต์แค่มารายงานตัวเพื่อปฏิบัติงานร่วมกับทีมในสถาบันวิจัยของกองอากาศที่ถึงแม้ว่าการมาของเธอไม่ใช่มาเพื่อทำงานที่นี่อย่างถาวรแต่เป็นการถูกเชิญมาร่วมโครงการพิเศษ กระนั้นคริสต์ก็ยังต้องปฏิบัติทุกอย่างตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัดซึ่งใช้เวลาอยู่ไม่น้อยก่อนที่เธอจะได้มีโอกาสออกมาเลือกซื้อของใช้จำเป็นที่ห้างสรรพสินค้าทางผ่าน คิดไปถึงคนแปลกหน้าที่เข้ามาอาศัยร่วมห้องพักถือเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่งที่เธอปล่อยเขาให้อยู่ในห้องพักเธอโดยลำพัง ไม่อาจคาดเดาได้ว่าเขาจะกลายร่างเป็นงูเห่าที่พร้อมจะหันมาแว้งกัดผู้มีบุญคุณหรือไม่...ก็ไม่แน่หากเธอกลับบ้านไปตอนนี้อาจพบว่า สภาพห้องพักของเธอโล่งโจ้งว่างเปล่าจากการถูกยกเค้าไปแล้วก็เป็นได้ ช่างเถอะ...มีปัญญาขนได้ก็ขนไปฉันไม่ใช่พวกชอบสะสมของมีค่าที่น่าขโมยขายสักหน่อยถึงคริสต์จะบอกตัวเองอย่างนั้นแต่ก็อดไม่ได้ที่มือไม้จะสั่นเทาในตอนที่เธอบิดลูกบิดประตูค่อย ๆเปิดเข้าไปภายในอย่างช้า ๆ เมื่อกลับมาถึงห้องพักในคอนโดเนียนสุดหรู กลับมาแล้วเหรอครับ เสียงร้องทักที่ดังมาจากส่วนที่เป็นครัวถึงกับทำให้เจ้าของบ้านต้องถอนหายใจเฮือกบอกตัวเองไม่ถูกว่าผิดหวังที่หนุ่มแปลกหน้าที่หน้าตาดีที่สุดคนนี้ยังไม่ไปไหนหรือโล่งอกที่เธอยังมีโอกาสได้เห็นคนหน้าตาดีเดินวนเวียนอยู่ร่วมบ้านต่อไปอีก เอาเถอะ...ยอมให้นายอยู่ต่ออีกหน่อยก็ได้...ก็นายยังป่วยอยู่นี่นา...นะคริสต์บอกตัวเอง หญิงสาวปรับอารมณ์ความรู้สึกให้คงที่ก่อนจะหิ้วสัมภาระที่ซื้อติดมือมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าวเธอคัดแยกและนำของไปเก็บในที่ที่เหมาะสมของมันในขณะที่แขกไม่ได้รับเชิญยกจานอาหารมาวางแทนที่ อาการคุณดีขึ้นแล้วนี่ลุกมาทำอาหารได้แล้ว คริสต์ทักท้วงสายตามองไปยังส่วนที่มีบาดแผลของอีกฝ่ายแต่เพราะมีเสื้อยืดสวมทับ ทำให้เธอไม่อาจมองเห็นถึงภายใน... แต่... เสื้อยืดตัวนี้! คริสต์ถึงกับเผลอกางเล็บหมายจะตะปบคนข้าง ๆ ที่บังอาจถือวิสาสะหยิบเสื้อตัวโปรดที่เธอชอบสวมเวลานอนมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตแต่เมื่อคิดถึงฐานะความเป็นมาเฟียของเขา เล็บที่กางอยู่ก็มีอันหุบฉับ ดีขึ้นมากแล้วพอทำแผลเสร็จผมก็โทรสั่งอาหารจากเบอร์นี้ที่คุณเขียนติดไว้หน้าตู้เย็น...หน้าตาก็โอเคนะส่วนเรื่องรสชาติ เดี๋ยวคงรู้... ชายหนุ่มเอ่ยอย่างที่เห็นเป็นเรื่องธรรมดาขณะเดินไปมาลำเลียงอาหารที่เขาถ่ายโอนจากกล่องลงสู่จานมาวางบนโต๊ะคุณจะกินก่อนหรือจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แหม...ทำตัวเนียนเชียวนะ...ทำยังกะจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกเป็นปีๆ ซะงั้น... ฉันขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า...อากาศเมืองไทยร้อนเหลือเกิน บอกแล้วก็เดินผละออกไป ไม่คิดสนว่าสายตาที่มองตามมานั้นแล้วเธอก็หยุดหันกลับมามาสบตาอีกฝ่าย เมื่อคิดและตัดสินใจขั้นเด็ดขาดได้แล้วที่จะเอ่ยถาม... ในเมื่ออาการดีขึ้นมากแล้วคุณก็น่าจะกลับบ้านกลับช่องของคุณได้แล้วนะคะ...ป่านนี้คนที่บ้านคงห่วงแย่ ถามไปแล้วก็รอฟังคำตอบตัวเกร็งแทบเป็นตะคริว นภจรมองคนสวยที่ยืนนิ่งสีหน้าเรียบเฉยทว่าดวงตากับน้ำเสียงสั่นไหวให้รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เก็บซ่อนอยู่ภายในจิตใจนั้นก็น่าเห็นใจอยู่ไม่น้อยที่ต้องทำเพื่อความปลอดภัยเธอจะต้องปฏิบัติตัวให้เป็นปกติที่สุด จะแสดงอาการตื่นกลัวให้อีกฝ่ายรู้ไม่ได้แต่บอกตามตรงว่าเธอแสดงได้ไม่เนียนเอาซะเลย อาการดีขึ้นมากแต่ใช่ว่าจะหายดีนี่ครับ ผมคงต้องขออาศัยอยู่ที่นี่จนกว่าจะหายดี ถึงขนาดหายดีเชียวเหรอ...มันจะไม่นานเกินไปเหรอคะคริสต์ถึงกับทำตาโต เมื่อคิดถึงระยะเวลาอันยาวนานเช่นนั้นที่อย่างเร็วก็สัปดาห์อย่างช้าก็เป็นเดือนยิ่งแผลที่ไม่ได้รับการดูแลจากผู้ชำนาญการก็ยิ่งน่าห่วงว่ามันจะมีโอกาสติดเชื้อและทรุดหนักในภายหลัง ถึงนานก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่ครับ แต่ฉันมี...ฉันเป็นผู้หญิงตัวเล็กแค่นี้ไม่ได้รู้จักมักจี่กับคุณเป็นการส่วนตัวแม้แต่น้อยแล้วคุณจะมาอาศัยอยู่กับฉันแบบนี้ในฐานะอะไรกัน สติสะตังที่พยายามควบคุมไว้หลุดกระจัดกระจาย เอ...จำได้คับคล้ายคับคราว่า...ที่พับเมื่อคืนก่อนคุณเป็นคนเข้ามาทักผมเองนะครับ มาขอทำความรู้จักกับผม... ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับผมยอมรับตามคำขอของคุณ ตอนนี้เรารู้จักกันเรียบร้อยแล้วนะครับคุณคริสต์ นี่คุณ...น้ำเสียงยียวนนั้นเล่นเอาคริสต์พูดไม่ออก ได้แต่หันหลังกลับเตรียมเปิดประตูหนีไปให้พ้นสายตา หากอีกฝ่ายไม่เรียกเอาไว้ซะก่อน รีบออกมาทานข้าวด้วยกันนะครับอย่าให้ผมต้องรอนาน รับประทานไปก่อนเลยไม่ต้องรอ กินข้าวคนเดียวมันเหงานะครับพาลกินไม่ลง ร่างกายของผมจำเป็นจะต้องรีบบำรุงซะด้วยสิ ไม่งั้นคงหายช้า นภจรไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมานอกจากเสียงปิดประตูที่ดูเหมือนจะดังกว่าปกติอยู่เล็กน้อย...ชายหนุ่มยิ้ม... แม้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยจะพอใจนักกับการที่เขาตื้ออยู่ต่อแต่ทำอย่างไรได้ ก็สถานการณ์มันบังคับนี่นา... ........................... สนทนาท้ายบท... หลังจากที่งัดนิยายออกจากไหดองออกไปได้ 1 เรื่องแล้ว ผู้เขียนก็ได้ฝากความหวัง ชีวิต และวิญญาณไว้ที่ภารกิจรักเรื่องนี้... ความขยัน อดทน และตั้งใจที่มีอยู่ทั่วร่าง จะถูกดึงกลับมาเพื่อความสำเร็จที่รออยู่ตรงหน้า สู้ สู้ เย่ เย่...
Create Date : 19 กันยายน 2561 |
Last Update : 19 กันยายน 2561 9:05:03 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1551 Pageviews. |
|
|