มิถุนายน 2560

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
TOGETHER_WS@Oman : 6 วัน 5 คืน : Road Trip





โอมาน
หนึ่งในดินแดนแห่งคาบสมุทรอาหรับ
3 - 8 ธันวาคม 2559


รั้งแรกที่เราได้มีโอกาสสัมผัสทะเลทรายจริงๆ เนื้อทรายของทะเลทรายตัวเป็นๆ ต้องขอบคุณ "แอร์เอเชีย" ที่เปิดเส้นทางบินใหม่ "ดอนเมือง - มัสกัต" พร้อมโปรโมชั่นเที่ยวบินขาไปและขากลับในราคา "5,998 บาทต่อคน" ทำให้ "เราได้รู้จักประเทศโอมานมากขึ้น" "เราได้รู้จักวิถีชีวิตของชาวโอมานีมากขึ้น"



6 วัน 5 คืนของเรา ทำให้เราเห็นว่าประเทศโอมานไม่ได้มีสภาพภูมิศาสตร์เพียงแค่ "ทะเลทราย" ให้เราได้สัมผัส "ภูเขาหิน" ยังสามารถทำให้เราตะลึงงันในความยิ่งใหญ่ "หลุมยุบ" ที่ครั้งนึงในชีวิตได้เข้าไปสัมผัสข้างใน "ทะเล" ที่น้ำใสกิ๊กและไม่มีกลิ่นคาวความเค็มของทะเลแม้แต่น้อย น้องมีนชอบและแปลกใจมาก และ "แม่น้ำ" ที่มีความใสจนเป็นสีเขียวมรกต นอกจากนั้น "เมือง" ต่างๆ ในประเทศโอมานที่เราได้ไปเยือนยังสร้างความประทับใจแก่เราในทุกมุมมอง แม้แต่ "อาหาร" ที่แตกต่างจากที่เคยและวิธีการเดินทางที่ทุกบ้านใช้รถยนต์ส่วนบุคคลแทนรถสาธารณะ ทำให้เราที่ไม่ค่อยชอบการท่องเที่ยวด้วยการเช่ารถยนต์ขับนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้วิธีเดินทางแบบนี้ด้วย กลายเป็นทริปแบบ "Road Trip" ไปโดยปริยาย


กำหนดการเดินทางของเรา

Day 1
ราออกจากบ้านไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง ใน"วันแรก"ของการเดินทาง และไปถึงสนามบินมัสกัตตอนสามทุ่ม กว่าเราจะซื้อซิมโทรศัพท์เสร็จ กว่าเราจะรับรถยนต์เช่าไว้เสร็จ ก็ปาไปสี่ทุ่มแล้ว เรามาประเทศโอมานครั้งแรกและเราก็อุตริจองที่พักแบบ Airbnb ครั้งแรกด้วย Al Raha Village Oman เมืองซีบ เป็นอพาร์ทเมนท์ราคาถูก ราคา 900 บาทต่อคืนต่อสองคน มีสถาพดีมาก และผู้ที่เคยพักให้ความเห็นไว้ดีมาก ซึ่งอยู่ถัดจากเมืองมัสกัตออกไปอีก เราจึงเลือกพักที่นี่ ความยากของการพักแบบ Airbnb คือการสนทนากับเจ้าของที่พัก เพื่อหาที่พัก เราขับรถจากสนามบินมัสกัตมาที่พักไกลมากเหมือนกัน แต่ก็ขอบคุณมากที่เจ้าของที่พักยังรับโทรศัพท์ของเรา ไม่งั้นได้วนกลับไปนอนในสนามบินมัสกัตแน่



Day 2
เช้า "วันที่สอง" อุณหภูมิที่ 17 องศาเซียลเซียส อากาศค่อนข้างเย็น หลังจากเราออกจากห้องไปดูสภาพแวดล้อมด้านนอกอพาร์ทเมนต์ที่เราพักอยู่ ผ่านหน้าต่างห้องโถงของทางเดินเชื่อมและห้องดูโทรทัศน์ เราได้เห็นรถยนต์ส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปยังเมืองมัสกัต ชาวโอมานคงเข้าตัวเมืองไปทำงานกัน งั้นเราคงถึงเวลาเก็บกระเป๋าเช็คเอ้าท์และเข้าไปเยี่ยมชมตัวเมืองมัสกัตกันบ้าง มัสยิดกลางสุลต่านกาบูส์เป็นสถานที่แรกที่เราไปเยือน ที่นี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชม แค่ช่วงเช่า 8.00 - 11.00 น. วันเสาร์ถึงวันพฤหัสบดีเท่านั้น และบางพื้นที่จะไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้า เนื่องจากชาวโอมานีกำลังประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอยู่ เมื่อถึงเวลามื้อเที่ยงของเราสองคน โดยปกติเราชอบทานข้าวกันที่ Food Court ตามห้างสรรพสินค้า ด้วยเหตุที่มีราคาถูก สะอาดและคุณภาพดี เราจึงอยากรู้ว่าประเทศโอมานจะมี Food Court ให้เราทานหรือไม่ เราค้นหาใน Google Map พบว่า มีห้าง Carfour เมืองมัสกัต เรามุ่งหน้าไปที่นั่นทันที ระหว่างทานข้าวเราค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวในโอมานไปด้วย เห็นว่า เมืองมุทตราห์เป็นเมืองท่าที่สวย อยู่ริมทะเล คืนนี้เราจึงจะไปค้างกันที่นี่ เราเปิดดูเวปไซต์ Booking.com ดูที่พักในเมืองมุทตราห์ เลือกที่พักที่ถูกที่สุดและอยู่ริมทะเล เราเจอที่นี่ค่ะ Marina Hotel เรายังไม่จองผ่านเวปไซต์ เราเดินเข้าไปสอบถามราคาที่ที่พักกันก่อน ซึ่งวิธีนี้เราอาจได้ราคาที่พักถูกกว่าในเวปไซต์ ก่อนเข้านอนเรามาเดินเล่นที่ตลาดเก่าแก่ มุทตราห์ซูคและทานอาหารเย็นกันที่ KFC เมืองมุทตราห์ ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับตลาดเก่าแก่



Day 3
ถนนเลียบชายทะเลเมืองมุทตราห์ หรือ Muttrah Corniche เป็นถนนเลียบชายทะเลที่ลัดเลาะตามภูเขาหิน มีบรรยากาศดี อากาศสดชื่น วิวสวย และโรแมนติกมาก เราตื่นกันก่อนเจ็ดโมงเช้า เพื่อลงมาเดินเล่นและสูดอากาศบริสุทธิ์ เช้านี้อุณหภูมิไม่ต่างจากเช้าเมื่อวาน ค่อนข้างเย็นจนต้องใส่เสื้อแจ๊คเก็ตด้วย บริเวณถนนเลียบชายหาดนี้จะมีประภาคารเก่าตั้งอยู่บนยอดภูเขาหินด้วย มีประภาคารเก่าแห่งเมืองมุทตราห์ (The Old Watch Tower) หลังหนึ่งที่เราสามารถเดินขึ้นไปชมได้ และเราสามารถมองเห็นสัญลักษณ์แห่งเมืองมุตราห์ นั่นคือเตาธูป Incense Burner of Riyam Park ขนาดใหญ่บนยอดภูเขาหินอีกฝั่งได้ชัดเจน ขณะที่เรากำลังดื่มด่ำกับความสวยงามของภาพแห่งท้องทะเลที่มีถนนเลียบชายหาดที่สวยงามคั่นระหว่างบ้านเรือนทรงสี่เหลี่ยมที่ตั้งเรียงรายตามเชิงของภูเขาหินนั้น พลันนึกขึ้นได้เราจะไปเที่ยวไหนดี ตกลงกันได้ว่าไปต่อกันที่เมืองซัวร์ดีกว่า เมืองท่าอีกแห่งของโอมาน ช่วงสายเราจึงไปเก็บกระเป๋า เช็คเอ้าท์ ก่อนจะเดินทางเราเดินข้ามถนนไปดูตลาดปลาของเมืองมุทตราห์ครู่หนึ่งจึงพากันไปซื้อเสบียงที่ KFC เมืองมุทตราห์แล้วออกเดินทางกันต่อ "วันที่สาม" ของเราที่เมืองมุทตราห์นั้นคุ้มค่ามากที่มีโอกาสได้มาเยือน สวยจริงเมืองนี้ เราใช้ถนนหมายเลขที่ 17 เดินทางจากเมืองมุทตราห์ไปยังเมืองซัวร์ โดยเส้นทางนี้เราจะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของโอมาน 2 แห่ง คือ หลุมยุบ Bimma Sinkhole ที่นี่จัดเป็นสวนสาธารณะพร้อมศาลานั่งพักและห้องน้ำเรียบร้อย ตอนที่เราไปถึงเป็นช่วงบ่ายโมงจึงร้อนมาก ไม่เหมาะกับการนั่งเล่นหรือเดินเล่น ส่วนการเล่นน้ำนั้นเหมาะมาก ด้วยน้ำที่นี่เป็นน้ำเค็มและเราต้องเดินทางต่อเราจึงไม่ได้ลงเล่นน้ำ ขณะที่เราไปเยือนยังมีฝรั่งสองคนเล่นน้ำอยู่ ชาวเกาหลีกำลังเซลฟี่อยู่ และชาวไทยนอกจากเราอีก 2 คน




อีกแห่งนึงคือ ปากแม่น้ำวาดี Wadi Shab ที่เชื่อมต่อกับทะเลอาหรับ เราแค่มานั่งพักทานแฮมเบอร์เกอร์กับเป็บซี่ พอดีกับเจอฝูงแพะกรูเข้ามาขอแบ่งของกิน เราสู้ไม่ไหวจึงพากันถอนทับ มุ่งหน้าไปเมืองซัวร์กันเลย คืนนี้เราจะค้างที่ Leading Wings Beach Hotel เมืองซัวร์กัน เราจองที่นี่ผ่าน Booking.com เลยเพราะใกล้ค่ำแล้ว ไม่มีเวลาเดินหา หลังจากเก็บกระเป๋าที่ห้องพักวิวทะเลเรียบร้อย เราขับรถออกไปหาเสบียงที่ Afnan Majan Hypermarketมาตุนกัน พร้อมกับพากันทานอาหารเย็นกันที่ Pizza Hut เมืองซัวร์ สำหรับเราราคาค่อนข้างแพง เมื่อกลับถึงห้องพัก อ้าว! Universal Plug พัง เราต้องบึ่งรถออกไปไฮเปอร์มาร์ทอีกที แต่ไม่ใช่ที่เดิม Makkah Hypermarket ได้ Universal Plug มาใช้ได้จนทุกวันนี้ ทนและถูกจริง น่าจะซื้อมาหลายๆอัน ฮ่าๆๆ พลังงานถูกใช้ไปกับการแก้ปัญหาเรื่องปลั๊กหิวอีกแล้วจึงแวะ ร้าน Chickees Fried Chickenซื้อข้าวไก่ย่างมาทานกัน แต่ไม่เหมือนไก่ย่างบ้านเรา เครื่องเทศแรงมากค่ะ





Day 4
เช้านี้ที่เมืองซัวร์ เรายังคงคอนเซปต์เลือกที่พักติดทะเลราคาถูก ที่นี่ติดทะเล วิวห้องมองเห็นทะเล ห้องพักใหญ่ ห้องที่เราพักแบ่งเป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องนอน วันนั้นเราได้พักในราคา 16 ริยัล (16 OMR) เมื่อ 93 บาทเท่ากับ 1ริยัล ห้องนี้ราคา 1,488 บาทต่อคืน ห้องนี้จึงคุ้มกับราคามาก หลังจากนอนฟังเสียงทะเลทั้งคืน เช้าตรู่จึงลุกขึ้นมาเดินเล่น ชายหาดหลังที่พัก ไม่ใช่เพียงเราเท่านั้นลุกขึ้นมาเดินเล่นรับแสงแดดริมทะเลยามเช้า ชาวเมืองซัวร์ด้วยเช่นกัน ช่วงสายเราขับรถเล่นชมเมืองซัวร์กัน ทั้งปราสาท Al Aygh Castle ประภาคาร Al Ayjah lighthouse (watch tower) สะพาน Al Ayjah Bridge อ่าว fisheries harbour พอหนำใจก็มีสิ่งที่เราอยากจะทำต่อไปเกิดขึ้นมาในหัว นั่นคือคืนนี้เราจะค้างที่ทะเลทรายกันมั่ง เหมือนเคยเราเก็บกระเป๋า เช็คเอ้าท์ ตุนเสบียงที่ KFC เมืองซัวร์ ฮ่าๆๆ เราเป็นอย่างนี้อยู่ 3 วันติด "วันที่สี่" เราตะลุยเมืองแห่งวงเวียนมาสค๊อตกัน อันนี้เราตั้งชื่อให้เอง เพราะว่าทุกจุดตัดของถนนจะมีวงเวียนและในวงเวียนต้องมีรูปปั้นตั้งอยู่ มีทั้งโลมา ปู หรือเรือ น่ารักมาก และก็สะดวกมากด้วย ฟังก์ชั่นเสริมนอกจากใช้วงเพื่อนเพื่อให้การจราจรไหลได้อย่างต่อเนื่องก็คงง่ายต่อบอกทาง ตอนนี้ถึงวงเวียนปูแล้ว อะไรอย่างนี้มั้งคะ ฮ่าๆๆ อันนี้คิดเอง เราใช้ถนนหมายเลข 23 จากเมืองซัวร์ไปที่พักริมทะเลทราย ไม่ได้พิมผิดนะคะ ริมทะเลทรายจริงๆ เราไม่ได้ไปนอนกลางทะเลทรายเหมือนรีวิวอื่นๆ เราไปนอนแคมป์บนเนินทราย ริมทะเลทราย Washiba กัน


Day 5
เราก็ยังคงคอนเซปต์เลือกที่พักเหมือนเดิมคือราคาถูก ที่เพิ่มเติมคือในทะเลทราย เจอที่นี่ใน Booking.com ค่ะ ชื่อว่า Al Reem Desert Camp และก็เหมือนเดิมคือยังไม่จอง เราลองเข้าไปสอบถามก่อนและเราก็ตกลงเลือกที่นี่ จากถนนใหญ่เราต้องขับรถเล็กๆของเราบนถนนลูกรังไปยังแคมป์ประมาณ 1 กิโลเมตร หวาดเสียวว่าจะรอดหรือรั่ว และเราก็รอดค่ะ การได้ค้างที่นี่เหมือนกับหยุดเวลาของเราสองคนไว้เลย เป็นอีกสถานที่ที่ประทับใจมาก ทั้งการดูแล ต้อนรับและให้บริการ แม้จะมีแขกเข้าพักเพียง 4 คน การนอนอาราเบียนเต็นท์ อาหาร 2 มื้อ มื้อเย็นและมื้อเช้า พร้อมของว่างระหว่างวันเป็นชาโอมาน กาแฟโอมาน และอินทผลัม จัดไว้ให้ทานไม่อั้น มุมนั่งเล่นรอบกองไฟแบบชาวโอมาน การนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น ดูพระอาทิตย์ตก ดูดาว หน้าอาราเบียนเต็นท์บนเนินทรายของเรา อีกทั้งเราได้สนทนากับเพื่อนร่วมแคมป์อีกสองคน ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์เล็กน้อยของกันและกัน ออกจากแคมป์ได้ "วันที่ห้า" แล้ว เราจะไปต่อไหนกันดี พรุ่งนี้เราต้องเดินทางกลับกันแล้ว เพราะฉะนั้นเย็นนี้เราต้องพักที่เมืองมัสกัต จึงพากันเช็คเส้นทางมุ่งหน้ากลับเมืองมัสกัต ที่ผ่านทะเลทรายจริงๆ เรามาถึงดินแดนที่มีทะเลทรายแล้วขอแตะต้องหน่อย เมื่อดูแผนที่แล้ว เราใช้ถนนหมายเลข 23 ได้ และแวะเล่นน้ำในแม่น้ำ Wadi ที่ Wadi Bani Kalid ก่อน ค่อยแวะเข้าไปเล่นทะเลทราย Washiba Wadi Bani Kalid เป็นอีกสถานที่ที่ทำให้เราตะลึงในสภาพภูมิประเทศของโอมานทั้งน่ากลัว งดงาม และเล่นน้ำสนุกมาก ฮ่าๆๆๆ เราเล่นน้ำที่นี่ตั้งแต่สิลเอ็ดโมงจนกระทั้งบ่ายสาม แล้วค่อยแวะไปเล่นทะเลทราย Washiba ครู่เดียว ถึงกระนั้นเราก็ไปถึงเมืองมัสกัตตอนทุ่มนึง ขณะที่คนนึงขับรถอยู่ อีกคนรีบจองที่พักใน Booking.com ทันที เจอที่นี่ Beach Hotel ย่าน Qurum Beach ของเมืองมัสกัต




Day 6
อู้อี้แต่ก็ยอมลุกจากที่นอน เพราะเหนื่อยกับการนั่งรถมาหลายวัน เดี๋ยวค่ะ คนขับไม่เห็นบ่น ฮ่าๆๆ คนขับลากคนนั่งลุกจากเตียงไปเดินเล่นชายทะเล Qurum Beach กัน มาที่นี่ถึงได้เห็นการวิ่งจ๊อกกิ้งริมชายหาด เมืองอื่นที่ผ่านมาไม่มีจริงๆ เมืองหลวงถึงเริ่มมีวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาผสมผสานแฮะ ส่วนคนขับของน้องมีนหรอคะ อยู่นู่นนนน วิ่งลงไปเล่นน้ำอ่าวโอมาน ทั้งเวิ้งอ่าวเห็นเฮียคนเดียวเลย ดำผุดดำว่ายอยู่ ส่วนน้องมีนอยู่ข้างบนดีกว่าค่ะ มันหนาว ขึ้นมากจากน้ำเลยพากันแวะดื่มกาแฟ แล้วไปทานข้าวเช้าที่โรงแรมก่อนเก็บกระเป๋า เช็คเอ้าท์ คราวนี้เราไปตุนเสบียงกันที่ ห้าง Carfour เมืองมัสกัต ก่อนไปสนามบินกัน ถึงเวลาที่เราต้องกลับบ้านกันแล้วค่ะ"วันสุดท้ายของการสัมผัสโอมาน"




ค่าใช้จ่าย






Create Date : 25 มิถุนายน 2560
Last Update : 23 ธันวาคม 2560 11:41:40 น.
Counter : 2193 Pageviews.

4 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณHogTheTraveler, คุณMaeboon

  
เป็นประเทศที่ยังไม่เคยไปเลยค่ะ น่าสนใจจริง ๆ ..

ขอบคุณนะคะ คงมีคนตามไปเที่ยวอีกเยอะเลยค่ะ
สงสัยจัง ถ้าไม่เช่ารถขับเอง จะเป็นยังไงน๊อ..
โดย: poongie วันที่: 29 กรกฎาคม 2560 เวลา:18:06:37 น.
  
@poongie น้องมีนขอแนะนำค่ะ "โอมาน สมกับเป็นดินแดนแห่งมรดกโลก" น้องมีนชอบมาก
โดย: together_ws วันที่: 30 กรกฎาคม 2560 เวลา:17:40:36 น.
  
น่าสนใจแฮะ สนใจที่สุดคงเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงมาก แล้วภูมิประเทศเค้าก็น่าสนใจ มีอะไรให้ดูเยอะ
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 16 สิงหาคม 2560 เวลา:5:12:03 น.
  
โดย: HogTheTraveler วันที่: 3 กันยายน 2560 เวลา:15:18:38 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

together_ws
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



New Comments