ตอนที่ 8 ให้เธอไปแล้ว..ทั้งใจ
นี่ป้าพูดว่าอะไรนะ,โบอึนไปไหนเหรอครับ จุงโจเอ่ยถามคนรับใช้ในบ้านเสียงดังขณะเดินผ่านกลุ่มคนงานที่พูดคุยกันเรื่องของโบอึนบริเวณลานบ้าน คุณหนูโบอึนไงคะ, แกไปเรียนต่อเมืองนอกวันนี้ป้าเห็นท่านประท่านกับคุณหนูฮโยซอนไปส่งที่สนามบินตั้งแต่เช้าน่ะคะ ป้าอุนหัวหน้าแม่บ้านตอบอย่างตกใจกับท่าทีของนายน้อย
จุงโจตกใจมากที่โบอึนไปเรียนต่อโดยที่ไม่บอกเขาซักคำ, มิน่าเมื่อคืนโบอึนมาหาเขาและกอดเขาแน่นแถมไม่ช่างพูดช่างคุยเหมือนวันก่อนๆยายบ้าเอ๊ย,ทำไมเธอถึงไม่บอกอะไรฉันซักคำ จุงโจคิดอย่างหงุดหงิดหัวใจ ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที เขาคิดว่าฮโยซอนต้องรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี, ไม่ใช่ซิทุกคนต้องรู้เรื่องนี้แต่ไม่มีใครยอมบอกอะไรเขาเลยเกี่ยวกับการตัดสินใจไปไม่บอกไม่กล่าวของหญิงสาว
ฮโยซอน,พี่สาวเธอเค้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ จุงโจตะคอกถามฮโยซอนทันทีเมื่อถึงห้องหญิงสาวมือเรียวบีบไล่หญิงสาวแน่นสายตาคมจ้องมองอย่างจับผิด นายไปตอนนี้ก็ไม่ทันหรอก,พี่สาวฉันเค้าบินไปเมื่อเช้านี้ตอนตีห้า แล้วเค้าไปเรียนที่ไหน..,ไปกับใคร จุงโจถามต่อมือเรียวคลายออกจากไหล่บางของหญิงสาวอย่างไร้เรี่ยวแรง. พี่สาวฉันเค้าไปเรียนที่อเมริกากับพี่กีฮุน ฮโยซอนโกหกหน้าตาเฉย, หน้าตาหญิงสาวที่ผ่านการร้องไห้มาหมาดๆทำให้จุงโจเข้าใจผิดคิดว่าฮโยซอนคงจะคิดถึงพี่สาว ถึงแม้หญิงสาวร้องไห้ก็จริงแต่ก็ไม่ใช่เพราะคิดถึงอะไรพี่สาวตัวเองหนักหนาแต่ที่เธอร้องไห้ เพราะหญิงสาวไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับจดหมายที่โบอึนเป็นคนฝากไว้ให้กับชายหนุ่มตรงหน้า ความอิจฉาและกลัวทำให้หญิงสาวเลือกที่จะเก็บจดหมายฉบับนี้ไว้กับตัวเอง
จุงโจ,นายจะหันมามองคนอย่างฉันซักครั้งไม่ได้เหรอ ฮโยซอนคิดอย่างเจ็บปวดเมื่อเห็นความผิดหวังร้าวรานจากดวงตาคมที่เคยมองดูคนอื่นอย่างเย็นชาเหยียดหยามฉายแววความผิดหวังให้เพียงพี่สาวเธอคนเดียว, ใครว่าคนอย่างจุงโจไม่มีความรู้สึก,ไม่รู้จักรักและเสียใจ แต่ความรู้สึกแบบนั้นไม่มีวันที่คนอย่างเธอจะได้เห็นเพราะเขาได้ยกให้พี่สาวเธอซงโบอึนไปหมดแล้ว ไหล่กว้างสง่าของเขาลู่ลงอย่างคนผิดหวัง หญิงสาวมองดูชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปช้าๆน้ำตาที่หมดไปเมื่อครู่ไหล่รินจากดวงตากลมโตอีกครั้งอย่างสุดกลั้น
จุงโจไม่รู้ว่าตัวเองเดินมาหยุดอยู่ที่ริมทะเลตั้งแต่เมื่อไหร่, ความเจ็บปวดไหนก็ไม่เท่ากับการถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคนที่คิดว่ารักเขา. ชายหนุ่มกำมือแน่นอย่างอัดอั้น,น้ำตาลูกผู้ชายจากผู้ชายเย็นชาไร้หัวใจอย่างเขาค่อยๆไหลออกมาอย่างสุดกลั้น. ภาพของโบอึนยามหัวเราะ,ร้องไห้ รอยยิ้มอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น, ก่อนนั้นที่เคยทำให้เขาอิ่มเอมใจยามเมื่อจ้องมอง แต่มาตอนนี้ความอิ่มเอมใจกลับกลายมาเป็นความจริงอันแสนเจ็บปวดเมื่อคิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงการโกหกหลอกลวง เธอหลอกฉันมาตลอดเลยใช่มั้ยโบอึน จุงโจทรุดกายลงอย่างอ่อนล้ามือกำแน่นจนร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ, ผิดหวังร้าวร้านเสียงของโบอึนสะท้อนมาในหัวซ้ำไปซ้ำมา. จุงโจอย่าทำร้ายตัวเองอีกนะ..เธอจะยิ้มให้ฉันซักครั้งไม่ได้เหรอ
คนใจร้ายเดินรอฉันด้วยซิ
ถ้าเธอจะเดินจากฉันไปจริงๆทำไมเธอถึงไม่กล้ามาบอกฉันเอง
เดินเข้ามาเรียกฉันเหมือนที่เธอเคยทำไง โบอึน จุงโจอา..จุงโจ
จับมือฉันหน่อยซิ,ฉันเต็มใจที่จะให้เธอจับมือพาฉันไปในทุกที่ขอแค่เธอจับมือฉันไว้ ซง..ซงโบอึน..จุงโจเปล่งเสียงเรียกชื่อหญิงสาวอย่างยากลำบากผู้หญิงที่เขาคิดถึงทุกลมหายใจเข้าออกคนที่เอาหัวใจของเขาไปแม้จะเรียกชื่อเธอฉันยังไม่มีแรง,คนอย่างฉันคนที่เธอไม่ให้แม้โอกาสจะให้บอกรักเธอ
โบอึนเสียงของชายหนุ่มเปล่งเสียงเรียกชื่อหญิงสาวที่เขาไม่มีสิทธิ์จะได้สวมกอดอีกแล้ว
เธอไปแล้วจริงๆโบอึน
อาบน้ำด้วยคนนะ,จุงโจ เสียงของจางมินยองทำให้จุงโจตื่นจากภวังค์ชายหนุ่มนอนหลับตาในอ่างน้ำอุ่นอย่างผ่อนคลายเขาคิดถึงเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนอีกแล้วเช่นทุกครั้งยามใดที่เผลอปล่อยตัวปล่อยใจให้ผ่อนคลายความคิดของเขาก็มักจะวกวนไปถึงเรื่องผู้หญิงคนที่ชื่อโบอึนซ้ำแล้วซ้ำเล่า.แม้ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาชายหนุ่มอย่างเขาจะมีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวพันไม่ซ้ำหน้าจุงโจก็ไม่อาจลบภาพของโบอึนไปจากใจเขาได้เลย เปลือกตาของเขาเปิดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรียก
ฉันนึกว่าคุณหลับไปแล้วซะอีก มินยองค่อยๆถอดชุดคลุมอาบน้ำออกเมื่อเห็นชายหนุ่มลืมตาขึ้นมอง พร้อมยื่นมือเรียวให้เธอได้ช่วยพยุงขณะก้าวลงอ่างเดียวกันกับเขา ฉันจะหลับไปได้ยังไงเมื่ออยู่กับเธออย่างนี้ จุงโจตอบเสียงอ่อนโยนยกมือเรียวโอบกอดหญิงสาวจากด้านหลัง ปากหวานจังนะคะ มินยองเอนกายซบอกกว้างของเขา อ๊ะ,นี่คะรางวัล หญิงสาวหอมแก้มจุงโจอย่างเอาใจเมื่อเห็นท่าทีอันผ่อนคลายของเขา คิดอะไรอยู่เหรอคะถ้าไม่หลับน่ะ มินยองถามขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มเงียบขรึมลงอีกครั้ง,หญิงสาวเอียงแก้มแนบกับคางสากๆของจุงโจ ขณะที่มือบางค่อยๆช้อนฟองสบู่ถูแขนแข็งแรงของเขาเล่น คิดถึงเพื่อนเก่าน่ะ จุงโจตอบก่อนจะจูบซอกคอขาวนวลของหญิงสาวหนักๆอย่างหยอกเอิน. เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชายคะ ถ้าตอบว่าผู้หญิง,เธอจะลงโทษอะไรฉันเหรอมินยอง จุงโจพูดแกล้งหญิงสาวในอ้อมกอด, มือเรียวยกลูบไล้ช่วงเอวขอดเล็กของหญิงสาวไล่ขึ้นมาอย่างแผ่วเบานุ่มนวล ก่อนที่ชายหนุ่มจะโอบกอดกระชับเคล้าคลึงหน้าอกนุ่มยุ่นของหญิงสาวอย่างหยอกเย้า จนร่างบางในอ้อมกอดครางเสียงแผ่วด้วยความเสียวซ่าน ว่าไง
เธอจะลงโทษอะไรฉัน จุงโจพูดเสียงแหบพร่าขณะไล้ริมฝีปากหยักจูบซับเน้นหนักไปตามซอกคอลงมายังไหล่บาง, ผิวขาวบอบบางของมินยองเป็นรอยแดงจางๆทุกครั้งที่ชายหนุ่มฝังรอยจูบไว้ ฉะ..ฉันจะทำอะไรคุณได้หล่ะคะ หญิงสาวตอบตะกุกตะกักรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วร่างกายเพราะหญิงสาวรู้ดีว่าจุงโจแกล้งเธออยู่ เขาชอบทรมานเธอเล่นอย่างนี้ประจำ
บทเพลงรักเร่าร้อนกำลังถูกเขาเริ่มบรรเลงใหม่อีกครั้ง เธอทำให้ฉันเหมือนเป็นคนใจร้าย จุงโจค่อยๆอุ้มร่างบางขึ้นมาบนตักแข็งแรงของเขาเพื่อให้หญิงสาวหันมาเผชิญหน้ากับเขา,ริมฝีปากหยักค่อยๆจูบซับซอกซอนริมฝีปากบางของมินยองอย่างเร่าร้อนเรียกร้องมือเรียวลูบไล้ไปตามสะโพกกลมกลึงแผ่นหลังบางแนบชิด
คุณก็เลิกเป็นคนใจร้าย,เลิกทรมานฉันซะทีซิคะ..จุงโจ มินยองตอบเสียงกระเซ้าตาเป็นประกายวาบหวาม.,มือบางยกขึ้นโอบรอบคอชายหนุ่มหญิงสาวยกตัวขึ้นไล้จุมพิศหน้าผาก, ดวงตาคมปลายจมูกโด่งเป็นสันของชายหนุ่มแล้วมาหยุดที่ริมฝีปากหยักได้รูปของเขาที่คอยบรรจงจูบซับไปตามร่างกายของเธออย่างเร่าร้อน มินยองเผยอริมฝีปากบางรอรับ เมื่อจุงโจเงยหน้าขึ้นมาจากทรวงอกที่เขาขบเม้มเบาๆ ก่อนที่จะดูดดื่มด้วยความกระหายแล้วหันมาเชยชมริมฝีปากบางที่เผยอรอรับเขาอยู่แล้ว
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากให้หญิงสาวในอ้อมกอดเล็กน้อยก่อนที่จะเลิกทรมานหญิงสาวในอ้อมกอดด้วยการไล้จูบกลีบปากบางหอมหวานช้าๆแล้วจึงค่อยๆสอดลิ้นตวัดรัดเรียวควานหาความหวานจากริมฝีปากบางที่สอดลิ้นนุ่มตวัดรัดเรียวตอบกลับมาอย่างเชิญชวน ชายหนุ่มครางต่ำอย่างพอใจ, มือเรียวซุกซนลูบไล้ไปมาตามต้นขาเรียวอย่างอ่อนโยน อกอวบอิ่มของมินยองเบียดแนบชิดกับแผงอกกว้างของชายหนุ่มสองมือบางสอดไล้ไปตามผมยาวอ่อนนุ่มของชายหนุ่มอย่างหลงไหลเมื่อจุงโจก้มลงจูบซับหยอกเย้าหน้าอกอิ่มของเธออีกครั้ง,มินยองไม่สามารถต้านทานแรงปรารถนาที่มีอยู่ในตัวชายหนุ่มได้เลยซักครั้งร่างบางแอ่นรับสัมผัสของเขาอย่างเต็มใจ
จุงโจอา
มินยองเรียกชื่อเขาเสียงกระเซ้าเมื่อจุงโจใช้ริมฝีปากหยักร้อนจูบซับครอบครองเนินอกลิ้นอุ่นๆตวัดเคล้นคลึงเร่าร้อน,ใบหน้าหวานแดงสุกเปล่งปลั่ง ร่างบางกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่าจากสัมผัสเขา. ผิวขาวบอบบางของมินยองถูกชายหนุ่มฝังรอยแดงจางๆทุกครั้งยามที่ริมฝีปากหยักลากไล้ผ่านเมื่อ จุงโจเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของสาวตรงหน้าตอนนี้กลายเป็นสีแดงก่ำริมฝีปากบางชุ่มช่ำน่าหลงใหลเผยอเรียกร้องจนเขาอดที่จะจรดริมฝีปากหยักเข้ากับริมฝีปากบางอีกครั้งไม่ได้ฝ่ามือเรียวลูบไล้สะโพกเต็มตึงอย่างพอใจก่อนที่จะค่อยๆยกกระชับสะโพกกลมกลึงของร่างบางเคลื่อนเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว
ร่างบางสะดุ้งเฮือกจากความรัดรึงแนบแน่นจนชายหนุ่มค่อยๆกอดกระชับหญิงสาวอย่างปลอบประโลมก่อนจะค่อยๆยกร่างบางเคลื่อนขยับช้าๆ, มินยองกอดร่างจุงโจแน่นหลับตาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขา พร้อมกับยกสะโพกกลมกลึงขยับเข้าหาเขาอย่างช้าๆนุ่มนวลก่อนที่เธอจะส่งเสียงครางออกมาเบาๆ เมื่อยิ่งขยับความคับแคบรัดรึงน่าอึดอัดในตอนแรกก็ค่อยๆหายไปกลายมาเป็นความวาบหวามรัญจวนใจแบบที่เธอเคยได้รับสัมผัสจากเขา, ร่างบางสะท้านครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนร่างกายลอยขึ้นสูง เมื่อฝ่ามือเรียวกระชับสะโพกกลมกลึงของเธอขยับเข้าหาเขาอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้นตามอารมณ์ที่เริ่มจะร้อนแรงขึ้นกว่าเก่า
ลมหายใจสาวหอบกระชั้นลืมทุกสิ่งทุกอย่างจำเพียงแต่เขา..เขาเท่านั้นจุงโจผู้ชายที่สร้างความเร่าร้อนวาบหวามให้เธอทุกครั้งยามที่อยู่ใกล้ชิดกัน
เสียงครางเปี่ยมสุขถูกเปล่งออกมาอย่างไม่อาจห้ามใจร่างบางกลับมาเบาหวิวและสุขสม
ชายหนุ่มครางเสียงแหบพร่ารับรู้ถึงความสุขของหญิงสาวมือเรียวกอดหญิงสาวแนบแน่นเขาค่อยๆซบหน้าลงจูบพรมเนินอกของหญิงสาวอีกครั้งอย่างผ่อนคลายเมื่อบทเพลงรักเร่าร้อนจบลง,เหลือเพียงความสุขสมรัญจวนใจเข้ามาแทนที่.มินยองตอบรับเขาด้วยการโอบกอดรอบคอชายหนุ่มมือบางสอดเข้าหาผมยาวนุ่มสลวยของเขาอย่างหลงไหลก่อนจะก้มลงจุมพิศริมฝีปากหยักของจุงโจแล้วปล่อยตัวผ่อนคลายเมื่อชายหนุ่มค่อยๆอุ้มเธอขึ้นมาจากอ่างน้ำอุ่น, ใช้ผ้าขนหนูผืนหนาคลุมร่างเปลือยเปล่าของเธอวางลงบนเตียงหนานุ่มช้าๆ.
ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอทั้งคืน,เป็นไง?ตอบแทนที่ฉันไม่ได้มาหาเธอซะนาน จุงโจพูดอย่างอารมณ์ดีขณะใช้ผ้าขนหนูไล้เช็ดความชื้นออกจากตัวหญิงสาวช้าๆ จริงๆนะคะ มินยองยิ้มหวานใบหน้ายังคงแดงระเรื่อ อืม..จุงโจยิ้มบางๆให้หญิงสาวจ้องมองมินยองด้วยดวงตาคม.งานเขายุ่งมากจริงๆที่โรงกลั่นเขาใช้เวลาในห้องแล๊ปเพื่อคิดหาเชื้อยีสต์ตัวใหม่เพื่อช่วยในการหมักเหล้าไวน์ให้กับพ่อของเขาจนแทบไม่มีเวลามาหาหญิงสาวตรงหน้าเลยก็ว่าได้ เขาจึงไม่แปลกใจที่มินยองจะทำสีหน้าดีใจขนาดนั้นเมื่อเขาบอกว่าจะอยู่กับเธอทั้งคืนแบบนี้ งั้น..ไหนๆคุณก็ใจดีกับฉันแบบนี้แล้วฉัน..ขออะไรอีกอย่างจะได้มั้ยคะ มินยองซบหน้าลงกับเปลือยเปล่าของจุงโจอย่างออดอ้อน อะไรหล่ะ..ถ้าไม่ยากจนคนอย่างฉันจะทำให้ได้,ฉันก็จะทำให้ จุงโจตอบขณะใช้ผ้าห่มหนาคลุมร่างเปลือย เปล่าของเขากับมินยอง ไม่ยากหรอกคะ, แค่คุณอยู่ทานข้าวเช้ากับฉันก่อนที่คุณจะกลับได้มั้ยคะพรุ่งนี้ มินยองผงกศรีษะขึ้นมองชายหนุ่มอย่างรอคำตอบ แค่นี้เอง,ได้ซิ ฉันจะอยู่กับเธอทั้งคืนแล้วก็ทานข้าวเช้ากับเธอก่อนกลับ โอ้ย..ดีใจจังเลย คุณมีเวลาให้ฉันอย่างนี้ทุกวันก็คงจะดีซิคะ มินยองซบหน้าลงกับอกกว้างกอดชายหนุ่มอีกครั้งด้วยความดีใจ
ท่าทางของมินยองอดที่จะทำให้จุงโจมองอย่างขบขันเอ็นดูไม่ได้, จะว่าไปแล้วอะไรๆหลายๆอย่างในตัวหญิงสาวยามที่อยู่ใกล้ชิดกันช่างเหมือนโบอึนเสียจนบางครั้งเขาเองก็คิดอยากจะย้อนเวลากลับไปถึงคืนก่อนที่โบอึนจะจากไป..ถ้าเขารู้สักนิดว่าโบอึนจะไปเขาก็จะขอร้องให้หญิงสาวอยู่..อยู่เพื่อเขาถ้าหากผู้หญิงอย่างโบอึนมีใจให้เขาจริงอย่างที่หญิงสาวเพียรแสดงออกมาตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ถึงมินยองจะเหมือนโบอึนเพียงใดแต่ใจของจุงโจก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่าแม้หญิงสาวจะดีกับเขาและรักเขาเพียงใดแต่ก็ไม่อาจจะมาแทนที่ผู้หญิงคนเดียวคนนั้นคนที่อยู่ในใจเขามาตลอดสี่ปีได้เลย..มินยองก็คือมินยองไม่มีทางจะมาอยู่แทนที่ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นคนที่เขาไม่มีโอกาสแม้จะได้บอกรัก..ผู้หญิงคนเดียวในใจเขา..ซงโบอึน
ป้าคะให้หนูช่วยนะคะ ฮโยซอนขอป้าอุนแม่บ้านวัยหกสิบทำงานขณะที่เดินมายังลานบ้านที่มีกลุ่มคนงานพากันนั่งซ้าวข้าวกันอย่างขมักเขม้น เอ่อ
คุณหนูจะทำจริงๆเหรอคะ ป้าอุนมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างแปลกใจ แน่ใจซิคะ,ป้าบอกหนูหน่อยแล้วกันนะคะว่าจะให้เริ่มทำอย่างไหน,อะไรก่อน ฮโยซอนพูดขณะนั่งยองๆลงข้างๆป้าอุนท่าทางกระตือรือล้นของหญิงสาวทำให้ป้าอุนเลื่อนอ่างกระเบื้องใบใหญ่มาไว้ตรงหน้านายสาว เอาอย่างนี้นะคะ,คุณหนูเคยซาวข้าวมั้ยคะ? อ้อ,ไม่เคยคะ ฮโยซอนพอจะนึกออกบ้างแต่เธอไม่เคยทำจึงได้แต่ตอบรับอย่างอายๆ งั้นดูป้าทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนนะคะ ป้าอุนใช้สองมือซาวข้าวในอ่างกระเบื้องตรงหน้าอย่างคล่องแคล่ว เห็นมั้ยคะไม่ยากหรอกคะ,คุณหนูลองทำดูนะ
ฮโยซอนทำตามที่ป้าอุนสาธิตให้ดูแต่ปรากฏว่าหญิงสาวใช้สองมือซาวข้าวด้วยความแรงเกินไปจนทำให้ข้าวกระเด็นออกจากอ่างกระเบื้องกระจายเต็มพื้นไปหมดจนคนงานคนอื่นๆหัวเราะขบขันให้กับการซาวข้าวของคุณหนูฮโยซอน
เอ่อ..คุณหนูคะ, คุณหนูต้องเบามือกว่านี้หน่อยนะคะตอนซาวข้าวหน่ะคะ, ไม่งั้นข้าวจะกระจายออกจากอ่างเสียของหมดนะคะ จางอันลูกสาวของป้าอุนเตือนฮโยซอนอย่างเกรงๆเพราะถ้าเปรียบเทียบกันแล้วเธอค่อนข้างจะสนิทสนมกับผู้เป็นพี่สาวของนายสาวคนนี้มากกว่าแต่เพราะเห็นว่าฮโยซอนยอมมาขอช่วยงานทำแบบนี้เธอจึงกล้าที่จะเอ่ยเตือน ขอโทษนะคะหนูจะระวังให้มากกว่านี้ ฮโยซอนเอ่ยขอโทษออกไปเมื่อเห็นผลงานของตัวเองเป็นข้าวสารเม็ดงามกระจายเต็มพื้นไปหมด ฮโยซอน..ระวังหน่อยนะลูก, ข้าวสารพวกนี้เป็นข้าวสารชั้นดีโรงงานของเขาเนี่ยใช้คนงานคัดเลือกพวกแมลงพวกไรออกจากข้าวด้วยมือคนเลยทีเดียวนะแถมพวกเขาปลูกข้าวโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงเลยยังไงก็จริงจังหน่อยแล้ว กันนะลูกข้าวสารแต่ละเม็ดมีค่ามากจริงๆ แดซุงซึ่งยืนมองดูลูกเลี้ยงสาวอยู่นานอดที่จะเดินมาบอกและสอนอีกคนไม่ได้เพราะความที่เขาพิถีพิถันกับทุกกระบวนการผลิตเหล้าไวน์ของโรงงานมากและวัตถุดิบทุกอย่างเขาก็ต้องเป็นคนเลือกและสรรหาว่าดีและปลอดภัยจริงๆถึงจะนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตเหล้าไวน์ดังนั้นของทุกอย่างจึงค่อนข้างจะมีราคาสูงอยู่พอสมควร เขาจึงไม่อยากให้ใครหรือคนงานคนไหนทำงานกับวัตถุดิบพวกนี้อย่างทิ้งๆขว้างๆ
ขอโทษคะคุณพ่อ ฮโยซอนตอบรับเสียงเบาหญิงสาวก้มหน้าก้มตาซ้าวข้าวอย่างระมัดระวังพลางคิดน้อยเนื้อ ต่ำใจว่าขนาดซาวข้าวเธอก็ยังทำไม่ได้เลย แล้วเธอจะมีหน้าเสนอตัวเองไปขอทำงานในโรงกลั่นของพ่อเลี้ยงเธอได้อย่างไร. เสียงของแม่ยังคงดังอยู่ในหัว แก..นี่มันไร้ประโยชน์จริงๆ.,งานการก็ไม่รู้จักขวนขวายทำ แกจะเกาะฉันกินไปถึงไหน..ซักวันแกก็จะไม่ได้อะไรจากบ้านหลังนี้,แกเห็นไอ้จุงโจมั้ย..แกจำคำพูดของฉันเอาไว้ให้ดีๆถ้าแกเอาชนะคนอย่างมันไม่ได้, แกก็ต้องทำยังไงก็ได้ให้มันยอมมามองแกบ้าง,ผู้ชายสันดานมันก็เหมือนกันหมดลองถ้ามีผู้หญิงเข้ามาออดอ้อนหน่อย,เอาใจซักนิดต่อให้เป็นเทวดานางฟ้าที่ไหนมันก็จะก้มลงมานอนแทบเท้าแก, แกตื่นขึ้นมาจากความฝันได้แล้วฮโยซอน โลกใบนี้มีแต่คนเข้มแข็งเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอดได้.,เออฉันมีอีกอย่างที่จะบอกแก,พี่สาวแกน่ะเห็นว่าเดือนหน้าจะกลับมาแล้วต่อจากนี้ไปฉันจะจัดการกับพี่สาวแกจริงๆจังๆซะที
แม่ด่าเธออย่างหนักทุกคำพูดของแม่ช่างตอกย้ำให้เธอถึงกับสะอึก แต่ไหนแต่ไรมาก็มีแต่โบอึนพี่สาวที่คอยออกรับแทนให้ทุกครั้งที่แม่ปั้นปึงใส่เธอ,หญิงสาวเป็นคนเรียนไม่เก่ง,ไม่เอาไหนมาตั้งแต่เด็ก พ่อแท้ๆของเธอที่ตายไปกับพี่สาวสองคนนี้เป็นคนที่คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจเมื่อวันที่พ่อจากไป เธอจึงติดพี่สาวคนเดียวรักโบอึนยิ่งกว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เสียอีก ตลอดสี่ปีที่โบอึนไม่อยู่ด้วยแล้วฮโยซอนจึงเหมือนคนไร้ที่พึ่ง แม่เองมักจะเปรียบเทียบเธอกับโบอึนเสมอ หญิงสาวรู้ดีว่าแม่ออกจะรักและทุ่ทเทให้กับพี่สาวของตนมาก, เพียงแต่คนอย่างแม่การแสดงออกเหมือนกับสุนัขจิ้งจอกที่คอยจะคาบคอลูกตัวเองมากกว่าจะเป็นการกอดรัดอุ้มชู้เหมือนแม่คนอื่นๆทั่วไป เมื่อพี่สาวเป็นทั้งหมดของแม่, การกลับมาของโบอึนจึงเหมือนการที่แม่ทำของหายแล้วได้ของสิ่งนั้นกลับคืนมา
ฮโยซอนไม่เคยคิดอิจฉาในความรักของแม่ที่มีให้พี่สาวตนมากกว่าตัวเองหรือข้อเปรียบเทียบอะไรๆก็แล้วแต่ ที่ว่าพี่สาวเธอดีกว่าเธอย่างนั้นอย่างนี้, ความแน่ใจนั้นกลับถูกสั่นคลอนเพียงเพราะเธอไม่สามารถห้ามใจให้มารักผู้ชายคนเดียวกับโบอึนได้ ความเห็นแก่ตัวและอิจฉาจึงทำให้เธอคิดจะเก็บเขาไว้เพียงคนเดียวจากการโกหกของเธอ, ผู้ชายอย่างมุนจุงโจก็ยังคงเมินเฉยและเย็นชาใส่เธอตามเดิม แต่อย่างน้อยตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาฮโยซอนก็แน่ใจว่าคนอย่างมุนจุงโจจะไม่กลับไปหาพี่สาวเธออีกแน่นอน, คนอย่างเขาหยิ่งเกินไปที่จะหยิบของที่ตัวเองโยนทิ้งไปแล้วขึ้นมาใช้อีก
จองอู,ช่วงนี้นายน้อยแกเขาพักอยู่ไหนเหรอ.,วันๆฉันไม่เห็นว่าเจ้านั่นมันจะกลับบ้านกลับช่องเลย.แดซุงเดินผ่านผละมาจากกลุ่มคนงานมาหาจองอูที่ยืนขัดไหหมักเหล้าร่วมกับคนงานชายอีกหลายคน เอ่อ..ท่านประธาน..คือนายน้อย จองอูตอบตะกุกตะกักเพราะไม่รู้ว่าจะตอบแบบไหนดีเพราะนายหนุ่มที่ส่วนใหญ่จะหลับนอนที่ห้องเล็กๆที่จัดไว้เป็นสัดส่วนแยกไว้ติดกับห้องแล็ปหรือไม่ก็ห้องผู้หญิง.แต่ข้อหลังนี้จองอูเองก็ไม่สามารถจะให้คำตอบได้เพราะนายหนุ่มไม่เคยจะสนใจหรือคบใครจริงจังซักคน. เขาจึงไม่สามารถบอกได้ว่าห้องหญิงสาวคนไหน
อะไรของแก..เป็นโรคติดอ่างขึ้นมาเชียว พอฉันถามถึงเจ้านายแก แกไม่ตอบฉันก็พอจะรู้เรื่องมาบ้าง,ถ้ายังไงวันนี้เจ้านั่นโผล่หน้ามาบ้าน..แกก็ช่วยตามมันไปพบฉันที่ห้องทำงานด้วยแล้วกัน แดซุงสั่งทิ้งท้ายไว้ให้เด็กหนุ่มเขาส่ายหัวอย่างระอาในตัวลูกชายที่นานๆทีจะกลับบ้านวันนี้เขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับลูกชายจึงต้องไปหาเด็กรับใช้คนสนิทของลูกชายเพื่อถามไถ่แต่ก็เหมือนจะไม่ได้ผลอะไรเพราะจองอูออกจะซื่อสัตย์กับนายตนมากกว่าเขาคนที่ชุบเลี้ยงเด็กหนุ่มมาซะอีก จุงโจเอ๊ยย
.แกนี่มันเหลือเกินจริงๆ
กระเด็นไปอยู่ไหนหน่า
เมื่อกี้ยังเห็นอยู่ตรงนี้เลย มุนจุนซูด็กชายวัยสี่ขวบเดินตามหาลูกบอลที่เขาเตะเล่นอย่างเพลิดเพลินแต่บังเอิญลูกเตะช่วงสุดท้ายเขาเตะแรงไปหน่อยจึงทำให้ลูกบอลกระเด็นหายไป
จุงโจเดินผ่านเข้ามาบริเวณประตูบานใหญ่ของรั่วบ้านแต่เขาก็ต้องหยุดร่างสูงไว้เพราะเท้าบังเอิญไปเตะเข้ากับลูกบอลสีสดใสใบหนึ่งเข้า,ชายหนุ่มจึงค่อยๆก้มลงเก็บลูกบอลใบนั้นขึ้นมา ไม่สงสัยอะไรมากนักเพราะน้องชายคนละแม่ของเขาคงจะออกมาตามเจ้าลูกบอลใบจ้อยนี้อยู่เป็นแน่
เก็บให้หน่อยครับ,เก็
เสียงของจุนซูหายไปเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนถือลูกบอลของเขาไว้ในมือ อยากได้ก็เดินมาเอาซิ จุงโจยืนเต็มความสูงมองน้องชายด้วยสายตาคมกระตุกยิ้มมุมปากอย่างแยะเย้ยเพราะเขารู้ดีว่าจุนซูหวาดกลัวเขาเพียงใด ด้วยวัยเพียงสี่ขวบ จุงโจรู้ดีว่าจุนซูเป็นเด็กฉลาดแต่เพราะเป็นเด็กติดแม่และพี่สาวจึงทำให้จุนซูออกจะเป็นเด็กขี้อายและเอาแต่ใจตัวเอง เด็กชายค่อยๆเดินมาหาเขาช้าๆสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด อ๊ะ..ก็แค่เนี่ย จุงโจยื่นลูกบอลกลับคืนให้จุนซู เมื่อเด็กชายรับลูกบอลจากมือพี่ชายเขาก็เตรียมตัวจะวิ่งหนีไปในทันทีแต่ก็ช้ากว่ามือเรียวยาวของพี่ชายที่คว้าคอเสื้อเขาเอาไว้ซะก่อน แก..ลืมอะไรไปรึเปล่าจุนซู จุงโจยังคงแกล้งน้องชายมือเรียวที่ปล่อยคอเสื้อน้องแล้วจับไหล่เล็กของน้องให้หันมาหาเขา ละ..ลืมอะไร เสียงจุนซูสั่นเมื่อคนตัวสูงกว่าก้มหน้าลงมาหาเขา ผู้ใหญ่ให้ของต้องพูดว่ายังไงก่อน,แกเนี่ยไม่มีมารยาทจริงๆ จุงโจพูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนักมองหน้าน้องชายด้วยรอยยิ้มจางๆ ขอ..ขอบคุณครับ
.ไอ้ปีศาจ จุนซูเมื่อเห็นว่าพี่ชายปล่อยคอเสื้อและได้ลูกบอลกลับมาแล้วก็รีบขอบคุณแต่ก็ยังตะโกนด่าพี่ชายตัวเองเมื่อเห็นว่าตัวเองอยู่ในระยะปลอดภัยแล้ว เชอะ..ไอ้เด็กคนนี้แม่แกคงตามใจซะเคยตัว
หึๆๆ จุงโจไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของน้องชายมากนักเพราะจุนซูก็ไม่เคยเรียกเขาว่าพี่อยู่แล้วชายหนุ่มจึงเดินเข้าบ้านไปอดจะขำกับท่าทางของจุนซูไม่ได้
จองอูซึ่งยืนขัดไหหมักเหล้าใบใหญ่พร้อมกับคนงานคนอื่นๆอยู่นั้นต้องหยุดทำงานเมื่อแทกูหัวหน้างานของเขามาเรียกให้เขาช่วยขับรถไปส่งของให้ตามที่อยู่ที่ชายหนุ่มผู้เป็นนายได้แนบมาให้พร้อมกับจำนวนของทั้งหมดที่ต้องถูกส่งวันนี้
ทำไมของรอบนี้มันเยอะจังเลยหล่ะครับ, ผมไม่เห็นท่านประธานจะสั่งอะไรผมเลยนี่ครับ จองอูถามแทกูออกไปเมื่อเห็นจำนวนของและจำนวนร้านค้าในเอกสารที่แทกูยื่นให้ แกอย่าถามมากเลยจองอู, ร้านค้าก็ร้านเดิมๆที่แกเคยไปส่งนั่นแหละเพียงแต่เค้าสั่งเพิ่ม แทกูแถไปเรื่องอื่นไม่อยากให้จองอูถามเซ้าซี้อะไรเขามาก เพราะแทกูเองก็ได้รับคำสั่งนี้มาจากนายตัวเองอีกต่อนึงเหมือนกัน. แกแน่ใจนะว่าไอ้เด็กจองอูหน่ะมันไว้ใจได้ เสียงมีอำนาจโทรมากำชับงานเขาอีกครั้ง แน่ใจครับ,คุณนายไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้เลยนะครับ ไอ้เด็กจองอูเนี่ยมันเป็นคนซื่อไม่มีปากมีเสียงอะไรกับใคร.แทกูตอบเพิ่มความมั่นใจให้นายตน ดีมาก,ส่งรอบนี้เป็นรอบสุดท้ายแกต้องระวังให้มากเข้าใจมั้ย ครับ,คุณนายไม่ต้องเป็นห่วง.ผมจะจัดการเรื่องที่เหลือเอง แทกูวางสายจากนายหญิงแล้วมาสั่งการเด็กหนุ่มที่ไม่รู้เรื่องราวกับการเข้าร่วมมือทำลายชื่อเสียงของโรงกลั่นแดซุงแม้แต่น้อย
จุงโจเมื่อเดินเข้ามาในห้องนอนตัวเองเรียนร้อยแล้วเขาเองก็ค่อยๆเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่มาจากเมื่อวานเป็นชุดลำลองอยู่บ้านแทน, วันนี้เขาคิดอยากจะอยู่บ้านพักผ่อนซักวัน แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น
เข้ามาซิ..ประตูไม่ได้ล็อค จุงโจตะโกนบอกออกไป, ชายหนุ่มคิดว่าคงจะเป็นจองอูที่มาเคาะเรียกเพื่อคุยธุระอะไรจึงไม่ได้คิดมาก, ร่างสูงจึงมีเพียงกางเกงบ็อคเซอร์สวมใส่อยู่เพียงตัวเดียวขณะเลือกเสื้อผ้าในตู้มาสวมใส่ ว้ายยย..ขอโทษนะ.,ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมากวนนาย..พอดีคุณพ่อให้มาตามน่ะ ฮโยซอนตอบอย่างเขินอายเมื่อเข้ามาในห้องก็พบว่าชายหนุ่มแต่งตัวไม่เรียบร้อยยืนอยู่จ้องมองมาทางตนโดยไม่มีอาการตกใจอะไรเลย ผิดกับเธอที่อดจะเขินอายไม่ได้ เมื่อลอบมองร่างสูงที่ประกอบไปด้วย ไหล่กว้าง หน้าอกพึ่งผาย หน้าท้องแบนราบ, ผิวที่ขาวจัดของจุงโจตัดกับผมยาวดำขลับที่เขาปล่อยไว้เต็มกลางหลัง แสงแดดอ่อนๆยามเช้าส่องกระทบร่างเขาจนฮโยซอนเผลอมองเขาอย่างเต็มตา แต่แล้วความเพลิดเพลินของเธอก็หมดไปเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับแววตาคมจ้องมองเธอกลับมา อืม
เธอออกไปได้แล้ว..จะมายืนดูผู้ชายแต่งตัวรึไง จุงโจพูดขณะยืนหันหลังเลือกเสื้อยืดออกมาใส่ไม่ได้สนใจอาการประหม่าเขินอายของหญิงสาว คุณพ่ออยู่ที่ห้องทำงานนะ ฮโยซอนพูดเสียงเบาขณะจะเดินออกจากห้องเอ่อ..วันนี้นายจะอยู่ค้างที่บ้านใช่มั้ย. ถามทำไม..พ่อฉันถามหรือว่าเธอ จุงโจถามขึ้นหลังจากแต่งตัวเสร็จแล้วเดินมายืนเคียงข้างหญิงสาวที่ยังคงรีรออยู่หน้าประตูห้อง คือ
ฉันอยากจะทำกับข้าวให้นายทานบ้าง..ฉะ..ฉันว่านายผอมไปนะช่วงนี้ ฮโยซอนพูดขึ้นอย่างขัดเขินเมื่อเห็นจุงโจมายืนอยู่ข้างๆตน เธอเป็นห่วงฉันเหรอ..?,ฮโยซอน จุงโจพูดเสียงเบาตาคมจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าไม่กระพริบ ฉะ..ฉัน..ใช่ฉันเป็นห่วงนาย ฮโยซอนเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม,หญิงสาวรวบรวมความกล้าบอกเขาไปในที่สุดรู้สึกใบหน้าร้อนแผ่วเมื่อมองเขาในระยะใกล้ชิดแบบนี้ งั้นเหรอ..เธอช่วยแสดงว่าเป็นห่วงฉันมากกว่าการทำกับข้าวให้ดูหน่อยซิ จุงโจมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาคมเชิญชวน มือเรียวค่อยๆรวบหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมแขน, กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อหญิงสาวไม่มีท่าทีขัดขืนแม้แต่น้อย จุงโจ.. ฮโยซอนรู้สึกว่าตัวเองแทบจะปลิวเข้าไปในอ้อมกอดเขาเลยก็ว่าได้ จุงโจไม่ได้ผอมบางเหมือนที่หญิงสาวเห็น แต่บ่าและอกกว้างของเขาช่างอบอุ่นเสียจริงเมื่อหญิงสาวอยู่ในอ้อมกอดเขาอย่างนี้ ปากหยักได้รูปของเขาช่างน่ามองเสียจนหญิงสาวยกมือบางขึ้นไล้มือไปตามริมฝีปากหยักนั้นอย่างหลงไหล ว่าไง
เธอยังไม่ตอบฉันเลย
ว่าจะแสดงอะไรให้ฉันดูว่าเป็นห่วงฉัน ชายหนุ่มถามขึ้นขณะจูบตอบนิ้วบางที่ไล้แตะริมฝีปากเขา,ชายหนุ่มยังคงสนุกไปกับการแกล้งหญิงสาวในอ้อมกอด ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้นายรู้ว่าฉันเป็นห่วงนาย ฮโยซอนเงยหน้ามองเขาหญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอยเหมือนตัวเองตกอยู่ในห้วงมนต์สะกดให้เห็นแต่เขาผู้ชายที่เธอหลงรักมานานแสนนาน ไม่ยากหรอก..จุงโจพูดเสียงกระซิบค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าหาริมฝีปากอิ่มที่เผยอขึ้นอย่างเชิญชวน
ลมหายใจของฮโยซอนเหมือนจะขาดหายไปเมื่อเห็นเขาค่อยๆโน้มใบหน้าลงมาหา ลมหายใจอุ่นของเขาและเธอผสมผสานกันด้วยความใกล้ชิดแค่คืบ,หญิงสาวหลับตาลงรอคอยเขาด้วยหัวใจที่เต้นแรง, แรงซะจนเขาอาจจะได้ยินเสียงหัวใจของเธอ ไปเถอะ..พ่อฉันเขารออยู่..ทีหลังถ้าไม่ใช่ฉันอย่าเที่ยวไปเข้าห้องผู้ชายที่ไหนอีก.จุงโจพูดเตือนหญิงสาวขึ้นขณะที่ผละอ้อมกอดออกจากร่างบาง, ตอนนี้เขาเริ่มหมดสนุกที่จะแกล้งหญิงสาวแล้ว. จุงโจไม่ได้หันกลับมามองว่าฮโยซอนจะรู้สึกหรือมองเขาเดินออกจากห้องไปด้วยสายตาแบบไหน แต่ชายหนุ่มไม่อยากให้ฮโยซอนต้องทำตัวง่ายๆแบบนี้กับผู้ชายที่ไหน เพราะยังไงเขาเองก็เป็นผู้ชายย่อมรู้ดีว่าผู้ชายคิดอะไรอยู่และอย่างน้อยการที่เขาเองและหญิงสาวก็เหมือนพี่น้องกันไปแล้ว จุงโจจึงไม่อยากเห็นฮโยซอนต้องมานั่งเสียใจกับความมักง่ายของผู้ชาย ซึ่งจุงโจไม่อาจยอมให้หญิงสาวอ่อนต่อโลกอย่างฮโยซอนได้เรียนรู้ด้วยตัวเองเป็นแน่
พ่อดีใจนะที่แกกลับบ้านมาได้
นึกว่าจะต้องรอนานกว่านี้ซะอีก เรื่องสำคัญอย่างนี้., พ่อไม่อยากจะคุยทางโทรศัพท์ แดซุงเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อลูกชายนั่งลงตรงข้ามเขา ท่านประธานจะคุยเรื่องอะไรกับผมเหรอครับ จุงโจตอบพ่อเสียงเรียบหลังจากที่คนรับใช้นำชาร้อนมาเสริฟ์ให้ พ่ออยากให้แกแบ่งเวลามาช่วยพ่อบริหารงานที่โรงกลั่นบ้าง แดซุงเอ่ยขึ้น รู้สึกลำบากใจที่ต้องยัดเยือดงานที่ลูกชายไม่ชอบ แต่เขาไม่มีทางเลือกจริงๆในเมื่อเขามีจุงโจเพียงคนเดียวที่เขาพอจะไว้วางใจได้มากที่สุด ตอนนี้ท่านประธานก็รู้ไม่ใช่เหรอครับว่าผมเองก็มีงานที่ห้องแล๊ปไม่น้อยเลยทีเดียว จุงโจพูดก่อนที่จะยกถ้วยชาขึ้นจิบ พ่อจะบอกเรื่องที่พ่อกังวลให้แกฟังตามตรงก็ได้ แดซุงพูดด้วยน้ำเสียงเบาลงแต่จริงจังมองหน้าลูกชายอย่างวาดหวัง ทางฮังจูกาพยายามติดต่อมาซื้อโรงกลั่นของเรามาหลายปีแล้ว,เรื่องนี้พ่อคิดว่าแกก็น่าจะรู้มาบ้าง แดซุงพูดต่อไปเมื่อเห็นว่าจุงโจกำลังนั่งฟังเขาอยู่ แล้วมันจะผิดปกติตรงไหนล่ะครับในเมื่อคนไม่รู้จักพออย่างท่านประธานฮังและลูกชายจะอยากได้โรงกลั่นเล็กๆอย่างเราที่มียอดขายเหล้าโซจูเป็นอันดับหนึ่งในเขตคยองกี จุงโจยังคงนั่งจิบชาไปเรื่อยๆแต่น้ำเสียงจริงจังผิดกับท่าทางอันแสนผ่อนคลายของเขา ใบหน้าเรียบเฉยของชายหนุ่มทำให้ผู้เป็นพ่อเดาไม่ถูกว่าเขารู้เรื่องอะไรมาบ้าง ถ้าเป็นการติดต่อขอซื้อแบบซึ่งๆหน้าอย่างเดียวพ่อก็จะไม่กังวลอะไรมากขนาดนี้หรอก,แต่พ่อเริ่มกังวลอีกอย่างก็คือเรื่องการเปิดตลาดใหม่ของเราที่ญี่ปุ่น พ่อกลัวว่าทางฮังจูกาจะหาทางเล่นงานเรา แดซุงพูดความกังวลที่มีในใจให้ลูกชายฟัง
ถ้าท่านประธานจะมากังวลเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น,ท่านเอาเวลาไปคิดแผนการตลาดเพื่อเปิดตลาดในญี่ปุ่นไม่ดีกว่าเหรอครับ จุงโจพูดเตือนผู้เป็นพ่อเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาที่ฉายแววกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด พ่อรู้ดีว่าพูดอะไรเหมือนเป็นคนโง่,ทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นนักธุรกิจอยู่แล้วแต่กลับกลัวอะไรไม่เข้าท่า แดซุงอดจะละอายใจไม่ได้เมื่อเห็นสายตาจริงจังของลูกชายมองตนมาแบบนี้ แต่สาเหตุหลักไม่ใช่ว่าพ่อกลัวฮังจูกา, แต่แกไม่คิดเหรอว่าจู่ๆบริษัทใหญ่อย่างฮังจูกาที่มีบริษัทลูกมากมายแต่กลับสนใจมาติดต่อซื้อโรงกลั่นของเรา เรื่องนี้มันน่าจะจบไปตั้งแต่วันที่แม่แกตาย, แต่พ่อก็ไม่คิดว่าปู่ของแกเขายังจะต้องการทำลายพวกเราอยู่แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตาม. แกจำปู่ของแกได้มั้ย?..จุงโจ ครับ.. ชายหนุ่มตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยตามเดิม
ทำไมเขาจะจำปู่ของเขาไม่ได้
ผู้ชายคนนั้น..คนที่ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มเมื่อเห็นหน้าหลานชายคนแรกของตระกูล..สีหน้าและแววตามีอำนาจมองเด็กชายจุงโจอย่างเย็นชาเหยียดหยาม บ้านหลังนั้นใหญ่โตเสียจนเขาต้องเกาะกุมมือแม่แน่นๆเหมือนตัวเองอยู่ในปราสาทที่มีแต่คนใจร้ายอาศัยอยู่
มุนฮันซุงมองดูหน้าแม่ของเขาอย่างดูแคลนด้วยเพราะเป็นลูกสะใภ้ใหญ่ที่ไม่ได้มากจาการยอมรับของตระกูล แต่เพราะความรักที่พ่อแม่ของเขามีให้กันทำให้พ่อเขาต้องยอมทิ้งทุกอย่างและยอมจมตัวเองลงให้พ้นสายตาผู้เป็นพ่อ แล้วมาอยู่กับโรงงานเล็กๆนอกเมืองแทน
เท่านี้คงยังไม่พอกับเกียรติยศชื่อเสียงที่ปู่ของเขาเสียไปกระมั้งถึงได้ตามมาทำลายพ่อของเขาอีก..
ฮังจูกาคงจะได้ข้อเสนอมาจากจินเรียวคอปเปอร์เรชั่นมาช่วยด้วยอีกแรง,เหตุผลน่าจะพอฟังขึ้นมั้ยครับท่านประธาน จุงโจเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นพ่อนั่งมองอยู่ด้วยแววตาเหมือนซ่อนความกังวลบางอย่างออกมาให้เห็นเพียงแต่เขาไม่แน่ใจว่าพ่อยังจะกังวลเรื่องอะไรไปมากกว่านี้อีก ในเมื่อพ่อเองก็น่าจะรู้ว่าศัตรูได้เริ่มเปิดเผยตัวขึ้นอย่างที่สงสัยแล้ว แก..รู้ตัวมั้ย,จุงโจ..นับวันแกก็ยิ่งเหมือนปู่ขึ้นไปทุกวัน แดซุงพูดขึ้นเหมือนคนละเมอ แต่ใจเขากลับคิดหนักกับการแข่งขันอะไรแบบนี้, ความตั้งใจที่มาเปิดโรงงานและปักหลักที่นี่ก็เพราะเขาไม่อยากจะอยู่โซล เพราะยังไงการเผชิญหน้ากับผู้เป็นพ่อคงจะหนีไม่พ้น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจมาอยู่เมืองเล็กๆเพื่อจะได้ไม่ต้องมารับรู้ว่าผู้เป็นพ่อทำอะไรบ้างและเพื่อความปลอดภัยของครอบครัวเขาเองด้วย
เลือดมันข้นไปหน่อย..ต่อให้ท่านประธานมุนฮันซุงจะไม่ยอมรับว่าผมเป็นหลานแต่ท่านเองก็คงหนีความจริงข้อนี้ไปไม่ได้ จุงโจยิ้มเยาะให้กับตัวเอง นึกสนุกที่จะได้ท้าทายราชสีห์อย่างปู่เขา แต่ตอนนี้เราเองยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะบอกให้แน่ชัดได้ว่าจินเรียวคอปเปอร์เรชั่นร่วมมือกับฮังจูการึเปล่า, ท่านประธานเองก็อย่าเพิ่งกังวลไป เรื่องที่จะให้ผมไปช่วยงาน..ผมขอเวลาอีกซักพัก..ก็แล้วกันนะครับ จุงโจพูดก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อขอตัวกลับไปที่ห้องของตัวเอง จุงโจ
พ่อมีแกอยู่ด้วยทั้งคนจะกังวลอะไรได้อีกล่ะ ลูก ขอบใจแกมากนะที่ยอมอยู่ที่นี่.. แดซุงมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน
หนูโบอึนเค้าจะกลับมาเดือนหน้านี้แล้วนะ
แดซุงเอ่ยขึ้นมาอีกเมื่อเห็นจุงโจจะเดินออกจากห้อง
ชายหนุ่มยืนชะงักเหมือนโดนสะกดเพียงเพราะชื่อผู้หญิงคนนั้นคนเดียว..อารมณ์สับสนว้าวุ่นเกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ท่านประธาน..,พยายามอย่าพูดถึงชื่อผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าผมจะดีกว่านะครับ จุงโจหันกลับมาพูดกับพ่อเสียงเรียบ ดวงตาคมมองอย่างแข็งกร้าวก่อนจะเดินออกจากห้องไป จุงโจ..,แกจะฟังอะไรให้จบก่อนไม่ได้เหรอไงนะ..ไอ้ลูกคนนี้ แดซุงมองตามหลังลูกชายอย่างอ่อนใจ
ทางด้านคนที่อยู่อีกซีกโลก ตอนนี้หัวใจกำลังเบ่งบานเต็มที่เพราะอีกไม่ถึงเดือนหญิงสาวก็จะได้กลับบ้าน, บ้านที่มีคนที่เธอรักและรักเธอรออยู่ เขาจะเป็นยังไงบ้างนะ,ความห่างไกลเป็นเวลาหลายปีจะทำให้ความรู้สึกของจุงโจเปลี่ยนไปจากเธอมั้ยหนอ
โบอึนมองดูรูปชายหนุ่มคนที่เธอเฝ้าคิดถึงมาตลอดเวลาที่อยู่ห่างกัน
เขา
.คนที่ไม่มีแม้รอยยิ้มแต่กลับเป็นคนที่เธอทำให้เธอยิ้มได้มากที่สุด เขา
.คนที่ใครก็ว่าไม่มีความรู้สึก เลือดเย็น แต่กลับมีอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นให้เธอเสมอในยามโหยหา เขา
.คนที่ทำให้เธอเสียน้ำตาแค่เพียงเขาหมางเมินใส่ เขา
.คนที่ทำให้เธอรู้จักคำว่าคิดถึง และเขา
.คนที่ทำให้เธอรู้จักคำว่า
..รัก
ยังไม่นอนอีกเหรอจ้ะ..โบอึน อึนโซถามขึ้นเมื่อเห็นไฟในห้องของหลานสาวยังคงเปิดอยู่ ยังคะ..พอดีนั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่น่ะคะ โบอึนเงยหน้าขึ้นมองอาอึนโซที่เดินมายืนอยู่ข้างๆเธอ ตื่นเต้นล่ะซิท่า,จะได้กลับบ้านแล้ว อึนโซเอามือลูบหัวหลานสาวอย่างรักใคร่ โบอึนสวยและน่ารักกว่าที่เธอเคยคิดเอาไว้มาก ครั้งแรกที่หลานชายบอกให้เธอช่วยดูสร้อยข้อมือให้กับผู้หญิง ตอนนั้นหัวใจของอึนโซเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นไม่ได้ เพราะจุงโจไม่เคยจะให้ความใส่ใจและสนใจผู้หญิงที่ไหนมาก่อนเลย, เธอจึงภาวนาทุกวันเพื่อขอให้จุงโจพาหญิงสาวคนนั้นมาแนะนำให้เธอได้รู้จักสักวัน แต่เธอก็นึกไม่ถึงว่าหญิงสาวคนนั้นจะเป็นคนเดียวกับที่นั่งอยู่ข้างๆตอนนี้เธอ
หลานชายเธอเลือกคนไม่ผิดจริงๆ..โบอึนสวยและน่ารัก ผู้หญิงบางคนก็มีแต่สวยแต่ขาดความน่ารัก แต่ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างโบอึน.. อึนโซจำได้ดีถึงความตื่นเต้นและความเขินอายของเด็กสาวตรงหน้าเมื่อเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้,อึนโซได้มีโอกาสถามเด็กสาววันนึงตอนที่ไปเลือกซื้อของด้วยกัน โบอึนจ้ะ..ทำไมถึงไม่อยู่ห้องที่อาเตรียมไว้ให้ล่ะ..หลานไม่ชอบเหรอจ้ะ อึนโซเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย เอ่อ..คือ..คุณอาอย่าเข้าใจหนูผิดนะคะที่หนูขอไปอยู่ที่ห้องจุงโจแทน.. ใบหน้าของหญิงสาวอ่อนเยาว์กว่าเริ่มแดงระเรื่อ นั่นแหละที่อาสงสัย..ห้องผู้ชายจะมีอะไรนอกจากหนังสือ ยิ่งห้องของเจเจด้วยแล้วหนังสือเยอะซะยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด อึนโซพูออย่างอามรณ์ดีเมื่อพูดถึงหลานชายคนโปรด หนูแค่อยากรู้ว่า..ผู้ชายอย่างจุงโจเค้าเป็นคนยังไงกันแน่น่ะคะ อย่างน้อยการที่ได้อยู่และสัมผัสกับของที่เขาเคยใช้เคยอยู่มา
เอ่อ..อย่างน้อยหนูก็อุ่นใจเหมือนว่ามีเขาอยู่ใกล้ๆน่ะคะ โบอึนตอบอย่างเขินอาย เมื่อเห็นอาของจุงโจยืนมองตนพูดอย่างตั้งใจ เจเจโชคดีนะจ้ะที่มีหนูเป็นคนรัก
อึนโซพูดทิ้งท้ายให้โบอึนได้อายหน้าแดงกว่าเก่าก่อนที่จะชวนกันไปเลือกซื้อของต่อ
เวลาสี่ปีที่อึนโซได้มีโอกาสใกล้ชิดกับหลานสาวคนนี้ทำให้เธอเปลี่ยนใจอยากจะมีลูกสาวขึ้นมากับเค้าบ้างแล้ว คงเพราะห่างกับจุงโจมานานเกินไปหรือเปล่าที่ทำให้ความน่ารักอ่อนโยนของสาวน้อยตรงหน้าเข้ามาเป็นเหมือน น้ำทิพย์ชโลมจิตใจ ให้กับหัวใจเหงาๆของคนที่ไม่มีโอกาสจะได้เป็นแม่อย่างเธอ
เอ๊ะ..รูปนี้หนูโบอึนเอามาใส่กรอบไว้เลยเหรอจ้ะ อาอึนโซถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นรูปใคร หนูชอบรูปนี้คะ
พอดูรูปนี้แล้วทำให้ยิ้มออกเวลาที่เครียดๆกับเรื่องเรียนน่ะคะ โบอึนมองดูรูปที่ใส่กรอบไว้อย่างดีบนโต๊ะหนังสือ รูปนี้..ถ้าอาจำไม่ผิดอาเป็นคนถ่ายเอง..เจเจอายุแค่สิบสามเองเริ่มจะไว้ผมยาวแล้วเป็นหนุ่มน้อยเชียวนะเนี่ย อึนโซหยิบรูปหลานชายขึ้นมาดูด้วยสายตาเปี่ยมรัก เค้าชอบนั่งอ่านหนังสือท่านี้..เวลาเผลอทีไรมือซ้ายจะกำแน่นเวลาเขียนหนังสือแบบนี้ประจำ
รูปนี้ใครๆเห็นก็นึกว่าอามีหลานสาว อึนโซอมยิ้มกับรูปหลานชาย นั่นซิคะ..จุงโจหน้าเหมือนผู้หญิงเอามากๆเลยคะ โบอึนอดจะอมยิ้มร่วมไปด้วยอีกคน เพราะอะไรเธอก็ไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมถึงชอบรูปนี้มากที่สุด อาอึนโซเป็นอาที่วิเศษอย่างที่จุงโจบอกเธอ เพราะนอกจากอาอึนโซจะรักและเอาใจใส่กับจุงโจแล้ว อาอึนโซยังเป็นคนที่มีจิตใจดีและมีความคิดดี การที่จุงโจอยู่กับคนที่วิเศษแบบนี้ถือว่าเขาเป็นคนที่โชคดีมาก
โบอึนตั้งใจจะขอรูปนี้กับอาอึนโซก่อนวันที่เธอจะเดินทางกลับ แม้ว่าหญิงสาวจะได้เจอชายหนุ่มคนที่ถูกถ่ายรูปไว้แล้วก็ตาม แต่เธออดที่จะคิดถึงรูปนี้ไม่ได้เพราะอย่างน้อยรูปนี้ก็อยู่เป็นเพื่อนเธอมาตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่สี่ปีเต็มๆ
อาเพิ่งจะวางสายจากเจเจ,เค้าโทรมาหาอา.. อึนโซเอ่ยขึ้นใบหน้าที่ระบายรอยยิ้มเมื่อครู่ค่อยๆหายไปก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง เจเจคงจะมีเรื่องกลุ้มใจ
เค้าโทรมาหาอา..ขอร้องให้อาช่วยเล่าเรื่องตอนที่อาไปตกปลากับพ่อของอาที่ทะเลสาบเวียวาลด์ให้ฟังอีกครั้งได้มั้ย..แค่นี้อาก็รู้แล้วว่าเจเจมีเรื่องให้เขาต้องทุกข์ใจ แค่พูดแค่นี้อาก็รู้เลยเหรอคะ.. โบอึนถามขึ้นอย่างสงสัยแปลกใจ ไปตกปลาครั้งนั้นมันเป็นช่วงเวลาอันแสนวิเศษที่อาได้อยู่กับพ่อตั้งสิบวันแน่ะ,เราใช้เวลาอยู่ร่วมกันมีอากับพ่อแค่สองคน งานของพ่อยุ่งมากการที่มีเวลาสิบวันร่วมกันสองคนพ่อลูกจึงเป็นเหมือนกับฝันไปเลยหล่ะ.เจเจจะให้อาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังถ้าวันไหนเขาไม่สบายใจขึ้นมา
วันนี้เจเจคงจะมีเรื่องให้ทุกข์ใจแน่ๆ อึนโซพูดเสียงเศร้ามองดูรูปหลานชายก่อนที่จะวางลงที่เดิม โบอึน
รักเจเจให้มากๆนะจ้ะ
อึนโซพูดเสียงอ่อนโยนมือบางยกขึ้นลูบผมหยักโศกยาวสลวยของโบอึนแผ่วเบาดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเธอมองผู้เป็นหลานสาวอย่างอบอุ่น หนูเป็นคนที่มีพรวิเศษ,หลานชายอาเค้าโชคดีที่มีหนูเป็นคนรัก
อึนโซส่งยิ้มให้กับหลานสาว
มีเพียงรอยยิ้มจากคนใบหน้าหวานซึ้งที่ส่งกลับไปให้อาของคนที่เธอรัก แม้มีคำพูดร้อยพันก็คงไม่เท่ากับรอยยิ้มและความจริงใจที่สื่อส่งผ่านให้กันและกันของสองสาวสองวัย ที่รักและหวังดีให้กับผู้ชายคนเดียวกัน โบอึนคิดถึงพรวิเศษที่อาอึนโซเอ่ยถึง ถ้าหากเธอมีพรวิเศษเช่นนั้นจริง เธอก็อยากจะขอให้จุงโจผู้ชายที่เธอรักได้รับพรวิเศษนี้ความสุขของเธอ
.คือพรวิเศษ
รู้มั้ยจุงโจ
มินยอง กิ๊กเจเจค่ะ อิอิ
ส่วนนี่ก็เจเจ สมัยละอ่อนค่ะ^ ^
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2553 |
|
13 comments |
Last Update : 5 มกราคม 2554 20:26:02 น. |
Counter : 1396 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณมากมายขอรับ
อ่านจบเมื่อไร จะมาเม้นท์ให้นะครับ