Group Blog
 
 
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
30 เมษายน 2558
 
All Blogs
 

ความทรงจำที่ชัดเจน ..

TypeL-resized.jpg

แดดอ่อนๆ กำลังสาดสีทองของแสงสุดท้ายแห่งวัน ระยิบระยับทาทาบทับไปบนผิวน้ำในทะสาปประจำหมู่บ้าน ระลอกคลื่นต่างออกมาเต้นระริ้วพลิ้วไหวไปตามสายลมที่พัดเอื่อยๆ ราวกับกำลังล้อหลอกหยอกเย้ากับเจ้าแมลงปอตัวน้อยที่ถลาร่อนลงแตะผิวน้ำครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนบางครั้งผมก็อยากจะถามเจ้าตัวจ้อยปีกบางเหล่านั้นว่า “เจ้าเคยเหนื่อยบ้างไหมนะ .. กับการบินร่อนไปมา .. เพื่อตามหาอะไรสักอย่าง?”

ภาพของคนหนุ่มสาวที่ควงคู่กันออกไปปั่นเรือถีบรูปทรงห่านฟ้าลำเล็กที่มีพื้นที่เฉพาะแค่สองคน ปั่นกันไปคุยกันไปกระหนุงกระหนิงตามประสาคนมีความรักที่อยากใช้เวลาร่วมกันโดยไม่ต้องมีใครมากวนใจอยู่ใกล้ๆ อาหารปลาห่อใหญ่ที่ซื้อมาจากบนฝั่งกำลังถูกโปรยจากมือทั้งสองที่เกาะกุมกันอย่างอบอุ่น เสียงฮุบน้ำดังจ๋อมแจ๋มของเหล่าปลานิลปลาตะเพียนที่ออกมาร่วมวงบุฟเฟ่ต์อาหารเย็นรอบๆ ลำเรือแห่งความรักช่วยทำให้มื้อนี้ไม่ต้องมีน้ำตาลมาเติมเพิ่มกันแต่อย่างใดเลยทีเดียว

ต้นไผ่กอใหญ่สูงชะลูดที่แตกกิ่งก้านผลิใบคมกริบกำลังเอนพริ้วปลิวไสวตามกระแสลมที่พัดเอื่อยๆ ต่างก็พร้อมใจกันกรีดใบบรรเลงเสียงเพลงแห่งสนธยาราวกับว่ากำลังพร่างพรมนิ้วอย่างลื่นไหลไปบนฟิงเกอร์บอร์ดของไวโอลินชั้นดีที่สร้างสรรค์บทเพลงโดยนักดนตรีที่ชื่อว่า”ธรรมชาติ”

ผมมีโอกาสได้นั่งชื่นชมกับธรรมชาติที่สวยงามเช่นนี้อยู่ทุกวัน เพราะเป็นสมาชิกวีไอพีของหมู่บ้านนี้ที่ลูกชายซื้อทิ้งเอาไว้ให้ผมได้ใช้ชีวิตบั้นปลายหลังเกษียณอย่างมีความสุขในสังคมที่อบอุ่นเอื้ออาทรและไว้ใจได้ในความปลอดภัย ก็แน่ล่ะบ้านแต่ละหลังที่นี่ราคาเกือบยี่สิบล้านบนเนื้อที่แต่ละแปลงที่มีขนาดกว่าสองงาน ก็คงไม่น่าแปลกใจใช่ไหมครับที่ผมจะมีทะเลสาปส่วนตัวที่มองเห็นได้จากสนามหญ้าหลังบ้านเอาไว้ให้ได้ซึมซับบรรยากาศแห่งยามเย็นได้อย่างสบายอารมณ์เช่นนี้

อย่าเพิ่งอิจฉาผมกันเลยครับ อ่านเรื่องของผมจบแล้วคุณอาจไม่อยากเป็นผมก็ได้นะครับ

มันไม่ใช่เงินของผมหรอกนะครับที่ซื้อบ้านหลังใหญ่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ลำพังเงินเดือนครูประชาบาลแค่เดือนละไม่กี่สตางค์คงไม่มีปัญญาหรอกครับ อาศัยว่าเจ้าลูกชายคนเดียวของผมนั้นเค้าทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อยู่ และนั่นก็เลยพอจะมีกำรี้กำไรเป็นกอบเป็นกำเอามาซื้อบ้านเอาไว้ให้พ่อแก่ๆ อย่างผมได้อยู่สุขสบายในยามเกษียณราชการกับเค้าบ้าง

ttowerr.jpg

ผมกับลูกอยู่กันแค่สองคนเพราะแม่ของเค้ากันแยกทางกับผมไปตั้งแต่เค้าเพิ่งจะได้สักขวบนึงล่ะมั๊ง ผมเองก็ไม่ได้คิดจะหาแม่ใหม่ให้เค้าหรอก เพราะการที่มีเค้าก็นับเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับผมแล้วนี่ครับ มาจนวันนี้เค้าเติบใหญ่กลายเป็นเสาหลักคอยค้ำยันเสาไม้เก่าๆ ที่เคยกล้าแกร่งยืนท้าฝ่าแดดลมฝนมาจนเริ่มผุพังให้ยังคงยืนอยู่จนได้เห็นโลกยุคใหม่ในทุกวันนี้ จากการงานหน้าที่อันมีภาระรับผิดชอบสูงมากของเค้าทำให้เราสองคนพ่อลูกมีเวลาคุยกันน้อยลงติดต่อกันน้อยลง เพราะเค้าต้องเดินทางไปมาระหว่างประเทศต่างๆ ในหลายทวีปทั่วโลก

ผมเข้าใจเค้าดี ไม่เคยเรียกร้องให้มาหาเพราะไม่อยากจะรบกวนเวลาทำงานของเค้า ..

แม้จะคิดถึงภาพเก่าในอดีตที่เจ้าตัวน้อยเคยวิ่งขึ้นบันไดเสียงตึงตังรีบมานอนกลิ้งเกลือกเอาขาก่ายกันหลับไปทุกคืนเพราะกลัวพ่อจะหายไป เสียงโหวกเหวกตั้งแต่เช้ามืดของผมที่ตะโกนปลุกเค้าให้รีบลุกขึ้นมาอย่างยากเย็นเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน ในขณะที่มือทั้งสองข้างของผมก็กำลังตระเตรียมอาหารเช้าให้พร้อม แล้วสองพ่อลูกก็บิดมอเตอร์ไซค์คันเก่าคร่ำออกไปกระทำภารกิจของตัวเอง ผ่านสองข้างทางที่ชีวิตของคนบ้านนอกในแต่ละวันได้เริ่มต้นขึ้นพร้อมๆ กับแสงแดดอ่อนสอดส่องแยงตาจนต้องหรี่ตาแทบมองไม่เห็นทาง เคยกลิ้งตกข้างทางทั้งพ่อทั้งลูกลงไปในทุ่งนาที่รวงข้าวสีทองสวยกำลังชูช่อปลิวไสวจนเมล็ดข้าวเปลือกในรวงกระจายเกลื่อน ได้แผลกันไปคนละสอง-สามแผลกว่าจะไปถึงโรงเรียนประจำอำเภอได้อย่างทุลักทุเล นึกถึงทีไรก็อดยิ้มไม่ได้ทุกทีสิน่า

ภาพแห่งรอยยิ้มที่ฟันหน้าทั้งสองซี่หายไปยังคงติดตาผมไม่เคยลืมเลือน ครั้งนั้นมีอยู่วันนึงเค้าวิ่งเข้ามาหาผมอย่างหน้าตาตื่นแล้วแบมือเล็กๆ ออกมาโดยกลางฝ่ามือน้อยๆ นั้นมีฟันซี่เล็กที่เพิ่งหลุดออกมา แล้วเค้าก็บอกผมว่า ..

“หนูเอาลิ้นดุนเล่นไปมามันก็หลุดออกมาเลยครับป๊ะป๋า .. แล้วมันจะงอกมาใหม่หรือเปล่าครับ? .. แล้วเลือดหนูจะไหลจนหมดตัวหรือเปล่าครับ? .. แล้ว .. แล้ว .. แล้ว …..”

คำถามมากมายที่พรั่งพรูออกมาจากเด็กชายวัยเพียงแค่ย่างสี่ขวบ ทำเอาผมซึ่งเป็นพ่อตามตอบให้ไม่ทันจริงๆ ก็เลยได้แต่บอกว่า ..

“เดี๋ยวเราเอาฟันของหนูไปโยนขึ้นหลังคากันนะ โยนขึ้นไปสูงๆ ฟันจะได้ขึ้นเร็วๆ “ ..

“แล้วทำไมต้องโยนขึ้นไปบนหลังคาด้วยล่ะครับ? .. แล้วทำไมโยนขึ้นไปสูงๆ มันถึงขึ้นเร็วล่ะครับ?” ..

ผมได้แต่อมยิ้มกับความไร้เดียงสาของเจ้าตัวน้อยที่เต็มไปด้วยความช่างสงสัย ซึ่งบางคำถามก็ไม่รู้จะอธิบายให้เค้าเข้าใจได้อย่างไร

5.gif

ความทรงจำในวันที่ก้าวแรกของเค้าได้เริ่มนับหนึ่ง ล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายครั้งหลายครา กว่าเค้าจะโผเข้ามาหาผมที่ยืนรอประคองเค้าอยู่จนได้ วันที่ผมพาเค้าออกไปหัดเดิน ผมเดินถอยหลังแล้วจับสองแขนเล็กๆ ของเด็กชายตัวน้อยผิวขาวหน้ากลมๆ ใส่เสื้อกล้ามสีเหลืองอ่อนกับผ้าอ้อมลายการ์ตูนผืนใหญ่ ใส่ร้องเท้าสีแดงคู่เล็กที่ส่งเสียงดังปี๊ดๆ ทุกครั้งที่เท้าเล็กๆ เหยียบลงไป เพื่อช่วยพยุงให้เค้าได้เดินเตาะแตะๆ อยู่หน้าบ้านของเรา ..

ภาพของการไปโรงเรียนวันแรกที่ผมนั่งสอนเค้าผูกเชือกรองเท้า ซึ่งเค้าเองก็พยายามอยู่หลายครั้งแต่ก็ยังไม่สำเร็จสักที จนสุดท้ายผมต้องเข้าไปผูกให้จะได้ไม่ต้องไปโรงเรียนสายและผมก็จะได้ไม่ต้องไปสอนหนังสือสายเช่นกัน เค้าไม่เคยร้องไห้หรือเกลียดกลัวกับการไปโรงเรียนเพราะเค้าคุ้นเคยกับการไปโรงเรียนกับผมตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ เค้าชอบที่จะอยู่คอยที่โรงเรียนในเวลาที่ผมต้องอยู่เวรหรือตรวจการบ้านเด็กเพราะเค้าจะได้มีเพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกันวิ่งเล่นสนุกสนานจนค่ำมืดลืมหิวลืมกินกันทั้งพ่อทั้งลูกซะทุกทีไป

เสียงท่องสูตรคูณดังเจื้อยแจ้วแว่วมาทุกวันตอนเย็นๆ แบบนี้ เคล้ากับเสียงดังฉ่าๆ จากน้ำมันที่กำลังเดือดพล่านของปลาช่อนแห้งทอดที่ผมเพิ่งโยนลงไปในกระทะก้นดำเมี่ยงจากควันไฟร้อนระอุของเตาถ่านที่อยู่ด้านในสุดของตัวบ้าน ร่วมกับแกงเขียวหวานไก่ใส่มะเขือถุงใหญ่ที่ซื้อเหมาส่วนที่เหลือติดก้นหม้อมาจากแม่ค้าขายกับข้าวในตลาดเอามาเทใส่หม้อใบเล็กเพื่ออุ่นให้ร้อนซึ่งขณะนี้ก็กำลังเดือดปุดๆ อยู่เช่นกัน และทั้งหมดนี้ก็จะกลายเป็นอาหารมื้อเย็นของเราสองพ่อลูก กินกับข้าวสวยร้อนๆ ที่กำลังระอุพ่นควันหอมฉุยจนฝาหมอหุงข้าวกระพือจากไอน้ำที่พวยพุ่งดันขึ้นมาจนดังโคล้งเคล้ง มันเป็นภาพชีวิตประจำวันของเราสองพ่อลูกที่ไม่ว่าจะหลับตานึกถึงขึ้นมาครั้งใดก็ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจนราวกับเพิ่งจะผ่านไปเมื่อวานนี้นี่เอง

ก็อาจจะมีสักวันนึงนะที่เค้าอาจจะต้องมาคอยตอบคำถามที่ผมคอยถามย้ำซ้ำๆ อยู่เรื่อยเพียงเพราะผมจำไม่ได้จริงๆ ว่าผมถามไปหรือยัง? ..

อาจจะมีสักวันที่เค้าอาจจะต้องสอนให้ผมใช้โทรศัพท์เครื่องใหม่ที่เค้าซื้อให้เพียงเพราะผมไม่สามารถจะเข้าใจวิธีการใช้งานที่ซับซ้อนเกินไปของมันได้ ..

อาจจะมีสักวันที่เค้าอาจจะต้องใส่รองเท้าให้ผมเพียงเพราะผมไม่สามารถจะใช้มือเหี่ยวย่นคู่นี้ผูกเชือกรองเท้าได้อีกต่อไป ..

หรืออาจจะมีสักวันที่เค้าอาจจะต้องให้ผมเกาะไหล่เพื่อพยุงให้ขาทั้งสองข้างที่อ่อนแรงเต็มทีของผมได้ก้าวเดินไปพร้อมกับเค้าอีกครั้ง ..

NjpUs24nCQKx5e1DHZWo4nsdC6q19TbSkJbqbbAOSMM.jpg

แต่ทั้งหมดนั้นคงไม่อาจจะเป็นได้ ถ้าเจ้าตัวน้อยของผมไม่ได้อยู่ที่นี่ ..!!!

และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงใด หรือเค้าจะโตขึ้นสักแค่ไหน อย่างไรเสียเค้าก็ยังเป็นเจ้าเด็กน้อยแสนซนคนเดิมของผมอยู่เสมอ

พรุ่งนี้แล้วสินะที่ผมจะได้เจอเค้าอีกครั้ง จากหลายเดือนก่อนที่เค้าไปติดต่อธุรกิจกับบริษัทใหญ่ในยุโรปเพื่อทำโครงการที่เพิ่งประมูลได้จากส่วนราชการหนึ่งแล้วขาดการติดต่อกับผมนับจากนั้น

สองมือของผมยังกำหนังสือพิมพ์เล่มเก่าในมือแน่นจนยับยู่ยี่ กัดฟันจนกรามเป็นสันนูนขึ้นมา น้ำตาไหลพราก กับหัวใจของผู้เป็นพ่อที่แตกสลายลงไป กับพาดหัวข่าวเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ MH17 ถูกยิงตกที่ยูเครน ผู้โดยสารทั้ง 298 คนเสียชีวิตทั้งหมด

เจ้าหน้าที่จากสถานฑูตโทรมาเมื่อหลายวันก่อนเพื่อแจ้งหมายกำหนดการการส่งศพลูกชายผมที่เป็นหนึ่งในผู้โดยสารของสายการบินมรณะเที่ยวนั้นกลับจากประเทศเนเธอร์แลนด์ให้ผมทราบ

แม้บ้านผมจะหลังใหญ่สักเพียงใด แต่มันก็เป็นบ้านที่ไม่มีคนที่เรารักอยู่ด้วยอีกแล้ว มันจะหาความสุขได้จากไหนกันละครับ ผมยังคงเฝ้ารอเสียงโทรศัพท์โดยหวังว่ามันจะดังขึ้นและเสียงจากปลายสายจะเป็นเจ้าของเสียงที่ผมอยากได้ยิน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม ..

ผมได้แต่ภาวนาให้ปาฏิหารย์มีจริงสักครั้ง ..

--- นายเมษา ---

พุธ 29 เมษายน 2558 เวลา 23:46 น.




 

Create Date : 30 เมษายน 2558
2 comments
Last Update : 30 เมษายน 2558 11:08:58 น.
Counter : 1042 Pageviews.

 

เสียใจกับคุณด้วย กับความทรงจำที่สุดรันทด
ขอให้พบเจอแต่สิ่งดีงาม มีความสุขนะค๊ะ


 

โดย: ชมพร (ชมพร ) 30 เมษายน 2558 9:26:41 น.  

 

ต้องขออภัยที่ทำให้เข้าใจผิดนะครับ ..
เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งในงานฝึกเขียนเรื่องสั้นของผมเองครับ
โดยผมได้วางพล๊อตเรื่องจากข่าวที่เกิดขึ้นจริง ..
ก็เลยอาจทำให้ผู้ที่เข้ามาอ่านเกิดความเข้าใจผิดได้ครับ ..
ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยจริงๆ ครับ ..

 

โดย: tombass 1 พฤษภาคม 2558 15:30:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


tombass
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






You're visitor No.
HTML Counter


Tombass's Bloggang Counter



Welcome to my HOMEPAGE




ไปเที่ยวชมบนเวบบอร์ดครับ ..


http://11maysa.eu5.org



คุณสามารถเข้าชมรูปภาพในบล็อคนี้ได้ที่
G+ Picasa
Photo Bucket



กี่โมงแล้วล่ะเนี่ยะ ..?





ราคาน้ำมันวันนี้ .. by PTT




About me :





Do you hear me? I'm talking to you
Across the water across the deep blue ocean
Under the open sky, oh my, baby I'm trying

Boy I hear you in my dreams
I feel your whisper across the sea
I keep you with me in my heart
You make it easier when life gets hard

I'm lucky I'm in love with my best friend
Lucky to have been where I have been
Lucky to be coming home again
Ooh ooh ooh

They don't know how long it takes
Waiting for a love like this
Every time we say goodbye
I wish we had one more kiss
I'll wait for you I promise you, I will

I'm lucky I'm in love with my best friend
Lucky to have been where I have been
Lucky to be coming home again

Lucky we're in love in every way
Lucky to have stayed where we have stayed
Lucky to be coming home someday

And so I'm sailing through the sea
To an island where we'll meet
You'll hear the music fill the air
I'll put a flower in your hair

Though the breezes through trees
Move so pretty you're all I see
As the world keeps spinning 'round
You hold me right here, right now

I'm lucky I'm in love with my best friend
Lucky to have been where I have been
Lucky to be coming home again

I'm lucky we're in love in every way
Lucky to have stayed where we have stayed
Lucky to be coming home someday

Ooh ooh ooh
Ooh ooh ooh, ooh

Title : Lucky
Artist : Jason Mraz & Colbie Caillat
Friends' blogs
[Add tombass's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.