ออกเดินทางออกจากกรุงเทพฯ พวกเราไปกัน 4 คนมี Tang & Steinar and Nang & Øyestain พวกเราเรียกแท็กซี่ไปกันเพราะสะดวกและจะได้ไม่เหนื่อยขับรถ ทีแรกกะว่าจะขับรถไปกัน จุดมุ่งหมายที่หาดเจ้าสำราญเพราะใกล้กรุงเทพมากที่สุดและไม่เหนื่อยกับการนั่งรถมาก คุณสามี (Steinar)ตอนนั้นยังเป็นแค่แฟน ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจเค้าเอาซีดีเพลงฝรั่งไปด้วย แล้วก็เปิดเพลงในรถแท็กซี่ระหว่างทางที่นั่งรถไปตลอดทางเลย 2 หนุ่มร้องเพลงคลอไปกับซีดี มีความสุขสนุกสนานกันใหญ่ แต่เราสองสาว สองพี่สอง(นางเป็นลูกป้า) ก็มองหน้ากันแล้วก็ขำเป็นเวลาที่เรามีความสุขและสนุกกันจริงๆ มีหยุดพัก ระหว่างทางหาเครื่องดื่ม(แอลกอฮอล์) ได้แสงโสมแบนเท่านั้นแหละสองหนุ่มก็ยิ่งคึกคักกันใหญ่
ไปถึงหมู่บ้านหน้าหาดก็ไปหาที่พัก เราเคยไปพักที่สถานพักฟื้นและตากกอากาศของทหารก็เลยลองเข้าไปถาม ถูกใจบ้านบังกะโลหลังใหญ่ที่มี 2 ห้องนอน แล้วยังมีระเบียงให้นั่งพักผ่อน บริเวณข้างนอก มีห้องนั่งเล่นในบ้าน ราคาก็ไม่แพง 2,500 บาทต่อคืน แต่ขอโทษคุณสามีพอไปนั่งเตียงเท่านั้นแหละ บอกเตียงแข็งมากนอนเข้าไปได้งัยฉันนอนไม่ได้ฉันปวดหลัง(เขาเคยผ่าตัดหลังมาสิบกว่าปีแล้วล่ะ) เลยต้องย้ายใหม่หาที่ใหม่ แวะถามชาวบ้านข้างทางเลยได้ความว่ามี Resort ชื่อ บลูสกาย รีสอร์ท อยู่หน้าหาดฝั่งโน้นแหนะชาวบ้านบอก ก็เลยขับรถต่อไปได้สักพักก็เห็นป้าย เลยเดินไปดูห้อง สวยมากถูกใจทั้งคุณสาวๆและคุณหนุ่มๆ เราได้หักพัก VIP 2-3 นางและเอ้ยสเตน พักที่ VIP สอง ส่วนแตงกะสไตน่าร์พักที่ VIP 3 ห้องน่าอยู่มากเป็นห้อง ซีวิวและมี สระว่ายน้ำติดกับทะเล บ้านหลังที่เราอยู่ก็เลยติดกับสระว่ายน้ำแล้วยังได้เห็นทะเล และได้ยินเสียงคลื่นด้วย มีความสุขจัง เราพักที่ VIP 3 หนึ่งคืนแล้วต้องย้ายไป VIP 1 อีกเพราะความจริงมีลูกค้าจองไว้ก่อนหน้าที่พวกเราจะไปแล้วรวมแล้วเราอยู่ที่บลูสกาย 3 คืน
กิจกรรมหนุ่มๆ คืนถอดเสื้อแล้วก็เดินริมหาด นั่งผึ่งแดดจนตัวแดงเกรียม กระโดดลงสระน้ำ กระโดดลงทะเล กิจกรรมสาวๆคือกิน หาอาหารทะเลทั้งย่าง ทั้งนึ่งมากินกันเอร็ดอร่อย แล้วกระโดดลงสระน้ำบ้างบางครั้งไม่นานเพราะกลัวตัวดำ ฮ่าๆ กิจกรรมตอนเย็นพวกเราไปนั่งฟังเพลงกันที่ร้านอาหารริมทะเล ชื่อร้านรับลมชมทะเล มีนักร้องสองสามีภรรยาที่ร้องเพลงได้ถูกใจหนุ่มๆ(เพลงฝรั่ง) และเราก็มีเต้นรำกันเล็กน้อย ส่วนนางและเอ้ยสเตน นั้นขาเต้นเต้นได้ทุกจังหวะ สนุกและมีความสุขกันมากเลย เหมือนโลกนี้มีแต่พวกเราเพราะเราไปกันตอนช่วงกลางสัปดาห์ไม่มีคนเยอะ ร้านทั้งร้านมีลูกค้าคือโต๊ะเราโต๊ะเดียวแล้วก็มีคนอื่นบ้างไม่เกิน สองโต๊ะ ก็เลยถือเป็นเวลาของเราเป็นเวลาแห่งความสุขที่นึกถึงทีไรก็มีความสุข
เพราะหลังจากที่เราได้มีเวลาศึกษากันและกัน ทำความรู้จักและรู้สึกดีที่ได้พักผ่อนจากวันทำงานที่เหนื่อยล้าแล้วที่บลูสกาย รีสอร์ทแล้วหลังจากนั้น 2 เดือนเราก็แต่งงานกันจ๊ะ
น้องๆที่บลูสกาย ก็จำพวกเราได้ น่ารักและบริการดีเลิศมากค่ะ ขอบคุณน้องๆจริงๆ
หลังจากพวกเราก็แต่งงานกันเราก็ยังไปบลูสกาย รีสอร์ทกันหลายครั้ง เกือบทุกครั้งที่สไตน่าร์มาเมืองไทยก็ว่าได้แต่ตอนหลัง นางกะเอ้ยสเต้นไม่ได้ไปพร้อมกันเพราะ สไตน่าร์กับเอ้ยสเต้นมาเมืองไทยไม่พร้อมกันเลยไม่ได้มีเวลาสนุกแบบเก่า ที่แห่งนี้จึงเป็นที่แห่งความทรงจำของพวกเรา จึงถือได้ว่า ณ ที่แห่งนี้เป็นที่ที่เราเริ่มต้นจ๊ะ
หาดเจ้าสำราญเวลาเย็น
สระว่ายน้ำ บลูสกาย รีสอร์ท
ห้องพักเป็นแบบนี้
ครั้งสุดท้ายที่เราไปเดือนมกรา 2551 สไตน่าร์อ้วนขึ้น 5 กิโล ตอนนี้เขากำลังไม่สบายเพราะอาหารเป็นพิษเกือบตาย ท้องเสียเป็นเดือน
ว่าไปแล้วพุงพี่สไตรน่า สู้พุงลาส ไม่ได้แล้วตอนนี้
แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจไปนะ อิอิ
บางที อาจแซงลาส ซักวัน
แล้วจะเอาพุงมาอัพเดต แข่งพี่สไตรน่าส์ บ้าง