... มาแว้วๆ ***ยอดรักนักศิลป์ตอนที่ 26 ทางรอด *** OG 2 ตอน13-ตอนจบ** **คลิกอ่านทุกเรื่องได้ที่เมนูด้านซ้ายเลยจ้า.. ^_^
“ความทุกข์-หากเล่าสู่กันฟังจะลดลงครึ่งหนึ่ง ส่วนความสุข-ถ้าเราแบ่งปันมันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า” ขอบคุณลูกบล็อกทุกท่านที่ร่วมสร้างบล็อกแห่งความสุขนี้ขึ้นมา อยากให้พื้นที่ในบล็อกแห่งนี้ได้เป็นที่แบ่งปันทุกข์และสุขร่วมกัน จะไม่มีรักรูปแบบใดที่เป็นไปไม่ได้ ณ ที่แห่งนี้....วอนวอน
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
27 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
ตอนที่ 4 รักจู่โจม (Love Attack)



“คัท!” เสียงผู้กำกับดังขึ้นเมื่อการถ่ายทำออกมาเป็นที่น่าพอใจ ดาราสาวจึงเดินออกจากฉากมายังเต็นท์นักแสดง

“เหนื่อยหน่อยนะค่ะ แสดงได้ดีมากเลยค่ะ” อัญชันกล่าวขึ้นเมื่อเห็นดาราสาวเดินมา เธอจึงยิ้มตอบอย่างอ่อนโยน

“ไม่หรอกค่ะ เทคตั้งสามรอบ โดนผู้กำกับดุเลย” เธอกล่าวเสียงอ่อย

“ไม่เลยค่ะ เรื่องเทคนะใครๆเขาก็เป็น นักแสดงคนอื่นๆก็ยังเทคตั้งหลายทีเลยค่ะ เพราะงั้นคุณแชวอนเทคแค่สามครั้งเอง ก็อย่าคิดมากเลยนะค่ะ” อัญชันรีบหาเหตุผลมาปลอบใจดาราสาว เมื่อเธอได้ยินคำปลอบที่แสนน่ารักจากคนตัวเล็กก็เผยรอยยิ้มละลายใจ

“ขอบคุณนะค่ะ คุณอัญชัน” เธอกล่าว ร่างเล็กมองรอยยิ้มนั้นตาเยิ้ม ก่อนจะรู้สึกตัวและตั้งสติกลับมาวางมาดเป็นผู้ช่วยที่ดีตามเดิม

“คุณแชวอนคงจะหิวแล้วเดี๋ยวฉันไปเอาอาหารมาให้นะค่ะ” อัญชันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเวลาก็เลยเที่ยงมามากแล้ว

“ไม่ต้องก็ได้ค่ะเดี๋ยวฉันไปเอาเองค่ะ” แชวอนเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ แต่ก็ช้ากว่าร่างเล็กเพราะตอนนี้อีกคนเดินตัวปลิวไปยังเต็นท์อาหารแล้ว ดาราสาวจึงได้แต่มองตามร่างเล็กไป เธอสังเกตได้ว่าแม่ครัวพูดคุยหยอกล้อกับอัญชันอย่างเอ็นดู น่าแปลกทั้งที่อัญชันพูดภาษาเกาหลีไม่เป็นแท้ๆ แต่ดูนั่นจะไม่ใช่ปัญหาของเธอเลยแม้แต่น้อย แน่ละ ใครจะไม่หลงรักใบหน้าสดใสและท่าทางน่ารักของร่างเล็กๆนั้นได้ เอ๋!? หลงรักหรอ?

“นี่เธอคิดอะไรของเธออยู่เนี่ยแชวอน” ดาราสาวพูดกับตัวเองพลางส่ายหน้าให้กับความคิดไม่เป็นเรื่องของเธอ

“มาแล้วค่ะ!” เสียงใสดังขึ้นพร้อมกับถาดอาหารในมือ นั่นจึงทำให้ดาราสาวรู้สึกตัว

“เอ่อ...นี่มัน ค่อนข้างจะ...เยอะไปไหมค่ะ?” แชวอนเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นถาดอาหารที่อัญชันยกมา

“เอ๋? หรอค่ะ ขอโทษค่ะ เดี๋ยวฉันจะเอาไปคืนนะค่ะ” ร่างเล็กกล่าวพร้อมกับหันหลังกลับ

“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ....ฉันว่าถ้าเราทานด้วยกัน มันก็คงไม่มากไปหรอกค่ะ” แชวอนเอ่ยขึ้นให้ร่างเล็กหยุดชะงัก ก่อนจะหันกลับมาด้วยท่าทางเก็บอาการดีใจที่ดาราสาวชวนทานอาหารร่วมกัน อัญชันจึงวางถาดลงที่โต๊ะ ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้คิ้วจึงขมวดขึ้น

“มีอะไรรึเปล่าค่ะ?” ดาราสาวถามขึ้นเมื่อเห็นอาการของอีกคน

“เอ่อ....คือ นึกขึ้นได้ว่า ฉันทำคิมบับมานะค่ะ” ร่างเล็กกล่าวเสียงอ่อย แชวอนถึงกับหลุดขำที่อีกคนทำหน้าเครียดเพียงเพราะตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทานอะไรดี

“ถ้าอย่างงั้นก็เอาขึ้นมาทานด้วยกันสิค่ะ ฉันเองก็อยากลองทานคิมบับของคุณเหมือนกัน ถ้าคุณอัญชันอนุญาตนะค่ะ” แชวอนกล่าวอย่างอารมณ์ดี เมื่ออัญชันได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งไปเอาคิมบับของตนมาทันที เมื่อเปิดกล่องข้าวขึ้นก็พบกับข้าวห่อสาหร่าย ไม่สิดูเหมือนสาหร่ายมันจะถูกขยุ้มๆร่วมกับข้าวเอาไว้ซะมากกว่า ร่างเล็กมีอาการเขินอายทันทีที่ดาราสาวเห็นคิมบับฝีมือเธอ

“เอ่อ...มันดู...เหมือนคิมบับเลยนะค่ะ” แชวอนไม่รู้จะกล่าวอะไรเมื่อเห็นรูปร่างของมัน

“คุณแชวอนไม่ต้องทานก็ได้ค่ะ มันเละขนาดนี้ฉันว่า.....” อัญชันยังพูดไม่ทันจบมือบางก็เอื้อมไม่หยิบคิมบับขึ้นมาและเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย

“อืม....รสชาติไม่เลวเลยนะค่ะ ไม่สิอร่อยมากเลยค่ะ” ดาราสาวตอบเมื่อได้ลิ้มรสที่ขัดกับรูปลักษณ์ ทำให้ร่างเล็กถึงกับหุบยิ้มไม่ลง

“คุณอัญชันเก่งจังเลยค่ะ ทำอาหารอร่อยมากเลย” แชวอนยังคงชมไม่ขาดปาก

“ไม่หรอกค่ะ ฉันก็ทำเป็นแค่อย่างเดียวนี่ละค่ะ ถ้าคุณแชวอนชอบ ฉันทำมาให้ทานอีกก็ได้ค่ะ” ร่างเล็กตอบอย่างเขินอาย

“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณอัญชันเปล่าๆ” แชวอนท้วงขึ้นด้วยความเกรงใจ

“ไม่เลยค่ะ ฉัน...เต็มใจค่ะ” ร่างเล็กตอบอย่างหนักแน่น ดาราสาวจึงยิ้มรับอย่างขอบคุณ ทั้งสองทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุขโดยเฉพาะอัญชันที่ดูเหมือนจะอิ่มอกอิ่มใจทั้งที่ยังไม่ได้แตะอะไร เธอได้แต่นั่งมองภาพดาราสาวตรงหน้าที่พูดคุยเป็นกันเองอย่างสนิทสนม มันดูเป็นจริงและเรียบง่าย ช่างห่างไกลจากจินตนาการที่เธอเคยคิดฝัน หากแต่อีกเสี้ยวหนึ่งในห้วงคำนึงก็ทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นความจริง เธอได้แต่ภาวนาทุกคืนว่าเมื่อตื่นขึ้นขอให้เรื่องทั้งหมดไม่หายไปเหมือนความฝัน ขอให้สายตาคู่งามคู่นี้มองมาที่เธอและฉายภาพเธออยู่ในนั้นอย่างคนที่คุ้นเคยเหมือนเช่นชั่วขณะนี้

“คุณอัญชันค่ะ? คุณฟังฉันอยู่หรือเปล่าค่ะ?” ดาราสาวถามขึ้นเมื่อคู่สนทนาของเธอไม่มีการตอบสนองมาพักใหญ่

“ค่ะ? อ้อ..ค่ะ ค่ะ ฉันฟังอยู่” ร่างเล็กรีบตอบลนลาน

“คุณเนี่ย...อย่าบอกนะค่ะว่าฝันกลางวันอยู่ ฮิๆๆ” แชวอนพูดเหย้าขึ้น หากแต่เธอคงไม่รู้ว่ามันแทงใจคนฟังเข้า อัญชันจึงได้แต่หัวเราะ แฮะๆ “อ้า...ฝันกลางวันหรอ ถูกต้องที่สุดเลย” ร่างเล็กนึกขึ้นในใจ


เมื่อหมดคิวถ่ายของวันนี้ ดาราสาวจึงเดินทางกลับไปพร้อมกับอัญชันในรถตู้สีขาวคันเดิม ก่อนที่มือถือของเธอจะดังขึ้น

“ค่ะคุณจาง.............อะไรนะค่ะ! แล้วอย่างนี้ใครจะไปเป็นเพื่อนฉันละคะ....ฉันเข้าใจค่ะ” เธอวางสายด้วยอาการกลัดกลุ้ม

“มีอะไรหรือค่ะ?” อัญชันจึงถามขึ้นอย่างสงสัย

“คุณจางเขาไม่ว่างไปงานกับฉันคืนนี้นะค่ะ พอดีว่าญาติเขาป่วยกะทันหัน เฮ้อ...ฉันคงต้องไปคนเดียวแล้วละค่ะ” แชวอนเล่าเรื่องที่คุณจางบอกมาตามสาย อัญชันที่ได้เห็นใบหน้ากลัดกลุ้มนั้นก็ครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะโพล่งออกไป

“ให้ฉันไปแทนก็ได้ค่ะ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร” ร่างเล็กกล่าวขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

“เอ๋? แต่คุณอัญชันมีเรียนไม่ใช่หรือค่ะ?” ดาราสาวถามขึ้นอย่างสงสัย

“เอ่อ....วันนี้ฉันไม่มีเรียนนะค่ะ” อัญชันตอบ หากแต่ความจริงนั้นเธอมีคราสเรียนตามปกติเช่นเดิม แต่เพราะความเป็นห่วงและเพราะใบหน้ากลัดกลุ้มนั้นทำให้เธอเอ่ยเช่นนี้

“จริงหรอค่ะ! ดีจัง ขอบคุณนะค่ะ นึกว่าต้องไปงานคนเดียวซะแล้ว ดีจริงๆเลยค่ะ คุณเป็นนางฟ้า(Angel) ของฉันจริงๆ” แชวอนเอ่ยขึ้นอย่างดีใจพลางเข้าไปกุมมือร่างเล็กไว้อย่างขอบคุณ “คุณต่างหากที่เป็นนางฟ้า (Angel)” อัญชันคิดในใจ

เมื่อรถตู้มาถึงที่บริษัทแชวอนก็รีบเข้าไปแต่งตัวเพื่อเตรียมไปงานประกาศรางวัลผลโหวตดารายอดนิยมที่ให้แฟนๆโหวตผ่านเว็บไซต์ เธอสวมชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนแหวกสูง ดูราวกับว่าเธอเป็นนางฟ้าจริงๆ อัญชันถึงกับตาค้างทันทีที่ดาราสาวเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

“คุณอัญชันค่ะ? เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ?” แชวอนถามขึ้นเมื่อเห็นอาการตกตะลึงตาค้างของอัญชัน หากแต่ร่างเล็กไม่ตอบใดๆเพราะยังตกอยู่ในภวังค์ ทำให้ดาราสาวเริ่มวิตกว่าอีกคนเกิดอาการแปลกๆขึ้นอีกแล้วหรือ เธอจึงเดินเข้าไปหาร่างเล็กและใช้มือบางอังหน้าผากของอัญชันไว้ นั่นจึงทำให้ร่างเล็กรู้สึกตัวขึ้นเมื่อถูกประชิดตัว หน้าอัญชันแดงก่ำทันที

“ไม่สบายหรือเปล่าค่ะคุณอัญชัน? หน้าคุณ...แดงมากๆเลยค่ะ” ดาราสาวเอ่ยถามเมื่อเห็นใบหน้าของร่างเล็กแดงขึ้น หากแต่คนที่โดนประชิดตัวอยู่ในอาการอึ้งกิมกี่จึงได้แต่ส่ายหน้าไปมาเป็นคำตอบ

“คุณแน่ใจนะค่ะ?” แชวอนยังคงเป็นห่วงเพราะอาการแปลกๆของร่างเล็กยังไม่หายไป คราวนี้เธอจึงใช้หน้าผากของตนเองแทนฝ่ามืออังหน้าผากของร่างเล็กเพื่อวัดอุณหภูมิให้มั่นใจ อัญชันยืนตัวแข็งทื่อและหยุดหายใจไปชั่วขณะทันที หน้าที่แดงอยู่ก่อนกลับยิ่งแดงเข้าไปใหญ่

“เอ๋ แปลกจัง ตัวก็ไม่ร้อนนีน่า.....คุณแน่ใจนะค่ะว่าไม่เป็นอะไรจริงๆ?” ดาราสาวถามอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ อัญชันได้แต่พยักหน้าตอบ ก่อนที่แชวอนจะยอมผละมือจากร่างเล็กและมานั่งให้ช่างแต่งหน้าแต่งให้เธออย่างจริงจัง ร่างเล็กจึงอาศัยจังหวะนั้นเดินออกจากห้องไป เมื่อออกมายังทางเดินเธอพยายามตั้งสติแต่ภาพเหตุการณ์เมื่อสักครู่นั้นยังฝั่งอยู่ในความทรงจำ ภาพใบหน้านวลของดาราสาวที่ลอยเข้ามาใกล้กับหน้าของเธอนั้นทำให้ร่างเล็กกรีดร้องออกมาอย่างดีใจ ก่อนจะหันซ้ายหันขวาดูว่าไม่มีคนอยู่ เธอจึงกรี๊ดออกมาอีกครั้งหนึ่งและกระโดดโลดเต้นอย่างลืมตัว ก่อนจะหันมาเจอเข้ากับพนักงานในบริษัทคู่หนึ่งที่เดินผ่านมาแถวนั้น พวกเขามองเธอแปลกๆกับท่าทางที่เธอทำ ร่างเล็กจึงแสร้งทำเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วรีบเดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวตามเดิม เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องร่างเล็กที่ต้องนั่งคอยดาราสาวแต่งหน้าก็เกิดผล็อยหลับไป

“คุณอัญชัน คุณอัญชันค่ะ?” เสียงร่างบางเรียกพลางเขย่าร่างเล็กที่ฟุบหลับอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง อัญชันค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างสลึมสลือก่อนจะเห็นร่างของดาราสาว เธองดงามราวกับนางฟ้าจนร่างเล็กคิดว่าตนเองฝันอยู่ จึงตบเข้าที่ใบหน้าของตนอย่างแรง เพี๊ยะ! หน้าอัญชันหันไปตามแรงมือและรอยแดงก็ปรากฏขึ้นบนแก้มน้อยๆนั้น

“ว้าย! คุณอัญชัน คุณตบหน้าตัวเองทำไมค่ะ? เป็นอะไรไหมค่ะเนี่ย?” ดาราสาวตกใจกับการกระทำของอีกฝ่ายและเข้าไปดูอาการอย่างเป็นห่วง

“ตายจริงเป็นแนวเลยค่ะ เจ็บมากไหมค่ะ?” แชวอนลูบรอยแดงนั้นอย่างเบามือ สัมผัสของดาราสาวทำให้อัญชันมั่นใจแล้วว่าเธอตื่นอยู่ เพราะตอนนี้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำ

“ม่ะ....ไม่เป็นไรค่ะ แฮะๆ มันเป็นวิธีคลายง่วงของฉันนะค่ะ” ร่างเล็กแถเอาดื้อๆ ทำให้อีกคนถึงกับเลิกคิ้วสงสัย แต่ก็ต้องยอมรับอย่างจำใจ เพราะเธอก็ชักจะเริ่มชินกับอาการแปลกๆของผู้หญิงร่างเล็กคนนี้ซะแล้ว

“ถ้าคุณอัญชันง่วงจะไม่ไปก็ได้นะค่ะ ฉันไปคนเดียวได้ค่ะ” แชวอนเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจที่ทำให้อีกคนต้องลำบาก

“ไม่ค่ะ! ไม่เลยค่ะ ฉัน..ตอนนี้ฉันกระปรี้กระเปร่าสุดๆเลยค่ะ” อัญชันรีบลุกขึ้นและทำท่าแข็งขันทันที ดาราสาวถึงกับหลุดขำให้กับท่าทางของเธอ

“ฮึๆๆ ถ้าอย่างงั้นก็รบกวนด้วยนะค่ะ ไปกันเถอะค่ะ” ร่างบางบอกพร้อมรอยยิ้มละลายใจก่อนจะเดินนำออกไป


เมื่อรถทีทั้งสองนั่งมาจอดตรงพรมแดงประตูรถก็ถูกเปิดออก ดาราสาวก้าวลงจากรถอย่างสง่างาม เธอโบกมือให้กับแฟนๆที่มารอต้อนรับ เสียงชัตเตอร์ดังระงมพร้อมๆกับแสงแฟลชที่สาดมายังร่างบางจนแทบตาพร่า ร่างเล็กลงรถตามมาห่างๆและมองดาราสาวอย่างชื่นชม เธอดูโดดเด่นและเปล่งประกายดั่งดวงดาวยามราตรี เมื่อเธอเดินพ้นตากล้องและเข้าไปสู่ประตูงาน ร่างเล็กจึงรีบวิ่งตามไปทันทีแล้วนำเสื้อคลุมมาคลุมให้แก่ร่างบาง

“ขอบคุณค่ะ” แชวอนหันมาขอบคุณด้วยรอยยิ้ม ร่างเล็กยิ้มรับด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนเช่นกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้างานไป แต่อัญชันก็เว้นระยะห่างเพื่อให้ง่ายต่อดาราสาวในการสัมภาษณ์หรือทักทายคนในวงการ เธอช่วยจับชายกระโปรงที่ลากยาวและจัดแต่งชุดให้เข้าที่เพื่อให้ถ่ายภาพออกมาดูดี อัญชันคอยดูแลดาราสาวเป็นอย่างดี
เมื่องานการประกาศรางวัลเริ่มขึ้นดาราสาวจึงไปนั่งประจำที่ที่โต๊ะของเธอ โดยมีสายตาของอัญชันมองด้วยความเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา แชวอนเองก็รู้สึกได้ถึงสายตาอ่อนโยนนั้น เธอไม่เคยคิดว่าการออกงานจะน่าสนุกขนาดนี้มาก่อน นั่นคงเป็นเพราะมีคนร่างเล็กมาด้วยกระมัง จึงทำให้เธอรู้สึกเช่นนี้ ดาราสาวอมยิ้มให้กับความรู้สึกอบอุ่นที่เกิดขึ้นในใจ

“เอ๋? ยิ้มอะไรจ๊ะแชวอน?” ดาราที่นั่งข้างๆทักขึ้นเมื่อเห็นร่างบางอมยิ้มอยู่

“อ่ะ....อ้อ...เปล่าค่ะ ฮิๆๆ” แชวอนรีบแก้ตัวทันที ใครจะบอกได้ละว่ายิ้มเพราะผู้ช่วยสาวมางานด้วย ว่าแล้วเธอก็หันไปมองอัญชันแว๊บหนึ่งและรีบหันกลับไปทันที เพราะกลัวว่าอีกคนจะเห็นใบหน้าแดงก่ำของเธอ นั่นทำให้ร่างเล็กถึงกับทำหน้างงให้อาการรุกรี้รุกรนของดาราสาว เมื่อการประกาศรางวัลสิ้นสุดลงอัญชันก็รีบเดินเข้าไปหาร่างบางทันทีพร้อมกับคลุมเสื้อคลุมให้ร่างบางอีกครั้ง ทำให้ทั้งสองสบตากันพักหนึ่ง ก่อนที่กลุ่มนักข่าวจะเข้ามารุมล้อมแชวอนเพื่อถามถึงผลงานที่กำลังถ่ายทำอยู่ อัญชันจึงต้องหลบฉากไปอย่างช่วยไม่ได้ แต่ดูเหมือนคำถามจะมีมาอย่างไม่สิ้นสุดจนดาราสาวเริ่มจะเบื่อกับการตอบคำถามเสียแล้ว หากแต่คงดูไม่ดีแน่ถ้าเธอเอ่ยปากขอตัวไปก่อน

“ขอโทษนะค่ะ คุณแชวอนต้องกลับแล้วค่ะ” อัญชันเดินเข้ามาโอบร่างบางและเดินผ่าวงล้อมนักข่าวออกไป แชวอนรู้สึกคาดไม่ถึงจริงๆว่าร่างเล็กจะรู้ความรู้สึกของเธอและเข้ามาช่วยเธอแบบนี้ เมื่อออกมาพ้นกลุ่มนักข่าวแล้วอัญชันจึงคลายวงแขนที่โอบร่างบางออก

“ขอบคุณนะค่ะ คุณอัญชัน ไม่อย่างงั้นฉันคงไม่ได้กลับบ้านแน่ๆเลย” ดาราสาวกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ทำให้ร่างเล็กรู้สึกเขิน

“ไม่เป็นไรค่ะ” อัญชันตอบพลางก้มหน้างุดให้ดาราสาวเอ็นดูกับท่าทางนั้น จากนั้นทั้งสองจึงนั่งรถกลับ โดยอัญชันเสนอให้ไปส่งแชวอนที่คอนโดก่อน เมื่อรถมาจอดยังหน้าคอนโดของดาราสาว ร่างเล็กก็ยังลงไปส่งเธอถึงหน้าประตูทางเข้า

“วันนี้ขอบคุณมากนะค่ะคุณอัญชัน ที่ช่วยไปงานเป็นเพื่อนฉัน” แชวอนก้มขอบคุณอัญชัน ร่างเล็กเห็นดังนั้นก็รีบลนลานก้มตอบจึงทำให้ศีรษะทั้งสองชนกัน โอ้ย!

“ขอ..ขอโทษค่ะคุณแชวอนเป็นยังไงมั่งค่ะ?” อัญชันถามอย่างเป็นห่วงและรีบเข้าไปดูศีรษะของดาราสาวทันที ทั้งที่คนที่เจ็บกว่าคือเธอ นั่นทำให้แชวอนยิ่งรู้สึกประทับใจร่างเล็กเข้าไปใหญ่

“ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ คุณอัญชันต่างหาก หน้าผากคุณแดงเลย” เธอกล่าวพร้อมกับลูบหน้าผากของอัญชัน

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่นี้เอง” ด้วยความเขินอายร่างเล็กจึงถอยหนีมือบางนั้น เธอยังคงความขี้อายไว้เสมอ แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์ที่แชวอนเองคิดว่าน่าเอ็นดูเป็นที่สุด

“ถ้าอย่างงั้นก็....ราตรีสวัสดิ์นะค่ะ” แชวอนกล่าวก่อนจะหันหลังเดินเข้าคอนโดไปแต่เพราะทางเข้าเป็นพื้นต่างระดับทำให้เธอสะดุดกับขอบประตู ข้อเท้าน้อยๆของเธอพลิกร่างบางจึงเซไปข้างหน้าแต่ทันใดนั้นอ้อมแขนหนึ่งก็กอดร่างเธอไว้ไม่ให้ล้มลง

“คุณแชวอน? เป็นยังไงบ้างค่ะ?” อัญชันที่กอดร่างบางอยู่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“ม่ะ...ไม่เป็นไรค่ะ” แชวอนตอบติดอ่างเพราะตอนนี้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ และเพราะแชวอนหันหลังให้ร่างเล็กจึงไม่รู้เลยว่าตอนนี้ใบหน้าของดาราสาวแดงก่ำขนาดไหน ร่างบางที่อยู่ภายในอ้อมแขนเล็กๆนั้นเริ่มรู้สึกร้อนวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก แต่แล้วก็ต้องรู้สึกใจหายที่อีกคนดันคลายวงแขนนั้นซะได้ อัญชันสำรวจดูว่าดาราสาวได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า

“ฉันไม่เป็นไรจริงๆค่ะ...โอ้ย!” ร่างบางบอกเมื่อเห็นอีกคนมองเธออย่างสำรวจ แต่ก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อลงน้ำหนักไปที่เท้าขวาซึ่งพลิกไปเมื่อครู่

“คุณแชวอน!” ร่างเล็กรีบคุกเข่าลงดูข้อเท้านั้นทันที เธอพบว่ามันแดงและปูดขึ้นเล็กน้อย

“คุณข้อเท้าพลิกนี่” อัญชันเอ่ยอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เองเดี๋ยวฉันทายาก็คงจะหาย นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันว่าคุณอัญชันรีบกลับได้แล้วละค่ะ อีกอย่าง คนขับเขารออยู่นะค่ะ” แชวอนตอบด้วยความเกรงใจและไม่อยากให้อีกคนเป็นห่วง ร่างเล็กจึงครุ่นคิดสักครู่

“เดี๋ยวรอแป๊บนึ่งนะค่ะ” อัญชันพูดก่อนจะวิ่งไปยังรถที่มาส่งพวกเธอ เธอคุยกับคนขับรถสักพัก รถก็แล่นออกไปเธอจึงวิ่งกลับมาหาร่างบาง

“ไปค่ะ ฉันจะไปส่งคุณที่ห้องเอง” อัญชันเข้าไปประคองร่างบางไว้และพาเธอเดินไปด้วยกัน แชวอนรู้สึกตกใจที่อัญชันกลับมาหาและแอบยินดีไปพร้อมๆกัน ร่างเล็กประคองเธอจนมาถึงห้อง เมื่อเข้ามาภายในห้องร่างเล็กพาเธอไปนั่งยังโซฟา และค่อยๆถอดรองเท้าส้นสูงให้เธออย่างเบามือ ร่างเล็กมองข้อเท้าน้อยด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวและออกมาพร้อมกับผ้าห่อน้ำแข็ง อัญชันนำมันมาประคบที่ข้อเท้านั้น

“โอ้ย!....” ร่างบางร้องออกมาเล็กน้อยและพยายามหลีกเลี่ยงเมื่อถูกประคบ

“อดทนหน่อยนะค่ะ” ร่างเล็กกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนจึงทำให้ร่างบางยอมทำตามอย่างว่าง่าย ดาราสาวมองภาพที่อัญชันประคบข้อเท้าให้อย่างจริงจังนั้น ทำให้เธอเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นกลางใจ เป็นความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนแต่ทว่าก็ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวไปพร้อมๆกัน มันคืออะไรกันนะความรู้สึกนี้?

“เดี๋ยวประคบต่อไปเรื่อยๆนะค่ะ ว่าแต่ตู้ยาอยู่ตรงไหนหรือค่ะ?” อัญชันเงยหน้าขึ้นถามร่างบางทำให้เธอถึงกับตกใจ จึงรีบชี้ไปยังตำแหน่งตู้ยาสามัญประจำบ้านซึ่งอยู่ข้างกำแพง ร่างเล็กลุกไปตามที่อีกคนชี้ เธอเปิดตู้ยาเลือกมาสองสามชนิดจึงกลับมาหาร่างบางอีกครั้ง

“นี่ยาแก้ปวดและแก้อักเสบรีบทานเลยนะค่ะ ส่วนนี่เป็นยาทาบรรเทาอาการปวด เอาไว้ทาพรุ่งนี้นะค่ะ” เธอยื่นมันให้ร่างบาง ดาราสาวได้แต่รับไว้ด้วยใบหน้าเหรอหรา

“คุณอัญชันเก่งจังค่ะ รักษาอาการบาดเจ็บก็ได้” แชวอนเอ่ยขึ้นอย่างชื่นชม

“ไม่หรอกค่ะ เพราะฉันซุ่มซ่าม เรื่องข้อเท้าพลิกหรือแผลถลอกเนี่ยฉันเป็นบ่อยค่ะ ก็เลยพอจะรู้วิธีรักษาบ้าง” ร่างเล็กรีบตอบท่อมตน

“แล้วแบบนี้คุณอัญชันจะกลับยังไงละค่ะ คนขับรถก็ไปซะแล้ว” แชวอนเอ่ยขึ้น จึงทำให้ร่างเล็กนึกขึ้นได้ แม้จะเป็นคนบอกให้คนขับกลับไปเอง แต่ตัวอัญชันเองก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิท

“เอ่อ....เรื่องนั้น.....ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันกลับเองได้ค่ะ” อัญชันตอบอย่างหนักแน่นเพื่อไม่ให้ดาราสาวต้องกังวล

“แต่มันดึกมากแล้วนะค่ะ” แชวอนยังคงกังวลอยู่

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันเรียกแท็กซี่มารับ ว่าแต่ก่อนอื่นรีบทานยาเถอะค่ะ” ว่าแล้วอัญชันก็เดินไปเอาแก้วน้ำมาให้ร่างบาง นั่นจึงดึงความสนใจของเธอไปได้ เธอยอมทานยาอย่างว่าง่าย ก่อนที่อัญชันจะเห็นว่าน้ำแข็งเริ่มละลายไปมากแล้วจึงเอาไปเปลี่ยนให้ใหม่ ร่างเล็กประคบประหงมข้อเท้านั้นอยู่นานจนแน่ใจว่าดาราสาวดีขึ้นมากแล้ว

“มันยุบลงแล้ว แต่คงยังเจ็บอยู่พยายามอย่าเดินมากนะค่ะ แล้วก็...อย่าลืมทายาด้วยนะค่ะ” ร่างเล็กบอกอย่างจริงจัง ทำให้ดาราสาวเผลอหลุดขำออกมาที่ถูกอีกคนทำเหมือนเธอเป็นเด็กเล็กๆ

“ทราบแล้วค่ะ คุณหมอ” เธอจึงตอบเหย้าให้อีกคนหน้าแดง

“ถ้ายังงั้น....ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” อัญชันจึงบอกลากับร่างบางด้วยท่าทางเขินอาย ดาราสาวจึงจะลุกขึ้นเพื่อเดินไปส่งเธอที่ประตู แต่อัญชันก็รั้งให้ร่างบางนั่งลงไปตามเดิม

“ไม่เป็นไรค่ะ อย่าเพิ่งลุกเลยนะค่ะ” อัญชันบอกกับร่างบางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เหลือเพียงรอยสัมผัสและน้ำเสียงอันอ่อนโยนที่ยังติดตรึงอยู่ในใจของดาราสาว รอยยิ้มผุดขึ้นโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว ตอนนี้เธอคงจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงใครบางคนที่เคยนั่งอยู่กลางใจคนนั้นด้วย เพราะตอนนี้ผู้หญิงร่างเล็กนิสัยแปลกกำลังเข้ามายึดครองพื้นที่หัวใจของเธอซะแล้ว

ขณะเดียวกันร่างเล็กที่เดินลงมาจากคอนโดก็เริ่มเครียดว่าตนจะกลับบ้านยังไง ถึงบอกดาราสาวไปว่าจะเรียกแท็กซี่มารับ แต่ลำพังตัวเธอซึ่งมีเงินอยู่น้อยนิดจะไปมีปัญญาจ่ายค่ารถได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีทางเลือกเธอจึงหยิบมือถือของตนขึ้นมาและกดไปยังคนที่เธอคิดว่าจะขอความช่วยเหลือได้

“ต้องขอโทษและขอบคุณคุณปาร์คมากนะค่ะ ดึกดื่นขนาดนี้แล้วแท้ๆ” อัญชันเอ่ยอย่างเกรงใจพร้อมก้มขอบคุณจินโฮที่กำลังขับรถอยู่

“อย่าพูดอย่างงั้นเลยครับ ผมเต็มใจ แล้วก็ถือเป็นการขอโทษคุณเรื่องเมื่อคราวก่อนที่ฮโยจูก่อเรื่องด้วย” เขาหันมาตอบด้วยใบหน้าอ่อนโยนเช่นเคย

“เรื่องนั้น...ฉันก็ไม่ได้ติดใจอะไรหรอกค่ะ” อัญชันตอบหน้าเจื่อน

“ผมดีใจนะครับที่คุณไม่ถือสาเธอ อันที่จริงฮโยจูเขาก็แค่อารมณ์ร้อนไปหน่อย เพราะจริงๆเขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ผมว่าไม่แน่คุณอึนชันกับเธออาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ได้นะครับ” จินโฮพูดเป็นวรรคเป็นเวรก่อนจะหันกลับไปหาร่างเล็ก แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเธอผล็อยหลับไปซะแล้ว

“คงเหนื่อยมากซินะครับ คุณอึนชัน” จินโฮเอ่ยขึ้นอย่างเอ็นดู

เมื่อจินโฮขับรถมาถึงบ้านของอัญชันแต่ร่างเล็กก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น จินโฮจึงต้องจำใจปลุกร่างเล็ก

“คุณอึนชันครับ ถึงแล้วนะครับ คุณอึนชัน” จินโฮเรียก แต่เธอกลับไม่ตอบสนองเขาจึงเข้าไปใกล้เพื่อจะเรียกอีกครั้ง แต่เมื่อได้เห็นใบหน้านั้นใกล้ๆมันก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากจะสัมผัสมัน เขาค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าแสนรักนั้น ลูบไล้แก้มใสที่เขาหลงใหล

“อืม.....” เสียงร่างเล็กละเมอออกมาเบาๆ นั่นจึงทำให้เขาหยุดมือก่อนจะตัดสินใจเขย่าร่างเล็กให้ตื่น

“คุณอึนชันครับ ถึงแล้วครับ” จินโฮเรียกพร้อมเขย่า ร่างเล็กจึงสลึมสลือตื่นขึ้น ก่อนจะลงรถไป จินโฮจึงตามลงไปส่งที่หน้าประตู

“ขอบคุณคุณปาร์คมากนะค่ะ ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดี” อัญชันกล่าวอย่างเกรงใจ

“ทั้งที่ผมก็บอกแล้วว่าเป็นการขอโทษเรื่องวุ่นวายคราวก่อน แต่คุณก็ยังอยากจะตอบแทนผมอีก ถ้าอย่างงั้นผมก็ขอฉวยโอกาสนี้แล้วกันนะครับ” จินโฮตอบอย่างอารมณ์ดี

“เอ๋?” อัญชันถึงกับร้องเสียงหลง

“เอาเป็นว่า ผมขอให้คุณ เลิกเรียกผมว่าคุณปาร์คจะได้ไหมครับ” จินโฮเฉลย

“แล้วจะให้ฉันเรียกว่าอะไรละค่ะ?” อัญชันถามอย่างสงสัย

“เรียกชื่อผมสิครับ เอ้าไหนลองเรียกสิครับ” จินโฮเอ่ย

“เอ่อ....ค่ะ คุณปา...เอ้ย คุณจินโฮ” อัญชันจึงต้องทำตามอย่างช่วยไม่ได้

“ครับผม....ราตรีสวัสดิ์นะครับ คุณอึนชัน” จินโฮตอบรับอย่างชอบใจ

“เอ่อ...ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” อัญชันก็ได้แต่ตอบไปอย่างงงๆแล้วจึงเดินเข้าบ้านไป


Teddy Bear – ดึกมากแล้วคุณยังไม่นอนอีกหรอ?

Bbong9 – แล้วคุณละทำไมยังไม่นอน?

Teddy Bear – ฉันเป็นห่วงคุณนะ ดูแลตัวเองด้วยละ (◕〝◕)

Bbong9 – ฮิฮิ ฉันมีคนดูแลดีอยู่แล้วล่ะ (●*∩_∩*●)

Teddy Bear – ⊙0⊙ ใครหรอ?

Bbong9 – คนที่คุณไม่รู้ว่าใคร ฮิฮิ (◕‿-。)

Teddy Bear – (づ ̄³ ̄) อารมณ์ดีเชียว ต้องมีอะไรแน่ๆเลย

Bbong9 – มีซิ แต่ไม่บอกหรอก :p เพราะฉันเอง...ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

Teddy Bear – เอ๋? เอาเถอะ แต่ถ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ คุณบอกฉันได้นะ ฉันพร้อมจะรับฟังเสมอ。◕‿◕。

Bbong9 – ขอบคุณนะเท็ดดี้ คุณเป็นคนดีจัง เหมือนเทวดาเลย (Angel)

Teddy Bear – คุณต่างหากละที่เป็นนางฟ้า (Angel)





Create Date : 27 มกราคม 2554
Last Update : 27 มกราคม 2554 15:01:35 น. 7 comments
Counter : 798 Pageviews.

 
วิน เพลงที่ส่งมาลงแล้วเพลงไม่ขึ้นอ่ะ เวปนี้ไม่ถูกกับพันทิป ป่าว


โดย: albatross11 วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:10:31:53 น.  

 
สาวเจ้าเริ่มอ่อนไหวแล้วสิ
เรื่องราวจะเดินไปทางไหนต่อ
รอ รอ


โดย: mai.ka IP: 223.205.79.179 วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:13:10:56 น.  

 
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพลงาแล้วขอบคุณค่ะ ผอ มาครบจัดเต็มทั้งภาพและเสียง จ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ :3


โดย: windy IP: 183.89.26.73 วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:15:11:55 น.  

 
ไม่ได้เข้ามาเสียนาน คุณ windy ยังแต่งได้ดีเหมือนเดิม ขอบคุณ นะขอรับ


โดย: น้ำลายศอ IP: 165.208.150.3, 203.154.146.54 วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:48:22 น.  

 
มาอัพต่อไวๆน้าคุณวินดี้


โดย: anong_2moon IP: 223.205.151.208 วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:21:38:43 น.  

 
วิน ขอบคุณครับน่ารักสุดๆเลยฮะ ความรักเนี่ยเกิดตอนไหนไม่รู้หรอกรู้แต่ว่ามีความสุขเวลาที่ได้อยู่ใกล้เขา ^_^


โดย: เกษตรศิลป์ IP: 58.9.59.6 วันที่: 21 เมษายน 2554 เวลา:1:19:22 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณเกษตรศิลป์จ้า เพราะพอรู้ตัวอีกทีก็รักเค้าไปแล้วอ่ะซี่


โดย: anong_2moon IP: 223.205.218.24 วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:21:40:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

albatross11
Location :
สุรินทร์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




รักกันเพียงใดก็ต้องพลัดพราก หวงไว้เพียงใดก็ต้องจำจาก ข้ามาคนเดียวข้าไปคนเดียว ไม่มีใครเป็นอะไรของใคร ต่างคนมาต่างคนไป ยิ่งยึดยิ่งทุกข์ ปล่อยวางได้จึงเบาสบาย... เมื่อปัญญาแจ่มแจ้งจะสลัดคืน เมื่อมาจากดิน ท้ายที่สุดก็สลายกลายเป็นดิน ยึดเอาไว้ก็ได้แต่ทุกข์ตอบแทน อยากโง่ก็ยึดต่อไป คิดได้ก็วางเสีย พุทธทาสภิกขุ............ .............................. .............................. ความทุกข์ที่เกิดจากการพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่พอใจนั้น เป็นเรื่องทรมานยิ่ง และเรื่องที่จะบังคับมิให้พลัดพรากก็เป็นสิ่งสุดวิสัย... ทุกคนจะต้องพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ที่พอใจ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง...พุทธโอวาท --------------------------- พระราชดำรัส ในรัชกาลที่ 7 เมื่อทรงสละพระราชสมบัติ เพื่อประชาชน ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจ อันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรทั่วไป ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจโดยสิทธิ์ขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร
New Comments
Friends' blogs
[Add albatross11's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.