เริ่มต้นด้วยหัวข้อเรื่อง ที่อยากประชดประชันตัวเองสักกะหน่อย ที่ใช้คำว่าดิ้นรนเพราะอยู่เมืองไทยก็ดีอยู่แล้ว แ....งมาทำไมฟ๊ะ(ประมาณนั้น)วันนี้มาด้วยอารมณ์อยากเล่าชีวิตประจำวันหลังจากมาอยู่นอร์เวย์ได้ เกือบหนึ่งเดือนเหลืออีกสองวันก็จะครบเดือน แต่นึกขึ้นได้ว่าเรามาจะครบเดือนแล้วหรือนี่เฮ้อไม่มีเรื่องแมวๆอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตสักอย่างนอกจาก นั่งรอ นอนรอมันนั่งรอ นอนรอจริงๆนะขอบอกอ้าวๆๆเดี๋ยวเค้าจะรู้ว่าเรารู้สึกเบื่อ ทำแกล้งให้ดูสนุก สนาน อบอุ่นหน่อยดิฮ่า ชีวิตมันไม่ง่ายเลยเริ่มจากตื่นนอน สองวันแรกง่วงฉิบบบบพอหกโมงเย็น เพราะเป็นเวลานอนที่เมืองไทยยังปรับตัวยังไม่ได้เลยหาวแล้วหาวอีก พอวันที่สามตื่นสิบโมงจนกระทั้งถึงวันนี้ตื่นไม่เคยเช้ากว่าเก้าโมงเลย(นี่เข้าประเด็นนอนรอไหม๊ฮ่า)หลังจากตื่นก็ล้างหน้าแปรงฟัน จะบอกว่าไม่อาบน้ำตอนเช้าอ่าอาบครั้งเดียวตอนเย็น ใครจะว่าสกปรกเปล่าเนี๊ยะ ไม่มี.. ขอบคุณค้า แล้วก็ไปทำกับข้าวตื่นขึ้นมาหากินเลยว่างั้น อาหารประจำตู้เย็นบ้านอิคุงแตงก็ นี่เลยกุ้งครับมีทั้งแบบต้มสุกแกะเปลือกแล้ว กุ้งไทย กุ้งนอร์วีเจียน (กินกันจนกลับเมืองไทยกะไปเลี้ยงกุ้งกินฮา) มีแบบยังไม่สุกและไม่แกะเปลือก ไข่ไก่ ปลาแซลม่อนแบบไม่รมควัน หน่องไก่หรือไม่ก็ปีกไก่ ผักก็ดอกกระหล่ำ บ็อคคอรี่ แตงกวา กระเทียม พริก น้ำปลา(นี่คือสิ่งจำเป็นประจำตู้เย็นบ้านอิคุงแตงเลยหุหุ)ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งต้องหามาเติมให้มันอยู่ครบไม่งั้นอิคุงแตงคิดไม่ออกว่าจะทำไรกิน อ๋ออีกอย่างมักคเรลกระป๋อง(ปลากระป๋องนั่นเอง) วันไหนข้าพเจ้าทำกับข้าวก็จะไม่พ้นผัดๆ ทอดๆ ไม่ก็พะโล้ ต้มยำ วันไหนอิสามีทำกับข้าวก็ได้กินดีหน่อย รสชาติก็ดี ฮา เป็นแม่ครัวก็ไม่เวิร์คซะแล้นน จากนั้นก็สำรวจดูว่าบ้านสกปรกหรือเปล่าถ้ายังไม่มากก็ไว้วันหลังค่อยทำความสะอาด วันไหนดูแล้วทนไม่ด้ายย ก็เครื่องดูดฝ่นดูดดด เสร็จก็ดูตระกร้าผ้าสิเต็มยัง เต็มแล้วก็โยนเข้าเครื่องปั่นๆ สลัดๆ แห้งแล้วเก็บเข้าตู้งานแม่บ้านพอไหวฮ่า ทุกอย่างในบ้านดูโอเคก็นั่งหน้าทีวี อิคุงสามีก็นอนบนโซฟาทุกวัน คนว่างงานสองคนอยู่ด้วยกันอ่าจะทำอไรนอกจากดูทีวี ก็หาอะไรทำไปเรื่อย นึกอะไรได้ก็ทำ วันนี้นึกอยากปักถุงมือก็เอาถุงมือมาปักๆ วันไหนนึกอยากถักก็ถักๆ วันไหนอารมณ์ดีมากๆถึงมากที่สุดก็จะอัพบล็อกฮา วันดีคืนดีก็หาอะไรมาแกะสลัก ดูยูทูปที่เขาสอนแกะสลักไปตามเรื่อง นั่นก็เป็นประเด็นการนั่งรอฮา ส่วนรออะไรเหรอ นั่นก็รองานอะสิ งานแ....ง หาอยากฉิบบบ ไม่เหมือนเมืองไทยหย่อน CV ลงอินเตอร์เน็ตไม่เกินสามวันก็มีคนโทรหาแหละว่าไปนั้นก็ไม่ได้บ่อยหรอก สองสามปีเปลี่ยนครั้งหนึ่ง รออะไรอีก..รอเรียนหนังสือดูสิอยากเรียนจะตายเค้ายังไม่ให้เรียนเล้ย เพราะต้องรอเรสสิเด้นท์ว๊ะ ขนาดจะไปเปิดบัญชียังต้องรอ ID No. เลย เซงฉิบบบบบบบบบบบสรุปชีวิตประจำวันไม่มีอะไรนั่งรอ นอนรอซะส่วนใหญ่ หลังจากนั่งรอนอนรอก็ออกไปเดินสูดอากาศเย็นข้างนอก เพราะกลัวว่าตัวเองจะเฉาตายคาห้อง อย่ากระนั้นเลยไปยืดแข่งยืดขาหน่อย ว่าแล้วก็ต้องสวมเสื้อผ้าอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ถุงมือ ถุงเท้า บางวันก็หมวกให้พร้อม เสื้อตัวในไม่พอยังต้องมีเสื้อตัวนอกอย่างหนาไม่งั้นหนาวตายกว่าจะได้ออกจากห้องก็ใช้เวลาอย่างน้อยห้านาทีในการเปลี่ยนเสื้อผ้า นี่ก็ชีวิตประจำวันครับพี่น้อง เสร็จก็เดินๆรอบเมืองที่อยู่ ดูไปรอบๆก็มีแต่น้ำแข็ง ถนนเป็นน้ำแข็งเกาะ ทางเดินลื่นต้องระวัง เดินไม่ระวังมีหวังก้นจ้ำเบ้าหุหุ เดินไปแวะซื้ออาหารมาไว้กินบ้าง พูดถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตที่นี่หน่อย เมืองไทยรวมทุกอย่างไว้ที่ห้างเดียว บ้านเราถึงได้มีแต่ห้างใหญ่ๆ ที่นี้เหรอจะหาซื้อไวน์ต้องไปร้านเฉพาะแอลกอฮอล์เท่านั่นเพราะเค้าจะมีโปรเฟสชั่นแนลด้านแอลกอฮอล์คอยแนะนำท่านโดยเฉพาะเลยว่างั้น อยากดื่มชนิดดี ดีเริส ก็บอกเขาไปหรือถ้ารู้ดีก็เข้าไปเลือกเองเลยแบบนั้นแหละ อาหารสดหากินยากส่วนมากไม่ว่าจะเป็น หมู กุ้ง ไก่ ปลา แกะ หรืออะไรก็แล้วแต่แพ็คเก็ตเรียบร้อยแทบทั้งสิ้น บางวันดีหน่อยได้ไปไกลนิดหนึ่งไปบ้านพ่อแม่สามีก็ดีหน่อยได้จับพวงมาลัย (แ..ง อยู่กทม.จับพวงมาลัยเป็นชีวิตประจำวันนั่งแช่ในรถไม่ขยับอีกประมาณครึ่งชม.)ฮ่าก็มีดีอยู่ตรงที่นี้รถไม่เยอะ ขับครั้งแรกก็งง แกมสับสน อะไรว๊ะขวาตลอด เมืองไทยซ้ายผ่านตลอดที่นี่วงเวียนเล็ก วงเวียนน้อยหยุด ชะลอ เลี้ยวขวา นั่นแหละการขับรถที่นี่ พอจะเร่งความเร็วหน่อยสามีบอกดูป้ายด้วย ป้ายนั้นขับไม่เกินห้าสิบกิโลนะ เธอโชคดีนะนั่นไม่มีตำรวจว๊ะ มีงี้ด้วย เมืองไทยตำรวจขับมอไซด์เลยไล่ตามพวกรถซิ่งไม่ทัน ที่นี้มีกล้องวงจรปิดตรวจจับเว็ย รอดยากนี่ต้องระวัง จะว่าไปแล้วเคยไปตลาดค้าของเก่าทีหนึ่งจะเป็นเครื่องเงิน งานศิลปะหรืออะไรทำนองนั้นรู้สึกชอบอ่า วันหน้าไปจะรูปมาฝากละกัน สุรปด้วยการฉะนี้แลสำหรับชีวิตที่ดิ้นรนจนได้มาอยู่นอร์เวย์ได้หนึ่งเดือนล่ะ ก็รอต่อไป
สรุปชีวิตประจำวันไม่มีอะไรนั่งรอ นอนรอซะส่วนใหญ่ หลังจากนั่งรอนอนรอก็ออกไปเดินสูดอากาศเย็นข้างนอก เพราะกลัวว่าตัวเองจะเฉาตายคาห้อง อย่ากระนั้นเลยไปยืดแข่งยืดขาหน่อย ว่าแล้วก็ต้องสวมเสื้อผ้าอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ถุงมือ ถุงเท้า บางวันก็หมวกให้พร้อม เสื้อตัวในไม่พอยังต้องมีเสื้อตัวนอกอย่างหนาไม่งั้นหนาวตายกว่าจะได้ออกจากห้องก็ใช้เวลาอย่างน้อยห้านาทีในการเปลี่ยนเสื้อผ้า นี่ก็ชีวิตประจำวันครับพี่น้อง เสร็จก็เดินๆรอบเมืองที่อยู่ ดูไปรอบๆก็มีแต่น้ำแข็ง ถนนเป็นน้ำแข็งเกาะ ทางเดินลื่นต้องระวัง เดินไม่ระวังมีหวังก้นจ้ำเบ้าหุหุ เดินไปแวะซื้ออาหารมาไว้กินบ้าง พูดถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตที่นี่หน่อย เมืองไทยรวมทุกอย่างไว้ที่ห้างเดียว บ้านเราถึงได้มีแต่ห้างใหญ่ๆ ที่นี้เหรอจะหาซื้อไวน์ต้องไปร้านเฉพาะแอลกอฮอล์เท่านั่นเพราะเค้าจะมีโปรเฟสชั่นแนลด้านแอลกอฮอล์คอยแนะนำท่านโดยเฉพาะเลยว่างั้น อยากดื่มชนิดดี ดีเริส ก็บอกเขาไปหรือถ้ารู้ดีก็เข้าไปเลือกเองเลยแบบนั้นแหละ อาหารสดหากินยากส่วนมากไม่ว่าจะเป็น หมู กุ้ง ไก่ ปลา แกะ หรืออะไรก็แล้วแต่แพ็คเก็ตเรียบร้อยแทบทั้งสิ้น บางวันดีหน่อยได้ไปไกลนิดหนึ่งไปบ้านพ่อแม่สามีก็ดีหน่อยได้จับพวงมาลัย (แ..ง อยู่กทม.จับพวงมาลัยเป็นชีวิตประจำวันนั่งแช่ในรถไม่ขยับอีกประมาณครึ่งชม.)ฮ่าก็มีดีอยู่ตรงที่นี้รถไม่เยอะ ขับครั้งแรกก็งง แกมสับสน อะไรว๊ะขวาตลอด เมืองไทยซ้ายผ่านตลอดที่นี่วงเวียนเล็ก วงเวียนน้อยหยุด ชะลอ เลี้ยวขวา นั่นแหละการขับรถที่นี่ พอจะเร่งความเร็วหน่อยสามีบอกดูป้ายด้วย ป้ายนั้นขับไม่เกินห้าสิบกิโลนะ เธอโชคดีนะนั่นไม่มีตำรวจว๊ะ มีงี้ด้วย เมืองไทยตำรวจขับมอไซด์เลยไล่ตามพวกรถซิ่งไม่ทัน ที่นี้มีกล้องวงจรปิดตรวจจับเว็ย รอดยากนี่ต้องระวัง จะว่าไปแล้วเคยไปตลาดค้าของเก่าทีหนึ่งจะเป็นเครื่องเงิน งานศิลปะหรืออะไรทำนองนั้นรู้สึกชอบอ่า วันหน้าไปจะรูปมาฝากละกัน สุรปด้วยการฉะนี้แลสำหรับชีวิตที่ดิ้นรนจนได้มาอยู่นอร์เวย์ได้หนึ่งเดือนล่ะ ก็รอต่อไป