Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
7 พฤศจิกายน 2557
 
All Blogs
 

เที่ยว Iceland : 7 วันขับรถเอง สำหรับคนไม่อยาก วาง route เอง

Highlight

เริ่มต้นแนะนำ Blue Lagoon สถานที่ท่องเที่ยวสุดชิล ถูกจัดลำดับโดย National Geographic "One of the wonders of the worlds"

การอาบน้ำแร่ที่ว่ากันว่ามีผลในด้านบวกกับผิวหนัง ในวันที่อากาศยะเยือก 1 องศาเซลเซียส นอนแช่น้ำอุ่นรสเค็มปะแล่ม ๆ  ดื่มเบียร์ เป็นความสุข ที่ไม่อาจลืม

BLUE LAGOON IS ONE OF THE WONDERS OF THE WORLD


The Blue Lagoon is among the wonders of the world according to National Geographic. It is included in a list of 25 locations around the globe in the magazine’s special edition on wonders of the world.

In its description of Blue Lagoon National Geographic says "the steaming turquoise pools of Iceland's Blue Lagoon, trapped in volcanic rock represent an otherworldly vision." National Geographic says that Blue Lagoon is a geothermal gift of nature.  The rain forest is Borneo, Great Rift Valley in East Africa and Cave of Crystals in Mexico are among the 25 amazing places on the National Geographic list.

ผมเลือก เยี่ยมเยือนบลูลากูน ในวันท้ายสุดของตารางท่องเที่ยว 7 วัน หลังจากขับรถตะลอนอยู่ด้านใต้ และ ตะวันตก ของประเทศ กว่า พันกิโล กับน้ำมันลิตรละ เกือบ 70 บาท การนอนแช่น้ำที่นี่ ครึ่งวัน ทำให้คลายความเหนื่อยล้า ตลอดการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี



ตามติดด้วย Kirkjufell ที่ผู้คนชอบไปเยี่ยมชมกันนัก โชคไม่ดีที่ทริปนี้ของผม เมฆฝนคลุม Iceland ทั้ง 7 วัน มีโอกาสฟ้าโปร่งแค่เช้าวันนึงเท่านั้นเอง



highlight อีกอันก็คือสาระพัด น้ำตก ที่ถือว่าสุดยอดแห่งหนึ่งของโลก สำหรับการเที่ยวชมน้ำตกหลาย ๆ แบบ รูปนี้คือ Skógafoss Waterfall น้ำตกที่ได้ชื่อว่า ใหญ่ที่สุดในยุโรป ภาพยนตร์ เรื่อง  Prometheus ก็มีฉากถ่ายทำที่นำ้ตกแห่งนี้ เจ้า Suzuki ที่เห็นก็คือเพื่อนคู่ใจตลอดการเดินทางคนเดียวของผม


มาดูรายละเอียดการเดินทางของผม กัน

Day One

ผมบินมาถึง Reykjavik โดยสายการบิน Iceland Air ประมาณ ห้าทุ่ม ของวันที่ 29 ตุลา 57 ที่นี่ไม่มี immigration check เพราะผมเดินทางจาก ประเทศในยุโรป ซึ่ง stamp Visa แล้ว

ระหว่างรอกระเป๋า คือเวลาดี ที่จะไปซื้อ sim โทรศัพท์ "Siminn" ราคา 2,000 ISK (คิดเป็นเงินไทย คูณประมาณ 0.3 เข้าไป) จัดการเปลี่ยน Sim แล้ว กด 1441 ต่อด้วย 3 เพื่อลงทะเบียน เท่านี้ก็มีโทรศัพท์ใช้ และ Internet connection ผมไม่ลืมเลือก wine ดี ๆ สำหรับการเดินทางทริปนี้ จากที่นี่ด้วย

รับกระเป๋าเดินออกมาที่ Arrival Hall ผมแอบขำตัวเองที่ตื่นเต้นจองตั่๋วรถบัส จากสนามบินไป Reykjavik ล่วงหน้าตั้ง 2 อาทิตย์ ทั้ง ๆ ที่เดินมามี Boot ขายตั๋วของ 2 ผู้ให้บริการ รายใหญ่ของ Iceland ตั้งอยู่เลย ซึ่งทั้งสองเจ้านี้ผมให้คะแนนเต็ม สำหรับการใช้บริการทั้งคู่ ใครจะมานี่ไม่ต้องจองครับมาซื้อที่นี่ไ้ดเลย ผมเดินทางโดยใช้บริการของ Flybus ซึ่งบริการ ส่ง และ รับกลับ ที่โรงแรมที่เราพักเลย โดยจ่ายแพงขึ้นอีกนิดนึง (2,200 ISK)

ผมเช็คอินที่ Reykjavik, Reykjavik Downtown Hostel นอนคืนแรกที่นี่ ที่พักก็โอเคในระดับนึง แต่ผมมีที่อื่นดีกว่า หากต้องกลับมาที่ Reykjavik อีก (Castle Luxury Apartment) ในราคาระดับเดียวกัน

Second Day

08:00 a.m. ผมเดินทางไปรับรถที่ budget rent a car โดยขึ้นรถบัสสาย 1 ผมขึ้นไปจ่ายเงินที่คนขับ 1,000 ISK ได้ตั่วใช้ครั้งเดียวมาสามใบ (ราคา 350 ISK คนขับแถมให้ 50 ISK เพราะไม่มีตังค์ทอน)

ลงรถบัสที่ป้าย BSI ซึ่งเป็นสถานีรถบัสใหญ่ มีบริการทัวร์ทุกอย่าง ใน Reykjavik เริ่มต้นที่นี่ ผมทานอาหารเช้าง่าย ๆ แล้วไปรับรถ ตอน 09:00 a.m. ค่าเช่ารถ 6 วันอยู่ที่ 245 EUR ซึ่งผมถือว่าถูกสุด ๆ ได้รถ Suzuki 1600 CC ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ออโต้ ซึ่งถูกใจผมมาก ใครจะมาเที่ยวผมไม่อยากแนะนำเช่ารถเล็ก 1100 CC ขับ นะครับถูกกว่าก็จริง แต่ลมที่นี่แรงมาก แรงจนนึกไม่ถึง และ แรง ขนาดที่ไม่เคยเจอมาก่อน ต้องสัมผัสเองครับ ถึงจะรู้ว่าโหดจริง ๆ ประหยัดเงินกับชีวิตเรา บางทีไม่คุ้มกัน รับรถเสร็จผม แวะซื้อ การ์ดเติมน้ำมัน มูลค่า 10,000 ISK ที่ ปั๊ม N1 สำหรับการเติมน้ำมันระหว่างการเดินทาง

ผมเช็คเอ้าท์โรงแรม แล้วไปซื้อสเบียงที่ Kronan ซึ่งผมว่ามีของให้เลือกมากกว่า Bonus ผมเลือกซึ้ออาหารตุนไว้ มีหมูสามชั้นทอดกรอบแบบขาหมูเยอรมันรสชาติดีจนนึกไม่ถึง ไส้กรอกรมควัน กาแฟกระป๋องstarbuck น้ำดื่ม Sparkling รสส้ม (รสชาติดีมาก ขอบอก) ผลไม้ กระดาษทิชชู และ จิปาถะ

วันนี้ผมกำหนดเส้นทางลงใต้ กะพักแรมที่ VIK โรงแรม Hotel Katla-Hofdabrekka,


ระหว่างการขับรถผมเริ่มตื่นตาตื่นใจ กับ volcanic slag (ขี้เถ้าที่เย็นแล้ว ของภูเขาไป เป็นหินพรุน นำ้หนักเบา) ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ปกคลุมด้วย มอส นุ่ม ๆ จากผลของการมีฝนตกตลอดปี และความชุ่มชื้นสูงมาก


ระหว่างทางก็เจอ Icelandic Horse หน้าตาดี กินหญ้าอยู่ในทุ่งเลี้ยงสัตว์ ตลอดทาง บรรยากาศไม่ดีสำหรับการถ่ายภาพ เพราะฟ้าปิด และ ฝนโปรยปราย ตลอดเวลา

ตลอดเส้นทาง ที่สะอาด และ อากาศสดชื่น มาก ผมก็มาถึงเป้าหมายแรกของการเดินทาง น้ำตก Seljalandsfoss ซึ่งมองเห็นจากถนนไกลลิบ นับเป็นกิโล พูด ง่าย ๆ คือยังไงก็ไม่หลุดจากสายตา



ด้วยความที่ฟ้าปิด แสงไม่ดี และ ลมแรงมาก ความสุขในการถ่ายภาพของผม ต้องกลายเป็น กลัวกล้องเปียก ลมแรงจนวางขาตั้งกล้องลำบาก และ อุณหภูมิ 1 เซลเซียส แต่มันก็เป็นความสุข อีกแบบ 

ขับต่อไปอีกไม่ไกล ผมก็มาถึง Skógafoss Waterfall น้ำตกที่อยากเห็นที่สุด ในทริปนี้ ยิ่งใหญ่ สมจินตนาการ ครับ ด้วยสภาพอากาศที่ไม่ดี มีผมคนเดียวเองอยู่ที่นั่น เหมือนเป็นเจ้าของสถานที่เลยครับ


ลมแรงขึ้นเรื่อย ๆ ฝนเริ่มหนักเม็ด บ่ายสามโมงความมืดเริ่มมาเยือน ผมขับรถมุ่งหน้าไปเมือง VIK เพื่อดู Volcanic Beach สีดำสนิท ผมไปถึง Vikrbbraut, Vik แต่ไม่กล้าลงรถเพราะลมแรงมาก แรงจนฝรั่งคนนึงที่มาถึงพร้อมกับ ผม ล้มเพราะลมพัดแรง นั่งอยู่่ 15 นาที ผมตัดสินใจไม่ดูด้านที่สวยที่สุด ขับรถตรงไปยัง Vik เพื่อดูอีกด้านนึง ซึ่งคนไม่เคยเห็น volcanic beach อย่างผม ก็สุดจะประทับใจละครับ


ทางหลวงที่นี่มี speed limit 90 km/hr แต่ผมขับได้ไม่เร็วมากประมาณ 70-80 km/hr เพราะลมแรงมาก หลังจากเสร็จทริป ความเร็วเฉลี่ย ที่ Record ไว้ทั้ง ทริปคือ 61 km/hr 

หลังจากความมืดมาเยือน ป้ายจราจร electronic ข้างถนนเตือน ลมกรรโชกแรงระดับความเร็ว 30 m/s ผมเลยตัดสินใจ เชคอินเพื่อพักผ่อน ที่ Hotel Katla-Hofdabrekka โรงแรมมี น้ำแร่ให้อาบ มี outdoor pool ด้วย แต่พายุ (คน Iceland เรียกลมแรง เพราะชิน) กับฝนแรง ๆ ที่อุณหภูมิเยือกแข็ง ทำให้ผมตัดสินใจอาบน้ำในห้องพัก มีความสุข กับ อาหารที่เตรียมมา พร้อมกับ ไวน์ รสชาติถูกใจ ความฝันของผม คือดูแสงเหนือ ที่นี่ ก็มลายหายไป พร้อมกับสายฝน ในคืนที่สอง โรงแรมนี้ค่อนข้าง โอเค ผมคิดว่าผมจะกลับมาพักที่นี่อีก หากมีโอกาสมาเยือน Vik อีกครั้ง

ที่นี่น้ำร้อน เขาสูบมาจากใต้ดินนะครับ (Geothermal Well) มันจึงเป็นน้ำแร่ที่ใช้สำหรับ heater ในที่พัก น้ำร้อนสำหรับอุปโภคบริโภค จนถึงผลิตไฟฟ้า ซึ่งถือว่าอุดมสมบูรณ์มาก

อากาศเย็น ๆ เข้าห้องน้ำส่วนมากเราจะเจอพื้นกระเบื้องเย็น พาหนาวจนไม่อยากเข้าห้องน้ำ แต่ที่นี่พื้นห้องน้ำกระเบื้องอุ่นสะบายเท้ามาก เป็นอีกความสุขของการเดินทาง

3rd Day

ผมวางแผนการเดินทางไปเยือนน้ำตก Gullfoss น้ำตกที่ claim ว่า หนึ่งในสิบของน้ำตกที่สวยที่สุดในยุโรป และ น้ำพุร้อนอันดับสองของโลก Geyser (อันดับหนึ่ง Steamboat spring, USA ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)



ทิวทัศน์ระหว่างทาง น่าตื่นตาตื่นใจครับ สวย และ สะอาด ทุกครั้งที่จอดรถถ่ายรูป รู้สึกได้เลยถึงอากาศที่สดชื่นมากมาย



น้ำตก Gullfoss อันโด่งดัง พร้อมกับเรื่องราว Drama ของนักอนุรักษ์นิยมหญิงคนแรกของ Iceland ที่ต่อสู้เพื่อป้องกันไม่ให้ Gullfoss ถูกนำไปใช้ในการผลิตไฟฟ้า 

Gullfoss เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มาก แต่ยังเทียบไม่ได้กับ Niagara Fall ที่อเมริกา ลมแรงสุด ๆ พร้อมกับสายฝน โปรยปรายตามมาเป็นเพื่อนตลอดการเดินทางวันนี้เลย ผมพบว่า กางเกง ลองจอห์น และ ยีนส์ เป็นอุปกรณ์กันหนาวที่เข้าท่ามากสำหรับสภาพวันนี้




Geyser น้ำพุร้อนอันดับสองของโลก ก็พวยพุ่งตามที่คาดหวังของนักท่องเที่ยว สมกับที่ตั้งใจ มาเยือน ที่นี่มีร้านอาหาร และ ของที่ระลึก ค่อนข้างใหญ่โต เดินทางหนาว ๆ มาเจออากาศอุ่น ๆ อาหารร้อน ๆ นี้อร่อยไปเลยครับ




บ่าย แก่ ๆ ผมเข้าที่พัก Guesthouse Fagrilundur ลุงกับป้า เจ้าของ น่ารักมาก ถ้ามีโอกาสมาแถบนี้อีกผมไม่แน่ใจว่าจะพักที่นี่อีกหรือเปล่า เพราะ ผนังห้องไม่เก็บเสียง ห้องข้าง ๆ พูดอะไร เราได้ยินหมด แต่ อย่างอื่น ดี ถึง ดีมาก

คืนนี้ผมอดดูแสงเหนือตามเคย เพราะฝนตกทั้งคืน



4th & 5 th Day

วันนี้ผมจะมุ่งหน้าไปยัง Snæfellsnesvegur Peninsula เพื่อไปเยือน Kirkjufell อันเป็นเป้าหมายหลักอีกแห่งของการเดินทาง นอกจากนี้ ผมยังวางแผน นั่งเรือเพื่อชม วาฬเพชรฆาต กับ Laki Tours และ จะนั่งเรือ Ferry เพื่อลัดเลาะไปตาม West Fjord ที่มีชื่อเสียง ผมเลยนอนที่นี่ สองคืน


ทิวทัศน์ สองข้างทาง ของจริงสวยเหนือคำบรรยาย ครับ จริง ๆ แล้ว ได้มาเห็น มาหายใจ ที่นี่ก็คุ้มแล้ว สวย บริสุทธิ์ สะอาด




ที่พัก Grund í Grundarfirdi  , 350 Grundarfjordur ตั้งอยู่อิงภูเขาสีดำสนิท หันหน้าเข้าหา Kirkjufell 

ที่นี่มีเครื่องซักผ้า อบผ้า ให้ใช้ฟรี จึงเป็นจุดที่ดี ที่จะจัดการกับเสื้อผ้าที่ใส่แล้วของเรา ห้องครัว ก็มีอุปกรณ์ครบครัน จึงเป็นที่พักที่ดีมาก เมื่อรวมกับทิวทัศน์รอบ ๆ ถ้าโชคดี เราสามารถดูแสงเหนือ จากหน้าต่างบานใหญ่ในห้องพักได้เลย โดยมี foreground เป็นภูเขาเลื่องชื่อ Kirkjufell



ระหว่างรอความมืดมาเยือน ผมก็เริ่มจัดการ ถ่ายภาพ Kirkjufell ในมุมมหาชน



ภาพด้านข้างทางตะวันตก (ตรงข้าม กับมุมมองจากที่พัก)



โชคไม่ดี แสงเหนือที่ฝันไว้ ก็เป็นไปไม่ได้อีกจาก เมฆหนาทึบ เต็มท้องฟ้า ทั้งสองคืนที่พักที่นี ผมลองถ่ายภาพท้องฟ้าในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยเมฆ จากที่พักดู



เนื่องจากอากาศไม่ดี ทัวร์ต่าง ๆ ที่จองไว้ เลยถูกยกเลิกหมด เศร้ามาก ครับ ผมเลยใช้เวลาที่เหลือสำรวจ Snæfellsnesvegur Peninsula ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง ดินแดนนี้เป็นที่ตั้งรกรากแรก ๆ ของ ชาว ไวกิ้ง จาก นอร์เวย์ มีเรื่องราวการต่อสู้ เรื่องราวมหัศจรรย์มากมาย อ่านได้ตาม หนังสือประวัติศาสตร์ หรือ แม้แต่จุดชมวิวข้างทาง

มาที่นี้ผมยังไม่เห็นหาดทรายสีีอื่น ๆ เลยครับ มีแต่สีดำของ Vocanic Beach สวยแปลกตา ตัดกับสีขาวของภูเขาหิมะ




บริเวณตั้งรกรากของชาว viking แรกเริ่ม มีเรื่องราวให้อ่านตามจุดชมวิวครับ บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า คนที่เขียน ก็คืนคนที่ชนะ แล้วเรื่องจริง ๆ มันเป็นยังไง





6th & 7th Day

ผมออกจาก Grund í Grundarfirdi ตั้งแต่ตีสาม มุ่งหน้ากลับ Reykjavic เพื่อจะเลยต่อไป Blue Lagoon


ระหว่างทาง ประมาณ ตีสี่ ผมก็เจอแสงเหนือครั้งแรกแบบงง ๆ ข้างทาง และ นี่เป็นช่วงเดียวตลอดเจ็ดวันที่ ผมเห็นแสงดาว และ แสงเหนือ บาง ๆ อย่างน้อยทริปนี้ก็ไม่ผิดหวังไปซะทีเดียว




The Blue Lagoon

ที่นี่กลับเป็นที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทาง ทริปนี้ ผมจ่ายเงิน 60 EUR เข้าไปแช่น้ำแร่ ท่ามกลางอากาศเย็นยะเยือก 1 Celsius ผมไม่ค่อยมั่นใจมากนักในตอนแรกว่ามันจะคุ้มค่าหรือเปล่า หลังจาก สามชั่วโมงผ่านไป ผมรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นมาก ที่นี่น้ำอุ่นอุณหภูมิตั้งแต่ 40-80 C โดยเฉลี่่ยอยู่่ที่ 50 C มีเครื่องดื่ม และ อาหารขาย ทั้ง ใน poll และ ข้างนอก เป็นครึ่งวันที่คุ้มค่าที่สุดของการเดินทาง

สมแล้วที่เป็นหนึ่งใน 25 wonders of the world 





ที่ Reykjavik ผมแทบไม่สนใจดูนั่นดูนี่เลย เพราะ ตามพยากรณ์คืนนี้จะเป็นคืนฟ้าเปิด และ มีโอกาสเห็นแสงเหนือ

ผมเฝ้ารอที่ Light House นอกเมือง ทั้ง หัวค่ำ ทั้งรุ่งเช้า เมฆก็ยังคลุมฟ้า สรุปว่าคืนสุดท้ายก็ยังอดถ่ายภาพแสงเหนือสวย ๆ อีกครั้ง





สาย ๆ ต้องเดินทางกลับแล้วครับ หลังจากคืนเจ้า Suzuki เพื่อนยาก ผมก็รอรถบัสมารับที่โรงแรมที่พัก  Castle House & Embassy Luxury Apartments ใครมาที่ Reykjavic ผมแนะนำที่นีนะครับ ดีมากราคามาตรฐาน ใกล้ใจกลางเมือง เดินไป Harpa และ โบสถ์ได้ เป็นที่พักที่ชอบที่สุดของการเดินทางทริปนี้

รถบัส มารับตามที่ซื้อตั๋วไว้ ตรงเวลา

Leaving on the jet plane to Amsterdam เมฆเต็มฟ้าอย่างนี้ น่ี่เอง เลยไม่มีโอกาสเห็นแสงเหนือดี ๆ



ถึง Sciphol Airport ผมพักที่ Citizen M โรงแรมสุด Chic กว้าง 2 เมตร ยาว 7 เมตร เตียง King Size ห้องน้ำและ ห้องอาบน้ำ อยู่่ในห้องนอน ในรูปแบบการออกแบบสมัยใหม่ น่าทึ่งจริง ๆครับ



จบแล้วครับขอบคุณครับที่ติดตาม






 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2557
9 comments
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2557 22:36:27 น.
Counter : 24612 Pageviews.

 

สวยสุดใจ อยากไปมั่ง

 

โดย: Boom IP: 49.230.64.33 8 พฤศจิกายน 2557 20:21:59 น.  

 

What a natural beauty!

 

โดย: Pae IP: 223.205.90.103 9 พฤศจิกายน 2557 8:15:36 น.  

 

สวยและน่าเที่ยวมาก เขียนได้สนุกน่าอ่าน เมื่อไหร่จะพาไปบ้าง

 

โดย: ป้อง&แก้ว IP: 94.23.252.21 9 พฤศจิกายน 2557 14:58:29 น.  

 

สุดยอดครับไว้ไปตามเก็บแสงเหนือและทัวร์ดูวาฬเพชรฆาตด้วยกันทริปหน้า

 

โดย: โอม IP: 192.99.14.34 10 พฤศจิกายน 2557 13:48:26 น.  

 

เช่ารถที่ไหนคะ ราคาดีจัง วางแผนว่าจะไปกันยานี้ค่ะ

 

โดย: Zea IP: 61.90.7.211 23 เมษายน 2558 12:43:35 น.  

 

ขอความรู้หน่อยครับ สถานที่เที่ยวที่แนะนำทั้งหมด สำหรับรถ 2 WD สามารถขับไปได้ทั้งหมดใช่หรือเปล่าครับ แล้วถ้าเป็นพวกรถ camper van ไปได้หรือเปล่าครับ

ขอบคุณมากครับ

 

โดย: Apichart IP: 171.96.176.194 5 พฤษภาคม 2558 10:58:00 น.  

 

โทษทีครับ เช่าที่ budget ครับ : Budget Rent-a-Car budget@budget.is

Hello
Thank you for renting a car with Budget Car Rental. Information regarding your booking can be viewed below.

Please print this out and carry with you to your rental station. Have a nice trip.
Your Personal Details
Name: xxn xxn
Address: xxw
10230 Bangkok
Thailand
Contact:
Credit Card:

About Your Rental
Reservation No: 0044-1828-IS-2
Rental Location: Reykjavik, Vatnsmyravegur 10

Telephone ( 354 562 6060 )
Return Location: Reykjavik, Vatnsmyravegur 10

Telephone ( 354 562 6060 )
Date of Rental: 30 October 2014 09:00
Opening hours on day of pickup: 08:00-18:00 hours
Date of Return: 04 November 2014 08:30
Opening hours on day of return: 08:00-18:00 hours
Car Group: Group L (e.g. VW Golf 1.6 Auto)
Amount: 245.00 EUR

Additional Information
Rental Price to be Paid: 245.00 EUR
Your Quote Includes: • Local Tax (TAX)
• Collision Damage Waiver (CDW)
• Theft Protection (TP)
• Vehicle Registration Fee (VRF)
• Unlimited Mileage
Additional Costs:



You must be between 20 and 100 years old to rent this car.

 

โดย: โต๋ IP: 192.99.14.34 10 สิงหาคม 2558 18:53:16 น.  

 

ชอบมากกค่ะ

 

โดย: me IP: 180.183.110.166 9 พฤศจิกายน 2558 22:39:24 น.  

 

ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าไปมาช่วงไหน วันที่เท่าไรคะ ตอนนี้เล็งๆต้น พ.ค. 59 ค่ะ อากาศน่าจะมัวๆแบบนี้เหมือนกัน

 

โดย: Soammaras IP: 157.7.52.183 24 ธันวาคม 2558 11:00:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Tohhfoto
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add Tohhfoto's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.