ตอนที่ 7
7 ริมทางเท้าใกล้สถานีรถไฟฟ้า... ปรากฏรถยนต์สุดหรูคันหนึ่งจอดนิ่งอยู่เป็นเวลาค่อนข้างนาน ชายหนุ่มรูปงามที่นั่งนิ่งอยู่ภายในตรงเบาะหลังด้านคนขับกำลังอ่านหนังสือเล่มหนาฆ่าเวลา ท่าทางของเขาเหมือนกำลังรออะไรสักอย่างที่ไม่ใช่การมาเพื่อไปทำธุระอะไร คุณชายจะทำแบบนี้จริงๆ หรือครับ...ผู้ทำหน้าที่เป็นสารถีเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ อืม...น้ำเสียงตอบรับนั้นเหมือนเห็นว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นี้เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป ถวิลละสายตาจากช่องทางเข้าใช้บริการของสถานีหันมาเหลือบตามองท่าทีของเจ้านายผ่านกระจกส่องหลังแค่แว็บก่อนจะกลับไปสังเกตการณ์ประตูทางเข้าต่อ ไปจอดรับเธอที่หน้าอพาร์ตเมนต์ผมว่ายังไงเธอก็ไม่ปฏิเสธที่จะให้เจ้านายไปส่งถึงบริษัทนะครับถวิลออกความเห็นตามความคิดของตัวเองที่รู้ดีว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนโง่พอที่จะปฏิเสธเยื่อใยของคุณชายอยู่แล้ว เธอไม่ไปหรอกเชื่อเถอะ...เอาแบบนี้แหละเธอจะได้รู้ว่าผมจริงใจ ชลธิศเอ่ย สายตาละจากหน้าหนังสือชั่วคราวเหม่อมองออกมาภายนอกเพื่อพักสายตา ก่อนคิ้วเข้มจะขมวดเข้าหากันเมื่อบังเอิญมองเห็นบางคนเข้าพอดี นั่นไงเธอมาแล้วนี่ครับ ถวิลเอ่ยทว่าเจ้านายกลับเปิดประตูลงจากรถไปเรียบร้อยแล้ว คุณขับรถไปที่บริษัทเลยนะไม่ต้องเป็นห่วง แล้วไม่ต้องบอกใครเรื่องนี้ด้วยชายหนุ่มสั่งก่อนจะรีบเดินตรงไปยังประตูทางเข้าที่เขาเพิ่งเห็นร่างบางของคนคุ้นเคยเดินผ่านเข้าไป รถไฟเคลื่อนมาถึงสถานีในเวลาไม่นานเกินรอพอประตูเปิดผู้โดยสารต่างเร่งรีบเข้าจับจองที่นั่งที่มีน้อยกว่าจำนวนของผู้โดยสารครึ่งต่อครึ่ง... ชลธิศก้าวผ่านประตูเข้ามาโดยไม่มีทีท่าว่ารีบเร่งเท่าไรนักสายตาเขายังจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวผู้แม้มีโอกาสได้นั่งในที่ว่างเพราะเข้ามาภายในรถก่อนใครแต่เธอก็ยังใจดี ยอมสละที่นั่งให้คุณแม่ที่มีลูกสาวอายุราวห้าหกขวบได้นั่งแทน คงคิดว่าอย่างน้อยเด็กก็จะได้อาศัยนั่งตักผู้ปกครอง...เขาทิ้งระยะห่างระหว่างเขากับอาโปพอประมาณและยืนอยู่ในตำแหน่งที่อีกฝ่ายคงไม่บังเอิญหันมาเห็นแน่เขาไม่ได้ต้องการจะเข้าไปแสดงตัวอยู่แล้วเขาเพียงแค่ต้องการคุ้มครองดูแลเธอให้ปลอดภัยไม่เจอเรื่องร้ายๆอย่างคืนที่ผ่านมาเท่านั้น... น่าแปลกไม่น้อยทั้งๆที่ในโลกใบนี้มีผู้หญิงที่สวยสดงดงานระดับนางงามเข้ามาใกล้ชิด มาตีสนิททอดสะพานนับไม่ถ้วนทั้งไทยและต่างชาติต่างภาษาแต่ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนดึงดูดสายตาของเขาได้มากเท่าผู้หญิงที่สวยแบบธรรมดาๆตรงหน้านี้เลยสักคน ไม่ว่าเธอจะยิ้ม จะบึ้ง หรือจะยืนหลับน้ำลายยืดทุกอากัปกิริยาของเธอมันช่างน่ารักน่าใคร่ซะนี่กระไร...หรือนี่จะเป็นบุพเพสันนิวาส อาโปก้าวผ่านเข้ามาในแผนกที่เธอทำงานอยู่อย่างสดใสเฉกเช่นทุกวัน... สวัสดีค่ะทุกคน เธอทักทายเพื่อนร่วมงานที่มาถึงก่อนทั้งยิ้มให้เพื่อจะได้เป็นวันทำงานที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ มาแล้วเหรออาโป...เตรียมพร้อมหรือยัง เสียงไพลินดังขึ้นก่อนที่อาโปจะทันได้หันไปมองซะอีก...หญิงสาวทำหน้าเหลองงกับคำถามของหัวหน้าแผนก ด้วยลืมคิดไปถึงการประชุมเมื่อวานซะสนิท นี่ลืมแล้วหรือไงว่าเธอจะต้องรวบรวมงานไปส่งที่ชั้นบนไพลินถามซ้ำ สีหน้าแสดงความรู้สึกไม่ได้ดั่งใจอย่างชัดเจน อ๋อค่ะ...แหะ ๆอาโปหัวเราะกลบเกลื่อนความขี้ลืมของตัวเอง นี่เป็นตารางการส่งงานเข้าตรวจสอบนะกว่าจะครบก็คงกินเวลาหลายวัน ไพลินยื่นแฟ้มชนิดบางมาให้อาโปรับไปเปิดดูภายในมีกระดาษบันทึกข้อความแค่แผ่นเดียวที่เป็นตารางการตรวจสอบงานของแต่ละฝ่ายตามที่เธอได้รับทราบคำสั่งก่อนหน้านี้ซึ่งในการตรวจสอบครั้งนี้ งานในส่วนที่เธอรับผิดชอบกลับอยู่ท้ายสุด...ถือว่าดีอยู่มากอย่างนี้เธอก็มีเวลาในการเตรียมตัวเตรียมเอกสารให้สมบูรณ์พร้อมรับการตรวจสอบ...แต่ว่า... เอ่อ...คุณไพลินคะ...อาโปขอถามอะไรหน่อยค่ะ ว่ามา... ทำไมอาโปต้องเป็นคนเอาเอกสารในแต่ละฝ่ายไปส่งชั้นบนคะ...แล้วถ้ากรรมการตรวจสอบพบว่ามีจุดที่สงสัยอาโปจะตอบได้เหรอคะอาโปคิดว่าให้คนของแต่ละฝ่ายนำเอกสารไปส่งด้วยตัวเองจะไม่ดีกว่าหรือคะ เรื่องนั้นเธอไม่ต้องห่วง...เธอแค่เป็นคนเอาเอกสารไปส่ง...ส่งแล้วก็กลับมาทำงานต่อ...เรื่องปัญหาของเอกสารไม่ต้องไปกังวลทางเบื้องบนเขาจะติดต่อสอบถามมาที่เจ้าของงานเอง ไพลินอธิบาย อ้อ... อ้อแล้วก็รีบไปตามงานซะรวบรวมไปส่งแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ถูกเพ่งเล็ง ค่ะ รับทราบสิ่งที่ต้องทำแล้วอาโปก็ขอตัวไปปฏิบัติตามหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างซึ่งก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไรเลยกับการเอาเอกสารไปส่งแค่นั้น... หวัดดีอาโป...วันนี้มาแต่เช้าเชียวเสียงสดใสของเพื่อนสนิทร้องทักทายมาตั้งแต่ยังอยู่ที่ประตู แล้วทำไมเธอมาสายล่ะไอซ์อาโปไม่ตอบแต่ถามกลับ มีธุระต้องไปทำก่อนเข้าสำนักงานนิดหน่อย...จริงๆก็ว่าจะโทรมาลานะ แต่พอคิดถึงงานที่ต้องทำส่ง ก็เลยตัดสินใจกัดฟันเข้าสำนักงานมาเคลียร์งานหน่อย ดีแล้ว...คิวของเธอมันอยู่ที่...อาโปเปิดแฟ้มดูอีกรอบเพื่อความแน่ใจนี่ไง...อีกไม่กี่คิวก็ถึงแล้ว...ไปเลยรีบไปเคลียร์งานตัวเองเลย โอเค...แล้วไอรดาก็แยกไปยังที่โต๊ะทำงานของตัวเอง วันนี้เธอขอตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่สนใจสิ่งรอบข้างที่อาจทำให้เกิดอาการวอกแวกโดยเฉพาะในห้องกระจกแห่งนั้นที่ยังไม่มีสิ่งมีชีวิตใดผ่านเข้าไป อาโปเดินตรงไปยังฝ่ายบัญชีการเงินที่ถูกแจ็กพอร์ตเป็นอันดับแรก...ดูเหมือนว่าเจ้าของงานกำลังหน้ายุ่งอยู่กับเอกสารตรงหน้าทีเดียว เสร็จหรือยังพี่ป๊อบ โอ๊ย...จะเสร็จได้ยังไง...ประชุมเมื่อวานจะเอางานวันนี้ ใครมันจะไปทำทัน แล้วทำไมพี่ไม่ทำให้มันเป็นปัจจุบันล่ะจะได้ไม่ต้องมารีบมาเร่งให้อารมณ์เสียแบบนี้ จริง ๆคำถามนี้ก็ไม่ใช่คำถามที่น่าถามอะไรเลยแต่เพราะความสนิทสนมเป็นกันเองระหว่างกันทำให้อาโปไม่ได้นึกกว่าว่าอีกฝ่ายจะไม่ถูกใจ แล้วของแกล่ะอาโปเรียบร้อยแล้วเหรอ... ป๊อบหันไปถามกลับ ก็เหลือตรวจสอบความเรียบร้อยนิดหน่อย ถ้าแกพร้อมกว่าพี่...งั้นแกก็เอางานของแกไปให้เขาดูก่อนสิจะได้ไม่ต้องเสียเวลารอ ป๊อบหันไปเสนอกึ่งประชด แตในใจก็ยังเกิดความหวังว่าเพื่อนรุ่นน้องจะบ้าจี้ทำตาม ไม่ได้หรอกพี่ป๊อบ คิวถูกจัดมาอย่างนี้ก็แสดงว่าเบื้องบนอยากดูงานของพี่ก่อนใคร...เพราะฉะนั้นอย่ามาทำเฉไฉจัดการรวบรวมงานของพี่มาเร็ว อาโปปฏิเสธ ถ้าอย่างนั้นแกก็ต้องรอก่อน ห้ามเร่งขอพี่ดูให้ละเอียดอีกหน่อย...ป้องกันความผิดพลาด ก็ได้...งั้นอาโปไปเคลียร์งานของอาโปก่อนนะ...แล้วเสร็จแล้วก็รีบเอามาส่งอย่าช้าล่ะ โอเค...พี่จะเร่งมือให้เร็วเป็นรถด่วนเลยน้องป๊อบรับปากทั้งตบไหล่คนทวงงานแกมยิ้มประจบ ให้อีกฝ่ายสบายใจ แต่เอาเข้าจริงๆ กว่าอาโปจะได้เอกสารจากฝ่ายบัญชีการเงินและเดินทางขึ้นลิฟต์มาหยุดอยู่ที่ชั้นบนสุดได้ เวลาก็ปาเข้าไปเกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว...เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่าหากหอบงานไปส่งให้ผู้รับผิดชอบ เธอจะตำหนิเอาหรือเปล่า แต่จะทำยังไงได้หากล่ะจะว่าเป็นความผิดของเธอมันใช่ซะที่ไหนกันเป็นความผิดของคนที่ไม่มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองต่างหาก เอาเอกสารมาส่งให้ตรวจสอบค่ะหญิงสาวบอกจุดประสงค์การมาต่อพนักงานสาวผู้กำลังง่วนอยู่กับเอกสารบางอย่างที่หน้าห้องซึ่งมีป้ายระบุว่าเป็นห้องท่านประธาน คุณอาโปใช่ไหมคะพนักงานคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาถามทั้งส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ค่ะ...นี่ค่ะเอกสาร อาโปตั้งท่าจะวางแฟ้มงานในอ้อมกอดนั้นลงบนโต๊ะเพราะคิดว่าการนำมาส่งถึงมือเลขานุการหน้าห้องแล้วก็เป็นอันเสร็จภาระหน้าที่ เดี๋ยวค่ะคุณ...สักครู่นะคะพนักงานสาวคนนั้นห้ามไว้ก่อนที่เธอจะหันไปสนใจเครื่องรับโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อภายใน ท่านคะ...คุณอาโปมาแล้วค่ะ...อ๋อค่ะ...ได้ค่ะเธอรายงานจบก็หันมายิ้มให้ผู้มาเยือนด้วยภาระงานอีกครั้ง ท่านประธานให้คุณนำไปส่งให้ท่านด้วยตัวเอง...เชิญทางนี้ค่ะ ฮะ!...เอ่อ...ค่ะ อะไรกัน แค่ส่งแฟ้มเอกสารทำไมต้องให้เอาเข้าไปส่งด้วยตัวเอง แม้คิดสงสัย แต่อาโปก็จำเป็นต้องเดินตามพนักงานสาวคนนั้นที่เธอคิดว่ายังไงก็คือเลขานุการหน้าห้องท่านประธานไปที่ประตูบานใหญ่โดยยังมีแฟ้มงานหอบนั้นอยู่กับอก เชิญค่ะ ประตูบานใหญ่เปิดออกกว้างเป็นช่องทางให้อาโปเดินผ่านเข้าไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นกับการได้มีโอกาสล่วงล้ำเข้ามาเขตหวงห้ามแห่งนี้เป็นครั้งแรกที่นี่เป็นห้องทำงานที่มีขนาดค่อนข้างกว้างดูเหมือนจะมีขนาดเกือบครึ่งหนึ่งของแผนกที่เธอทำงานอยู่ ดวงตากลมโตกวาดมองไปยังสิ่งดึงดูดสายตามากที่สุดนั่นคือผนังกระจกกรองแสงสบายตาที่หากว่าไม่มีมู่ลี่ภาพป่าไม้ปิดไว้ตลอดทั้งแผ่นคงทำให้มองเห็นทิวทัศน์งดงามภายนอกหน้าต่าง ที่มีโซฟาชุดสวยบุนวมดูนุ่มน่านั่งที่วางอยู่ชิดผนังห้องอีกด้านถูกทำเป็นชั้นหนังสือขนาดใหญ่มีหนังสือมากมายหลายชนิดวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ และด้านในสุดมีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่วางอยู่แต่น่าแปลกที่เธอไม่เห็นเจ้าของที่น่าจะนั่งทำงานอยู่ที่นั่น... มาแล้วเหรอครับ เสียงทุ้มๆที่ดังพอประมาณทางด้านหลังทำเอาอาโปสะดุ้งแฟ้มงานแทบหลุดมือ เธอหันกลับไปมองช้าๆด้วยหัวใจที่กำลังเต้นระทึก คุณ... ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นอีกเมื่อเห็นหน้าผู้ชายที่กำลังยืนมองเธออยู่ด้วยแววตาแปลกๆเธอเชื่อว่าโลกมันกลม แต่ไม่อยากเชื่อว่ามันจะเล็กซะจนทำให้เธอต้องมาเจออีกอย่างชนิดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ชลธิศสาวเท้าเข้าไปใกล้บุคคลที่เขากำลังรอเธออยู่อย่างใจจดจ่อจนแทบไม่มีกะใจจะทำอะไรเอาแฟ้มพวกนั้นไปวางไว้ที่โต๊ะทำงาน แล้วคุณตามผมมานี่... คุณคือ? อาโปยังทำหน้างง... ผมทำงานที่ห้องนี้ เป็นเจ้าของตึกนี้...ชลธิศบอกไปอย่างอื่นแต่นั่นก็สามารถแสดงให้รู้ถึงฐานะของเขาได้ชัดเจนที่สุดเร็วสิครับ...เสร็จแล้วจะได้เริ่มทำงาน อาโปรีบนำแฟ้มไปวางไว้บนโต๊ะทำงานก่อนจะหันกลับไปมองท่านประธานใหญ่ที่บัดนี้เดินเลยไปนั่งยังชุดรับแขกริมผนังกระจกเรียบร้อยแล้ว มานี่สิครับ เขาสั่งอีกรอบ อาโปจึงเดินเข้าไปหาด้วยอากัปกิริยาที่ยังแสดงออกว่างุนงงกับบุคคลที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ นั่งลงสิครับ ชายหนุ่มตบเบาๆยังที่นั่งข้างๆ ช่วยทำความสะอาดแผลให้ผมหน่อย ว่าพลางปลดกระดุมข้อมือถลกแขนเสื้อให้เห็นก๊อชแผ่นบางที่ซ่อนอยู่ภายในอย่างมิดชิด เมื่อพูดถึงการทำความสะอาดบาดแผลทำให้อาโปเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีกล่องขนาดกะทัดรัดติดมือเขามาด้วยและมันก็ถูกวางลงบนโต๊ะกลางเรียบร้อยไม่ต้องเดาก็รู้ว่านั่นคือกล่องบรรจุอุปกรณ์ปฐมพยาบาล คุณน่าจะแวะล้างแผลที่คลินิกแพทย์นะคะเธอยังไม่กล้าที่จะขยับเข้าไปนั่งในตำแหน่งที่เขาระบุ ผมเก็บไว้ให้เป็นหน้าที่รับผิดชอบของคุณเขาบอกหน้าตาเฉย ฉันไม่ใช่หมอหรือพยาบาล แต่แผลนี่เกิดจากผมช่วยคุณ ทวงบุญคุณกันซึ่งๆหน้าแบบนี้เลยเหรอ... แม้ไม่ค่อยจะชอบใจนักแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่เกี่ยวข้องหญิงสาวจำต้องเดินเข้าไปหาเจ้าของแววตาคมกล้าที่กำลังมองตรงมาชนิดที่แทบจะทำให้ขาเธอแทบจะขวิดกัน...เธอนั่งยังที่นั่งตรงข้ามกับเขาแทนที่ที่เขาต้องการให้นั่งแม้จะไกลจนได้ยืดตัวเข้าไปสักหน่อยแต่ด้วยระยะเท่านี้ก็สามารถทำภารกิจให้เขาได้ บอกก่อนนะว่าฉันทำไม่เป็นไม่เคยล้างแผลให้ใคร ถ้าเกิดแผลอักเสฐติดเชื้อขึ้นมา ก็อย่าโทษก็แล้วกันอาโปออกตัว ก่อนจะยื่นมือไปแกะผ้าก๊อชผืนเก่าออก ถ้าไม่เป็นเดี๋ยวผมจะช่วยสอนชลธิศเอ่ยเบาๆ สายตาของเขายังจับอยู่ที่ใบหน้าหวานซึ้งถึงเธอไม่ได้มานั่งเอียงข้างใกล้ชิดตามที่เขาต้องการแต่แรกทว่าเมื่อนั่งอยู่ตรงข้ามแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ อย่างนี้เขาก็สามารถมองเห็นชิ้นส่วนเครื่องหน้าของเธอได้แบบเต็มตา สอนเรื่องทำแผลนี้เหรอคะอาโปถามแก้เก้อ ด้วยรู้สึกได้ถึงแววตาร้อนๆของเขาที่อาจทำให้เธอละลายกลายเป็นน้ำหรือละเหยเป็นไอไปในอีกไม่นาน สอนในทุกๆ เรื่อง คำตอบของชายหนุ่มมีผลให้เกิดความร้อนขึ้นที่สองข้างแก้มเมื่อคิดไปในเรื่องที่ไม่ควรคิด...เหรอเธอจะต้องละลายลงไปจริงๆ ต้องทำยังไงก่อนคะเธอรีบเปลี่ยนเรื่อง เอาสำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดรอบบาดแผลก่อน...ระวังอย่าให้โดนแผลโดยตรงชายหนุ่มบอกเบาๆ น้ำเสียงบังราบเรียบเช่นเดิม ทำไมคะ กลัวแสบเหรอเผลอเอ่ยคำเย้าแหย่ออกไป ก็ด้วย...แต่เหตุผลสำคัญก็คือแอลกอฮอล์อาจเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อทำให้แผลหายช้า เขาอธิบาย อาโปจัดการใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์พอบีบพอหมาดเพื่อเช็ดรอบบาดแผลตามที่เขาบอก แต่เพราะอยู่ตรงข้ามกัน มีโต๊ะกระจกขวางอยู่การปฏิบัติจึงค่อนข้างลำบากสักหน่อย แม้เจ้านายหนุ่มจะยื่นแขนออกมาให้จึงจำเป็นที่อาโปต้องจับมือของเขาพลิกให้อยู่ในท่าที่เธอถนัดที่สุด...คราวนี้สายตาคมกล้านั้นจึงละจากใบหน้างดงามลงมามองที่มือนุ่มขาวนั้นแทนก็ถือว่าเป็นการดีที่ทำให้อาโปคลายจากอาการอึดอัดลงได้มาก แล้วยังไงต่อคะ น้ำเกลือที่อยู่ในขวดนั้นใช้เช็ดในแผลได้ แล้วไม่ใช้ยาสมานแผลอย่างอื่นหรือคะอย่างเช่นโพรวีดีน ถ้าแผลไม่อักเสบติดเชื่อแค่น้ำเกลือก็พอแล้วครับ จากนั้นคุณก็เอาก๊อชมาปิดก็เป็นอันสำเร็จเรียบร้อยชายหนุ่มบอกต่อจนเสร็จสิ้นกระบวนการ ทั้งมองมือขาวๆ ที่พยายามทำงานอย่างผ่าวเบาและนุ่มนวลที่สุดจนแล้วเสร็จ เก็บอุปกรณ์ลงกล่องยา จัดการเศษขยะลงถุงพลาสติกเล็กๆรัดปากถุงจนแน่น เอาล่ะค่ะ เสร็จแล้วฉันขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวสิครับล้างแผลให้ผมเสร็จแล้วก็จริง แต่เรื่องอื่นที่คุณต้องทำ ยังมีอยู่อีกเยอะ อ้าว...ฉันแค่มีหน้าที่เอาเอกสารมาส่งเท่านั้นนะคะคิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากัน มองชายหนุ่มรูปงามตรงหน้าเขม็ง ช่วยดึงแขนเสื้อและติดกระดุมให้หน่อยชายหนุ่มเอ่ย ทั้งยื่นแขนข้างที่ได้รับบาดเจ็บไปให้ อาโปทำตามที่เขาขอร้องด้วยความพิถีพิถันและระมัดระวังที่สุด...หวังว่าคงจะมีเพียงแค่นี้ที่เขาต้องการให้เธอทำหลังจากนั้นเขาก็คงปล่อยเธอให้กลับลงไปทำงานตามปกติได้ เสร็จแล้วค่ะ...ฉันขอตัวนะคะเธอบอกอย่างสุภาพ เชิญครับ ถึงจะได้รับคำอนุญาตจากท่านประธานอย่างง่ายดายแต่อาโปก็ยังตะขิดตะขวงใจจนไม่อาจขยับเดินจากไปทันทีมันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่มันยังไม่ชัดเจน ทำไมครับ...หรือจะอยู่รอรับประทานอาหารกลางวันกับผมชลธิศถามขึ้นทั้งส่งสายตาวาววับมายังหญิงสาวที่ยิ่งมองก็ยิ่งรับรู้ความถึงความรู้สึกของตัวเองชัดเจนยิ่งขึ้น เอ่อ...ไม่ค่ะ ฉันมีอาหารของฉันมารับประทานเองแล้วค่ะ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ขอตัวล่ะค่ะ แต่พออาโปจะไปจริงๆอีกฝ่ายกลับเรียกเอาไว้อีกครั้ง เดี๋ยวครับ คะ?เธอหันกลับมารอรับฟังในสิ่งที่เจ้านายจะเอ่ย ช่วยฝากเบอร์โทรศัพท์ของคุณไว้ที่เลขานุการหน้าห้องทำงานของผมด้วยนะครับเผื่อว่ามีปัญหาอะไร ผมจะได้ให้เลขาฯ ประสานไปทางคุณ ได้ค่ะ อาโปออกไปไม่นานคุณถวิลก็เดินผ่านเข้ามาพร้อมพนักงานของร้านอาหารที่จัดเตรียมอาหารมื้อกลางวันไว้สำหรับคุณชายของเขาผู้ไม่ประสงค์จะรับประทานที่ไหน นอกจากที่ห้องทำงาน ผมนึกว่าคุณชายจะชวนเธอรับประทานอาหารด้วยกันซะอีก ก็อยากอยู่เหมือนกันแต่คิดว่าเธอคงปฏิเสธ อ้อ...ครับ ถวิลสั่งให้พนักงานวางชุดอาหารไว้บนโต๊ะที่คุณชายของเขาใช้ในการรับประทานอาหารในขณะที่ชลธิศเดินไปรูดมู่ลี่ออกจนเหลือเพียงกระจกบานใสที่มองทะลุออกไปเห็นสวนย่อมสวยๆตรงระเบียงด้านนอก...เพราะผนังเป็นกระจกที่มองเห็นเพียงด้านเดียว เขาจึงไม่กลัวว่าคนที่กำลังถือถุงผ้าเดินผ่านเข้ามายังเก้าอี้ที่วางชิดผนังกระจกจะมองเห็น คุณถวิลจะไปทำธุระที่ไหนก็ตามสบายเถอะนะครับไว้ช่วงบ่ายค่อยเข้ามาช่วยผมตรวจงานบนโต๊ะนั่นก็แล้วกัน ชายหนุ่มสั่ง ได้ครับ ถวิลรับคำก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปอย่างรู้หน้าที่ สายตาคมกล้ายังคงมองอาหารของคนข้างนอกที่กำลังลำเลียงออกมาวางทีละอย่าง...สิ่งที่เห็นไม่ได้แตกต่างจากมื้อที่แล้วๆมาเลยแม้แต่น้อย ไม่เบื่อมั่งหรือไง...กินแบบเดิมๆซ้ำๆ อย่างนั้น ชายหนุ่มนั่งลงยังฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับคนข้างนอกหากเธอมีโอกาสได้เข้ามาร่วมรับประทานอาหารด้วยกันเขามองอาหารตรงหน้าที่แตกต่างจากอาหารข้างนอกอย่างสิ้นเชิง ทั้งหน้าตา สีสันและราคา กินแบบนี้ทุกวันเสียสุขภาพแย่ ชายหนุ่มบ่นพึมพำก่อนจะตักกับข้าวที่โปรดปานที่สุดมาวางในจานตรงหน้าผมคงต้องจัดการเรื่องอาหารการกินของคุณใหม่แล้วล่ะ...ยังไงผมก็ยังอยากได้เจ้าสาวที่มีสุขภาพดีหุ่นอวบอิ่มมีน้ำมีนวลมากกว่าเจ้าสาวที่มีหุ่นขาดสารอาหาร...ผมหวังว่าคุณจะมองเห็นความปรารถนาดีของว่าที่เจ้าบ่าวของคุณนะอาโป ************ ^_^ : ต้องขอโทษด้วยที่ตอนนี้ออกจะมาช้าสักหน่อย...นั่นเพราะคนเขียนมัวยุ่งอยู่กับการนำนิยายเรื่องยึกฟ้าหาพิกัดรักที่กำลังถ่ายทำเป็นละครซีรีย์ฟอร์มยักษ์ของช่อง 7 มาทำ e-book อีกทั้งเขียนตอนพิเศษเพิ่มเติม จากที่มีตอนพิเศษอยู่แล้ว 1 ตอน มาเป็นตอนพิเศษ 2 ตอน ตอนนี้ก็จัดการกันไปจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยดีแล้ว ก็ได้เวลามาปั่นนิยายต่อ... อ่านนิยายเรื่องนี้แล้ว ชอบ หรือไม่ชอบยังไง ก็สามารถคอมเมนต์เข้ามาได้นะคะ...พร้อมรับฟังและจะนำไปแก้ไขปรับปรุงเรื่องให้ดียิ่งขึ้น...
Create Date : 19 มีนาคม 2560 |
|
2 comments |
Last Update : 5 เมษายน 2560 19:35:48 น. |
Counter : 1087 Pageviews. |
|
|
|
คุณชายนี่.. เชื่อเค้าเลย แต่ก็น่ารักนะ
อีกเรื่องล่ะตัว เค้าคิดถึงงงงงงงง