ตอนที่ ๖
ทันทีที่รถจอด ปริตรรีบก้าวลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้พี่หมาในขณะที่คุณจันทราลงมายืนข้างรถแล้วมองบ้านหลังเล็กๆตรงหน้ามีบางอย่างที่ทำให้นางคิดว่าภายใต้ท่าทีที่เฉยชาปริตรซ่อนความอบอุ่นไว้ภายในแต่แสดงออกมาจากลักษณะของบ้านหลังนี้
เท่าที่จีรายุเคยเล่าให้ฟังนางจำได้ว่าลูกหลานที่เริ่มโตจนทำงานได้จะได้ที่ดินส่วนหนึ่งเอามาสร้างบ้านโดยต้องหาเงินและจัดการเองทุกอย่างแต่เท่าที่เห็นยังไม่มีหลานคนไหนสร้างบ้านใหญ่โตหรูหราเหมือนกับพวกลูกหลานคนมีเงินเขาชอบทำกัน
ตอนแรกความประทับใจเกิดขึ้นตอนที่ได้เห็นบ้านของเมฆาและตอนนี้นางก็รู้สึกว่าบ้านของปริตรจะต้องเป็นบ้านที่อบอุ่นเมื่อชายหนุ่มมีครอบครัว
แล้วจะให้ฉันนอนที่ไหน
พอเข้ามาในตัวบ้านคุณจันทราก็หันมาถามคนที่กำลังก้าวผ่านประตูเข้ามาปริตรวางของที่อยู่ในอ้อมแขนลงแล้วเหลือบตามองพี่หมาสองตัวที่เดินนวยนาดราวกับเป็นเจ้าของบ้านเสียเองด้วยความหมั่นไส้
ข้างบนครับ
ปริตรตอบแล้วก็ทำหน้างงเมื่อทั้งคุณจันทราและพี่หมาต่างมองหน้าเหมือนเขาทำอะไรผิด
ให้ไปนอนชั้นบน ต้องเดินขึ้น เดินลง นี่เพิ่งไปตรวจหัวเข่ามาถ้าผ่าล่ะหมดหลายแสนเลยนะอ้อ...แต่ถ้าจะช่วยยายแอนจ่ายค่าตั้งศูนย์ฉันใหม่ล่ะก็...โอเคฉันจะตะกายขึ้นไปนอนข้างบนให้ แต่ทำสัญญากันก่อนนะเดี๋ยวเกิดเบี้ยวขึ้นมาฉันจะลำบาก
คำพูดของคุณจันทราเล่นเอาปริตรไปไม่ถูกเขาหันไปมองห้องที่ทำให้ปูนแป้งก่อนจะตัดสินใจเดินไปเปิดประตู
ถ้าอย่างนั้นห้องนี้ก็ได้ครับ
ชายหนุ่มบอกแล้วมองพี่หมาทั้งสองตัวที่เดินเข้าไปสำรวจห้องก่อนจะเดินออกมาเห่าเหมือนจะบอกว่า...ห้องนี้ล่ะเหมาะสำหรับแม่ปริตรยกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วก้มลงคว้าหูกระเป๋าเสื้อผ้าของคุณจันทราแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำถาม
ไหนล่ะที่นอนของพี่ๆเขา ไม่เห็นมีเลยทำไมไม่บอกนะจะได้เอามาจากบ้านด้วย
ต้นประโยคเป็นคำถามแต่ที่ตามมาคือการบ่นล้วนๆปริตรผายมือไปทางประตูกระจกที่เปิดออกไปด้านนอกและทันทีที่คุณจันทราเห็นบ้านสุนัขสีแดงตั้งอยู่ก็มีอาการองศ์ลงทันทีสายตาของหนึ่งคนกับสองพี่หมามองเหมือนกับว่าชายหนุ่มทำเรื่องที่ผิดอย่างไม่น่าให้อภัย
ที่ซื้อมาเนี่ยคิดแล้วเหรอ ... นี่พี่บอมพี่บันบันนะเธอรู้จักไหมถ้ารังเกียจพี่ ๆเค้าจนอยู่ด้วยไม่ได้ ไอ้หลังคาแดงๆเนี่ยก็เอาไว้อยู่เอง แล้วที่นอนเธออยู่ไหนฉันจะได้ให้พี่ ๆเค้าไปนอนแทน
ปริตรนิ่งไปครู่ใหญ่เพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนสักพักคุณจันทราก็ถอนหายใจแล้วก้มลงมองพี่บอมกับบันบัน
นอนบนเตียงกับแม่แล้วกันหรือพี่บอมจะเอาที่นอนแม่จะได้ให้น้องกลับไปเอาที่บ้าน
เจ้าของบ้านหนุ่มเผลอกัดริมฝีปาก เพียงแค่ไม่ถึงนาทีจากที่เคยเป็นพี่ใหญ่กลายมามีพี่เป็นหมาซะแล้ว แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่แค่นั้นเพราะพี่บอมเดินมานั่งตรงหน้าแล้วสบตาเขาอย่างมีความหมาย
พี่เขาจะนอนกับเราถ้าอย่างนั้นก็ตามใจพี่เขาแล้วกัน
คุณจันทรามองสีหน้าของปริตรเห็นแววตาบ่งบอกถึงความหนักใจก็หันหลังเดินเข้าห้องบางครั้งการปล่อยให้พี่หมาทั้งสองตัวอยู่ด้วยอาจจะทำให้ทำให้ชายหนุ่มหันมาเปิดเผยตัวเองมากกว่านี้แม้ว่าอยากจะช่วยแก้นิสัยชอบตีกรอบกั้นตัวเองของเขาแต่เท่าที่ดูคงต้องใช้เวลามากกว่าที่คิด
ปริตรไม่รู้จะทำอย่างไรเลยเดินไปยืนหน้าห้องทำงานเปิดประตูให้กว้างที่สุดแล้วก้มศีรษะลงผายมือเข้าไปในห้อง พี่หมาสองตัวเดินมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่มแหงนหน้ามองเจ้าของห้องก่อนจะเดินนวยนาดเข้าไปด้านใน
พี่บอมกระโดดขึ้นบนโซฟาที่ปริตรย้ายมาจากด้านนอกเพื่อใช้เป็นที่นอนชั่วคราวบันบันเลยกระโดดตามขึ้นไปแล้วมองหามุมเหมาะๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอย่างสบายใจ
ปริตรมองพี่หมาแล้วเดินเลี่ยงไปนั่งโซฟาเดี่ยวที่ตั้งอยู่มุมห้องมองเจ้าสัตว์สี่เท้าที่ไม่เคยคิดอยากจะเข้าใกล้ด้วยความสงสัยว่าตอนที่อาพงศ์กับเจ้าเมฆเข้าไปจีบลูกหลานบ้านนี้จะโดนเหมือนที่เขาโดนอยู่แบบนี้ไหม
มีอะไรบางอย่างที่สะกิดความรู้สึกของชายหนุ่มอาจจะเป็นสายตาที่หมาสองตัวมองเขาแล้วหันไปมองหน้ากันมันทำให้รู้สึกราวกับว่า...เขากำลังถูกนินทาทางสายตาหรือกำลังถูกพี่หมาประเมินว่ากับมนุษย์คนนี้จะเล่นงานอย่างไรดี
อ้าว แล้วตับพี่บอมล่ะ ทำไมไม่เอาให้พี่เขาเห็นไหมพี่ๆนั่งรอกันอยู่เนี่ย
เสียงของคุณจันทราดังมาจากหน้าประตูซึ่งปริตรเปิดทิ้งไว้เพราะเห็นว่าพี่หมาทั้งสองตัวจะได้เข้าออกได้สบายๆร่างสูงจึงรีบลุกขึ้นยืนแล้วมองพี่บอมที่ดีดตัวลุกขึ้นยั่งทันทีทันใด
เห็นไหม พี่เขารอกินอยู่เลยเวลาอาหารเดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะ พี่เขายิ่งตัวเล็กๆบอบบางอยู่ด้วย
คำพูดของคุณจันทราเล่นเอาชายหนุ่มต้องรีบเดินออกไปเอาตับย่างที่ลืมไว้บนรถพลางนึกในใจว่าที่พี่หมาเอาแต่นอนจ้องหน้าเขาเป็นเพราะรอตับย่างนี่เองแต่ที่น่าแปลกใจคือคนบ้านนี้รู้ได้ยังไงว่าเจ้าพวกนี้คิดอะไรอยู่
คุณจันทรามองนาฬิกาบนผนังแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นตั้งใจจะดูว่ามีอะไรใช้ทำอาหารเย็นได้บ้างแต่กลับเห็นแต่น้ำดื่มสารพัดชนิดเท่านั้น
บ้านนี้ก็แปลกนะทำห้องครัวเสียสวยแต่เอาไว้ประดับบ้าน
เสียงของนางทำให้คนที่กำลังหาภาชนะสำหรับใส่อาหารพี่หมาต้องหันมามอง
ท่าทางสิ่งที่มีชีวิตและเคยมีชีวิตในตู้เย็นของเธอจะมีแต่พวกจุลินทรีย์หรือยังไง
ประโยคหลังคุณจันทราหันมาสบตาปริตรแล้วเลิกคิ้ว
ปกติแล้วผมทานอาหารที่บ้านใหญ่ถ้าบ้านใหญ่ปิดผมก็จะไปร้านอาหารที่ห้างใกล้ๆ
เข้าห้าง
คุณจันทราถามเสียงสูง เพราะเท่าที่เห็นแถวนี้มีแต่ห้างใหญ่ซึ่งร้านอาหารที่ว่าน่าจะราคาไม่ต่ำกว่ามื้อละห้าร้อยแน่นอน
ครับ ร้านอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น อเมริกัน มีครบ
ตกลงไม่คิดจะกระจายรายได้สู่ชุมชนเลยรึไง อยู่แต่ตลาดบนพวกชนชั้นสูง เพราะชอบอยู่แต่ที่สูงๆถึงว่า...
คุณจันทรามองหน้าปริตรด้วยสายตาประหนึ่งว่าเขาทำเรื่องที่ผิดอย่างมหันต์ แล้วส่ายหน้าราวกับจะบอกว่าพฤติกรรมหัวสูงนี้มันเกินเยียวยา
ถามหน่อยเถอะ ถ้าห้างมันถล่ม ไฟไหม้หรือมีคนประท้วงก็จะดั้นด้นฝ่าห่ากระสุนเข้าไปกินให้ได้ใช่ไหม
ไม่ถึงขนาดนั้นครับเพียงผมว่ามันสะอาดกว่าร้านข้างทาง
ปริตรตอบเขาก้มลงมองพี่หมาแล้วขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าหนาพี่หมาเหมือนยิ้มเยาะเขาอยู่
ของข้างทางก็อิ่มท้องเหมือนกันราคาสบายกระเป๋า ส่วนเรื่องความสะอาดฉันถามจริงๆเถอะเธอเคยเข้าไปในครัวร้านพวกนั้นแล้วหรือไงถึงรู้ว่าสะอาดบางทีร้านข้างทางอาจจะสะอาดกว่าก็ได้
ชายหนุ่มไม่รู้จะตอบอย่างไรเพราะยอมรับว่าตนเองไม่ชอบลงไปนั่งกินอาหารข้างทางเพราะทั้งร้อนและดูเหมือนไม่สะอาดอย่างบะหมี่ที่น้องๆชวนทานเมื่อวันก่อนเขายังฝืนกินได้แค่ครึ่งเดียวแล้วซื้ออาหารแช่แข็งในร้านสะดวกซื้อมาอุ่นไมโครเวฟทานเพิ่มก่อนจะเข้านอน
เดี๋ยวไปตลาดกัน แล้วช่วยเปลี่ยนชุดด้วยนะเอาที่มันสบายๆกว่านี้
คุณจันทรากวาดตามองเสื้อผ้าที่ชายหนุ่มสวมแล้วพาลนึกไปว่าชุดที่แย่ที่สุดของคนอย่างปริตรจะมีสภาพแบบไหนกันเพราะเท่าที่ดูไม่ว่าเจอกันกี่ครั้งชายหนุ่มก็มักจะใส่ชุดที่ดูแล้วน่าอึดอัดแทน
พี่บอมกับบันบันเฝ้าบ้านนะลูกแม่พาน้องไปซื้อของแปบเดียว
คำพูดของคุณจันทราทำให้คนที่เดินเลี่ยงไปทางบันไดหันกลับมามองพี่หมาเห็นท่าทางการนั่งตัวตรงเหมือนทหารเข้าแถวแล้วนึกหมั่นไส้ที่ตัวเองก็ตัวเล็กกระจิดเดียวทำเป็นเก่งแอ่นอกรับคำสั่งเสียดิบดีทั้งๆที่ยังไงก็ไม่มีทางเกิดอะไรกับบ้านของเขาอยู่แล้ว
อะไรนะ เธอไม่รู้ว่าตลาดสดแถวบ้านอยู่ที่ไหน
คุณจันทราทำเสียงสูงเมื่อได้ยินปริตรบอกว่าเขาไม่เคยไปตลาดสดแถวบ้าน
แม่บ้านของตึกใหญ่เป็นคนไปจ่ายตลาดผมเลยคิดว่าไม่จำเป็นต้อง...
นี่พ่อคุณตลาดไม่ใช่โรงฆ่าสัตว์ ไปบ้างก็ได้
คุณจันทราบอกนางเดินออกมาขึ้นรถก่อนจะสั่งให้ชายหนุ่มแวะที่วินรถรับจ้างที่อยู่หน้าปากซอยบ้านของเขาเองเพื่อที่จะได้ลงไปถามทางไปตลาด คนขับรถวินมองข้ามาในรถเห็นชายหนุ่มที่นั่งหลังพวงมาลัยก็ทำหน้าแปลกๆ
ป้าจะพาคุณชายอนามัยไปตลาดเนี่ยนะ
ลุงคนที่อายุมากที่สุดในวินหัวเราะร่วน
อ้าวรู้จักด้วยเหรอ
คุณจันทราพลอยยิ้มไปกับสมญานามที่ลุงขับรถรับจ้างใช้เรียกคนบนรถ
ผมรู้จักทั้งบ้านล่ะครับ น้องๆแกชอบมาขึ้นรถที่นี่ไปหาอะไรกินที่ตลาดจะมีก็แต่คุณชายอนามัยของคุณมลล่ะครับที่ไม่เคยไปด้วยพวกผมเห็นแต่เวลาขับรถเข้าออกไม่เคยได้คุยกับแกสักที
ลุงอ้วนยิ้มอย่างอารมณ์ดี คุณจันทราเลยหัวเราะตาม
แต่ก็ตลกนะคุณตลาดที่อยู่ใกล้ๆก็เป็นที่ของท่านนายพลนั่นล่ะ ตลาดมนตรีไงแต่หลานชายคนโตกลับไม่รู้จัก
อ้าวแล้วหลานคนอื่นๆรู้ไหมว่าเป็นตลาดของปู่ตัวเอง
คุณจันทราหันไปมองคนในรถก่อนจะหันกลับมามองลุงอ้วน
รู้สิ ยังชอบโทรมาเรียกให้ผมพาไปหาอะไรกินโดยเฉพาะคุณมลแกแอบโทรมาดึกๆให้ผมไปรอรับหน้าประตูบ้านแถมยังเลี้ยงข้าวต้มไอ้โกผมบ่อยๆด้วย
ถ้าอย่างนั้นขอเบอร์โทรลุงหน่อยสิบ่งทีอาจจะได้ใช้บริการให้ลุงพาคุณชายอนามัยไปซื้อของที่ตลาดให้ฉัน
โทรสั่งผมก็ได้ครับ เดี๋ยวๆผมจดเบอร์ให้
ลุงอ้วนรีบล้วงบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อมาฉีกแล้วเขียนเบอร์มือถือให้คุณจันทรารับมาใส่กระเป๋าเสื้อแล้วส่ายหน้า
ไม่ได้หรอก ฉันจะให้เขาไปซื้อของให้อย่างน้อยจะได้รับวิตามินจากแสงแดดเสียมั่ง ไปล่ะนะ ขอบใจมากจ้ะลุง
คุณจันทราบอกแล้วเดินกลับไปที่รถไม่นานนักรถของปริตรก็แล่นออกจากบริเวณนั้น โดยมีสายตาของคนขับรถในวินมองตามไป ก่อนจะหันมาคุยกันเรื่องความเป็นไปได้ที่คุณชายอนามัยจะยอมซ้อนจักรยานยนต์ไปตลาด
เป็นครั้งแรกที่ปริตรได้มาเหยียบตลาดสดเขามองไปรอบๆแล้วคิ้วเข้มก็เริ่มขมวดเข้าหากันมากขึ้นเรื่อยๆทั้งความวุ่นวายของรถเข็นของ ทั้งความชุลมุนของบรรดาลูกค้าแม่ค้าที่แย่งกันซื้อแย่งกันขายจนน่าเวียนหัว
จะยืนสะกดวิญญาณอีกนานมั้ยพ่อคุณพี่ๆรอกินข้าวเย็นอยู่นะ
คุณจันทราพูดแล้วก็เดินนำเข้าไปด้านใน ก่อนจะตะลุยซื้อของโดยมีร่างสูงที่กำลังเป็นจุดสนใจจากบรรดาแม่ค้าสาวๆเดินตามหลังคอยจ่ายเงินแล้วกางถุงผ้ารับของที่แม่ค้าส่งให้
พาลูกชายมาซื้อของเหรอคะคุณนาย
แม่ค้าขายผักเห็นคุณจันทรากำลังเลือกผักในแผงของตนโดยมีหนุ่มหล่อยืนอยู่ด้านหลังก็เอ่ยปากทักตามประสาคนปากไว
สามี
คุณจันทราตอบสั้นๆแล้วหยิบผักใส่ตะกร้าไม่สนใจอาการอ้าปากค้างของแม่ค้าส่วนปริตรเขาแสร้งหันไปมองทางอื่นริมฝีปากเผยรอยยิ้มออกมาเพียงชั่วแวบเดียวก่อนที่จะหายไปในเวลาอันรวดเร็ว
เพราะปริตรไม่ใช่คนขี้เล่นเลยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ถ้าเป็นมฆวันหรือกมลอาจจะมีการตอบรับประมาณยิ้มให้แม่ค้าเป็นทำนองยืนยันคำพูดหรือถ้าเป็นเมฆาที่ตอนนี้สนิทกับคุณจันทรามากขึ้นจนเป็นลูกคู่ในบางครั้งก็อาจจะได้ยินว่า...เสร็จหรือยังที่รัก...ให้แม่ค้างงมากกว่าเก่าก็เป็นได้
เมื่อคุณจันทราเลือกผักเสร็จก็เดินนำไปทางร้านขายปลาปล่อยให้ปริตรจ่ายเงินแล้วรับผักมาใส่ถุงแต่พอร่างสูงจะก้าวเท้าเสียงแม่ค้าก็ดังขึ้นเหมือนต้องการคำตอบที่คาใจ
ตกลงพ่อหนุ่มเป็นสะ...แฟนคุณป้าจริงๆเหรอ
แต่คำถามของแม่ค้าขายผักไม่ได้รับคำตอบใดๆ เพราะชายหนุ่มทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินตามคุณจันทราไปติดๆแต่ไม่วายได้ยินเสียงแม่ค้าไล่หลังมาให้ปวดใจเล่น
สงสัยหูหนวกเป็นใบ้มิน่าล่ะถึงคว้ายายป้าเป็นเมีย เสียดายหน้าตาก็หล่อ รสนิยมบกพร่อง
ปริตรถอนหายใจออกมาเบาๆ เขามองคนที่กำลังเลือกปลาอยู่ว่าได้ยินสิ่งที่แม่ค้าขายผักพูดหรือเปล่าและดูเหมือนว่าโชคดีที่คุณจันทราไม่ได้ยิน
ชายหนุ่มหันกลับไปมองหน้าแม่ค้าขายผักด้วยสายตาที่ใช้มองน้องๆเวลาที่ทำผิดก่อนจะเดินกลับไปยืนหน้าแผงเขารู้ว่าตลาดมนตรีสร้างอยู่บนที่ดินเก่าแก่ของตระกูลซึ่งปู่มีพี่น้องสามคนแต่ตายตั้งแต่ยังไม่มีครอบครัวไปสองคนเลยเหลือปู่คนเดียวที่ได้ที่ดินเป็นมรดกแต่มีแต่ที่ดินทรัพย์สินประเภทเงินทองแทบไม่มีลูกหลานในรุ่นนั้นต้องขวนขวายหากันเอง
สมัยก่อนแถบนี้เป็นที่นาเก่าที่ท่านขุนอัครมนตรีให้เช่าทำนาต่อมาพอมารุ่นหลังๆก็เริ่มมีการปรับปรุงที่ดินพัฒนาขึ้นมาแบ่งให้ลูกหลานบ้างลูกหลานที่ไม่มีเงินก็ขายให้กันบ้าง จนมาถึงรุ่นนายพลบัญญัติพอเริ่มมีเงินก็เริ่มกว้านซื่อที่ดินคืนมา
แต่เพราะเห็นว่าที่ดินตรงนี้ใกล้จากบ้านมากไปเลยไม่แบ่งให้ลูกหลานคนไหนคุณย่าน้อมเลยคิดทำเป็นตลาดและอาคารพาณิชย์ให้เช่าแทน
เงินที่ได้มาถูกใช้เป็นเงินเดือนคนงานในบ้านกับค่าอาหารการกินเลี้ยงลูกหลานมาจนโตสิ่งหนึ่งที่คุณย่าน้อมสอนมาคือให้ลูกหลานทุกคนอย่าเบียดเบียนคนหาเช้ากินค่ำอย่าได้อวดอำนาจว่าข้าเป็นลูกหลานเจ้าของตลาดแต่จงคิดว่าเราโตมาได้ส่วนหนึ่งก็มาจากเงินที่เขาหาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานเอามาให้เรา
แต่วันนี้ปริตรยอมรับว่าความใจเย็นของตนเองนั้นไม่ควรมีให้กับคนปากประเภทนี้คนเป็นแม่ค้าควรพูดจาดีๆกับลูกค้า ใช่ปากดีอย่างนี้
อ้าวไม่ได้หูหนวกเหรอ
แม่ค้าทำหน้าตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วทำเป็นลอยหน้าลอยตาพูดโดยไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มกำลังใช้โทรศัพท์อัดเสียงเธอไว้
แหม หน้าตาก็ดีไม่น่าเลือกเมียแกเลยนะจ๊ะมาเป็นผัวพี่ดีกว่าวันๆจะให้นั่งให้นอนอยู่บ้านสบายๆไม่ต้องมาเดินตามต้อยๆอย่างนี้
พอพูดจบแม่ค้าขายผักก็หันไปหัวเราะกับแม่ค้าแผงติดกันปริตรยังยืนอยู่ที่เดิมมองกิริยาคนพูดแล้วกดโทรศัพท์หาใครคนหนึ่งพลางนึกขอบคุณที่เมื่อวันแต่งงานของเมฆาคุณย่าบังคับให้หลานๆบันทึกเบอร์ของคนๆนี้เอาไว้
คุณชุมพลใช่ไหมครับ ครับ ผมปริตร รบกวนช่วยมาหาผมที่หน้าร้านขายผักเลขที่...ได้ไหมครับ
เพราะวันนั้นปริตรทำหน้าที่คอยช่วยคุณปู่คุณย่ารับแขกทำให้มีโอกาสได้คุยกับชุมพลคนที่ดูแลตลาดให้กับนายพลบัญญัติมากว่ายี่สิบปีอดีตชุมพลเป็นทหารรับใช้ในบ้านเพื่อนทหารอีกคนพอปลดประจำการคุณปู่ของปริตรก็ชวนมาทำงานด้วยเพราะเห็นว่าเป็นคนซื่อสัตย์
ไม่นานนักชุมพลก็เดินมาถึงหน้าร้านเขายกมือไหว้ปริตรทั้งๆที่ชายหนุ่มอายุน้อยกว่าก่อนจะฟังเสียงของแม่ค้าที่ถูกอัดไว้แล้วหันไปมองตัวต้นเรื่องที่กำลังทำหน้าเหมือนอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
อีหวึ่งคราวนี้แกตายแน่วะตาพลยกมือไหว้ขนาดนี้ไม่ธรรมดาแล้ว
แม่ค้าร้านติดกันบอกแล้วหันไปวุ่นวายกับการรดน้ำผักทั้งๆที่เมื่อกี้ยังหัวเราะเป็นลูกคู่กันอยู่เลย
คุณชุมพลควรตักเตือนคนเช่าแผงด้วยนะครับว่าควรทำตัวอย่างไรไม่อย่างนั้นคนเขาจะว่าตลาดเราได้ว่า...
ขอโทษครับคุณปริตร แล้วผมจะตักเตือนให้
ชุมพลรีบบอกเขายอมรับว่าปริตรถอดแบบนิสัยมาจากนายพลบัญญัติมาเกือบหมด ทั้งการพูดจานิสัยและการมอง ปริตรยกมือไหว้ชุมพลแล้วหันไม่มองหน้าแม่ค้าปากดีอีกครั้งก่อนจะเดินไปหาคุณจันทราที่ยังเลือกปลาไม่เสร็จสักที
ใครอะคุณพล
แม่ค้าขายผักรีบถาม ตายังมองตามหลังชายหนุ่มไป
น่าเสียดายเนอะ หล่อก็หล่อดันมีเมียแก่
หลานเจ้าของตลาด
ซวยแล้วมึงอีหวึ่ง
คราวนี้ลูกคู่รีบหันกลับมาเกาะติดสถานการณ์ น้ำรดผักในมือเลยหันมาเผื่อแผ่แผงใกล้เคียงไปด้วยชุมพลส่ายหน้าอย่างระอาเพราะเคยตักเตือนไปหลายครั้ง แต่เรื่องของปากใครจะห้ามได้
ใช่ ซวยแล้วรู้ไหม คุณปริตรเป็นหลานชายคนโตทั้งเจ้าระเบียบ ทั้งโหด น้องชายแกเกรงใจทุกคน
แล้ว ป้าคนนั้นล่ะ ใคร
ไหนๆ
ชุมพลชะเง้อมองพอเห็นก็ทำคอย่นยกมือขึ้นเกาศีรษะก่อนจะถอนหายใจดังเฮือก
งั้นซวยสองต่อเพราะนั่นน่ะแม่ยายลูกชายคนเล็กของคุณท่าน พวงตำแหน่งแม่ยายหลานชายคนที่สองสองเด้งแล้วแก เตรียมตัวย้ายที่ขายได้
ชุมพลได้ทีเลยขู่ซ้ำเพราะนึกออกว่าน่าจะช่วยให้อีกฝ่ายสงบปากสงบคำลงได้บ้าง
ทำไงดีล่ะ ช่วยพูดกับแกให้หน่อยสิ ฉันขายอยู่ที่นี่มาหลายปีจะให้ย้ายไปไหน
แม่ค้าขายผักโอดครวญแต่ชุมพลไม่ยอมตอบเขาเดินไปยกมือไหว้คุณจันทราแล้วเอ่ยปากขอโทษเรื่องที่แม่ค้าพูดไม่ดีและเขาได้ตักเตือนไปแล้ว
ไม่เป็นไรหรอกยังไงก็ใกล้ปีใหม่แล้วฉันว่าคุณซื้อตะกร้อครอบปากให้เขาสักหน่อยก็ดีนะเวลาคนเขาด่าว่าปากหมา หมามันจะเคืองเอา
คุณจันทราบอกก่อนจะหันไปสะกิดให้ปริตรเดินตามออกมาพอพ้นจากส่วนขายของสดก็ตรงไปเลือกผลไม้อีกสองสามอย่างแล้วรับมาถือไว้เอง
ผมถือให้ดีกว่าครับ
ปริตรอาสาทั้งๆที่ถุงผ้าในมือเต็มจนแทบจะล้นอยู่แล้ว
เก็บแรงไว้จับพวงมาลัยเถอะพ่อคุณ ฉันไม่อยากไปเฝ้าเทวดาก่อเวลาอันควร
ว่าแล้วคุณจันทราก็เดินนำไปทางลานจอดรถแต่ก็ยังไม่วายแวะซื้อของกินไปตลอดทางจนปริตรเริ่มสงสัยว่าตกลงคุณจันทราจะมาอยู่กับเขาสองอาทิตย์หรือสองเดือนกันแน่
ปวดหัวเรื่องงานอยู่
มาอ่านแล้วหายปวดเลยค่ะ
555555555555555555555555555
มาต่อเร็วๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ