เราอยู่บ้านตึกแถวมาตั้งแต่เด็ก ผนังปูน(อิฐมอญ) ที่เก็บความร้อนจากอากาศนอกบ้านมาทั้งวันมันจะเริ่มคลายความร้อนเข้าสู่ภายในบ้าน ตอนเย็นๆ ค่ำๆ บ้านร้อนเหมือนเตาอบจริงๆ

ถ้าเลือกได้เราก็ไม่อยากอยู่บ้านอบๆ ร้อนๆ อย่างนั้นอีก เลยหาหนังสือมาอ่าน ได้ idea มาหลายแนวที่ช่วยให้บ้านเย็น สรุปคร่าวๆ คือนอกจากรอบๆ บ้านต้องมีต้นไม้ ตาม concept กางร่มให้บ้านแล้ว ตัวบ้านก็ต้องเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านด้วย หลังคาเราคิดว่าจะใช้ฉนวนกันความร้อนอยู่แล้ว เวลาเลือกบริษัทรับสร้างบ้านเลยขอเน้นที่ผนัง (ไม่มีปัญญาจ้างสถาปนิก เอาบริษัทรับสร้างบ้านมาเหมาไปเลยก็แล้วกัน)

เราเริ่มลุยตระเวนเดินเที่ยวงาน Fair ต่างๆ เพื่อหาบริษัทรับสร้างบ้านที่ทำตาม concept อย่างที่เราอยากได้ เริ่มกันที่

บริษัทที่ 1 ก่อผนัง 2 ชั้นด้วยอิฐมอญแล้วฉีด PE โฟมเข้าไปตรงกลางระหว่างผนัง สรุปราคาที่สามล้านกว่าๆ แบบบ้านก็เลือกแบบบ้านแนว country ของบริษัทไป

บริษัทที่ 2 ใช้ผนังสำเร็จรูปที่มีโฟมอยู่ตรงกลาง แต่ติดต่อกันอยู่ไม่กี่ครั้งก็เงียบไป นัยว่าบริษัทไม่ค่อยมั่นคง อยู่ดีๆก็หายไปเฉยๆ เลย

บริษัทที่ 3 ใช้ผนังสำเร็จรูปที่มีโฟมอยู่ตรงกลาง (เหมือนบริษัทที่ 2 เลย) ประมาณว่าเคยเป็นบริษัทเดียวกันแต่ตอนนี้แยกออกมาเป็นอีกบริษัทนึง ไม่เกี่ยวกัน เราให้เค้าใช้แบบบ้านเหมือนในรูปข้างบนมาปรับนิดหน่อยราคาก็ถูกกว่าบริษัทที่ 1 สำหรับเราบริษัทนี้ทุกอย่างก็ดู ok

ขั้นตอนการตัดสินใจเลือกนี่ยากที่สุด ผู้ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกบริษัทรับสร้างบ้านในครั้งนี้มากที่สุด คือ....ป๊ะป๋า ของเราเอง

บริษัทแรก แพงไป อันนี้เราตัดทิ้งเอง บริษัทที่สอง ก็ตัดทิ้งไปโดยปริยาย ส่วนบริษัทที่สาม คุณพ่อไม่ปลื้ม เพราะระบบการก่อสร้างเป็นแบบสำเร็จรูป คือเป็นผนังเร็จรูป ยกมาวางๆ การยึดผนังกับเสาไม่โอ สำหรับพ่อ เหมือนกะว่ามันไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ พ่ออยากได้แบบมีเสาและมีคานอย่างที่เค้าทำๆ กันทั่วไป มันปึ้กกว่า ว่างั้น

การตัดสินใจของพ่อทำให้เราต้องมาเริ่มที่จุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง หลังจากหาข้อมูลและเริ่มคุยกับบริษัททั้งสามมาเกือบหนึ่งปี เราต้องมาเริ่มหาบริษัทรับสร้างบ้านต่อไป สุดท้ายเราก็เลยพาเค้าไปงานสถาปนิกด้วยกันเลย ให้เค้าเลือกเองตามใจชอบ (ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่าเริ่มเหนื่อย เริ่มท้อแล้วจริงๆ เฮ่อ....ลดความคาดหวังเรื่องบ้านอยู่เย็นลงไปมากๆ จนริบหรี่เกือบมองไม่เห็นแล้ว )

พอเดินเข้างาน แวะไปบูธแรก --> พ่อเฉยๆ แฮะ พอแวะไปบูธที่สอง --> พ่อดูโมเดลบ้านที่โชว์อยู่แล้วคุยกับ Sale ถูกคอ ราคาถูกใจ ตัดสินใจ "เอาแบบนี้เลยลูก" ตอนนั้นเราก็มึนๆ งงๆ อ้าวเลือกได้แล้วเหรอ พ่อขอมา เอ้า..จัดไป จ่ายเงินจองในงานไปโลด...แต่พอกลับมาบ้าน ดูไปดูมา ไอ้แบบที่พ่อเลือกมันพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าที่คิดไว้เยอะเหมือนกัน แถมพอคิดราคาบ้านเฉลี่ยต่อตารางเมตรแล้ว แพงงงงงงอ่ะ ไม่เอา ๆๆๆๆๆ รีบเปิดโบรชัวร์แบบบ้านของบริษัทเดียวกันนี้มาดูแล้วโทรติดต่อขอเปลี่ยนแบบบ้านด่วน ราคาแบบอันใหม่ก็สูงกว่าแบบแรกขึ้นมาอีกนิด แต่ก็ยังอยู่ในงบที่คิดไว้ คุยกะพ่อ พ่ออนุมัติ สุดท้ายเลยได้มาเป็นแบบเนี้ย....

บริษัทนี้ให้เลือกวัสดุผนังระหว่างอิฐมอญ กับ อิฐมวลเบา โดยราคาค่าก่อสร้างเท่ากัน เราเลยเลือกอิฐมวลเบา ส่วนวัสดุอื่นๆ ก็พอได้ ประตูหน้าต่างเยอะ ลมน่าจะ Flow ดี พออยู่จริงจะเย็นมั๊ย รอพิสูจน์เอา ไม่ค่อยคาดหวังแล้ว แต่ที่เรากะแฟนชอบคือแบบบ้าน มันมีมุมที่เป็นกระจกใสด้านข้างบ้าน เหมือน Bay windows อ่ะ (เค้าเรียกกันงี้ป่าวหว่า..) แล้วโถงห้องรับแขกมันจะเป็นเพดานสูงๆ มี Slope ไม่ค่อยเห็นแบบบ้านสำเร็จรูปทำกันเท่าไหร่ เลยลงเอยด้วยแบบบ้านอันนี้ เป็นอันจบ Episode 1 โดยตอนนั้นหารู้ไม่ว่า หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล และโรยด้วยกลีบกุหลาบปนหนาม โดนหนามตำไปหลายแผล แผลใหญ่ๆ ที่ตอนนี้ยังรักษาไม่หายก็มี โปรดติดตามตอนต่อไป

Create Date : 10 สิงหาคม 2552
Last Update : 30 สิงหาคม 2552 16:24:22 น.		2 comments
Counter : 1353 Pageviews.
Share Tweet