ฮือๆ เรียนวิศวะมาถึง 2 ปี ยากทุกปีเลย ได้แต่ถามตัวเอง คิดผิดป่าวหว่าปีหนึ่ง ยากที่การปรับตัว จากที่ไม่เคยต้องอ่านหนังสือมากมาย ก็เข้าใจเนื้อหาได้ไม่ยากกลายเป็น ถ้าไม่อ่าน ไม่ทำความเข้าใจ เมื่อสอบ ก็ตกกันได้ง่ายๆ อย่าหวังพึ่งครูจนเกินไปและแล้วก็ตกไปตัวนึง ตามระเบียบ เนี่ยงเพราะ ไม่เข้าใจ มองไม่เห็นภาพ โดนบ่นอานเลย เง้ออทำไมมันยากจังนะปีสอง ยากที่วิชาเรียน โหยย เรียนยากกว่าปีหนึ่งเยอะ แถมเรียนหนักกว่าเดิมด้วย9 โมงเช้า - 6 โมงเย็น กว่าจะได้กลับบ้านกินข้าวเย็นก็ปาไปทุ่มนึงแล้ว หมดเรี่ยวหมดแรงเลยเชียวยิ่งเรียนก็ยิ่งงง แถมเจอครูใหม่ สอนไม่รู้เรื่องอีก อนาคตปีนี้คงไม่สดใสอย่างที่หวังไว้ช่วง 3 อาทิตย์ที่ผ่านมาเพิ่งจะสอบปลายภาคไป 8 ตัว ยังเหลืออีกตั้ง 3 ตัว ทำไมเยอะจังนะกำลังสงสัยว่า ตัวเองจะตกวิชาเดิมกับที่ตกปีที่แล้ว แต่เป็นตัวที่ 2 ไม่ใช่ตัวเดิมดูท่าแล้ว ทิพจะเรียนสื่อสารไม่ได้ เจอะกันทีไร จะตายเอาซะทุกทีเรียนวิศวะยากจริงหนอ ยิ่งวิศวะไฟฟ้าแล้ว ยิ่งโหดหิน เพื่อนๆบอกว่า จะเรียนคณะนี้ได้ต้องถึกพอควร แล้วอีนู๋ทิพก็พิสูจน์แล้วว่าคงถึกใช้ได้ (แหงละ ไม่งั้นจะขึ้นปีสองได้เรอะ)ไอ้ที่เป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุดว่า นู๋ทิพถึกจริงก็นี่เลย ช่วงสอบ อดนอนทุกครั้งที่วันรุ่งขึ้นสอบไม่ใช่ว่าจะทดสอบตัวเอง แต่อ่านหนังสือม๊ะทันจ้า ไม่ค่อยได้นอนจนจะเป็นศพแล้ว พอไปสอบก็เลยทาแป้ง เขียนขอบตานิดหน่อยใครเห็นตาดำๆ จะได้นึกว่าแต่งมา ม๊ะใช่โทรม ฮ่าๆๆเพื่อนบางคนทักบอกว่า ทำไมรู้สึกว่าช่วงนี้ทิพช่างแต่งตัวจังก็บอกได้คำเดียวว่า แต่งปิดความโทรม เพราะถึงจะถึก แต่ใต้ตามันไม่ถึกไปด้วยนี่ แง๊แต่ๆ อีก 3 ตัวเท่านั้นก็ได้กลับบ้านแล้ว ความหวังสูงสุดของปีนี้เลยเชียวกลับบ้านไปหาครอบครัว ไปหาเพื่อนหาครู แล้วก็เที่ยวแต่โตแล้ว เลยต้องหาที่ฝึกงานแล้ว ถ้าไม่ทำจะเอาประสบการณ์จากไหนละเนอะสรุปว่า ถึงกลับบ้านตอนปิดเทอมก็ไม่ได้พักอยู่ดี ต้องไปฝึกงานตั้ง 2 ที่ ทำกันให้มันสุดๆไปเลย ทำไมรู้สึกเหมือนคนทำงานแล้วยังไงก็ไม่รู้ (เพราะมีปืดเทอมก็เหมือนไม่มี)นู๋ยังอยากมีปิดเทอมอยู่น้าาาาาาาา
อย่าคิดว่าทำไมมันยาก คิดว่าเราต้องทำได้