กลบท
กลบทชนิดบังคับอักขรวิธี ได้แก่กลบทที่นำเอาอักขรวิธีไทย เช่น การใช้สระ, พยัญชนะ, วรรณยุกต์, มาตราตัวสะกด ฯลฯ มาบังคับใช้




กลอน: ถาวรวธิรา

บังคับให้มีคำใช้ไม้ม้วนทุกวรรค โดยไม่กำหนดจนวนและตำแหน่งของคำ

กล่าวถึงมเหสีที่อยู่ใน อนาถใจถึงพระองค์พระภัสดา
พ่อเนื้อทองผ่องใสสุดใจเอ๋ย ให้แม่ทุกข์ทุเรศเทวศวอน อรัญใหญ่องค์เดียวอนาถา ให้โศกาถึงบุตรสุดอาวรณ์
มาละเลยแม่เสียในศิงขร บเห็นมิ่งดวงสมรแม่ร้อนใจ (ศิริวิบุลกิตติ์)




กลอน: โสภณาอนุกูล

บังคับให้มีคำใช้ไม้มลายทุกวรรค โดยไม่กำหนดจำนวนและตำแหน่งของคำ

โอ้พระร่มโพทองของน้องไฉน ตั้งแต่ท้าวไปจากน้องพรากองค์
เมื่อยามเสวยเสวยชลเนตรไหล พระจอมไทไกรจักรหลักโลกา
ไม่เห็นไทกลับหลังดังประสงค์ อาไลยทรงโศกเศร้าร้าวอุรา
ดังฟอนไฟไหม้อกหมกมุ่นหา อนาถายากไร้หมดไพร่พล
(ศิริวิบุลกิตติ์)






กลอน: อุภะโตโกฏิวิลาศ

บังคับให้ใช้วรรณยุกต์รูปเดียวกันตลอดวรรค โดยไม่กำหนดจำนวนและตำแหน่งของคำ

จักกล่าวถึงยอดยิ่งมิ่งกุมาร มาถึงที่เขาวิบุลบรรพตไพร
เสด็จด่วนจากที่มงคลคช ค่อยไคลคลาลาลีกับบาทบง
ให้รีบยกพลทหารสท้านไหว เห็นไรไรราวแคว้นกุฎีดง
น้อมประนตนบนิ้วขึ้นจำนง กระประจงน้อมนบเคารพคุณ
(ศิริวิบุลกิตติ์)



กลอน: กัจจายนมณฑล

บังคับให้คำต้นวรรคใช้อักษรสูง อักษรกลาง และอักษรต่ำ สลับกันไปทุกวรรค

สมเด็จพระศิริวิบุลกิตต์ ค่อยตรึกตรองฉลองคุณพระชนมา
ดับประดิดวิจิตรบรรจงเจิด แผ้วจำรัสผ่องศรีมณีรอง
กำจัดจิตจากโศกวิโยคหา ให้เสนาจัดแจงแต่งโกษทอง
วิไลยเลิศล้วนลายไม่มีหมอง ดูลอยล่องเครื่องประดับระยับตา
(ศิริวิบุลกิตติ์)


กลอน: สุนทรโกศล

บังคับใช้แต่ "ส"

จักกล่าวถึงสมเด็จราชกุมาร ครองสมบัติแสนสวัสดิสุนทร
พระองค์กับทรงฤทธิ์พระบิตุราช จะไปรับหม่อมราชสุริกากาญจน์
กระเษมสานต์สุรสิทธิ์สมฤทธิ์สมร พระยานาคเสด็จจรยังบาดาล
คิดถึงนาฏชนนีในไพรสาณฑ์ ให้คืนสู่เขตรสถานเสวยรมย์
(ศิริวิบุลกิตติ์)



กลอน: วิมลวาที

บังคับให้ใช้แต่ "ศ"

บ้างเชยชมศาขาแลศิงขร ทั่วประเทศน่าบรรเทิงเริงพระไทย
แลล้วนวิเศศด้วยรุกขชาติ หมู่วิหคหัศดินกินนรราย
แง่ชง่อนงามพิเศศน่าพิศไมย ข้างชั้นในซอกผาศิลาลาย
เหมราชงามเลิศดูเฉิดฉาย ช่างเพริศพรายเพราพร้อมลม่อมนวล
(ศิริวิบุลกิตติ์)





กลอน: อธิบดีอักษร

บังคับให้ใช้แต่ "ษ"

พระเกษแก้วมงกุฏของลูกเอ๋ย พระไม่เคยราษร้างห่างบุตรถนอม
เพราะรักบุตรเหลือรักจักตรมตรอม จะซูบผอมรังษีฉวีวรรณ
เห็นปักษีจับต้นพฤกษาเรียง เที่ยวประพาษในป่ามหาวัน
เหมือนแม่เคียงพระหัตถ์กอดประคองขวัญ เก็บพฤกษ์พรรณผลไม้ให้ภุญชา
(ศิริวิบุลกิตติ์)




กลอน: บังคับใช้แต่ ก กา

บังคับไม่ให้ใช้คำที่มีตัวสะกดตลอดวรรค

พระฤๅษีมีคำนำวาที ว่าข้านี้อยู่มาในป่าใหญ่
ไมมีผู้ตู่ต่อก่อกำม์ใด แต่อยู่ในไพรศรีนี้ช้ามา
ที่ปีนี้มีงูที่อยู่ไพร ไม่ทำใจอยู่ดีมีศุขา
นิราภัยโรคีไม่มีบีฑา นี้เวลาเช้าค่ำย่ำราตรี (ศิริวิบุลกิตติ์)





กลอน: บังคับใช้แต่ ก กา กน

บังคับให้มีตัวสะกดได้เฉพาะแม่ กน

เจ้าพรานเห็นอิสีมีใจหาญ ที่รำคาญแต่ก่อนถอนใจใหญ่
แสนสำราญบานชื่นรื่นในใจ ก็เข้าไปกินหาผลามี
อยู่มาได้ไม่ช้าก็ลาจร พระภูธรชี้หนตำบลศรี
ให้พรานไปปิ่นเกล้าเจ้าธานี มีวาทีว่าดูผู้ชำนาญ (ศิริวิบุลกิตติ์)



กลอน: บังคับใช้แต่ ก กา กน กง

บังคับให้มีตัวสะกดได้เฉพาะแม่ กน กับแม่ กง

พอถึงครามามหาสถาน
ไหวอยู่เหมือนในอุบลที่รนรัน
อันตั้งอยู่ในใบอุบลมี
พอได้ยินคำคนนั่งสนทนา สันดานพาลทมิฬมลทินหวั่น
น้ำใจนั้นไหลลุเหมือนอุทกา
ไหลรินรี่สิ้นวันไม่กังขา
ว่าราชาเจ้าธานีที่หนีไป

(ศิริวิบุลกิตติ์)







กลอน: บังคับใช้แต่ ก กา กน กง กด

บังคับให้มีตัวสะกดได้เฉพาะแม่ กน, กง และ กด

กรุงกระษัตริย์ทรงฟังไม่กังขา
ขอประทานข้าเถ้าเต้าจรไป
ถึงเจ็ดวันจึ่งข้าทูลลาจร
สัจจังฤๅดังนั้นเป็นมั่นคง
ซึ่งตรัสว่าบัดนี้อยู่ที่ไหน
ได้อาไศรยอยู่ที่กฎีดง
ใกล้ศิงขรป่าใหญ่ไพรระหง
ประทานจงเหมือนข้าแจ้งจาบัลย์

(ศิริวิบุลกิตติ์)







กลอน: บังคับใช้แต่ ก กา กน กง กด กก

บังคับให้มีตัวสะกดได้เฉพาะแม่ กน, กง, กด และ กก

โอ้ระอาอกข้าครานี้นี่
สมรแม่แม่จะร่ำร่ำอาวรณ์
รำพึงคิดคิดถึงพี่พี่จากเจ้า
คนึงถิ่นที่สถิตจิตรคนึง เห็นสุดที่ที่จะคิดคิดถึงสมร
อาวรณ์ร้อนร้อนร่ำร่ำรำพึง
พี่จากใจใจพี่เศร้าคนึงถึง
จิตรคเนแต่อ้ำอึ้งให้อึ้งใจ

(ศิริวิบุลกิตติ์)







กลอน: บังคับใช้แต่ ก กา กน กง กด กก กบ

บังคับให้มีตัวสะกดได้เฉพาะแม่ กน, กง, กด, กก และ กบ

พระนางสดับนางวับน้ำจิตรหวิด
จึ่งทูลองค์ทูลพงษ์ทิพากร
จักจากน้องจากนางไปทางไหน
พระตอบนางปลอบนางพลางพาที น้ำจิตรคิดใจแค้นดั่งแสนศร
ว่าภูธรภูเบศร์นเรศร์ตรี
สุดอาไลยประไลยกลางไพรสี
ว่าพี่นี้วันนี้จักนิรา

(ศิริวิบุลกิตติ์)







กลอน: บังคับใช้แต่ ก กา กน กง กด กก กม

บังคับให้มีตัวสะกดได้เฉพาะแม่ กน, กง, กด, กก และ กม

น้องน้องพี่นี้นี้แน่แม่แม่เจ้า
เร่งเร่งจับรับรับแหวนแสนแสนตรง
เก็บเก็บไว้ให้ให้บุตรสุดสุดใจ
พี่พี่ยาลาลาน้องผ่องผ่องภักตร์ อย่าอย่าทุกข์รุกรุกเร้าเจ้าเจ้าจง
ธำธำรงค์วงวงนี้ดีดีนัก
นานนานไปใหญ่ใหญ่มากล้ากล้าศักดิ์
ภักตร์เพียงภักตร์พรหมอุดมงาม

(ศิริวิบุลกิตติ์)







กลอน: อักษรกลอนตาย

บังคับให้ใช้แต่คำตาย

สุดคิดจิตรวิตกอกจะทรุด
นุชเทวศเกษชกตบอกนาฏ
เจ็บจิตรเจ็บอกวิตกหนัก
คิดเคียดคัดข้อขัดอกวิตกแทบ ทุกข์เพราะรักหนักดุจชีพจักขาด
แทบจะวาทชีพวอดอกงอบแงบ
จักจากรักจากราชนาฏหอบแหบ
จิตรวอบแวบวาบวิบจะลิบลับ

(ศิริวิบุลกิตติ์)







กลอน: สิงหฬวาท

บังคับให้ใช้คำภาษาบาลีต้นวรรค

มีโองการว่าดูพธุนาฏ
ปุตฺซึ่งพระราชกุมารา
ยา อิตฺถี หญิงใดแม้ใสสุด
สา อิตฺถี หญิงนั้นเป็นมั่นคง ตุมเห ท่านจงปรารถนาหา
รักขิตา อีกได้ครองสนองวงษ์
ได้ซึ่งบุตรชายหมายประสงค์
ให้เลื่อนองค์ยศยิ่งเป็นมิ่งวัง

(ศิริวิบุลกิตติ์)







กลอน: ยัติภังค์

บังคับให้ลงท้ายวรรคด้วยคำขาดหรือความขาด แล้วนำไปต่อต้นวรรคถัดไป

ครั้นรุ่งแสงแสงทองส่องซึ่งรัศ-
สว่างแสงแสงศรีระวีใน-
กระษัตริย์เสด็จเสด็จยังที่นั่งน่า-
ศรีสุกสุกเริงบรรเทิงรุ่ง- มีจัดจัดแจ่มแอร่มใส-
นพภาไลยไลยประเทศวิเศษกรุง-
มุขมหาปราสาทประเสริฐสูง-
ราษีพุ่งพุ่งเผ่นกระเด็นจอม-

(ศิริวิบุลกิตติ์)









โคลง: ฤษีแปลงสาร

บังคับเสียงเรียงอักษรกลับคำ เช่น "ไว้" เป็น "ว้ไ"

กอัรษรวณษกลันวล้
อชื่ฤรีษงลปแรสา
ดลัผนยพีเนยลี่ปเนอลกรกา
นสห์ท่เห์เบลัห้ไ
ถอด
อักษรวรลักษณล้วน
ชื่อฤษรีแปลงสาร
ผลัดเพี้ยนเปลี่ยนกลอนการ
สนเท่ห์เล่ห์ลับให้ งลพเลพา
บสืว้ไ
ยาลกบลัก
นาอ่นล้หเนป็เมษกเ

เพลงพาล
สืบไว้
กลายกลับ
อ่านเหล้นเป็นเกษม

(จินดามณี)









โคลง: ไทหลง

บังคับใช้ตัวอักษรแทนกัน ผู้อ่านต้องรู้จักสูตรของการใช้อักษร เรียกว่า
"สูตรไทหลง" ซึ่งพระปิฎกโกสล(อ่วม) ทำขึ้นไว้ดังนี้ (หลวงธรรมาภิมณฑ์ ๒๕๑๔:๗)
กาเหงา เจ่าอยู่ ไฟฮือ ฬือฦๅ ด เป็น ถ ถอดอักษรได้ว่า

ก <--> ง ข <--> ค ฃ <--> ฅ ฆ <--> ฌ
จ <--> ย ฉ <--> ช ซ <--> ฒ ญ <--> ฑ
ฎ <--> ฐ ฎ <--> ณ ด <--> ถ ต <--> น
ท <--> บ ธ <--> ฝ ป <--> ม ผ <--> พ
ฟ <--> ฮ ภ <--> ฬ ร <--> ล ว <--> ส
ห <--> อ


หังวลสลวาลวล้หจ
สติถาตาลีลันต
จุทรงรโขรกผลัถ
ขืหไบอรกพยกใอ้
ถอด
อักษรวรสารสร้อย
วนิดานารีรัตน์
ยบุลกลโคลงพรัด
คือไทหลงผจงให้
วีวสัวถิ์
แน่กไส้
เผีจ้ตนิ
หายห้ากเม็ดพร

สีสวัสดิ์
แต่งไว้
เพี้ยนติ
อาจอ้างเป็นผล

(จินดามณี)
*หมายเหตุ: อ่านกลบทนี้แล้ว ช่างเหมือนกับการเข้ารหัสคอมพิวเตอร์จริงๆ : )









โคลง: ไทยนับ ๓

นับครั้งละ ๓ อักษร แล้วเก็บตัวอักษรออกมาหนึ่งตัว เมื่อหมดแถวก็นับทวนต้นใหม่
จนครบอักษรทุกตัวในแถว เช่น มจ้ไบงทอตนักมบเอ้สาเถ

นับครั้งที่ ๑ จะได้ตัวอักษร ไทนับสา แล้วเหลืออักษร ๒ ตัว ต้องนับรวมแล้วตั้งต้นใหม่
นับครั้งที่ ๒ จะได้ตัวอักษร มบอกแ แล้วเหลือตัวอักษร ๑ ตัว นับรวมแล้วตั้งต้นใหม่
นับครั้งที่ ๓ ได้ตัวอักษร จ้งตามอัถ ครบทุกตัวอักษร นำมาเรียงกัน

มจ้ไบงทอตานักมบเอ้สาเถ
ศสาถทุมอกสัดถ้นทีอทัลย
กวัใสสนสาติเร่พเสจ
ยบเงสิสส้นนาะรุสุสำอนเยทนีซาร
ถอด
ไทยนับสามบอกแจ้ง
ถอดทีละสามสันทัด
ในแกสสารสวัส
เสนาะสำเนียงสร้อย




ตามอัถ
ทุกถ้อย
ดิพจ
ซาบสิ้นสุนทร

(จินดามณี)









โคลง: ไทยนับ ๕

บังคับเช่นเดียวกับ ไทยนับ ๓ แต่นับครั้งละห้าตัวอักษร

รท้วขอัปรโบกวงควษรไยน
ชเนลเวล่ช้ยปนห์อลนชื่กย
ทำวร้ร่ลำสำญนอนำเรเซ่น
คตยนลัตริยาคบรึถักนฦๅกอพ้ณา
ถอด
อักษรบวรทรงไว้
เป็นเล่ห์กลยลชวน
ลำนำทำสำรวญ
ลับฤกตรึกตริถ้อย




โดยขบวน
ชื่นช้อย
เร้นซร่อน
ยากพ้นคณนา

(จินดามณี)



นอกจากนี้ยังมี กลโคลง อักษรเลข และฝนแสนห่า ซึ่งใช้ตัวเลขแทนสระ ไม่สามารถพิมพ์ได้ จึงเว้นไว้



กลบทชนิดไทหลง ไทนับสาม ไทนับห้า ฤๅษีแปลงสาร อักษรเลข และฝนแสนห่า นี้ ฉันทิชย์กระแสสินธุ์ ได้อธิบาย ไว้ว่า "โบราณจารย์คิดขึ้นสำหรับ ใช้ในราชการสงคราม และสำหรับกุลบุตรกุลธิดา ได้ศึกษา" จึงอาจกล่าวได้ว่า เป็นหลักสูตรสำหรับเรียน เพื่อใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง มิใช่เพื่อความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ดังกลบทชนิดอื่นๆ




Create Date : 22 พฤษภาคม 2550
Last Update : 6 ธันวาคม 2551 7:06:37 น.
Counter : 6589 Pageviews.

0 comments

โตมิโต กูโชว์ดะ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ร่างทรงของ "วรรณวรรธน์" โปรดอย่าถามว่าเป็นใครในอดีต รู้แต่ว่าตอนนี้ยังมีลมหายใจอยู่ เท่านั้นก็มากเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งได้รู้จักกันแล้ว
New Comments
พฤษภาคม 2550

 
 
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
31